บทที่ 7 บทที่ 14 น่ากลัวขนาดนี้

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

หลังผู้อาวุโสเผ่าปีศาจกุยเชียนอีต้มสมุนไพรต่างๆ เช่นกาวหนังลา โสม หวงฉี โสมซานซีและอื่นๆ อีกนับสิบชนิดเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงแล้วถึงได้ดับไฟในเตา

 

 

เตานี้ไม่ใช่เตาธรรมดา ส่วนสมุนไพรเหล่านี้ก็ไม่ใช่สมุนไพรที่จะซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

 

 

ของบำรุงพวกนี้ถูกต้มปนกันเช่นนี้นั้นเหมาะหรือไม่เหมาะกันแน่

 

 

คุณก็ต้องให้แพทย์จีนเฒ่าเหล่านั้นมาพูดเรื่องเนื้อหาภายในตำรายา ‘เปิ่นเฉ่ากังมู่’ กับปีศาจเฒ่าที่ไม่รู้มีอายุยาวนานกี่ปีแล้วกันว่าเป็นยังไงก็แล้วกัน…

 

 

 “ใต้เท้าหลง ยาของท่าน”

 

 

เมื่อได้ยินเสียงของตาเฒ่า มังกรแท้จริงผู้เริ่มคุ้นชินกับสภาพในตอนนี้คล้ายกับมองเห็นผี ขมวดคิ้วขึ้นทันที

 

 

ถึงนางจะเป็นคนสั่งให้ทำยาบำรุงเลือดมา แต่เมื่อได้ชิมรสชาตินี้แล้วก็ไม่คิดอยากจะกินมันอีก

 

 

รู้สึกยังไงน่ะเหรอ

 

 

เหมือนเอาน้ำส้มหวานสดชื่นผสมกับน้ำเสียในท่อระบายน้ำจากนั้นก็ใส่ครีมไปชั้นหนึ่งจากนั้นก็เติมกาแฟเข้าไปอีก ทำไมมังกรแท้จริงจึงสามารถอธิบายรสชาติได้ละเอียดถึงขนาดนี้

 

 

คงเป็นเพราะช่วงนี้ว่างได้ดูรายการ ‘แข็งแกร่งที่สุดในโลก’ เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารแล้วได้รับอิทธิพลมา

 

 

 “วางไว้ก่อนเถอะ” หลงซีลั่วถอนหายใจ ท่าทางในตอนนี้ดูค่อนข้างหดหู่

 

 

กุยเชียนอีมองดูจอโน๊ตบุ้คที่หลงซีรั่วกำลังดูแวบหนึ่ง…เป็นข่าวข่าวหนึ่ง ต้นไม้แห่งความปรารถนาที่อยู่มาเป็นร้อยปีในชุมชนถูกตัดลง ผู้อาศัยอยู่ละแวกนั้นรวมตัวกันจัดงานระลึกถึง

 

 

หลงซีรั่วรู้การเคลื่อนไหวเล็กน้อยของกุยเชียนอีจึงส่ายหน้าและพูดว่า “ต้นไม้ต้นนี้เป็นจิตวิญญาณต้นไม้ที่มีอนาคตตนหนึ่ง น่าเสียดายที่ตกเคราะห์รัก ทำลายตัวเอง ตอนแรกข้า…”

 

 

เธอถอนหายใจและปิดหน้าจอโน๊ตบุ้ค ดื่มยาที่กุยเชียนอียกมาจนหมดภายในคำเดียว เพียงแต่ครั้งนี้ดูเหมือนหัวใจจะทรมานกว่าปากเล็กน้อย

 

 

และก็ขมขื่น

 

 

กุยเชียนอีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งถึงพูดขึ้นว่า “ใต้เท้า อีกไม่กี่วันข้าจะออกเดินทางไกล เกรงว่าจะไม่สามารถรับใช้ท่านได้ชั่วคราว แต่ท่านวางใจได้ ข้าเตรียมสมุนไพรเอาไว้เพียงพอแล้ว ใต้เท้าสามารถปรุงดื่มเองได้”

 

 

 “ทางไกลหรือ” หลงซีรั่วขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไร”

 

 

กุยเชียนอีพูดอย่างจริงจังว่า “ใต้เท้า พิธีกรรมตามธรรมเนียมสิบปีครั้งของโลกผู้บำเพ็ญเพียรจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว วังเซวียนหยวนในฐานะผู้พิทักษ์จักรพรรดิไม่อาจไม่ไปได้…หลายปีนี้วังเซวียนหยวนไม่มีจักรพรรดิ ข้าที่เป็นบ่าวจึงต้องไปในฐานะตัวแทนของเจ้านายทุกครั้ง”

 

 

หลงซีรั่วชะงัก นวดๆ ขมับ…ช่วงนี้เสียเลือดมากเกินไปจึงมักจะปวดและมึนหัว ร่างกายอ่อนแอ “ที่แท้ก็ผ่านไปอีกสิบปีแล้ว พวกนักพรตเหล่านั้นยังไม่ยอมแพ้กับเผิงไหลอีก”

 

 

 “ตั้งหลายปีแล้ว ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นไป” กุยเชียนอีเอ่ย “ทุกคนรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงตำนานเลื่อนลอย แต่ก็เป็นเพียงพิธีกรรมหนึ่งเท่านั้น ทำแล้วก็มีความผูกพัน”

 

 

 “เจ้าไปเถอะ” หลงซีรั่วส่ายหน้าและเอ่ยว่า “ถึงอย่างไรข้าก็ไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีสภาพแบบนี้ พูดอะไรก็ไม่สะดวก”

 

 

 “ใต้เท้า ครั้งนี้ข้าไปไกลและจะพากุ่ยอิงกับลูกน้องส่วนหนึ่งไปด้วย เกรงว่าคงไม่อาจคุ้มครองท่านได้ด้วยตัวเอง…”

 

 

กุยเชียนอีล้วงเอาไข่มุกของตัวเองออกมาวางที่หน้าของหลงซีรั่ว “แต่ข้าได้ใส่วิชาเข้าไปด้านในแล้วสามครั้ง ทุกครั้งท่านหยดเลือดมังกรแท้จริงเพียงหยดเดียวก็จะสามารถใช้เงามายาได้แบบครั้งก่อน แต่ต้องจำไว้ว่า พลังของมังกรแท้จริงนั้นแข็งแกร่งเกินไป ใช้เพียงหยดเดียวต่อครั้งเท่านั้น ถ้ามากกว่านั้นวิชาจะรับไม่ไหว”

 

 

 “ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย” หลงซีรั่วพยักหน้า “แต่ถ้าใช้รักษาความปลอดภัยของตัวเองก็น่าจะเพียงพอ ขอบคุณเจ้ามาก เฒ่าเต่า”

 

 

กุยเชียนอีคำนับด้วยความเคารพ “ใต้เท้าระมัดระวังตัวด้วย โปรดอย่าลืมเป็นอันขาด”

 

 

 

 

 

 

ทั้งโลกมีประชากรมากกว่าเจ็ดพันล้านคนซึ่งนั่นก็หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันก็เหมือนกับจำนวนของทรายในแม่น้ำคงคาที่มีนับไม่ถ้วน

 

 

อย่างเช่นมีกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในป่าลึกโบราณของประเทศคาบสมุทรแห่งหนึ่ง

 

 

พวกเขาสวมเสื้อผ้าคล้ายกับนักรบโบราณ แต่ทรงผมของพวกเขายังคงทันสมัย…เป็นกลุ่มของผู้ชายตั้งแต่วัยหนุ่มแน่นถึงวัยกลางคนและมีทั้งหมดสิบสามคน

 

 

พวกเขาสวมชุดและถือดาบตรงแบบเดียวกันกำลังวิ่งอยู่ในป่า กำลังไล่เงาด้านหน้า แน่นอนว่าในระหว่างที่ไล่ล่าก็มีเสียงด่าว่าด้วยความโมโหที่ไล่ตามไม่ทันเกิดขึ้น

 

 

เพราะเจ้าคนที่วิ่งหนีอยู่ข้างหน้า ไม่เพียงแต่ฆ่าอาจารย์ของพวกเขา แต่ยังขโมยสมบัติลับชิ้นหนึ่งที่พวกเขาปกป้องคุ้มครองมาเกือบสองร้อยปีไป

 

 

ที่น่าโมโหมากกว่านี้ก็คือฆาตกรนั้นถือเป็นคนของพวกเขา อย่างน้อยพ่อแม่ของเธอก็เป็นลูกหลานของสถานที่แห่งนี้

 

 

ไม่รู้ว่าหลายปีนี้เธอได้ผ่านประสบการณ์อะไรมา เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งอายุได้ประมาณยี่สิบปี แต่กลับหัวขาวทั้งหัวและยังมีพละกำลังที่น่ากลัว แม้กระทั่งอาจารย์ของพวกเขาก็พ่ายแพ้ต่อเธอในเวลาเพียงสามสิบวินาที

 

 

 “อย่าหนีนะ พวกเราจะไม่ยอมปล่อยเธอไป รับการลงโทษเถอะ เธอมันฆาตกรฆ่าคน”

 

 

ปัง!

 

 

เธอเป่าหมากฝรั่งออกมาเป็นลูกโป่งขนาดใหญ่จนมันแตก จากนั้นก็เป่าออกมาอีกครั้ง เธอดูผ่อนคลายมากเมื่อเทียบกับพวกผู้ชายด้านหลังที่ออกแรงไล่ล่าเต็มที่

 

 

นี่คือผู้มาจากสมาคมไมเคิล…คุณหนูนีโร

 

 

 “พวกนายบอกว่าฉันแย่งของ ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ฆาตกรฆ่าคนนั้นฉันไม่รับ” นีโรหาวและพูดว่า “เจ้าคนนั้นสู้ฉันไม่ได้ หลังยอมแพ้แล้วรับตัวเองไม่ได้กระอักเลือดตายเอง จะมาโทษฉันได้ยังไง”

 

 

 “เธอจะต้องใช้วิธีต่ำช้าต่ออาจารย์แน่นอน เห็นชัดว่าอาจารย์ไม่ได้ออกแรงเต็มที่เพื่อสู้กับเธอ เธอจะต้องลอบวางแผนอะไรไว้แน่นอน”

 

 

 “ฮ่าๆ”

 

 

ทันใดนั้นนีโรก็หยุดลง หันกลับไป ตบมือไปด้านหลัง ดาบแปลกประหลาดเล่มหนึ่งเปล่งแสงสีเงินพุ่งขึ้นฟ้า จากนั้นก็ตกลงมาข้างกายของเธอ

 

 

มือของนีโรกุมเข้าที่ด้ามดาบเบาๆ จากนั้นก็เป่าลูกโป่งออกมาอีก ยิ้มเยาะมองบรรดาผู้ชายที่กำลังทยอยหยุดลง “อยากลับดาบของฉันดูมั้ยล่ะ”

 

 

 “ยัยปีศาจ พวกเราไม่กลัวเธอหรอก” ทุกคนตะคอกเสียงดัง

 

 

อย่างนั้นพวกนายก็เข้ามาสิ…

 

 

นีโรส่ายหน้า ยื่นมือออกไปดึงเอาถุงเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ที่เอวออกมา โยนอยู่ในมือ เลิกคิ้วและพูดว่า “เรื่องฆ่าคนนั้นแล้วแต่พวกนายจะพูด แต่ของนี้ฉันจะไม่มอบให้พวกนายเด็ดขาด…นี่เป็นของของพ่อแม่ฉัน ถ้านับแล้วก็ถือว่าเป็นของฉัน ฉันแค่มาเอาของของตัวเองคืนก็เท่านั้น”

 

 

 “พ่อแม่ของเธอเป็นเพียงผู้รักษามันเท่านั้น มันเป็นของของที่นี่”

 

 

ดวงตาของนีโรทอประกายเย็นชา กลิ่นอายเย็นยะเยือกพุ่งออกไป ดูเหมือนดาบยามะในมือจะส่งเสียงกระซิบของปีศาจออกมาทำให้คนสิบสามคนตรงหน้าสีหน้าเปลี่ยนสี

 

 

นีโรชูดาบยามะขึ้นบนท้องฟ้าและพูดว่า “ฉันบอกแล้ว ใครอยากจะลองดาบ คนนั้นก็เข้ามา”

 

 

สีหน้าของทุกคนเคร่งขรึมขึ้น นีโรตวัดดาบชี้ตรงไปยังชายวัยกลางคนคนหนึ่งในนั้น “พวกนายไม่เข้ามา อย่างนั้นฉันจะเข้าไปเอง”

 

 

เธอเดินไปข้างหน้าทีละก้าว…กลุ่มผู้ชายสิบสามคนใช้ดาบกันไว้ด้านหน้าและถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

 

 

ปีศาจสาวตนนี้…ทำไมถึงได้แผ่กลิ่นอายน่ากลัวถึงขนาดนี้

 

 

เสียงกระซิบของปีศาจที่ดาบยามะส่งออกมาค่อยๆ เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น ต่อมากลายเป็นเหมือนกับเสียงคำราม

 

 

ชิ…ซ่า

 

 

ชั่วขณะนั้นในใจของทุกคนก็มีเสียงคำรามดังก้อง จากนั้นผู้ชายทั้งสิบสามคนก็แข้งขาอ่อนนั่งลงกับพื้น

 

 

ทันใดนั้นนีโรก็หัวเราะ “ผู้ชายไร้น้ำยา ดาบของฉันแทบไม่อยากกินพวกอ่อนแออย่างพวกนาย ไว้เจอกันใหม่เถอะ เวลาของฉันหมดแล้ว”

 

 

ผู้หญิงผมขาวถือดาบเหมือนปีศาจตรงหน้าหายตัวไปต่อหน้าผู้ชายทั้งสิบสามคน

 

 

พวกเขามองฉากนี้อย่างเหลือเชื่อ…คนหายตัวไปกลางอากาศได้อย่างไร

 

 

ผู้หญิงคนนี้ถึงกับน่ากลัวขนาดนี้

 

 

อืม คำพูดว่า ‘น่ากลัวขนาดนี้’ เหมือนเป็นคำพูดที่เรียนมาจากนิยายออนไลน์ของประเทศหนึ่งที่ดูในช่วงนี้…แต่พวกเขากลับรู้สึกว่ามันเหมาะที่จะใช้อธิบายปีศาจสาวผู้นี้มาก

 

 

 

 

เมื่อแสงสีขาววาบขึ้น คุณหนูสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดตู้เพื่อเตรียมวางป้ายอวยพรที่นายท่านนำกลับมาหยุดมือลง

 

 

เจ้าของสมาคมที่กำลังอ่านหนังสือก็เงยหน้าขึ้นมา

 

 

คุณหนูนีโรที่กำลังถือดาบยามะในมือกำลังกวาดตามองรอบด้านท่ามกลางแสงสีขาวและพึมพำว่า “สะดวกจริงๆ…บอกว่ากลับมาก็กลับมาแล้ว”

 

 

 “ดูท่าคุณหนูนีโรคงจะมีการเดินทางที่น่ารื่นรมย์ครั้งหนึ่ง” เจ้าของสมาคมลั่วยิ้มและเดินเข้ามา

 

 

นีโรหยักไหล่ พาดดาบยามะไว้บนบ่า หัวเราะและพูดว่า “ถือว่าดี ถ้าไม่นับที่พวกนายทิ้งฉันให้โดดเดี่ยวนอกทะเลซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แต่ฉันก็ได้ต่อสู้และแก้แค้น เอาของกลับคืนมาได้ สุดท้ายก็ยังเป็นเพราะการเคลื่อนย้ายของพวกนายทำให้ฉันดูเก่งกาจ ฉันคิดว่าตอนนี้พวกนั้นคงตกใจแทบตายแล้วล่ะ ฮ่าๆ”

 

 

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่นีโรก็ยังลอบดูดาบยามะของตัวเองแวบหนึ่ง ก่อนหน้านี้ไม่ถึงสิบวินาทีมันยังแผ่กระจายกลิ่นอายอันน่ากลัวอยู่เลย แต่มาตอนนี้กลับเหมือนหดตัวอยู่ในกระดอง

 

 

เงียบสงบเหมือนแมวป่วย…ชิๆ เอนไหวได้ตามลมจริงๆ…ดาบหน้าไม่อาย

 

 

นีโรเหลือบมองเจ้าของสมาคมอย่างสงบแวบหนึ่ง…ไม่รู้จริงๆ ว่าใครน่ากลัวที่สุด

 

 

 “คุณหนูนีโรยังคงตรงไปตรงมาเช่นเคย”

 

 

เจ้าของสมาคมลั่วยิ้ม จากนั้นก็แบมือออก บนมือมีถุงใบหนึ่ง นี่เป็นของที่นีโรฝากเก็บไว้ที่นี่เมื่อครั้งก่อน…ของแลกเปลี่ยนของนีโร

 

 

ถุงลอยไปตรงหน้าของนีโร เจ้าของสมาคมลั่วพูดว่า “หักค่าเดินทางของคุณไปแล้ว ยังเหลือวิญญาณอีกเจ็ดดวง คุณลูกค้าโปรดเก็บไว้ให้ดี”

 

 

นีโรรับเอากระเป๋ามาและเก็บไว้โดยไม่เหลือบมอง ขณะเดียวกันก็เก็บดาบยามะเข้ากระบอกแล้วนั่งลง ถอนหายใจและพูดว่า “อา เพิ่งกลับมาถึง เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เจ้าของสมาคม เอาเบียร์มาสักแก้วเถอะ แก้วใหญ่นะ อีกอย่าง เอาของกินเล่นมาด้วยได้ไหม ของที่คุณหนูสาวใช้คนนี้ทำไม่เลวเลย”

 

 

 “โยวเย่ ไปเตรียมเถอะ” เจ้าของสมาคมลั่วพูดเบาๆ

 

 

คุณหนูสาวใช้โค้งกายและถอยออกไป

 

 

ลั่วชิวสังเกตดูเจ้าของดาบยามะคนนี้…เป็นลูกค้าที่น่าสนใจจริงๆ เหมือนกับพวกนักผจญภัย ลูกค้าของบาร์เบียร์ที่อยู่…ในนวนิยายแฟนตาซี

 

 

 “เบียร์ไม่ดีต่อกระเพาะ” ลั่วชิวยิ้มและพูดว่า “ถ้าไม่รังเกียจ ช่วงนี้ผมเพิ่งเรียนรู้วิธีการผสมค็อกเทล ต้องการลองชิมดูไหม”

 

 

นีโรยิ้มจนตาหยีและพูดว่า “ใจดีขนาดนี้เชียว คิดจะจีบฉันงั้นเหรอ”

 

 

เจ้าของสมาคมลั่ว…ลั่วชิวเก็บคำวิจารณ์ก่อนหน้านี้ของตัวเองกลับในพริบตา