Ch.43 – ราชาผู้พิชิต ครุ่นคิดเกี่ยวกับกำลังรบของหมู่บ้าน

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

วันถัดจากที่เป็นพันธมิตรกับเจ้าหญิงซิลเวียร์–

 

 

 

 

“พวกเราจะออกไปข้างนอก ริเซ็ตจะเอาไงล่ะ?”

“…ปล่อยฉันทิ้งไว้เถอะค่ะ ฉันก็แค่คนที่ตายไปแล้วค่ะ…”

 

ไม่ไหวเหรอเนี่ย

ถึงจะลองเคาะประตูดู แต่ก็มีแค่เสียงเบาๆตอบกลับมา

 

“…บะ บินบนฟ้าโดยไม่ใส่แม้แต่ชุดชั้นใน…ริเซ็ตทำเรื่องน่าไม่อายแบบนั้นไป…แถมยัง ในอ้อมแขนของท่านพี่…”

“รอบๆไม่มีใครสักหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า”

“มีท่านพี่อยู่ค่ะ!”

“โทษทีละกัน”

“…นะ แน่นอนว่าท่านพี่โชมะเป็นครอบครัวค่ะ…เพราะว่าเป็นครอบครัว ไอ้การที่ผิวหนังแตะกันมันก็ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีอะไร…หรอกค่ะ”

 

โทษที สำหรับผมมันก็ไม่ใช่[ไม่มีอะไร]หรอก

ระหว่างที่บินกอดริเซ็ตที่เสื้อผ้าค่อยๆหายใจ…ทางนี้ก็รู้สึกเครียดเพราะเห็นจุดต่างๆอยู่หรอก…ถึงจะเป็นร่วมสาบานแต่ทำแบบนั้นกับน้องสาวไปมันก็…โลกทางนี้มันจะถึอว่ายังไงกันนะ

 

ไมรู้

เพราะว่าจะไปถามใครก็ไม่ได้

 

“…ยะ ยังไงก็ตาม ริเซ็ตในตอนนี้รู้สึกไม่ดีค่ะ…อีกไม่นานก็คงจะใจเย็นลงได้ ช่วยรอสักครู่จนกว่าจะถึงตอนนั้นเถอะค่ะ ท่านพี่…”

 

พูดแบบนั้นแล้วริเซ็ตก็เงียบ

 

 

 

 

ด้วยเหตุนั้น ริเซ็ตก็เลยไม่่ได้มาด้วย–

ระหว่างที่ผมออกมาเดินเล่น ก็ทดสอบเวทมนตร์ด้วย

 

“เดินเล่นกับท่านพี่! เย้~~!!”

 

ฮารุกะกระโดดขึ้นลงจนหน้าอกโตๆสั่นไปมา

รู้สึกเครียดสักหน่อยเถอะ ยัยคนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ายักษ์

แล้วก็รัดโอบิให้มันแน่นกว่านี้หน่อย แบบนี้มันออกจะอันตรายนา

 

“ยูกิโนะก็ ไม่เป็นไรสินะ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

 

ยูกิโนะรีบเอาผ้าพันแผลพันแขนขวา แล้วพูดออกมา

พอถึงตรงแถวๆข้อศอกก็พันเองไม่ค่อยได้–ก็เลยยื่นแขนมาทางผม ครับครับ คอสแบบจูนิเบียวสินะ ผูกปม แล้วก็ปล่อยหลวมนิดหน่อย ทำปลายให้ลุ่ยๆให้ความรู้สึกว่าเคยผ่านการต่อสู้มา

 

“ขะ ขอบคุณค่ะ”

 

ยูกิโนะก้มหัวขอบคุณ

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอเริ่มล่ะนะ…อะแฮ่ม

–ฟุฟุฟุ [Cocytus Arms(พลังเยือกแข็งแห่งขุมนรก)]ของฉัน จะขอแสดงให้[ราชาแห่งชายแดน]ได้เห็นล่ะนะคะ”

 

ยูกิโนะเอามือที่พันแผลชูขึ้นมาที่หน้า แล้วพูดออกมา
กว่าจะคิดท่าโพสได้ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยล่ะนะ

ความจูนิเบียวเนี่ย ถึงจะไม่อยากนึกถึงก็แต่เข้าใจดี

 

ก่อนที่จะออกมา ก็ไปเคาะห้องริเซ็ตดูอีกครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา

มีแค่เสียงตกใจว่า“ค่าา” กับเสียงตกเตียงเท่านั้น

 

ยังไงก็ปล่อยริเซ็ตไว้ก่อนดีกว่า แล้วผมก็พาฮารุกะกับยูกิโนะออกไปข้างนอก

 

 

 

 

 

 

“แถวนี้ได้สินะ”

 

ออกจากส่วนป่า พวกเราก็หยุดเดิน

ที่นี่คือที่ว่างกลางป่า

ที่อยู่ตรงหน้าคือ บ้านพังๆ กับกำแพงหินที่ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว

 

“เป็นหมู่บ้านร้างที่ถูกทิ้งมานานแล้วน่ะ น่าจะผ่านไปสัก100ปีได้แล้วมั้ง”

 

ฮารุกะพูดออกมา

 

“ที่ชายแดนมีของแบบนี้อยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ [ปราสาทร้าง]เองก็ใช่ อมนุษย์พวกอื่นเคยอาศัยอยู่แล้วก็ต้องหายไปเพราะอสูรที่เพิ่มขึ้น”

“แล้วคนพวกนั้นเป็นยังไงต่อล่ะ?”

“คิดว่าคงปลอมเป็นมนุษย์แล้วไปอาศัยอยู่กับโลกของมนุษย์น่ะ ท่านบรรพบุรุษก็เคยบอกว่าให้มาอาศัยที่[หมู่บ้านฮาซามะ]ด้วยกัน แต่อมนุษย์เองก็มีพวกที่ไม่ชอบเผ่าอื่นด้วยล่ะนะ…”

 

ชายแดนเองก็มีอะไรหลายๆอย่าง

 

“ถ้าอย่างนั้นยูกิโนะ ลองใช้เวทมนตร์ที่นี่ดูได้ไหม อยากจะดูสักหน่อยว่ายูกิโนะใช้เวทมนตร์ประเภทไหน”

“ฟุ ถ้าเป็นคำสั่งของนาย…ชั่วคราวของเรา ก็ปฏิเสธมิได้…”

 

ยูกิโนะคิดจะทำท่าโพสต์แปลกๆ–แต่ก็หยุด แล้วยื่นแขนมาทางผม

ครับครับ จะให้แกะผ้าพันแผลสินะ

 

“ตรงนั้นมีกำแพงหินเหลืออยู่นิดหน่อย ลองยิงใส่มันดูไหม?”

“ก็ได้หรอก…แต่เป้าที่ขยับไม่ได้ มันก็ไม่ใช่การฝึกสิ”

“เหรอ?”

“ฉันคือ[ยูกิโนะ ดราก้อนไชนด์]…แม่มดเยือกแข็ง ผู้สามารถแช่ได้ทุกสิ่ง บาปของเราลึกล้ำยิ่งกว่าสรวงสวรรค์ จุดเริ่มต้นของมันเปรียบได้ราวกับบิ๊กแบง(การสร้างจักรวาล)–”

“การแนะนำตัวนั่น ต้องฟังจนจบไหม?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าให้พูดเต็มๆก็คงใช้เวลาถึง15นาที”

 

ยูกิโนะส่ายหน้า

 

“ถ้าให้พูดสั้นๆก็ มันไม่ได้ฟีลน่ะค่ะ”

“กำแพงธรรมดาๆมันไม่ได้อารมณ์สินะ…”

 

แบบนั้นแย่เลยแฮะ

เพราะเป็นโอกาสดี ก็เลยอยากจะทดสอบการโจมตีเต็มกำลังของยูกิโนะ

 

จุดอ่อนของ[หมู่บ้านฮาซามะ]คือมีคนน้อย

[เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ]ของผมสามารถเอนชานต์อาวูธได้ สเตตัสก็เพิ่มขึ้นเพราะ[เขตแดน] แต่ถ้ากำลังทหารน้อยเกินไปก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าถูกกดดันมาด้วยจำนวนก็แย่แน่

 

ดังนั้นก็มีแต่ต้องใช้สกิลของผม กับเวทมนตร์ของยูกิโนะที่เป็นผู้ถูกอัญเชิญคอยอุดจุดนั้นเท่านั้น

เพื่อการนั้นก็เลยจำเป็นต้องยืนยันพลังโจมตีสูงสุดของยูกิโนะเอาไว้

 

“ท่านพี่! เราจะเป็นเป้าให้เอง! หลักๆก็คือพอเวทมนตร์พุ่งเข้ามาก็ปุ๊ป! กระโดดหลบไปก็พอสินะ!!”

“”ขอปฏิเสธ!!””

“เอ๋”

“ยิงเวทมนตร์ให้เพื่อนคนสำคัญไม่ได้หรอกค่ะ!!”

“จะให้น้องสาวคนสำคัญตกอยู่ในอันตรายได้ยังไงล่ะ!!”

“…เอะเฮะเฮะ”

 

ทั้งๆที่บ่นแท้ๆ ทำไมถึงยิ้มออกมากันล่ะฮารุกะ

 

“ท่านพี่…บอกว่าเราเป็น[น้องสาวคนสำคัญ]ด้วยล่ะ…เอะเฮะเฮะ”

“คือว่า ฉันเองก็บอกว่าคุณฮารุกะเป็น[เพื่อนคนสำคัญ]นะคะ?”

“เอะเฮะเฮะ เอะเฮะเฮะ”

 

ไม่ได้ฟังเลย

 

ยังไงก็ตาม ปัญหาอยู่ที่ยูกิโนะ

เป้าที่ไม่ขยับทำให้เอาจริงไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็จะให้ยิงเวทใส่ฮารุกะไม่ได้

ถ้าเป็นแบบนี้ ก็มีแต่ต้องสร้างเป้าที่เคลื่อนไหวได้

ยังไงซะก็เป็นหมู่บ้านร้าง ไม่มีเจ้าของสักหน่อย ขอใช้ของที่ดูจะใช้ได้เลยละกัน

 

“เปิดใช้งาน–[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]”

 

ผมเอามือแตะไปที่กำแพงที่จะใช้เป็นเป้า

วัตถุดิบของกำแพงคือหิน เจ้านี่คือ[กำแพงหิน]–ไม่สิ ไม่ใช่สินะ

ใจกลางของกำแพงที่เหลือเป็น[อักษร U] มีซากบ้านเหลืออยู่

หรือก็คือเจ้านี่คือ [รั้วหิน]ที่ล้อมรอบบ้าน

 

“[รั้วหิน石の塀(いしのへい อิชิโนะเฮ)]–จงแสดง[ทหารที่มีความคิด意思の塀(いしのへい อิชิโนะเฮ)]ออกมา จะรับชื่อจากราชาไปซะ [Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]!!”

 

 

กึกกึกกึก

 

 

รั้วหินขยับ

สำเร็จ

 

ที่นี่อยู่ใน[เขตแดน] ใต้พื้นดินมีพลังเวทของ[ชีพจรมังกร]ไหลผ่าน

เพียงพิที่จะเพิ่ม[ความคิด]ให้กับ[รั้วหิน]แล้วให้เป็น[ทหาร]

 

[……เฮฮ]

“ตอบมาด้วย!?”

 

สมกับเป็นสกิลของ[จักรพรรดิมังกร]

ดูเหมือนรั้วหิน จะกลายเป็นอสูรรับใช้ของผมชั่วคราว

 

“ถ้าแบบนี้ก็ได้สินะ ยูกิโนะ”

“อ๊ะ ค่ะ”

 

ทั้งยูกิโนะทั้งฮารุกะ ต่างก็อึ้งกิมกี่

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกนาย ลองทำตัวให้ทนการโจมตีกายภาพมากที่สุดเท่าที่ทำได้สิ”

[เฮเฮเฮเฮ!]

 

รั้วหินหันร่างกาย(?)ไปทางซ้ายทางขวา เหมือนถูกกระตุ้น

ถ้าให้ยกตัวอย่างก็เหมือนกับ[ผีกำแพง]ที่ถูกทำให้ดูดีขึ้น

 

“ปะ ไปแล้วนะคะ! [ด้วยนามแห่งแม่มดเยือกแข็ง]…”

[เฮฮเฮเฮเฮ!!]

“–อู๊ อวดดีจริงๆ! [Eternal Rolling Icicle lance (เสาจักรพรรดิเยือกแข็งนิรันดร)]!!”

 

ความยาวประมาณ5เมตรตรงหน้าของยูกิโนะ มี[Icicle Lance(หอกน้ำแข็ง)]ปรากฎขึ้นมายาวตรงประมาณหลายสิบเซนติเมตร

จำนวน5เล่ม หมุนด้วยความเร็วสูงเป็นสว่าน

 

“ไปซะ! [(ย่อ)เสาจักรพรรดิเยือกแข็ง]!!”

[เฮเฮเฮเฮ!!]

 

 

 

ฉึก!

 

 

 

““โอ้อ้อ้อ้อ้อ้อ้!?””

 

[หอกน้ำแข็ง]ที่ยูกิโนะปล่อยออกไปถูกรับไว้โดย[รั้วหิน]

 

แต่ว่าก็แค่นั้น [หอกน้ำแข็ง]ยังหมุนด้วยความเร็วสูงเหมือนสว่าน

ในเวลาไม่นานกำแพงหินก็แตกออก เกิดเป็นรู ทะลวงออกไป!

 

 

 

[เฮเฮเฮเฮ!]

[เฮเฮเฮเฮ!]

 

 

 

“–ทะ ทำไมกันนนนนนน!?”

 

ยูกิโนะกรีดร้องออกมา

ทั้งผมและฮารุกะก็ต่างตาเบิกกว้าง มองภาพที่ปรากฎตรงหน้า

 

รั้วที่ล้อมรอบพื้นบ้าน เริ่มขยับตัว

เข้าไปหารั้วที่รับ[หอกน้ำแข็ง]ด้วยความเร็วระดับที่ไม่น่าเชื่อว่าทำมาจากหิน

 

งั้นเหรอ

รั้วหินเหลืออยู่เป็นรูป[อักษร U] รั้วที่ผม[Enchant(เสริมแกร่ง)]ก็เชื่อมอยู่กับรั้วอีก2แผ่น ก็เลยกลายเป็นว่าผมใช้[เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ]ใส่[รั้วหิน]โดยที่ไม่รู้ตัว

 

ดังนั้นพอ[รั้วหิน]แผ่นที่1ตกอยู่วิกฤติ อีก2แผ่นก็เลยเข้ามา

 

[เฮเฮเฮเฮเฮ!!]

[เฮเฮเฮเฮเฮ!!]

[เฮฮฮฮฮฮ!]

 

 

 

ฉึกก!!

 

 

 

ที่ด้านหลังกำแพงแผ่นแรกที่ถูกเจาะมีอีก2แผ่นเข้าไปเสริม

ดูเหมิอนจะพยายามใช้พลังป้องกันของทั้ง3แผ่นป้องกัน[หอกน้ำแข็ง]ของยูกิโนะ

 

“สุดยอดเลยทั้งท่านพี่ทั้งยูกิโนะจัง! ขนาดจอมเวทหลวงในตำนาน ยังทำแบบนี้ไม่ได้เลยนะ! อาแต่ว่า เราจะเชียร์ฝ่ายไหนดีเนี่ย!?”

 

คิดว่ารั้วดีกว่านะ ฮารุกะ

ถึงเจ้าพวกนั้นจะพยายามขนาดไหน แต่สุดท้ายก็กันยูกิโนะไม่ได้อยู่ดีหรอก

 

 

 

แกร๊กกกก!

 

 

 

[รั้วหิน]สามารถกันเวทได้ไม่ถึงพริบตาด้วยซ้ำ

หอกของยูกิโนะสามารถทะลวงถึงรั้วแผ่นที่3ได้ในทันที–จากนั้น

 

 

 

 

[[[เฮฮฮฮฮฮ………]]]

 

 

 

 

[รั้วหิน]ทั้ง3แผ่นแตกออก

เหมือนกับกำลังชูนิ้วโป้งให้อยู่เลย เป็นจุดจบที่งดงาม

 

“…ทำไมฉัน…ถึงรู้สึกว่าแพ้กันคะ…”

 

ยูกิโนะกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ

ไม่หรอก เวทมนตร์ของยูกิโนะทะลวงรั้วหินได้ถึง3ชั้นในการโจมตีเดียวเลย เป็นของโกงไม่ผิดแน่

 

“ขอทำอีกครั้งเถอะค่ะคุณโชมะ! ครั้งต่อไปฉัน จะจัดการ[รั้วที่เอาแต่ร้องเฮเฮ]ภายในพริบตาให้ดูค่ะ!”

“แต่ว่า รั้วที่ยังเหลือสภาพดีๆไม่เหลือแล้วนะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปที่หมู่บ้านแล้วลองอีกครั้งค่ะ!”

 

ยูกิโนะชูกำปั้นขึ้นฟ้า

 

“นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการประเมินพลังต่อสู้ของ[หมู่บ้านฮาซามะ]ใช่ไหมล่ะคะ? ถ้าอย่างนั้น ก็จะขอทำจนกว่าจะยอมรับค่ะ! จะแสดงให้ดูว่าเวทมนตร์ของฉันสามารถปกป้องทุกคนได้ค่ะ ด้วยนามของ[แม่มดเยือกแข็ง]ยูกิโนะ ดราก้อนไชนด์!”

“ไม่หรอก ทำลายรั้วไปแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ”

“เพื่อปกป้องหมู่บ้านยังไงล่ะคะ! คุณโชมะ!”

“คือว่า ถึงจะคิดขึ้นมาได้ก็เถอะ”

 

อยู่ๆฮารุกะก็ชูแขนขึ้น

 

“แทนที่จะทำลายรั้วเพื่อทดสอบเวทมนตร์ของยูกิโนะจัง เอารั้วที่อยู่ที่หมู่บ้านมาทำเป็น[รั้วมีความคิด] น่าจะเพิ่มกำลังรบให้หมู่บ้านได้มากกว่าไม่ใช่เหรอ?”

““อ๊ะ””

 

ไม่ได้คิดเลย

 

“แล้วทั้ง2คน ไม่เข้าใจเหรอว่าพวกตัวเองสุดยอดขนาดไหนกันน่ะ? ถ้าท่านพี่[เสริมแกร่ง]ให้กับรั้วของบ้านทุกคน 1หลังก็จะมีประมาณ3แผ่น ก็จะสร้างทหารได้300ตนเลยนะ? ถ้าเอาเรียงกันแล้วให้พุ่งเข้าชนล่ะ? แบบนั้น…ถ้าเราเป็นศัตรู แค่ได้เห็นก็ยอมแพ้แล้ว จะให้สู้ยังไงล่ะ”

“……ก็จริง”

“ยูกิโนะจังก็ด้วย ถ้าใช้เวทมนตร์แบบนั้นขึ้นมา เราเองถ้าไม่เตรียมใจถูกขยี้เองก็ไม่กล้าเข้าใกล้หรอก การจะทำลายหอกนั่น ถ้าไม่ใช้เต็มแรงก็ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ รู้ตัวเถอะว่าตัวเองน่ะสุดยอด”

“…แต่เต็มแรงก็ทำลายได้สินะ…”

“พี่ริสเองถ้าไม่ใช้[ความสามารถในการลบล้างเวทมนตร์]ก็ลบไม่ได้หรอกนะ!”

“…ไม่ได้ผลกับคุณริเซ็ตด้วย…”

“ด้วยเหตุนั้น”

 

ฮารุกะยกนิ้วชี้ขึ้น แล้วพูดออกมา

 

“ก่อนอื่นก็กลับไปที่บ้านแล้วไปปรึกษาพี่ริสกันไหม?”

 

ก็เป็นแบบนั้นล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จากนั้น หลังจากกลับไปที่หมู่บ้าน–

 

 

 

“เข้าใจแล้วค่ะ ริเซ็ตกับฮารุกะจะไปอธิบายให้ทุกคนในหมู่บ้านเองค่ะ”

 

ริเซ็ตพูดขึ้นมาบนโต๊ะตอนกินข้าวเที่ยง

เรื่องที่ใช้[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]ให้[รั้วหิน]กลายเป็นทหาร

สามารถใช้เป็นกำลังรบในเวลาคับขันได้

[หมู่บ้านฮาซามะ]เป็นซากจากปราสาทเก่า ดังนั้นรั้วที่ล้อมบ้านก็เลยมีเหลือเฟือ

 

หลังจากได้ยินเรื่องนั้น ริเซ็ตก็ทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย–

 

“จะว่าไปแล้วท่านพี่”

“หืม?”

“[คฤหาสน์ผู้ใหญ่บ้าน]แห่งนี้กับบ้านที่ท่านพี่อยู่ ต่างก็ถูกล้อมด้วยรั้วสินะคะ?”

“จะว่าไปก็ใช่นะ”

“เป็นเพื่อนบ้านสินะคะ รอบๆก็ไม่มีบ้านอื่นด้วยสินะคะ?”

“อาา”

 

ผมพยักหน้า

ริเซ็ตทำหน้าพอใจมองไปทางฮารุกะกับยูกิโนะ

 

“แล้วอีกเรื่องหนึ่งค่ะ รั้วที่ท่านพี่เสริมแกร่ง ริเซ็ตสามารถสั่งได้ไหมคะ?”

“…อยากทำเหรอ?”

“เราไม่รู้ว่าตอนฉุกเฉินจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ”

“ก็จริง…ตอนที่ผมไม่อยู่บ้านก็มีสินะ”

“ใช่แล้วค่ะใช่แล้วค่ะ ลองไว้จะดีกว่าค่ะ”

 

ที่ริเซ็ตพูดมาก็ถูก

ถึงจะเป็นพันธมิตรกับองค์หญิงซิลเวียร์แล้ว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ถึงการ[เสริมแกร่ง]ให้รั้วหินจะดี แต่ถ้าขยับในยามฉุกเฉินไม่ได้ก็แย่

การซ้อม ทำให้หน่อยก็ดี

 

“ก็จริงตามนั้นล่ะนะ”

“แล้วก็นะแล้วก็นะ! มาลองทดสอบ[Enchant(เสริมแกร่ง)]รั้วคฤหาสน์ผู้ใหญ่บ้านนี้กับบ้านของริเซ็ตดูกันเถอะค่ะ!?”

“เข้าใจแล้ว งั้นลองกูกันเถอะ”

 

 

 

ก็เลยลองกันไป

 

 

 

 

 

 

 

 

เช้าวันต่อมา

 

 

 

พอตื่นขึ้นมาบ้านที่ผมอยู่กับรั้วของบ้านผู้ใหญ่บ้านก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

หรือก็คือถูกเคลื่อนย้านจนมาล้อมบ้านทั้งสอง

 

……โอ๊ะ?

 

 

“““อรุณสวัสดิ์ค่ะ!!”””

 

ริเซ็ตโบกมือจากหน้าต่างของบ้าน

ยูกิโนะมองมาทางนี้จากทางเข้าอย่างเขินอาย

ฮารุกะกำลังออกกำลังดูดซึมพลังเวทอยู่ในชุดนอน ทุกครั้งที่ขยับชุดก็ทำท่าจะหลุด จะดีเหรอน่ะแบบนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็ครอบครัวเดียวกันนี่นา

 

“ลองคิดให้ดีสิคะ ท่านพี่เป็น[ราชาแห่งชายแดน]นะคะ?”

 

ริเซ็ตเอามือแตะเอวแล้วพูดออกมา

 

“บ้านที่ราชาอาศัยอยู่ ก็คือใจกลางของหมู่บ้านนี้ค่ะ เป็นจุดที่ต้องคุ้มกันให้ดีที่สุดค่ะ ดังนั้นถ้าใช้[รั้วหิน]เป็นทหารได้ ก็เป็นสถานที่ที่ต้องใช้ทหารในการคุ้มกันให้มากที่สุดค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้พอรวมทหารของบ้าน2หลังเป็น6แผ่น ก็เป็นการคุ้มกันด้วยจำนวนกำลังทหารค่ะ แข็งแกร่งสุดยอดค่ะ!”

 

ก็คือ ที่ขอให้ผมเสริมแกร่งรั้วก็เพื่อแบบนั้นสินะ

รั้วที่ล้อมบ้านเอง ก็เชื่อฟังคำพูดของริเซ็ตอย่างซื่อตรง

 

ที่ดินกลายเป็นหนึ่งเดียว [ความห่าง]กับคฤหาสน์ผู้ใหญ่บ้านของบ้านริเซ็ตเปลี่ยนไป

พวกชาวบ้านที่ผ่านมาก็ทำได้แค่ตื่นตันจนร้องว่า “โอ้อ้” หรือ“สุดยอดไปเลย ราชาผู้พิชิต!”“ทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วยหรือเนี่ย ตกใจกับพลังขององค์ราชาจริงๆเลยครับ” ถึงคนที่ทำจะริเซ็ตก็เถอะ

 

“คิดได้ดีนี่ ริเซ็ต”

“เอ๊ะ?”

“การจะทำให้พวกคนในหมู่บ้านยอมรับการ[เสริมแกร่ง][รั้วหิน] การทำแบบนี้ดีที่สุดสินะ ก่อนอื่นพวกเราก็แสดงให้ดูว่าพอ[เสริมแกร่ง]แล้วมันเป็นยังไง ถ้าทำแบบนั้นพวกชาวบ้านก็จะรู้ผลของมันได้ จะได้วางใจรับการ[เสริมแกร่ง] เพื่อแบบนั้นก็เลยทำแบบนี้สินะ?”

“……ใช่แล้วค่ะ”

 

อะไรกันล่ะนั่น

 

“…ถ้าเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้”

 

สุดท้าย ก็เลยกลายเป็นว่าเหมือนกับอยู่ด้วยกัน

หลังจากนี้ก็จะเรียกรวมพลพวกชาวบ้าน แล้วอธิบายเกี่ยวกับการ[เสริมแกร่ง]รั้ว หลังจากนี้ถ้าทำให้ร้วที่อยู่ในหมู่บ้านทั้งหมดถูกเสริมแกร่ง แล้วผมก็จะได้ออกไปข้างนอกอย่างสบายใจได้

 

“ขอบคุณนะ ริเซ็ต”

“……พูดแบบนั้นก็รู้สึกแย่สิคะ พอถูกชมแบบนี้…พอถูกชมแบบนี้ริเซ็ตก็……”

 

ด้วยเหตุนั้นรอบๆบ้านก็เลยเต็มไปด้วยเสียงเอะอะจากพวกชาวบ้านที่มารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้–

 

 

 

 

“…ขอโทษค่ะท่านพี่โชมะ ก็แค่คิดอยากให้ครอบครัวเราได้อยู่ด้วยกันก็เลยขยับรั้วเอาตามชอบต้องขอโทษจริงๆค่ะ เหตุผลอื่นๆก็แค่แถมาทีหลังเองค่ะขอโทษจริงค่าาาาาาาา”

 

 

 

 

เกี่ยวกับคำพูดที่ริเซ็ตพึมพำออกมาด้วยเสียงเบาๆ ตอนที่ผมได้รู้จากฮารุกะ ก็เป็นเรื่องหลังจากนี้อีกนาน