GGS:บทที่ 860 ร้อนแรงเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
มังกรไฟตัวนั้นใช้เวลาอยู่นานหลายวินาทีก่อนที่มันจะค่อยๆจางหายไป หลงเหลือไว้แต่เสียงของสารเคมีดังลั่นราวกับว่ามันคำรามทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจากลาลับไป
“พระเจ้า นี่ฉันเห็นอะไรกันแน่เนี่ย มังกรไฟ นี่ฉันพึ่งจะเห็นมังกรไฟไปใช่รึเปล่า”
“แค่ผีเสื้อและฝนดาวตกนั่นก็น่าตื่นตะลึงพอแล้ว แต่นี้คือมังกรไฟ มังกรไฟเลยนะ สุดยอด ช่างเป็นดอกไม้ไฟที่สุดยอดเกินไปแล้ว”
“ดอกไม้ไฟแบบนี้โคตรเจ๋งเลย”
“ช่างเป็นการแสดงดอกไม้ไฟที่ทำให้ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเรียกดอกไม้ไฟนี้ว่าดอกไม้ไฟเวทมนต์ มันช่างดูอลังราวกับเป็นเวทมนต์จริงๆ”
จูเจียนฮัว เป็งหมิง ลู่ชิงหยา และหยางเหว่ยในตอนนี้ต่างก็รู้ตัวแล้วว่าพวกเขานั้นเป็นกังวลเรื่องซูจิ้งมากเกินไป มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้จนต้องตกใจไม่หายอยู่แบบนี้
นั่นก็เพราะดอกไม้ไฟนั้น จริงๆแล้วถึงมันจะสวยงามก็จริง แต่ด้วยสามัญสำนึกของคนทั่วไปแล้วมันทำอะไรได้จำกัด การจัดแสดงดอกไม้ไฟแบบซูจิ้งนั้นสมควรเป็นเพียงความฝันในวัยเด็กของใครหลายๆคนเท่านั้นเอง
แต่กลายเป็นว่าซูจิ้งสามารถแสดงดอกไม้ไฟที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันถึงได้ง่ายๆแบบนี้ อีกทั้งยังไม่ใช่รูปแบบเดียวแต่ ว่ายังมีหลากหลายรูปแบบ
หากเป็นพวกเขาล่ะก็ เมื่อถูกขอให้จัดงานแสดงดอกไม้ไฟอย่างมากก็อาศัยจำนวนดอกไม้ไฟเข้าว่าเท่านั้น
แต่กับการแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องจัดแสดงดอกไม้ไฟทั้งหมดเลย แค่ดอกไม้ไฟผีเสื้อชุดเดียวก็สามารถทำให้วงการตกตะลึงไปได้มากมายนัก
งานดอกไม้ไฟในงานเลี้ยงครบรอบร้อยปีโรงเรียนมัธยมต้นที่หนึ่งของเมืองจองหยุนแห่งนี้ หรูหรา ทรงคุณค่า ตื่นตาตื่นใจ และน่าประทับใจยิ่งกว่างานแสดงสุดยอดดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในปักกิ่งก่อนหน้านี้ซะอีก
เจียเจิ้งหนิง หยางตง หลิวหยง เมื่อเห็นฉากดอกไม้ไฟที่อยู่ตรงหน้าต่างก็พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้คำพูดทุกอย่างที่ได้พูดออกมาก่อนหน้านี้ได้กลับมาตอกหน้าพวกเขาเองเรียบร้อยแล้ว
ทางด้านของเผิงเหวินซู่ ที่ตอนนี้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นั้น ได้แสดงสีหน้าน่าเกลียดชนิดที่ว่าคนที่อยู่รอบข้างต่างต้องตกใจเมื่อเห็น
เขานั้นย้อนนึกไปยังเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ตอนที่ภาพวีดิโอที่เขายืนยันว่าเป็นของปลอมที่ถึงกับเอามาตั้งหัวข้อวิเคราะห์แบบจริงๆจัง
ไปจนถึงตอนที่ถูกปฏิเสธจากเหว่ยเสี่ยวหยวนในการเสนอตัวเป็นผู้สนับสนุนดอกไม้ไฟในการแสดงของซูจิ้ง
จากตอนแรกที่คิดว่าตัวเองนั้นมีไพ่อยู่เหนือกว่า อยู่ๆกลับกลายเป็นว่าพลาดตกม้าตายแบบนี้
หากเป็นเขาล่ะก็ ถ้ามีดอกไม้ไฟเวทมนต์นี้อยู่ในมือแล้วล่ะก็ เขาจำเป็นต้องไปสนใจดอกไม้ไฟของคนอื่นด้วยหรอ แม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกดูแคลนในดอกไม้ไฟของเขาเองเลยในตอนนี้
บริษัทดอกไม้ไฟอื่นๆเองที่ได้ยินข่าวนี่และได้เข้าไปดูวีดิโอ ต่างก็พูดไม่ออกตามๆกันไปหมด พวกเขาเองก็ตกอยู่ในความคิดแบบเดียวกับเผิงเหวินซู่ และพวกเขาเองในตอนนี้ได้ตระหนักแล้วว่างานแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการดอกไม้ไฟอย่างแท้จริง
การแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งนั้นยังไม่จบ เขานั้นยังคงจุดดอกไม้ไฟชุดที่สี่ของเขา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ดอกไม้ไฟรูปแบบใหม่แต่อย่างใด แต่เขาอาศัยการผนวกรวมดอกไม้ไฟที่จุดมาแล้วเขาด้วยกัน และเมื่อดอกไม้ไฟรอบใหม่นี้ถูกจุดขึ้นมา ทุกคนในตอนนี้ต่างก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจมากกว่ารอบแรก และยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในโลกแห่งความฝันยิ่งไปกว่าเดิม
ไม่นานนักในที่สุดงานแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งก็มาถึงจุดสิ้นสุด แต่กับคนดูแล้วทุกคนต่างก็รู้สึกว่าพวกเขานั้นยังได้ดูน้อยเกินไป
บรรยากาศโดยรอบช่างดูมีชีวิตชีวาและคลื้นเคลงราวกับว่าเป็นงานเลี้ยงที่ไม่มีวันเลิกราแต่อย่างใด แต่สุดท้ายแล้วซูจิ้งก็ทำให้ทุกคนผิดหวังจนได้ นั่นก็เพราะว่าดอกไม้ไฟที่เขาเตรียมมานั้นหมดแล้วจริงๆ
ซูจิ้งที่ตอนนี้ไม่สามารถที่จะยืนอยู่เฉยๆเพื่อรอรับสายตาเว้าวอนของเหล่านักเรียนที่อยากให้มีการแสดงต่อได้อีกต่อไป
เขาได้กล่าวลาพ่อแม่และน้องสาวของตัวเองผ่านไมค์ ก่อนที่จะดึงฉือชิงและเพื่อนของเขาอย่างจูเจียนฮัว เป็งหมิง ลู่ชิงหยา และหยางเว่ยให้ออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว
หากช้าไปกว่านี้ล่ะก็จะถูกคลื่นฝูงชนเหล่านักเรียนเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้ไปไหนอย่างแน่นอน
เป็นอย่างที่ซูจิ้งว่าเอาไว้จริงๆ ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่หลายๆคนไม่อาจจะลืมไปได้ ไม่สิต้องเรียกว่าเป็นคืนที่นอนไม่ลงมากกว่า นั่นก็เพราะเมื่อเหล่านักเรียนทั้งหลายกลับไปยังที่พักของตัวเอง
ทุกคนยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่านอนไม่หลับเพราะอารมณ์ยังค้างอยู่จนต้องหาอะไรทำอย่างเช่นคุยกับตัวเองในเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงคืนนี้
สองวันต่อมา
เรื่องเพลงหมัดออกกำลังกายยามเช้า เพลงหลงลืมแอ่งน้อยในบึงน้ำใหญ่ และงานแสดงดอกไม้ไฟ ทุกเรื่องต่างก็เป็นที่พูดถึงในอินเตอร์เน็ต
“นี่มันไม่ดูดีไปหน่อยหรอ ฉันเองก็ได้ยินมาว่าซูจิ้งได้ออกแบบเพลงหมัดใหม่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะคิดค้นออกมาเป็นท่ากายบริหารยามเช้าแบบนี้ออกมาได้ แถมยังเป็นท่วงท่าในศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดเสียอีก”
“ยิ่งไปกว่านั้นนะ ฉันได้ยินมาว่านักเรียนหลายๆคนที่ฝึกท่านี้ตนชำนาญแล้ว พวกเขานั้นมีสมรรถนะร่างกายสูงขึ้น มากกว่าตอนทำท่ากายบริหารตอนเช้าไปหลายขุมเลยนะ”
“โคตรน่าอิจฉา ริษยา จนเริ่มเกลียดโรงเรียนนี้แล้วสิ เห้อ เทียบกับท่ากายบริหารของโรงเรียนเราแล้วช่างต่างชั้นกันจริงๆ”
“ฉันว่าพวกเราควรยื่นเรื่องให้โรงเรียนของเรามีการใช้ท่ากายบริหารยามเช้าแบบนี้อย่างเป็นทางการเหมือนกันนะ”
“เห็นด้วย ว่าแต่ นายเห็นรึเปล่าว่าเมื่อเช้าตอนมาโรงเรียน มีป้าๆสองสามคนทำท่านี้ตอนที่เราเดินผ่านด้วยเหมือนกัน”
……
“เพลงนี้ยิ่งฟังเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกดีจริงๆนะ”
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง ยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้รู้สึกดีตามที่นายว่ามาเลย”
“ฉันรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ฉันสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกที่ถูกทางมากขึ้นเลย ฉันว่าน่าจะเป็นเพราะการที่ฉันได้ฟังเพลง “หลงลืมแอ่งน้ำน้อยในบึงน้ำใหญ่” นี่แน่ๆถึงทำให้ฉันนั้นมีสมาธิในการแก้ไขปัญหาได้ดีแบบนี้ ”
“ฉันได้ยินมาว่านักเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่หนึ่งแห่งเมืองจงหยุนใช้เพลงนี้เป็นเพลงประจำโรงเรียนไปแล้วนะ”
“จริงดิ ฉันเองก็อยากให้โรงเรียนเรามีเพลงประจำโรงเรียนแบบนี้บ้างจัง”
“นายก็ทำได้แค่อิจฉาเท่านั้นแหล่ะน่า ใครใช้ให้นายไม่ใช่เด็กนักเรียนของที่นั่นกันล่ะ ใครใช้ให้นายไม่ได้เกิดเป็นน้องชายของซูจิ้งกัน…”
…..
“วีดิโอดอกไม้ไฟพวกนี้ฉันดูได้ไม่เบื่อเลยแหะ”
“ใช่มันช่างมหัศจรรย์พันลึกจนน่าตกใจจริงๆ”
“ฉันเองก็ดูมาสิบกว่ารอบแล้ว ฉันเองก็อยู่ใกล้ๆโรงเรียนนั่น แต่ทำไมฉันถึงไม่ไปกันนะ ฉันโคตจะเสียดายเลย”
“มีบางคนบอกมาว่าพวกเขาได้ดูวีดิโอนี้แล้ว และคาดการณ์ไว้ว่าดอกไม้ไฟแบบนี้จริงๆแล้วพวกเราน่าจะทำได้ในอีกยี่สิบปีข้างหน้านะ”
“เห็นเขาบอกกันว่าดอกไม้ไฟเวทมนต์พวกนี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของซูจิ้งนี่
ในช่วงสองวันมานี้มีออร์เดอร์สั่งซื้อชนิดที่สูงริบลิ่วจนโรงงานในตอนนี้ขยายฐานการผลิตไม่ทันเลย
เห็นเขาลือกันว่ากว่าจะผลิตทันออร์เดอร์ของลูกค้าได้ล่ะก็ต้องปีใหม่นู่นเลยกว่าจะครบหมด โคตรหน้าเหลือเชื่อเลยจริงๆ”
“ช่ายยยย ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าดอกไม้ไฟยี่ห้ออื่นในตอนนี้ยอดตกฮวบฮาบเลยนะ แม้แต่สมาพันธ์การค้าดอกไม้ไฟหลิวหยางเองก็ถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว”
“แหงล่ะ ถ้าเป็นนายเองในตอนนี้ยังสนใจดอกไม้ไฟเกรดต่ำพวกนั้นอยู่อีกรึเปล่าล่ะ”
“ถ้าเป็นฉันหรอ ฉันก็คงบอกได้อย่างเดียวว่าซูจิ้งอย่างกับพระเจ้าจริงๆเลยแหะ”
ข่าวทั้งสามเรื่องนี้ได้กลบเรื่องที่ว่าซูจิ้งได้บริจาคเงินกว่าสิบล้านหยวนให้กับทางโรงเรียนไปจนหมด
ตอนนี้นักเรียนทั่วทั้งประเทศต่างก็อิจฉาเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้นที่หนึ่งแห่งเมืองจงหยุนกันไปทั่วแดนเรียบร้อยแล้ว
ตัวแทนของซูจิ้งอย่างเหว่ยเสี่ยวหยวนในตอนนี้ได้วุ่นจนหัวฟูเพราะว่าเธอนั้นต้องคอยรับสายจากคนอื่นที่ต้องการจะขอคุยกับซูจิ้งแทบจะตลอดเวลา
หลายๆโรงเรียนในตอนนี้ต่างก็ต้องการที่จะขออนุญาตใช้เพลงหมัดออกกำลังกายยามเช้านี้เช่นเดียวกัน เพราะไม่เพียงแค่จะช่วยเสริมสร้างสมรรถนะของร่างกายแล้ว
ยังช่วยจูงใจให้เด็กทำตามได้ง่ายนั่นก็เพราะว่าคนที่ออกแบบเพลงหมัดนี้คือซูจิ้ง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาเลยจริงๆ นั่นก็เพราะพวกเขาจำเป็นต้องขออนุญาตซูจิ้งเสียก่อน
แต่เรื่องนี้เหว่ยเสี่ยวหยวนเองก็ได้รับคำสั่งจากซูจิ้งมาแล้วว่า
เขานั้นอนุญาตในทุกกรณีต้องแต่การนำไปใช้ในการอบอุ่นร่างกายในตอนเช้า ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่จะนำไปใช้ยืดเส้นยืดสายในยามเช้าการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่างๆ
นั่นก็เพราะว่าสิ่งที่ซูจิ้งคาดหวังมากที่สุดจากการคิดค้นเพลงหมัดนี้ นั่นก็คือค่าใช้ประโยชน์ขยะห้วงเวลาฯอย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ลง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาเขานั้นจะประกาศให้รู้จนทั่วกันอยู่แล้วในเรื่องนี้แต่ก็ยังคงมีโทรศัพท์มากมายที่โทรมาเรื่องนี้กันอย่างไม่ขาดสาย จนเหว่ยเสี่ยวหยวนตอบกันไม่หวาดไม่ไหว
สุดท้ายจึงได้ไปขอร้องซูจิ้งให้ช่วยลงข่าวนี้ในไมโครบลอคของเขาเองเพื่อช่วยในการตัดปัญหาในทีเดียว
แต่สิ่งที่ซูจิ้งนั้นประหลาดใจมากที่สุดนั่นก็คือเจ้ากระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีนได้โทรหาเขาโดยตรง
เพื่อที่จะให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในประเทศจีนใช้เพลงหมัดออกกำลังกายยามเช้านี้เป็นท่ามาตรฐานที่ต้องใช้กันทั้งประเทศไปเลย
เมื่อได้ยินดังนั้นซูจิ้งเองก็ไม่ได้อิดออดแต่อย่างใด รีบอนุญาตในทันที
ถึงจะจัดการปัญหาเรื่องเพลงหมัดออกกำลังกายยามเช้าไปแล้ว แต่เหว่ยเสี่ยวหยวนก็ยังต้องคอยรับโทรศัพท์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเพลง “หลงลืมแอ่งน้ำน้อยในบึงใหญ่”
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคนที่โทรมาคือบริษัทในวงการบันเทิง และนักร้องที่ต้องการนำไปร้องเลียนแบบ
แม้แต่โรงเรียนต่างๆเองก็ต้องโทรมาอีกครั้งเพื่อที่จะขอใช้เพลงนี้เปิดให้เด็กฟังเป็นประจำ ถึงแม้จะมีหลายๆโรงเรียนเปิดไปแล้วโดยไม่ได้ขออนุญาตก็ตามที
เหว่ยเสี่ยวหยวนเองก็ได้ทำตามคำสั่งของซูจิ้งโดยการปฏิเสธที่จะให้ใครก็ตามที่นำเพลงนี้ไปใช้โดยหวังผลกำไรสามารถฟ้องร้องได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับโรงเรียนแล้วล่ะก็เชิญเปิดฟรีได้ทั้งวันทั้งคืนไปเลย
และสุดท้าย เรื่องดอกไม้ไฟที่สุดแสนจะอลังการงานสร้างของซูจิ้ง
ในตอนนี้ดอกไม้ไฟเวทมนต์ของเขาเรียกได้ว่าร้อนแรงท่ามกลางกองเพลิงแล้ว สำหรับบริษัทดอกไม้ไฟอื่นนั้นก็สามารถเรียกได้ว่าติดอยู่ท่ามกลางกองเพลิงได้เช่นเดียวกัน
นั่นก็เพราว่าตั้งแต่วีดิโอการแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งเผยแพร่ออกไปนั้นทำให้เกิดเหตุการณ์พูดกันปากต่อปาก ไปเรื่อยจนทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก
และเมื่อทุกคนรู้แล้วว่าดอกไม้ไฟเวทมนต์นี้มีเพียงซูจิ้งเท่านั้นที่ผลิตได้ จึงไม่แปลกที่ดอกไม้ไฟของเขานั้นจะมียอดออร์เดอร์ที่สูงยันปีถัดไป
เมื่อรวมเรื่องราวทั้งสามเข้าด้วยกันแล้ว ในตอนนี้ซูจิ้งมีชื่อเสียงสูงล้ำ แต่เรื่องนั้นเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเท่าไหร่
เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาสนใจที่สุดนั่นก็คือ ค่าการใช้ประโยชน์ขยะห้วงเวลาที่ไหลรินเพิ่มพูนอย่างเห็นได้ชัดอย่างบ้าคลั่ง