Ch.45 – เหล่าเจ้าหญิง หวาดกลัวกับพลังของชายแดน

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

 ──อาณาเขตเจ้าเมืองคิโทล หอพักเจ้าหญิง──

 

“ท่านพี่เรเนส! นี่คุณทำอะไรลงไปคะ!!”

 

อาณาเขตเจ้าเมืองคิโทล หอพักองค์หญิงเรเนส

เจ้าหญิงคนเล็ก ซิลเวียร์ คิโทลผลักแม่บ้านออกแล้วเปิดประตูห้องของพี่สาวเข้ามา

 

“อุ๊ยตาย คิดว่าโวกเวกอะไรซิลเวียร์เองเหรอเหรอ สวัสดีค่ะ”

“ทำเรื่องอะไรลงไปกันคะ ท่านพี่!”

 

ซิลเวียร์ตะโกนใส่เรเนสที่เพลิดเพลินกับชาอยู่โดยไม่รู้สึกผิดอะไร

 

“ยังไงก็ตาม การที่ไปยุ่งกับชายแดนเนี่ย…คิดอะไรกันคะ”

“เธอเองนั่นล่ะ ร้อนรนอะไรกัน ซิลเวียร์”

“ดูเจ้านี่สิคะ!”

 

ปั๊ง!

 

ซิลเวียร์กระแทกแผ่นไม้ลงบนโต๊ะที่มีถ้วยชา

บนผิวมีตัวอักษรถูกเขียนไว้ด้วยถ่าน

ในแผ่นดินนี้เวลาที่เขียนบทความก็จะใช้แผ่นป้ายไม้

 

“ดูเหมือนมันจะตกอยู่ที่ประตูปราสาทเมื่อเช้าค่ะ เพราะว่าจ่าหน้าถึงดิฉัน ทหารยามก็เลยนำมาให้ค่ะ รู้หรือเปล่าคะ ว่าในนี้เขียนว่าอะไร? ท่านพี่”

“พูดอะไรตลกดีนี่ ซิลเวียร์ จดหมายที่จ่าหน้าถึงเธอ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?”

“นี่คือ…จดหมายจากราชาแห่งชายแดนค่ะ
นักดาบดีมุสกับลูกน้องถืออาวุธบุกไปยัง[หมู่บ้านฮาซามะ]! ทุกคน ถูกทำให้หมดสภาพแล้ว หลังจากนี้อยากจะส่งตัวให้ ดังนั้นอยากจะให้ส่งทูตมาหา ค่ะ!”

 

องค์หญิงซิลเวียร์ตะโกนออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้นได้

 

“ฉันรู้นะว่าดีมุสพอถูกฉันไล่ออกก็คิดจะไปทำงานกับท่านพี่น่ะค่ะ หมอนั่นถูกทำให้อับอายที่ชายแดน ก็เลยกำลังคิดแค้นอยู่ด้วย! นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่คะ ท่านพี่!!”

“…เลิกพูดเสียงดังแบบนั้นได้ไหม?”

 

เรเนสยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วยื่นถ้วยชาให้ซิลเวียร์

 

“นี่ชาที่ได้มาจากเมืองหลวง ซิลเวียร์ ชอบแบบที่ใส่น้ำผึ้งสินะ? วันนี้ ได้ยินว่าจะมาก็เลยเตรียมเอาไว้ให้น่ะ รับไปสิ”

“…ท่านพี่จะเป็นศัตรูกับชายแดน แล้วก็ล่มสลายไปก็ตามสบายค่ะ แต่ว่าอย่าดึงดิฉันไปเกี่ยวข้องด้วย!”

“ก็แล้ว ทำไมต้องร้อนรนแบบนั้นล่ะ…”

“[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]ผู้ปกครองชายแดน ใช้แค่คำพูดอสูรหลายสิบตนก็สลายหายไปแล้วค่ะ”

 

ซิลเวียร์พูดออกมา

 

ห้องรับรองตกอยู่ในความเงียบ

ลมพัดมาจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ ทำให้ชุดเดรสของซิลเวียร์กับเรเนสสั่นไหว เงียบจนได้ยินเสียงของชุดที่สั่นไหวนั่น ทั้งพวกเมดที่อยู่ข้างๆ ทั้งผู้เฒ่า–พ่อบ้านที่มากับซิลเวียร์ ต่างก็อยู่นั่งไม่ไหวติง

 

“…ล้อเล่นกันหรือเปล่า?”

“ขอพูดหน่อยจะได้ไหมครับ”

“โดกัลเหรอ ได้สิ ตอบมาตามที่เห็นได้เลย”

“…ข้าเห็นอสูรระเหิดหายไปต่อหน้าต่อตาเลย พวกทหารอีกหลายสิบคน เองก็เห็นแบบเดียวกับข้าเช่นกัน”

 

ผู้เฒ่าที่ยืนอยู่ใกล้ๆประตู พูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ

ซิลเวียร์พยักหน้าให้กับผู้เฒ่าโดกัล

ตอนที่ซิลเวียร์พบกับ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์] โดกัลเองก็อยู่ข้างๆ เขาเป็นคนที่ดูแลซิลเวียร์กับเรเนสมาตั้งแต่ยังเด็ก คำพูดจึงมีน้ำหนักมาก

 

“ท่านพี่คงจะรู้อยู่แล้ว แต่ว่าดิฉันจบับมือเป็นพันธมิตรกับราชาแห่งชายแดนแล้วค่ะ ในตอนนั้น ดิฉันได้ให้ทหารซ่อนตัวไว้เผื่อเวลาฉุกเฉิน แต่ก็ถูกอสูรโจมตีใส่ค่ะ [Black Centipede]กับพวก[ก็อบลิน]ทำให้ทหารต้องแตกตื่นกันยกใหญ่ค่ะ”

“คนที่จัดการ…คือ[ราชาแห่งชายแดน]เหรอ”

“ราชาได้พ่นไฟออกมาค่ะ แต่มันก็ไม่ได้สัมผัสโดนพวกอสูรเลย ทั้งๆแบบนั้น พวกอสูรทั้งหมดก็หายไปค่ะ นอกจากนั้นลูกน้อยของราชา ยังมีเด็กสาวที่ไม่รับผลใดๆของเวทมนตร์ด้วยค่ะ”

“…โอะ……โอ้”

“ความหมายของการเป็นศัตรูกับราชาคนนั้น คงไม่ต้องบอกอะไรมากมายให้ท่านพี่ผู้ปราดเปรื่องก็คงจะรู้สินะคะ”

 

พอพูดจบ ซิลเวียร์ก็โค้งคำนับ

“ต่อจากนี้ดิฉันจะไปอธิบายให้กับ[ราชาแห่งชายแดน]ฟังค่ะ ถ้าลูกน้องเก่าบุกไปยังชายแดนแบบนี้ ความรับผิดชอบส่วนหนึ่งก็เป็นของดิฉันค่ะ แน่นอน…ดิฉันจะขอพูดความจริงนะคะ? ท่านพี่”

“ดะ เดี๋ยวก่อนสิซิลเวียร์!”

“เรื่องที่คนจ้างดีมุสก็คือคุณน่ะ ืท่านพี่เรเนส”

 

ซิลเวียร์ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

 

“ดิฉันไม่ได้เกลียดคุณหรอกนะ แม้แต่ตอนนี้ที่มาต่อสู้แย่งตำแหน่งฐานะผู้สืบทอดของท่านพ่อกัน ตามจริง ก็อยากจะดื่มชาที่คุณชง นี่คือใจจริงของดิฉันค่ะ ท่านพี่”

“…จะไปทั้งๆแบบนี้เลยเหรอ…แต่ว่า”

“ถ้าฉันไม่ไปอธิบาย[ราชาแห่งชายแดน]อาจจะมาด้วยตัวเองเลยก็ได้ค่ะ ตอนที่เป็นแบบนั้นต่อให้ดิฉันตายไปแล้ว คนของเขาก็คงจะพังประตูคฤหาสน์นี้เข้ามาอยู่ดีค่ะ”

 

นักดาบดีมุสอยู่ในเงื้อมมือของ[ราชาแห่งชายแดน]เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งลูกน้อยอีกหลายสิบคน

ในนั้นต้องมีคนที่เป็นลูกน้องสายตรงของเรเนสด้วยแน่ๆ

เรื่องที่เรเนส คิโทลเป็นคนชักใยเบื้องหลังยังไงรู้ได้แน่นอน

 

“ถ้าเกิดสงสัยในคำพูดของดิฉันล่ะก็…จะมาด้วยกันไหมล่ะคะ ท่านพี่”

 

ซิลเวียร์หันกลับมาจากหน้าประตู มองไปที่เรเนส

 

“ปลอมตัวเป็นสาวใช้ของดิฉัน แล้วไปดู[ราชาแห่งชายแดน]ด้วยตานั่นก็ดีใช่ไหมล่ะคะ”

“…คิดจะลอบฆ่าฉันกลางทางหรือไง”

“[ด้วยนามของท่านพ่อผู้ทรงเกียรติ ระหว่างทางจะไม่ทำอันตรายต่อคุณแน่นอนค่ะ ซิลเวียร์ คิโทล ผู้นี้ขอสาบานต่อจักรพรรดิมังกร]”

 

ซิลเวียร์เดินเข้าไปหาเรเนสเงียบๆ แล้วปล่อยถ้วยชาบนโต๊ะลงพื้น

เสียงแก้วดังขึ้น ถ้วยชาแตกเป็นเสี่ยงๆ

จากนั้นซิลเวียร์ก็หยิบเศษขึ้นมากรีดที่ปลายนิ้ว ปล่อยหยดเลือดลงไปบนถ้วยที่ใส่ชา

 

“ถึงจะไม่เป็นทางการ แต่ก็ขอสาบานด้วยเจ้านี้ค่ะ”

“…เธอ…ทำไมทำถึงขนาดนี้”

“ถ้าเกิด[ราชาแห่งชายแดน]คิดจะทำสงครามกับท่านพ่อขึ้นมาจะทำยังไงคะ? แน่นอนว่า ท่านพ่อก็คงจะชนะได้ แต่ในส่วนนั้น การจัดการกับพวกข้าราชกังฉินที่เมืองหลวงก็จะช้าลงไปค่ะ ศัตรูยังมีอยู่อีกมากนะคะ เพื่อที่จะสนับสนุนงานของท่านพ่อ ตรงนี้ฉันก็ควรจะเป็นคนระงับความโกรธของ[ราชาแห่งชายแดน]ค่ะ”

 

ซิลเวียร์พูดอย่างชัดเจน

 

“ท่านพ่อจะออกเดินทางไปเมืองหลวงหลายเดือนใช่ไหมล่ะคะ ก่อนหน้านั้นก็ต้องขจัดเรื่องน่ากังวลออกไปให้หมดก่อนเป็นเรื่องแน่นอนค่ะ ถ้ายังมีความรับผิดชอบในฐานะบุตรีคนรองของตระกูลคิโทล ก็คิดว่าควรจะทำให้มันจบค่ะ”

 

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง

 

เรเนส คิโทลกำหมัด แล้วสตัวสั่นเทาด้วยความเงียบ

สักพักเธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยความเงียบ

 

“เข้าใจแล้ว ถ้าเธอพูดถึงขนาดนั้น ฉันเองก็จะขอไปดูกึ๋นของ[ราชาแห่งชายแดน]ให้ชัดเต็มสองตาหน่อยละกัน”

 

แล้วตอบด้วยเสียงเบาๆ

 

──หลายวันต่อมา ณ ถนนใกล้ๆกับชายแดน──

 

ขบวนของซิลเวียร์ คิโทลมุ่งหน้าไปยัง[หมู่บ้านฮาซามะ]

ทหารเต็มทั้งด้านหน้าด้านหลัง ตรงกลางมีรถม้าเคลื่อนอยู่

ในรถม้า มีซิลเวียร์ คิโทลกับเรเนส คิโทล

ซิลเวียร์นั้นใส่ชุดเดรสแบบเดียวกับที่มาชายแดนรอบก่อน เรเนสนั้นใส่ชุดแม่บ้าน เธอในตอนนี้นั้นอยู่ในจุดยืนที่ชื่อว่า แม่บ้านของซิลเวียร์

พวกทหารที่ล้อมรอบรถม้าเอง ครึ่งหนึ่งก็เป็นลูกน้องของซิลเวียร์ อีกครึ่งหนึ่งก็เป็นของเรเนส

ตรงกลางมีผู้เฒ่าโดกัล คอยสอดส่องทหารของทั้งสองฝ่าย

 

“หยุดรถม้าซะ ซิลเวียร์”

 

เรเนสที่มองไปนอกหน้าต่าง อยู่ๆก็พูดออกมา

 

“ทำไมเหรอคะ? ท่านพี่”

“…ที่ทุ่งหญ้ามีของที่ไม่เคยเห็นอยู่ นั่นมัน…อะไรน่ะ?”

 

ซิลเวียร์กับเรเนสเอาหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่าง

ที่กลางทุ่งหญ้ามีของสีถ่านล้มอยู่

 

ใหญ่ ความกว้างนั้นประมาณเท่าหนึ่งของความสูงของคน แถมยัง เป็นของที่ค่อนข้างหนา

ที่ทุ่งหญ้ามีรอยราวกับเป็นการลากอะไรสักอย่าง

มีใครขนมันมางั้นเหรอ?

 

“ก็จริง…เป็นของที่ไม่เคยเห็นเลยนะคะ ท่านพี่”

“โดกัล อยู่ใกล้ๆไหม? รู้ไหมว่านั่นคืออะไร?”

 

เรเนสเปิดหน้าต่างแล้วเรียกผู้เฒ่า

ผู้เฒ่าเองก็มองไปยังทุ่งหญ้า แล้วก็เอียงคอสงสัย

 

“อ๊ะ ดูเหมือนจะมีชาวบ้านใก้ลๆชายแดนผ่านมาครับ ลองถามดูกันเถอะครับ”

“ตามสบาย พามาที่นี่ได้เลย”

 

เรเนสตอบไป ซิลเวียร์เองก็พยักหน้า

 

สักพัก ชาวบ้านที่ลากเกวียน ก็มาอยู่ตรงหน้าพวกซิลเวียร์

 

“ขอถามเจ้าหน่อย ขอสีถ่านที่อยู่ในทุ่งหญ้านั่นคืออะไร?”

“รั้วครับ”

“…รั้ว?”

“ครับ ดูเหมือนท่าน[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]จะเอามาไว้ที่ถนนเพื่อปกป้องชายแดน วางรั้วขนาดใหญ่คงจะเอามาใช้เป็นสิ่งกีดขวางล่ะมั้งครับ …?”

“…ปุ๊”

 

เรเนสเอามือปิดปาก

 

“ฮะ ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ! ตลก! เอากระดานหินนั่นมาตั้งที่ถนน คิดว่าจะกันทหารได้เหรอ [ราชาแห่งชายแดน]เนี่ย! ถึงกับใช้คนมาขนของแบบนั้นเลยเนี่ยนะ!?”

“…นั่นสินะคะ มันก็ค่อนข้างจะยากอยู่”

“ก็แน่สิ! งี่เง่าสุดๆ!”

 

เรเนส คิโทลตบเข่า แล้วเอาหน้าเข้าไปใกล้น้องสาว ซิลเวียร์

 

“การที่กลัว[ราชาแห่งชายแดน]เนี่ย มันจะงี่เง่าไปหรือเปล่า? ซิลเวียร์เอ๋ย เจ้านั่นมันใช้แรงงานคนห้ทำงานเสียเปล่าในการขนกระดานหินหนักๆเลยนะ?”

“แต่ว่า แค่วิชาในการเอากระดานแบบนั้นออกมาได้มันก็น่ากลัวแล้วไม่ช่เหรอคะ?”

“ก็จริงนะ แต่ว่า ใช้พลังผิดวิธีแล้ว ถึงกับใช้กำลังคนมาขนของพรรค์นั้น–”

 

[………เฮฮ]

 

“หืม? พูดอะไรออกมาหรือเปล่า?”

“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้พูดอะไร”

 

เรเนสกับซิลเวียร์พร้อมใจกันมองออกไปข้างนอก

จุดที่แปลกๆ ไม่มี

รอบๆเป็นทุ่งหญ้า แถวก็ไม่ได้เคลื่อน มีเพียงพวกชาวบ้านที่นั่งเกวียนใกล้ๆเท่านั้น

กระดาบที่ล้มอยู่ในทุ่งหญ้าเอง–ก็–

 

“ท่านพี่”

“ทำไมเหรอ ซิลเวียร์เอ๋ย”

“กระดานนั่น มันรู้สึกว่ามันจะเข้ามาใกล้กว่าเมื่อกี้หรือเปล่าคะ?”

“อย่าพูดอะไรบ้าๆ กระดานมันจะเคลื่อนที่ได้ไง”

“…นั่นสินะคะ”

“เสียเวลากันพอแล้ว ไปต่อเถอะ”

 

เรเนสพูดแบบนั้น แล้วซิลเวียร์ก็ให้สัญญาณ

 

“ทำให้พวกนายต้องเสียเวลาไปด้วยเลยนะคะ โดกัล ให้รางวัลตอบแทนหน่อย”

“ครับ”

 

ผู้เฒ่าโดกัลส่งเหรียญเงินให้กับชาวบ้านบนเกวียน

 

“แต่ถึงอย่างนั้นก็แปลกนะคะ [ราชาแห่งชายแดน]ให้ชาวบ้านขนย้ายกระดานหินนั่นจริงๆเหรอคะ?”

“……ไม่ใช่หรอก”

 

แถวเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ล้อรถม้าหมุนออก

 

“…..ถ้าใส่พลังเวทเข้าไปก็จะสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง พอผ่านไปได้2เดือนก็มาถึงถนน–”

“–เอ๊ะ”

 

ตอนที่ซิลเวียร์คิดจะถามกลับไป แถวก็เคลื่อนตัวออกไปแล้ว

ดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้ยินคำพูดของชาวบ้านจนจบ

 

──ชายแดน ใกล้ๆกับ[หมู่บ้านฮาซามะ]──

 

“ส่งจดหมายขอโทษให้[ราชาแห่งชายแดน]ไปแล้วค่ะ คิดว่าคงจะออกมาต้อนรับแล้ว…”

 

รถม้าเคลื่อนตัวอยู่

ข้างๆถนนกลายเป็นสวนแล้ว

เป็นกิ่งของธัญพืชที่ซิลเวียร์เองก็รู้จัก มันเริ่มมีผลงอกออกมาแล้ว

 

“ถึงจะเป็นอมนุษย์ในชายแดน แต่ก็มีความรู้ในการสร้างผลผลิตล่ะนะ”

“นั่นคือ[ถั่วฟุราระ]สินะคะ แต่ว่า…ฤดูมันเร็วไปหน่อยหรือเปล่า แถมเหมือนว่าผลมันจะใหญ่เกินไปด้วย…?”

“พันธุ์ที่เพี้ยนไปสำหรับให้อมนุษย์กินเหรอ? จะไปสนใจทำไมกันล่ะ”

 

เรเนสสบถออกมา

 

“ดูสิ พวกเด็กๆก็วิ่งไปมาเหมือนสัตว์ป่า ที่นี่มันชายแดนจริงๆ เป็นที่ของพวกชั้นต่ำ”

“พวกเผ่ายักษ์เองก็ทำหน้าดูเหนื่อยอยู่ค่ะ การปกครองของ[ราชาแห่งชายแดน]คงจะเข้มงวดสินะคะ”

 

ซิลเวียร์เอาหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่าง เพื่อเงี่ยหูฟังเสียงของเผ่ายักษ์

 

“อายุ่งจริงจริงง ตั้งแต่ท่านราชาผู้ชิตมาเนี่ยย พวกเราก็ต้องทำงานไม่หยุดเลยย”

“ให้ตายสิ เพราะดินมันดีขึ้น–ไม่ใช่สิ เพราะมันเปลี่ยนไป ก็เลยต้องยุ่งไปหมดเลยน้าา”

“[ถั่วฟุราระ] ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเก็บเกี่ยวได้ใน1เดือน”

 

“…หืม?”

 

เหมือนได้ยินเรื่องแปลกๆ

[ถั่วฟุราระ]นั้นเจริญเติบโตไวก็จริง แต่การจะเก็บเกี่ยวก็ต้องใช้สารอาหารในดินจำนวนมาก

การเก็บเกี่ยวใน1เดือนนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่หากที่ดินอุดมสมบูรณ์มันก็อีกเรื่อง…

 

“เดี๋ยวเถอะ! พวกเด็กๆ รีบๆมาช่วยงานสวนได้แล้ว! ถ้าเอาแต่เล่น[ท่านราชาผู้พิชิต]ไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่!”

 

หญิงสาวเผ่ายักษ์ตะโกนใส่พวกเด็กๆอยู่ตรงมุมสวน

 

“พวกเธอก็รู้ใช่ไหมล่ะ ตอนกลางคืน[ท่านราชาผู้พิชิต]จะออกตรวจตราในหมู่บ้านน่ะ”

“““………”””

 

พวกเด็กๆที่กำลังวิ่งหยุดยืนเพราะคำพูดของเธอ

 

“เด็กไม่ดี…”

“””เด็กไม่ดี…”””

“เด็กไม่ดีจะต้องถูก[ท่านราชาผู้พิชิต]พาตัวไปนะ!!”

“““ฮะฮะ”””

“อา! เดี๋ยวเถอะ! ก็บอกว่าอย่าวิ่งเล่นไง! ขอโทษค่ะท่านฮารุกะ แบบนี้มันได้ผลตรงกันข้ามเลยนะคะ!!”

 

“…ซิลเวียร์เอ๋ย”

“…คะ ท่านพี่เรเนส”

“[ราชาแห่งชายแดน]ที่เธอว่าเนี่ยน่ากลัวจริงๆเหรอ?”

“ไม่เข้าใจเหรอคะ ท่านพี่”

 

ซิลเวียร์จัดเข่าชิดนั่งเรียบร้อยอยู่ด้านในรถม้า

มองไปยังพี่สาวแท้ๆ เรเนส คิโทล ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าง

 

“พวกเราในตอนนี้หยุดเรื่องการต่อสู้ตามปกติอยู่ แล้วคุยกันแบบพี่น้องธรรมดาค่ะ ดังนั้น ก็จะขอบอกความในใจจริงๆค่ะ ดิฉัน…หวาดกลัว[ราชาแห่งชายแดน]จริงๆค่ะ สิ่งที่น่าหวาดกลัวจริงๆก็คือการที่[ไม่อาจจะเห็นรูปลักษณ์ได้]ค่ะ ท่านพี่”

“เหมือนกับ[น้ำที่แข็งแกร่งเพราะไร้รูปร่าง]งั้นเหรอ”

“ใช่แล้วค่ะ [กระดานหิน]ที่เห็นที่ทุ่งราบ เทคโนโลยีการแปรรูปที่สร้างมันขึ้นมา แล้วถ้าเรื่องที่ชาวบ้านสามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดได้2ครั้งเป็นเรื่องจริงล่ะก็ การที่สามารถเปลี่ยนสภาพของชายแดนได้ก็เป็นฝีมือของราชาใช่ไหมล่ะคะ ถูกหวาดกลัวโดยพวกผู้ใหญ่ แต่ก็ได้รับความรักจากพวกเด็กๆ สามารถจินตนาการถึงตัวตนแบบนั้นได้ไหมล่ะคะ? ท่านพี่”

“เธอน่ะตกหลุมของ[ราชาแห่งชายแดน]แล้ว”

 

เรเนสจับคอแล้วหัวเราะออกมา

 

“ฉันน่ะไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวสักนิดเดียวเลย เอาเถอะ ต่อจากนี้ฉันจะขอดู[ราชาแห่งชายแดน]ในฐานะแม่บ้านของเธอหน่อยละกัน”

“ตามสบายเลย”

 

ซิลเวียร์หันไปหาผู้เฒ่าโดกัลที่อยู่นอกรถม้า แล้วโบกมือ

โดกัลที่อยู่นอกหน้าต่าง ก็ออกคำสั่งพวกทหาร

เรื่องที่ทูตมาถึง ไม่รู้ว่าไปถึง[ราชาแห่งชายแดน]แล้วหรือยัง แต่ยังไงก็ต้องบอกไว้ก่อน

ที่เหลือก็แค่รอการตอบสนองของทางนั้น

 

ตอนที่คิดแบบนั้น–

 

[กว๊าาาาาาาาาาาาาาาา—-!!]

 

รอบๆ[หมู่บ้านฮาซามะ]ก็มีเสียงคำรามดังขึ้น

 

[กุโอ๊อ๊อ๊! กว๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา—-!!]

 

“เอ๊ะ?” “อะไรน่ะ!?”

 

ซิลเวียร์กับเรเนสเปิดหน้าต่างมองออกไปข้างนอก

ทั้งทหาร ทั้งผู้เฒ่าโดกัล ทั้งพวกเผ่ายักษ์ที่อยู่ในสวนต่างก็มองขึ้นไปข้างบน มองไปที่อะไรบางอย่าง

 

มังกรสีดำเข้ม บินวนอยู่บนท้องฟ้า

 

[กว๊าา!] [กุอ๊าาาาาาาาาาาาา!!]

 

ลำตัวยาวใหญ่ เกล็ดส่องแสงสีดำ จากนั้นเขา2อันที่งอกออกมาจากส่วนหัว

มังกรไม่ผิดแน่นอน แถวยัง มีสองหัว

 

“อาา! [ท่านราชาผู้พิชิต]อาละวาดแล้ว”

“บางที…ท่านริเซ็ตสตรีหมายเลขหนึ่งคงจะไปทำให้ให้[ท่านราชาผู้พิชิต]โกรธ”

“เพราะท่านริเซ็ตเป็นคนจริงจังนี่นะ ก็เลยตอบสนองความต้องการของ[ท่านราชาผู้พิชิต]ไม่ได้…”

“ท่านฮารุกะภรรยาหมายเลขหนึ่ง…ก็มีความอายไม่พอด้วยสิ…อยากให้พยายามหน่อยอีกจริงๆ…”

“ส่วนท่านยูกิโนะเมียหมายเลขหนึ่ง…ก็คาดหวังกับอนาคตได้อยู่ล่ะมั้งนะ”

 

พวกชาวบ้านตัวสั่นมองไปที่[มังกรสองเศียร]

ทั้งซิลเวียร์ทั้งเรเนส ต่างก็ไม่อาจจะละสายตามังกรที่ร่ายรำอยู่บนฟากฟ้าได้ พวกทหารเอง ก็ตั้งโล่ขึ้นบนฟ้าแล้ว

ทุกคนต่างก็เข้าใจดี

ถ้ามังกรนั่นมุ่งตรงมาทางนี้ ไม่มีทางป้องกันได้แน่

ซิลเวียร์เขียนจดหมายขอโทษไป บอกไปว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อขอโทษ

แต่ว่า…ดูเหมือนแค่นั้นจะไม่พอ…

 

“อ๊าาาาาาาาาาาาา”

 

เรเนสกำลังหวาดกลัว

ร่างกายกำลังสั่นเทา แล้วไม่รู้ว่าทรุดลงไปอยู่กับพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่

 

“ความฝัน…นี่คือความฝัน ของแบบนั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอก ความฝัน ความฝันแน่ๆ”

“…ทั้งๆที่ชอบแผนการณ์แท้ๆแต่กับรับความจริงไม่ได้เนี่ยนะคะ ท่านพี่…”

 

“ทูตขององค์หญิงซิลเวียร์–ไม่สิ ตัวท่านซิลเวียร์ คิโทล ขอยินดีต้อนรับค่ะ”

 

มีเสียงเรียกมาจากด้านนอกหน้าต่าง

ไม่มีใครรู้สึกตัว

ทั้งซิลเวียร์ทั้งเรเนสทั้งเหล่าทหาร ทุกคนต่างก็ถูก[มังกรสองเศียร]ดึงความสนใจ

 

ความจริงนั้น ทำให้ซิลเวียร์เสียวสันหลัง

เพราะรู้สึกตัวดีว่าเจ้าของเสียงนั่น สามารถฆ่าซิลเวียร์กับเรเนสได้ตลอดเวลา

 

“…ถ้า[มังกรสองเศียร]นั่นคือลูกน้องของ[ราชาแห่งชายแดน]ล่ะก็…น่ากลัวจริงๆ”

“ไม่ใช่หรอก นั่นคือผนึกความโกรธของ[ราชาแห่งชายแดน] ตอนที่เรา…ไม่สิ ฉันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]ได้…คือความโกรธต่อสิ่งนั้น เชิญเลย สบายใจได้องค์หญิงซิลเวียร์”

 

เจ้าของเสียงที่พูดแบบนั้น คุกเข่าอยู่หน้ารถม้า

เด็กสาวเผ่ายักษ์

 

ที่ผมสีแดงมีที่ประดับคริสตัลโปร่งแสงอยู่

พอดูดีๆก็เห็นว่าเป็น[ผลึกเวท]

เป็นสิ่งที่ได้จากการชำระล้างคริสตัลที่บางครั้งจะตกมาจากอสูร ถ้าขายก็จะได้เงินเป็นจำนวนมาก เธอคนนั้นเอามันมาติดไว้เฉยๆ ชุดที่ใส่อยู่คือชุดเดรสที่ไม่มีชายเสื้อ มีขนนกประดับอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นขนที่ใหญ่แบบแปลกๆ บางที–อาจจะเป็นขนของฮาร์ปี้ที่มีชีวิตมาเป็นเวลานาน ทั้งๆที่แค่ขนของฮาร์ปี้ธรรมดาก็เป็นของล้ำค่าแล้วแท้ๆ นี่ไปหาขนระดับผู้เฒ่ามาได้ยังไงกัน…

 

“นายของเรา[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ฺ]บอกว่าอยากจะส่งตัวนักดาบดีมุสให้ค่ะ”

 

เด็กสาวเผ่ายักษ์พูดออกมา

 

“แต่ว่าก่อนหน้านั้น อยากจะสั่งสอนดีมุสกับลูกน้องต่อหน้าท่านทูตค่ะ ถ้าเห็นด้วย จะขอให้มาด้วยกันจะได้ไหมคะ?”

 

ต่อต้านไม่ได้

ถึง[มังกรสองเศียร]จะหายไปแล้ว แต่พวกซิลเวียร์ก็ไม่มีแรงจะขัดขืนแล้ว–

 

รถม้าที่สองพี่น้องซิลเวียร์ คิโทลกับเรเนส คิโทลนั่ง ก็ตรงเข้าไปในประตูเมืองของ[หมู่บ้านฮาซามะ]