Ch.46 – ราชากับน้องสาว ทำการแสดง

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

  ──มุมมองโชมะ──

 

 

 

“รอก่อนรอก่อน ภรรยาของข้า อย่าขู่แบบนั้นสิ แขกเขากลัวหมดแล้วมิใช่หรือ”

“ท่านสามี!”

““““““องค์ราชาเสด็จแล้ว!!””””””

 

พริบตาที่ผมออกจากประตูหมู่บ้าน พวกเด็กๆกับชาวบ้าน แล้วก็ฮารุกะก็คุกเข่า

 

““““““ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ ท่านคิริวโอ โชมะ อรุณสวัสดิครับ/ค่ะ!!“”””””

 

ปวดหัว

 

อยากจะกุมหัวลงไปกลิ้งมันเดี๋ยวนี้เลย

 

เสื้อโค๊ทที่ใส่อยู่นี่ก็หนัก(ทางจิตใจ)

ผ้าพันแผลที่พันอยู่ที่มือซ้ายกับหน้าผากก็เจ็บ(ทางจิตใจ)

กำไลตรงแขนขวา ที่ส่องแสงกระพริบ(ไปพร้อมกับความสั่นไหวของจิตใจ)ก็แย่

 

เป้าหมายของผมคือ การแสดงให้เห็นว่าชายแดนก็มีอำนาจ ทำให้รับรู้ว่ามีตัวตนที่ถ้ามายุ่งจะอันตราย ทำให้ไม่อยากมายุ่ง

แล้วก็ทำทำให้รู้ว่า[ตัวตนที่ทรงพลัง]นั้นไม่มีความสนใจในส่งที่อยู่นอกชายแดน เพื่อการนั้นจึงแสดงเป็น “ราชาผู้พิชิต” “ทรราช” “ผู้ปกครองบ้ากาม” เพื่อให้มนุษย์ข้างนอกไม่มายุ่ง

 

[กว๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา] [กรู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊รู๊]

 

[มังกรสองเศียร]ที่อยู่เหนือหัวบินวนไปมา

 

“เงียบซะ อสูรรับใช้ของข้า[มังกรสองเศียร]เอ๋ย ผู้ที่ถูกเชิญมาเล่นๆเอ๋ย”

 

ผมชูมือขึ้นให้อสูรรับใช้เงียบลง

 

[[—-กร๊าาาาาาาา]]

 

มังกรสีดำเข้ม หมุนเป็นเกลียวเหนือหัวผม

 

“ฮี๊ องค์ราชา!” “กำลังปลดปล่อยความโกรธใส่มังกรสองเศียร!” “อาละวาดใหญ่แล้ว” “พวกเรา จะโดนอะไรกัน?” “ถ้าโกรธก็เชิญลงโทษเถอะครับ องค์ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์!” “จะโดนแล้ว–” “ใจเย็นๆเถอะ องค์ราชา” [เฮฮ]

 

พวกคนเผ่ายักษ์คุกเข่าลง พวกเด็กๆก็วิ่งไปรอบๆ

ตอนที่ตกลงกันก็แค่บอกว่า[ผมทีใช้ปลุกเผ่ามารทำการข่มขู่เผ่ายักษ์]นี่นา ไม่ได้บอกให้ทำถึงขนาดคุกเข่าสักหน่อย

 

“…[ราชาแห่งชายแดน]เอ๋ย ต้องขออภัยด้วยค่ะ”

 

องค์หญิงซิลเวียร์ลงมาจากรถม้า

เธอยกชายกระโปรงขึ้น แล้วก้มหัวลง

 

“เรื่องที่ลูกน้องของเรา ดีมุสได้บุกรุกเข้าไปในอาณาเขตของคุณได้รับทราบเรียบร้อยแล้วค่ะ เรื่องที่ไม่สามารถคุมลูกน้องได้ ทั้งหมดเป็นความผิดของซิลเวียร์ คิโทลผู้นี้ เพื่อขอโทษ ดิฉันจึงได้มายังที่แห่งนี้ค่ะ”

“ลูกน้อง…อา เจ้าพวกโง่นั่นสินะ”

 

ผมดีดนิ้วดัง แป๊ะ

 

[[ครู๊ววววว—-]]

 

[มังกรสองเศียร]แตกออกแล้วก็สลายไป

 

“การที่องค์หญิงซิลเวียร์อุตส่าห์มาด้วยตัวเองเพื่อเจ้าพวกน่าเบื่อนั้นเนี่ย ช่างเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาจริงๆนะ”

“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องชมหรอกค่ะ [ราชาแห่งชายแดน]”

“ทางนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไรหรอกนะ ความผิดของพวกนั้น มันก็มีแค่ทำให้เสียเวลาสนุกกับเหล่าภรรยาเท่านั้นเอง”

 

ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงของ[ราชาผู้พิชิต]

 

“ส่งพวกนั้นให้องค์หญิงซะ จะต้มจะย่าง จะจัดการอะไรก็ตามสบาย”

 

ผมตบมือ

เสียงร้องของ[มังกรสองเศียร]เป็นสัญญาณเตรียมตัว

ที่ตบมือ ก็เป็นสัญญาณให้เริ่ม

 

“พาตัวผู้บุกรุกมาแล้วค่ะ ท่านสามี!”

“เอาล่ะ รีบเดินได้แล้วล่ะ คุณผู้บุกรุกตัวร้าย”

 

ประตูหมู่บ้านเปิดอีกครั้ง

ริเซ็ตกับยูกิโนะถือดาบไว้ในมือแล้วพาพวกผู้บุกรุกมา

 

พวกผู้ชายที่นำโดยนักดาบดีมุส ทุกคนถูกมัด คนที่ถูก“ทหารรั้ว”จัดการจนแขนขาหักก็มี พวกนั้นก็ขึ้นรถม้าไป

ทางองค์หญิงซิลเวียร์ก็มีคนอยู่ การจัดการคนป่วยก็คงจะทำได้สินะ

ช่างเถอะอยากจะให้รีบๆพากลับไปได้แล้ว

 

“[ราชาแห่งชายแดนเอ๋ย]”

“ยังมีเรื่องที่สงสัยอยู่อีกหรือ? องค์หญิงซิลเวียร์ คิโทล”

“เรื่องที่พวกเขาถูกมัดอยู่ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ…แต่ทำไมทุกคน ถึงหลับตาปี๋เลยล่ะคะ?”

“ถ้าสงสัยล่ะก็ สั่งให้เปิดตาก็ได้ไม่ใช่เหรอไง”

“ฮ๊า”

 

องค์หญิงซิลเวียร์ทำหน้าแปลกใจ

แต่ว่า ก็รีบกลับไปทำหน้าเคร่งขรึม

 

 

 

“ดิฉันคือซิลเวียร์ คิโทล! มาเพื่อพาตัวพวกคุณไปค่ะ

แต่ทั้งๆแบบนั้น…การที่ไม่ยอมแม้แต่มองใบหน้าของดิฉันถือเป็นการกระทำอันหยามเกียรติค่ะ

ดิฉันของสั่ง เหล่าผู้ที่ถูกมัดโดย[ราชาแห่งชายแดน]เพราะกระทำความผิดเอ๋ย จงลืมตาให้ดิฉันเห็นซะ

จากนั้นจงขอบคุณ[ราชาแห่งชายแดน]ที่ปล่อยให้พวกเจ้ากลับมาด้วยความเมตตาเสีย”

 

 

 

“…อ๊ะ” “…องค์หญิง ซิลเวียร์?”

 

พวกผู้ชายลืมตาขึ้น ทำความเคารพองค์หญิงซิลเวียร์

จากนั้นก็หันกลับมามองทางผม…ก็เห็นเข้ากับกำแพงปราสาท

 

“กะ กำแพงงงงงงง!” “ไม่เอา กำแพงเข้ามา กำลังเข้ามา!” “ออกไป ไม่อยากถูกกำแพงตอนกลางคืน–รั้วโจมตีเข้ามาอีกแล้วววว!!”

 

ทุกคนสะดุ้งแล้วกรีดร้องออกมา

ท่าทางจะได้มีรั้วกับกำแพงเป็นปมในใจกันแล้ว

 

“…ทำอะไรกับพวกนั้นไปเหรอคะ[ราชาแห่งชายแดน]”

 

องค์หญิงซิลเวียร์มองมาที่ผมแล้วก็เบิกตากว้าง

 

“อยากจะรู้เหรอ เอาจริงเหรอ?”

 

ผมยิ้มใส่อย่างชั่วร้ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ก็แค่แสดงล่ะนะ [ราชาผู้พิชิตกับทรราช]น่ะ ก็ต้องขู่ผู้บุกรุกกับคนจากสังคมมนุษย์เอาไว้…

–สูดลมหายใจลึกๆแล้วพูดให้ตัวเองฟังเข้าไว้ เยี่ยม

 

“บอกว่าอยากจะเห็นขุมนรกที่พวกเขาได้พบเจอมาสินะ? เลิกซะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้ากลับมาไม่ได้ไม่ขอรับผิดชอบอะไรนะ”

“…ขุมนรก เหรอ?”

 

“มันไม่ใช่สิ่งที่คนบนโลกปกติจะได้เห็นหรอกนะ…มันคือขุมนรกที่ภาชนะของมนุษย์ไม่สามารถทนรับไว้ได้ แต่สำหรับราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์มันก็แค่เรื่องในชีวิตประจำวันเท่านั้นล่ะ เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนแห่งนี้เอง ต่างก็กลัวที่จะได้สัมผัสกับขุมนรกที่ไม่อาจจะทนรับไหวนั้นได้ก็เลยยอมกำราบ และเชื่อฟังข้า

แต่ถึงอย่างนั้น ขุมนรกนั่น ก็ยังห่างไกลกับอาณาเขตบนสรวงสวรรค์ที่ศัตรูคู่อาฆาตของข้าอาศัยอยู่อย่างมาก บางทีถ้าเป็นผู้สูงศักดิอย่างองค์หญิง ตอนที่ได้เห็นขุมนรกอาจจะยังสามารถคงสติเอาไว้ได้ก็ได้ ถ้าเตรียมใจไว้พร้อมแล้วก็ยินดีจะนำทางไปด้วยปีกของข้า เจ้าจะได้เห็นโลกแบบเดียวกับ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะ]ผู้นี้แค่กแค่กอะแฮ่ม!!”

 

“พี่โช–ไม่สิองค์ราชา!?” “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? เสด็จพี่!” “เท่สุดๆไปเลยค่ะคุณโชมะ!”

“มะ ไม่เป็นไร…”

 

แย่แล้วสิ…เพราะสวมโค๊ทกับผ้าพันแผล ความรู้สึกสมัยจูนิเบียวก็เลยเกือบจะกลับมา

ที่ผมแสดงอยู่ก็คือ[ราชาผู้พิชิต]ผู้เป็น[ทรราช] ไม่ใช่ตาลุงวัยสามสิบอดีตจูนิเบียว

…แต่ว่า ถ้าแสดงแบบนี้ต่อไปอันตรายแน่

 

“…เปลี่ยนไปเล่นบทที่ริเซ็ตขอดีกว่า”

 

ใช้[Absolute Scythe(มังกรสองเศียรผ่าสมบูรณ์)]แล้ว คำขอของยูกิโนะก็เสร็จสมบูรณ์

เผ่ายักษ์ทุกคน(แสดง)ว่ายอมสยบ(ตามที่ขอ)ให้อยู่ ถ้าทำต่อไป คำขอของฮารุกะก็ถือว่าOK

ที่เหลือก็คือคำขอของริเซ็ต[ผู้นำหื่นกามบ้าผู้หญิง]สินะ

 

“ภรรยาของข้าเอ๋ย มาที่นี่สิ”

“ค่ะ! ท่านสามี!”

 

ฮารุกะมาที่ข้างๆผม

ที่เธอสวมอยู่ก็คือ ชุดเดรสที่มีรูเปิดอยู่ตรงแถวหน้าอก–ซึ่งมีเพียงชุดเดียวในหมู่บ้าน–แล้วก็เอามาประดับด้วย[ขนนกของผู้เฒ่านาไนร่า]ที่ได้รับมาจากตอนไปหมู่บ้านฮาร์ปี้เมื่อวาน

 

“วันนี้ช่างงดงามจริงๆเลยนะ…ภรรยาของข้าเอ๋ย”

“คำชมนั่น ขอรับด้วยความยินดีค่ะ ท่านสามี”

 

ฮารุกะยกชายเสื้อแล้วทำความเคารพ

 

“แต่ว่า แค่ตัวของเรามิอาจจะตอบสนองทุกอย่างให้กับท่านสามีได้ ต้องขออภัยกับร่างกายอันไม่สมบูรณ์แบบนี้ด้วยค่ะ ถ้าเทียบกันแล้วสำหรับราชาผู้พิชิตผู้ปกครองของเราแล้ว ท่านพี่และท่านยูกิโนะที่มีเรือนร่างเหมาะสมกับร่างกายอันสูงศักดิ์ ฮารุกะ คัลมิเลียผู้นี้ยังบกพร้องอยู่ค่ะ”

“…พูดอะไรน่ะ”

 

ไม่สิ นี่พูดอะไรออกมาเนี่ย

ฝึกมายังไงเนี่ย ฮารุกะ แสดงเป็น“ภรรยาของผู้นำสุดบ้ากาม”ได้ดีเกินไปแล้ว

นี่แสดงดีกว่า[ผู้นำสุดบ้ากาม]ของผมอีกนะ

 

“เจ้าก็แค่ทำกับเราตามปกติ–”

“ไม่ค่ะ แค่ได้อยู่เคียงข้างท่านสามี เราก็ได้เติมเต็มความผันแล้ว วิญญาณของเราเกิดมาเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับท่านสามี แค่ได้เป็นภาชนะให้กับท่านสามีก็รู้สึกยินดีแล้วค่ะ……”

“……”

“…ท่านสามี”

 

ฮารุกะเอาแก้มมาซุกที่แขนของผม

ถึงจะแสดง แต่ทำแบบนี้ต่อหน้าคนมันก็น่าอายนะ…

 

“…ท่านพี่โชมะ ฮารุกะ” “–อะ…อะ อะ”

 

ริเซ็ตกับยูกิโนะส่งเสียงมาจากด้านหลังของผม

 

เมื่อวาน ริเซ็ต ยูกิโนะ และฮารุกะได้ไปถามเรื่องราวต่างๆมาจากฮาร์ปี้ นาไนร่า

ต้องแสดงเป็นผู้นำบ้ากามติดผู้หญิง–แต่ถึงอย่างนั้น เกี่ยวกับอะไรแบบนั้นของโลกนี้ ผมไม่รู้อะไรเลย

ดังนั้นจึงไปถามฮาร์ปี้ที่มีข้อมูลมากมาย

 

นาไนร่าที่ได้ยินเรื่องราว ก็เลือกฮารุกะแล้ว[เล่าความรู้ให้ฟัง]

จากการมองของนาไนร่า หน้าที่นี้เหมาะกับฮารุกะที่สุด

ดังนั้นฮารุกะก็เลยพยายามแสดงเป็น“ภรรยาของผู้นำสุดบ้ากาม”

 

“…เอะเฮะเฮะ ทำได้ดีสินะ ท่านพี่”

 

เรื่องที่ตัวเองพูดอะไรออกไป ท่าทางจะไม่ได้รู้ตัวเลย

 

“…ฮารุกะมีพรสวรรค์แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”

“…แสดงเก่งจังเลยนะคะ”

 

ทั้งริเซ็ตทั้งยูกิโนะต่างก็ตกใจ

ผมเองก็ตกใจ

แต่จะว่าไปแล้ว แบบนี้ก็เท่ากับประกาศต่อหน้าบุตรีของ[เจ้าเมืองคิโทล]ไปซะแล้วสิ  ก็คงจะรู้กันไปทั่วแล้วสินะ…

 

“…ดีจริงๆที่ใช้[ปลุกเผ่ามาร]…”

 

ผมในตอนนี้อยู่ใน[รูปแบบจูนิเบียว]แบบเดียวกับสมัยมัธยมต้น

สวมผ้าคลุมสีดำ ที่แขนที่ผ้าพันแผล มีโซ่กับพาวเวอร์สโตนส่งเสียงกระทบไปมา ผมหน้าที่ไว้ยาวอย่างผิดธรรมชาติก็ปิดหน้าของผมไปครึ่งหน้า ถ้าแกะผ้าพันแผลที่หน้าผากออกก็จะปิดเกือบหมด การใช้[ปลุกเผ่ามาร]เนี่ยทำให้รู้สึกอายแบบเต็มหลอดแล้ว ถึงฮารุกะจะพูดอะไรอีกก็ไม่–

 

“ตัวเรานั้นได้กลายเป็น…ทาสรักของ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]ไปแล้วค่ะ แม่แต่ร่างกายและจิตวิญญาณ ก็พร้อมที่จะมอบให้กับองค์ราชาค่ะ ต่อให้ต้องต่อสู้กับเทพธิดาแห่งสวรรค์ชั้นแปด ศัตรูคู่อาฆาตของราชา ก็พร้อมที่จะถวายกายนี้ต่อสู้ร่วมกับราชา…”

 

–ไม่สิ ยังไงก็อายว้อย

 

ความหมายที่นาไนร่าเลือกฮารุกะก็เข้าใจแล้ว

ถ้าไม่ให้ฮารุกะที่ซื่อแบบนี้ยังไงก็คงไม่ไหว

 

“–ดังนั้น ท่านผู้ปกครองของเรา[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]จึงต้องการหญิงสาวที่จะมอบความสงบให้กับจิตวิญญาณของตน–ค่ะ ถ้าองค์หญิงซิลเวียร์ต้องการ ก็จะเตรียมตำแหน่งไว้ให้ค่ะ”

 

พูดแบบนั้นแล้วฮารุกะก็คุกเข่า

 

ทุกคน ต่างก็เงียบ

ริเซ็ตกับฮารุกะหน้าแดงก่ำ พวกชาวบ้านก็ดูจะตื่นเต้น–

จากนั้นองค์หญิงซิลเวียร์ คิโทลกับพวกทหารก็ตกใจจนพูดไม่ออก

 

เท่านี้ก็แสดงเป็น [ราชาผู้พิชิต] [ทรราช] [ผู้ปกครองบ้ากาม] ครบแล้ว

 

“ก็อย่างที่เห็น ข้าน่ะยุ่งอยู่กับการดูแลเหล่าภรรยา ไม่คิดจะไปยุ่งกับภายนอกชายแดนหรอก ที่เป็นพันธมิตรกับองค์หญิงซิลเวียร์เอง ก็เพราะจะได้คงความสงบสุขของชายแดนแล้วเวลาที่ได้ใช้กับเหล่าภรรยาจะได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน”

 

ถ้าอย่างนั้นก็ไปทั้งอย่างนี้ล่ะ

รีบๆจบเรื่องดีกว่า พวกองค์หญิงซิลเวียร์จะได้กลับไปสักที

 

“แต่ว่า ผู้ที่คิดร้ายต่อชายแดน ก็จะไม่มีความปราณีใดๆให้ทั้งนั้น ยามใดที่มีผู้บุกรุกมายัง[หมู่บ้านฮาซามะ]แห่งนี้อีก [มังกรสองเศียร]ลูกน้องของข้าจะเป็นผู้รับมือเอง สไหรับองค์หญิงซิลเวียร์ผู้ปราดเปรื่องแล้วคิดว่าคงจะเข้าใจสินะ ว่ายังไงล่ะ”

“…รับทราบแล้วค่ะ”

 

องค์หญิงซิลเวียร์ยกชายเดรสแล้วก้มหน้าลง

 

“ถ้าเพื่อผู้บุกรุกแล้ว…ถึงกับยอมเสียเวลาที่จะได้อยู่กับคนรัก…ก็ต้องโกรธแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ความคิดของ[ราชาแห่งชายแดน]ดิฉันก็พอเข้าใจค่ะ”

 

องค์หญิงซิลเวียร์หลับตาตอบกลับมา

ช่างเถอะน่ารีบกลับไปได้แล้ว ทางนี้อายสุดๆแล้วนะ

 

“ถึงจะพูดไปแล้ว แต่สิ่งที่ข้าต้องการก็แค่การใช้ชีวิตอย่างสงบที่ชายแดนเท่านั้น ไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับเจ้าเมืองคิโทล”

“รับทราบค่ะ”

“อยากจะให้ไปบอกอย่างนั้นกับองค์หญิงเรเนส คิโทลด้วย”

 

ผมพูดออกไป

องค์หญิงซิลเวียร์ตัวแข็งทื่อ

 

“…? องค์หญิงเรเนสเป็นพี่สาวขององค์หญิงซิลเวียร์ไม่ใช่เหรอ? เรื่องที่คนคนนั้นเป็นคนส่งผู้บุกรุกมา ได้ยินมาจากเจ้าตัวแล้วล่ะ”

 

คนที่บอกก็คือนักดาบดีมุส กับผู้ชายที่เป็นหัวหน้า

คนอื่นดูเหมือนจะแค่ถูกจ้างมาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

ข้อมูลของเรเนส คิโทลเป็นของที่ได้มาจากพวกฮาร์ปี้ พวกเขาเป็นสายข้อมูล ดังนั้นเรื่องของคนดังที่อยู่ในอาณาเขตข้างๆก็รู้กันอยู่แล้ว

 

“ที่นี่คือชายแดนที่ห่างไกล ดังนั้นก็เลยอาจจะมีอะไรที่เข้าใจไม่ตรงกัน เรื่องที่ทางนี้ไม่คิดจะเป็นศัตรู อยากจะฝากให้องค์หญิงซิลเวียร์ไปบอกด้วย เรื่องในคราวนี้ก็เท่านี้ล่ะ มีอะไรจะว่าไหม”

“…ค่ะ เรื่องนั้นถึงจะไม่ง่าย–”

 

 

 

“[ราชาแห่งชายแดนเอ๋ย]!! พวกเราหน่วยองครักษ์เจ้าเมืองคิโทล มีเรื่องอยากจะขอร้องขอรับ!!”

 

 

 

อยู่ๆพวกทหารที่ล้อมรอบรถม้าก็ตะโกนออกมา

เมื่อกี้แวบหนึ่งเหมือนจะมีหญิงสาวผมทองยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างของรถม้า

ทหารที่อยู่ข้างๆก็ก้มหน้าให้ ใครกันน่ะ เด็กสาวคนนั้น

 

 

 

“เมื่อสักครู่ที่ได้เห็นแสนยานุภาพของ[ราชาแห่งชายแดน] ทหารอย่างพวกเราก็รู้สึกชื่นชมมากขอรับ!”

“แถมการที่ใช้พลังสยบเหล่าอมนุษย์ และได้รับความรักจากหัวใจของเด็กสาวอมนุษย์พวกเราก็รู้สึกประทับใจมากขอรับ!”

“โอกาสที่จะได้เจอกับคนที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้และยิ่งใหญ่แบบ[ราชาแห่งชายแดน]ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ”

“แถมถ้าได้รู้ซึ้งถึงพลังของพวกอมนุษย์ ทุกคนก็จะได้เข้าใจว่าควรให้เกียรติใช่ไหมล่ะ!”

“ถ้ายังไงก็ได้โปรดให้โอกาสได้ทดลองรบกับพวกทหารลูกน้องของ[ราชาแห่งชายแดน]ด้วยเถอะ”

 

พวกทหารที่อยู่ข้างๆรถม้า ค่อยๆส่งเสียงออกมา

 

 

 

“…ทดลองรบ?”

“เป็นการฝึกของบ้านเจ้าเมืองคิโทลที่เป็นการชิง[ธงแม่ทัพ]มากจากอีกฝ่ายค่ะ…แต่ว่า”

 

องค์หญิงซิลเวียร์พึมพำออกมาแล้วมองไปทางพวกทหาร

 

“พวกคุณ พูดอะไรออกมากันคะ!? บังอาจพูดกับ[ราชาแห่งชายแดน]โดยตรง จะไร้มารยาทก็ให้มันน้อยๆหน่อย!!”

“ถึงจะโกรธก็เถอะขอรับ แต่ว่าหัวใจนักรบมันเรียกร้องขอรับ”

 

ทหารที่สวมหน้ากากคาบูโตะเดินออกมาข้างหน้า

เกราะก็ด้วย เป็นชุดที่ดูดีกว่าพวกทหารคนอื่น เป็นหัวหน้าหน่วยเหรอ

 

“พวกเราคือผู้ที่ผูกพันธุ์กับองค์หญิงเรเนส คิโทล ถ้า[ราชาแห่งชายแดน]อยากให้ลองดูสักครั้ง ก็จะได้แสดงความแข็งแกร่งขององค์หญิงให้ได้เห็นขอรับ ขอร้องล่ะขอรับ ถ้ายังไงพวกเราขอโอกาสได้ทดลองรบกับทหารของราชาด้วยเถอะขอรับ!”

 

พวกทหารที่อยู่รอบๆรถม้า ก็พร้อมใจกันชูมือขึ้นฟ้า