บทที่ 575 คุณกำลังขู่ผม

The king of War

เมื่อได้ยินว่าคนของตระกูลเถียนมาถึงแล้ว อ้ายหมิงซวี่ก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัดและดวงตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ไป เราออกไปต้อนรับคนของตระกูลเถียน!”

อ้ายหมิงซวี่รีบเดินตรงไปที่หน้าประตู ตามด้วยทายาทสายตรงมากมายของตระกูลอ้าย

เมื่อเห็นภาพนี้ อ้ายหลินรู้สึกสลดใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

และทันใดนั้น เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมอ้ายชวนถึงไม่ยอมสละตำแหน่งเจ้าบ้านให้กับอ้ายหมิงซวี่สักที เพราะเขาไม่คู่ควรกับการเป็นผู้นำของตระกูลอ้ายเลยจริงๆ

ตระกูลเถียนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ตระกูลอ้ายก็ไม่ได้แพ้ใครเหมือนกัน

ถ้าหากตระกูลเถียนกับตระกูลอ้ายเผชิญหน้ากัน ตระกูลอ้ายต้องเป็นฝ่ายแพ้อยู่แล้ว แต่ตระกูลเถียนก็ต้องยอมจ่ายด้วยราคามหาศาลเหมือนกัน และแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูในทุกวันนี้วิกลจริตพอสมควร เพราะพวกเขามักจะคิดร้ายซึ่งกันและกัน และบางทีก็จะให้ความร่วมมือต่อกัน

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหน เมื่อถูกทำร้ายแล้ว ครอบครัวอื่น ๆ ก็จะฉวยโอกาสในการโจมตีกันอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ ตราบใดที่ตระกูลอ้ายยังคงแสดงท่าทีที่แข็งกร้าว ต่อให้เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่กล้าใช้ทรัพยากรทั้งหมดของตระกูลมาจัดการกับตระกูลอ้าย

เพราะพวกเขาไม่มีกำลังมากพอที่จะกวาดล้างทั้งตระกูลอ้ายได้

แต่อ้ายหมิงซวี่ในขณะนี้ได้แสดงท่าทีที่อ่อนแอออกมาแล้ว เขาพาทายาทสายตรงมากมายของตระกูลอ้ายออกไปต้อนรับศัตรู ซึ่งการกระทำนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นทาสและความอ่อนแอของพวกเขา

มันช่างเป็นเรื่องที่น่าละอายของตระกูลอ้ายจริงๆ

ต่อให้ตระกูลอ้ายเอาตัวรอดด้วยวิธีนี้ไปได้ เกรงว่าอนาคตคงเป็นได้แค่ทาสรับใช้ของตระกูลเถียน และสิ่งที่ตระกูลอ้ายจะต้องเผชิญนั้นก็คือการกดขี่จากตระกูลเถียน

“ผมอ้ายหมิงซวี่ หัวหน้าครอบครัวตระกูลอ้าย และลูกหลานทั้งหมดของตระกูลอ้ายขอกล่าวต้อนรับประธานเถียนครับ!”

ในขณะนี้ อ้ายหมิงซวี่ได้พาคนของตระกูลอ้ายไปยืนอยู่สองด้านของประตูทางเข้า เมื่อคนของตระกูลเถียนเข้ามา พวกเขาก็โค้งคำนับกล่าวคำทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน

ซึ่งประธานเถียนที่พูดถึงนั้น เขาชื่อเถียนหวา และเป็นพ่อของเถียนซินหยู่ ชายคนที่เพิ่งถูกหม่าชาวฆ่า

ตอนนี้เขาเป็นว่าที่ผู้สืบสกุลของตระกูลเถียน ซึ่งกิจการเกือบครึ่งหนึ่งของตระกูลเถียนอยู่ภายใต้การดูแลของเขาแล้ว นอกจากนี้ยังมีข่าวลือกันว่า อีกไม่นานเขาจะได้รับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวแล้ว

ด้านหลังเถียนหวาจะมีบอดี้การ์ดชุดดำสองคนเดินอยู่คนละฝั่ง และหลังจากพวกเขา ก็มีบอดี้การ์ดอีกสองคนลากผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาด้วย

ผู้หญิงที่ถูกลากเข้ามานั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เธอก็คือหลินเจียว แฟนสาวของเถียนซินหยู่คนที่เพิ่งหาเรื่องอ้ายหลิน

ในเวลานี้ เธอดูทรุดโทรมมาก และใบหน้ายังมีรอยตบหลายๆ จุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งถูกทำร้ายมาอย่างหนัก

“อ้ายหมิงซวี่ คุณช่างกล้าจริงๆ เลยนะ ผมให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมงในการส่งมอบลูกสาวคุณและแฟนลูกสาวคุณไปที่บ้านตระกูลเถียนของผม แต่ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะกล้าปฏิเสธ”

เถียนหวามองไปที่อ้ายหมิงซวี่แล้วพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมถึงต้องมาหาคุณถึงที่ไง!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของอ้ายหมิงซวี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขาก็ตอบอย่างกังวลว่า “ประธานเถียนครับ เรื่องนี้คุณต้องฟังผมอธิบายก่อนนะ ไม่ใช่ผมไม่อยากพาพวกเขาไปที่บ้านตระกูลเถียนนะครับ แต่พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งของผมเลยครับ”

เถียนหวาถึงกับหัวเราะออกมา “ผมไม่สน คุณเป็นเจ้าบ้านตระกูลอ้าย แม้แต่คนของตระกูลอ้ายคุณยังสั่งไม่ได้เลย นั่นมันเรื่องของคุณแล้ว”

“ประธานเถียน โปรดให้อภัยผมเถอะครับ!” อ้ายหมิงซวี่แทบจะร้องไห้ออกมา

เดิมทีเขาคิดว่าตระกูลเถียนจะส่งคนมาเท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่าเถียนหวาจะมาด้วย

“อย่าไร้สาระให้มากไป ส่งตัวลูกสาวคุณมา แล้วก็ไอ้คนร้ายคนนั้นด้วย รอผมจัดการกับพวกมันก่อน ส่วนเรื่องอื่นเราค่อยว่ากันทีหลัง” เถียนหวาพูดอย่างเฉยเมย

ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะฆ่าอ้ายหลินกับหม่าชาวเท่านั้น ส่วนตระกูลอ้ายนั้นพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะกวาดล้างให้หมด สาเหตุหลักก็คือการทำเพื่อผลประโยชน์

เถียนหวาผู้ซึ่งเป็นว่าทีหัวหน้าครอบครัวของตระกูลเถียน แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นคนโง่อยู่แล้ว เขารู้ดี ถ้ากวาดล้างตระกูลอ้ายไปหมด มันอาจจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตระกูลเถียนของเขา

ผลประโยชน์เท่านั้น ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!

“ไอ้ลูกไม่เอาไหน แกยังไม่รีบแสดงหน้าออกมาอีก!”

อ้ายหมิงซวี่เข้าใจความหมายของเถียนหวาเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกดีใจมาก และรีบตะโกนใส่อ้ายหลิน

แต่คำนี้มันทำให้อ้ายหลินรู้สึกหัวใจแตกสลายอีกครั้ง

เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้อ้ายหลินรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ตระกูลเถียนโกรธตระกูลอ้ายของเขาไปมากกว่านี้

หยางเฉินได้แต่หรี่ตาลงและเหลือบมองไปที่อ้ายหมิงซวี่ คนแบบนี้ตายไปก็ไม่เสียดายหรอก

“ผมเป็นคนฆ่าเอง มีอะไรก็มาลงที่ผมนี่!”

ในขณะที่อ้ายหลินกำลังจะก้าวออกมา ทันใดนั้นหม่าชาวก็เดินออกมาขวางอยู่ตรงหน้าเธอ

และเมื่อได้ยินคำพูดของหม่าชาวแล้ว เถียนหวาจึงจะหันมองมาที่เขาด้วยสายตาอาฆาตแค้น

ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก ซึ่งสามารถจินตนาการถึงความโกรธของเถียนหวาได้

อ้ายหลินรู้ถึงศักยภาพของหม่าชาวดี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ห้าม แต่ยืนอยู่ด้านหลังหม่าชาวอย่างสงบ และในขณะนี้ สายตาของเธอได้แต่จับจ้องไปที่แผ่นหลังอันกว้างใหญ่ของหม่าชาว และในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก

“ฆ่าลูกชายผมแล้วยังกล้าทำตัวกําเริบเสิบสานอีกเหรอ ไอ้หนุ่มเอ๋ย คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?” เถียนหวาหรี่ตามถาม

หม่าชาวแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “คุณก็แค่คนของตระกูลเถียนไม่ใช่เหรอ? คุณต่างหากที่ไม่ควรทำตัวกําเริบเสิบสานต่อหน้าผม ลูกชายคุณรนหาที่ตายเอง มันขู่จะฆ่าผม และมันก็ลงมือฆ่าผมด้วย เพียงแต่ว่าฝีมือมันยังไม่ถึง อ่อนแอเกินไป สุดท้ายกลับถูกผมหักทั้งแขนและขา แต่ไม่คิดเลยนะว่ามันจะอ่อนแอขนาดนี้ ตายง่ายจริงๆ”

“อยากตายมากใช่ไหม!”

คำพูดของหม่าชาวทำให้เถียนหวาโกรธจนสุดขีด

“ลูกชายข้า ถูกมันฆ่างั้นเหรอ?”

ทันใดนั้น เถียนหวาก็มองไปที่หลินเจียวที่ถูกบอดี้การ์ดสองคนจับตัวไว้แล้วถามด้วยความโกรธ

หลินเจียวตกใจจนมือไม้อ่อนตั้งนานแล้ว เพราะเพิ่งเข้ามาบ้านตระกูลอ้ายเธอก็เห็นหม่าชาวคนนี้

เมื่อเถียนหวาถามคำถาม เธอก็รีบพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว “ใช่ค่ะ ไอ้หมอนี่แหละ มันไม่ยอมคุยด้วยเหตุผลก็ฆ่าคุณชายหยู่แล้ว คุณชายหยู่ตายอย่างอนาถเกินไป คุณลุงเถียนคะ ท่านอย่าให้มันได้ตายดีนะคะ”

“แล้วก็ผู้หญิงของตระกูลอ้ายที่ยืนอยู่ด้านหลังมันด้วยคะ เรื่องในวันนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้”

“คุณชายหยู่ถูกทรมานจนตาย คุณลุงเถียนก็ต้องให้พวกมันถูกทรมานให้สาสมก่อน แล้วค่อยฆ่าพวกมันนะคะ”

หลินเจียวพูดด้วยใบหน้าชั่วร้าย

โดยเฉพาะสายตาที่มองอ้ายหลิน ความเกลียดชังในดวงตาของเธอรุนแรงขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะฆ่าอ้ายหลินด้วยมือของเธอเอง

อ้ายหลินขมวดคิ้ว ในเวลานี้ เธอเดินออกมาจากด้านหลังหม่าชาวแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ใช่เพราะเธอเข้ามาหาเรื่องก่อน แล้วบังคับให้แฟนฉันลงมือเหรอ?”

“เธอหุบปาก! ฉันบอกเธอก็คือเธอไง!” หลินเจียวตะโกนออกมาเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง

อ้ายหลินรู้ถึงความไร้ยางอายของผู้หญิงคนนี้ เธอจึงไม่อยากสนใจและหันไปพูดกับเถียนหวาว่า “ประธานเถียน ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร คุณน่าจะตรวจสอบชัดเจนแล้วนะ สรุปแล้วลูกชายคุณตายเพราะผู้หญิงคนนี้หรือไม่ ฉันว่าคุณน่าจะรู้ดี!”

เถียนหวาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่หรี่ตาลงด้วยความอาฆาต

คนของตระกูลอ้ายแทบไม่กล้าจะหายใจดังเพราะกลัวความโกรธของเถียนหวาจะไปลงที่พวกเขา

“ไม่ว่าด้วยเหตุผมอะไร ที่ผมรู้ตอนนี้คือลูกชายผมตายแล้ว แต่พวกคุณทุกคนยังมีชีวิตอยู่ สำหรับเรื่องนี้ พวกคุณต้องฝังไปพร้อมกับลูกชายผม!”

เถียนหวาพูดขึ้นอย่างกะทันหัน และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเย็นชา

“ไป จับตัวสองคนนั้นมา!”

เถียนหวาโบกมือออกคำสั่ง และบอดี้การ์ดทั้งสองก็เดินตรงไปหาหม่าชาวกับอ้ายหลิน

จากนั้นหม่าชาวเข้ามายืนขวางอ้ายหลินอยู่ตรงหน้าแล้วพูดกับเถียนหวาอย่างเย็นชาว่า “ถ้าคนของตระกูลเถียนไม่อยากตายเพิ่ม ผมแนะนำให้พวกคุณถอยห่างออกไปนะ!”

“นี่คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?” เถียนหวาแสยะยิ้มตอบ