เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีอย่างไม่หยุด ทำให้ลู่ฝานที่หน้าด้านขนาดนี้ยังรู้สึกเขินอายเลย

ด้านข้าง หานหยวนหนิงได้ยินว่าลู่ฝานเป็นศิษย์น้องของหานเฟิง ก็เหมือนจะแปลกใจไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ออกห่างจากลู่ฝานมาเล็กน้อย

ผู้หญิงเผ่าจิ้งจอกคนหนึ่งดึงแขนของลู่ฝานแล้วพูดว่า: พี่ลู่ฝาน คุณแต่งงานแล้วหรือยัง? ”

ลู่ฝานรีบพูดขึ้นว่า: “ยังไม่แต่งงาน แต่มีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว”

หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกได้แนบทรวงอกชิดเข้ากับท่อนแขนของลู่ฝาน และมองไปที่ลู่ฝานอย่างน่าหลงใหลและพูดว่า: “มีแล้วก็ไม่เป็นไรนะ”

กลุ่มลูกหลานตระกูลหานก็พลันตะโกนส่งเสียง โห่ร้องไปตาม ๆ กัน

ลู่ฝานยิ้มอย่างขมขื่น การเป็นที่นิยมยกย่องมากเกินไปก็เหมือนจะไม่ได้เป็นเรื่องดีอะไรเลย!

ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากระยะไกล

“ตะโกนโวยวายอะไรกัน มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ทำไม? ไม่มีอะไรทำกันแล้วเหรอ? ”

สิ่งที่ออกมาพร้อมกับเสียงก็คือเงาร่างของหานอู๋ซวง

เมื่อหานอู๋ซวงมองเห็นลู่ฝานดึงแขนเล่นกันไปมากับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกนั้น สีหน้าท่าทางก็พลันเย็นชาขึ้นทันที

“ลู่ฝาน ตระกูลหานของเราหวังดีที่ให้นายพักอาศัยอยู่ที่นี่ แต่นายกลับมาหลอกล่อเย้ายวนหญิงสาวตระกูลหานแบบนี้เหรอ? ”

หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกได้ยินที่พูดแล้วก็รีบปล่อยมือลงทันที และสีหน้าขาวซีดกันไปหมด

ลู่ฝานตกใจเล็กน้อย และพูดว่า: “ลุงหาน ฉัน……”

หานอู๋ซวงพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องมาอธิบาย ฉันรังเกียจคนอย่างนายที่สุดที่คิดว่าตนเองประสบความสำเร็จแล้วก็ทำตัวอิ่มเอิบ กำเริบเสิบสาน กลั่นแกล้งผู้ชายและรังแกหญิงสาวไปทั่วแบบนี้ ฉันเห็นว่านายเป็นศิษย์น้องของลูกชายฉัน ฉันจึงไม่อยากไล่เรียงความผิดของนาย นายไปเสียเถอะ ออกไปจากตระกูลหานซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับนายอีก! ”

ลู่ฝานตกตะลึงอย่างมาก เขามองไปที่หานอู๋ซวงอย่างไม่เข้าใจ

ทั้งที่เมื่อคืนวาน พวกเขายังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ทำไม วันนี้เมื่อกลับมา ลุงหานถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้

หานสงที่อยู่ด้านข้างพูดเสียงดังขึ้นว่า: “คุณลุง นี่ไม่ยุติธรรมเลย! ลู่ฝานยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่……”

“หุบปาก! ”

หานอู๋ซวงพูดตะโกนใส่หานสง

เสียงดังสนั่นจนหานสงถึงกับทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้น ลู่ฝานเองก็รู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงที่ปะทุขึ้นมา

แต่เขายังยืนทรงตัวได้มั่นคงกว่าหานสง ร่างกายสั่นไหว แต่ไม่ถึงกับล้มลง

หานอู๋ซวงมองไปที่หานสงด้วยสายตาที่เยือกเย็นและพูดว่า: “หานสง ถึงเวลาที่นายมาสงสัยในตัวฉันตั้งแต่เมื่อไรกัน? ลืมกฎระเบียบของตระกูลไปหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ? ไสหัวไปภูเขาด้านหลังเพื่อสงบจิตใจทบทวนความผิดเดี๋ยวนี้ หากไม่สั่งให้นายออกมา ก็ห้ามที่จะออกมา! ”

หานอู๋ซวงส่งสัญญาณสายตา ชายกำยำสองคนก็เดินออกมา ทางซ้ายคนทางขวาคนแล้วก็หามร่างของหานสงออกไป

หานสงพยายามดิ้นรน แต่กลับถูกชายกำยำสองคนนั้นกดควบคุมตัวเอาไว้

“ฉันไม่ยอม! ”

หานสงตะโกนเสียงดัง ชายกำยำคนหนึ่งก็ชกหมัดเข้าไปที่ศีรษะของหานสง

หมัดนี้ชกออกไปอย่างเต็มกำลัง เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างชัดเจน

หานสงถูกหมัดชกจนพลังปราณระเบิด ศีรษะได้รับบาดเจ็บ และมีเลือดไหลออกมา แล้วก็สลบไป

สองชายกำยำแบกตัวหานสงออกไป ทุกคนต่างก็เงียบกริบไปหมด

หานอู๋ซวงกวาดสายตามองไปที่ทุกคนและพูดว่า: “ยังมีใครที่ต้องการจะพูดอะไรอีกไหม? ”

ทันใดนั้น ทุกคนก็ถอยร่นกันทั้งหมด

ลู่ฝานกัดฟัน โดยที่ไม่พูดอะไร

หานอู๋ซวงมองไปที่ลู่ฝานและพูดว่า: “ทำไม ยังต้องการให้ฉันเชิญนายออกไปใช่ไหม? ”

ลู่ฝานพูดว่า: “ฉันไม่เข้าใจ ฉันต้องการคำอธิบาย”

หานอู๋ซวงพูดว่า: “คำอธิบายก็คือ ตระกูลหานไม่ต้อนรับนาย ไปเถอะ คนใช้ของนาย อสูรวิเศษของนาย ฉันจะสั่งให้คนนำพวกเขาโยนออกไปแน่นอน”

ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า: “ที่จริงแล้วตระกูลหานเป็นตระกูลแบบนี้เองเหรอ? ”

แววตาของหานอู๋ซวงยิ่งเย็นชามากขึ้น และพูดว่า: “ตระกูลหานจะเป็นตระกูลแบบไหนอย่างไร ไม่ใช่นายจะมาประเมินกล่าวหาได้! ”

เมื่อพูดจบ หานอู๋ซวงก็สะบัดแขนเสื้อ หันหลังแล้วเดินจากไป

องครักษ์ของตระกูลหานหลายคน ไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ไหน และมาอยู่ที่ข้างกายของลู่ฝาน พร้อมกับยื่นมือออกมาเพื่อจะควบคุมตัวของลู่ฝาน

ลู่ฝานพูดขึ้นหนักแน่นว่า: “ฉันเดินไปเองได้! ”

เมื่อพูดจบ ลู่ฝานก็หันหลังแล้วเดินออกไปด้านนอก

เวลานี้ เขาพลันรู้สึกได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ

เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ผิดปกตินี้มาจากที่ไหน และตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่เรื่องราวที่ผิดปกติแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกสงสัยข้องใจ

เขารังเกียจความรู้สึกแบบนี้มาก องค์ชายรองฉินฝานก็ให้ความรู้สึกแบบนี้กับเขา ตอนนี้ลุงหานหานอู๋ซวงก็ให้ความรู้สึกแบบนี้กับเขาอีก

ลู่ฝานรู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในความสงสัยโดยที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

ลู่ฝานเดินอย่างรวดเร็ว ออกไปจากประตูใหญ่ของตระกูลหาน ยามเฝ้าประตูสองคนที่ได้รับคำสั่งมา มองไปที่ลู่ฝานด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน จากนั้นก็ค่อย ๆ ปิดประตูใหญ่

เสียงดังโครม ประตูใหญ่ของตระกูลหานได้ปิดลงไปแล้ว

ลู่ฝานยืนอยู่ด้านนอกประตู โดยที่ไม่พูดไม่จาอยู่นาน

ทันใดนั้นก็มีเงาร่างของคนคนหนึ่งลอยออกมาจากกำแพงของตระกูลหาน

ลู่ฝานรีบแวบร่างไปรองรับไว้ทันที

เมื่อมองไปดู พบว่าเงาร่างนี้ก็คือสิบสาม

สิบสามผู้น่าสงสาร ยังถูกคนสกัดจุดชีพจรเอาไว้อีก เวลานี้สีหน้าเศร้าหมองไปหมด

“เจ้านาย! ”

สิบสามพูดขึ้น

ลู่ฝานรีบช่วยปลดล็อคชีพจร จากนั้นเจ้าดำก็ถูกโยนออกมาเช่นกัน

สิบสามรับตัวเจ้าดำเอาไว้ เวลานี้เจ้าดำจ้องมองไปที่ประตูใหญ่ของตระกูลหานด้วยความโมโห ทั่วร่างกายเกิดเปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้นแล้ว

“ช่างเถอะ! ”

ลู่ฝานยับยั้งเจ้าดำเอาไว้ แล้วหันหน้ากลับไปมอง ลู่ฝานพลันพบว่า มีหลายคนกำลังมองมาทางนี้

“ไปกันเถอะ! ”

ลู่ฝานพูดขึ้น โดยคนสองคนและอสูรหนึ่งตน เดินจากไปอย่างไม่พอใจ

คนกลุ่มหนึ่งตำหนิกล่าวหาพวกเขา และยังมีบางคนที่จดจำลู่ฝานได้ ก็แสดงสีหน้าที่ตกตะลึง

เวลานี้ บนท้องฟ้าพลันมีสิ่งสีขาวร่วงตกลงมา หล่นลงบนไหล่ของลู่ฝาน

ลู่ฝานยื่นมือออกมา เห็นว่ามีสิ่งของที่คล้ายกับขนห่านตกลงมาในมือของเขา

“หิมะตกแล้ว! ”