Ch.60 – วังวนสุสานกษัตริย์
Translator : Reheikichi / Author
เขาวงกต ‘วังวนสุสานกษัตริย์’
หนึ่งในเขาวงกตที่ถูกสร้างในช่วงสงครามครั้งที่สาม ในช่วงสงคราม ทหารของอาณาจักรเทอร์ราเรียได้ยึดครองและสำรวจเขาวงกตนี้ไปเบื้องต้นแล้ว แต่ทรัพยากรในเขาวงกตก็ยังคงมีอยู่มากมาย
เราออกจากประตูเมืองทางใต้ของเมืองหลวงและเดินทางเพียงสองชั่วโมงโดยใช้รถม้า
[ ที่นี่คือทางเข้าสินะคะ ]
มิเซ่พูดด้วยน้ำเสียงเครียดเล็กน้อย
ที่ปลายเท้ามีบันไดขนาดใหญ่ที่นำไปสู่ทางใต้ดินขนาดใหญ่
ครั้งนี้คำขอที่เรารับมาคือการสำรวจเขาวงกต ‘วังวนสุสานกษัตริย์’ ทั้งหมดห้าชั้น ดูเหมือนว่าเมื่อเดือนที่แล้วจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นและการสำรวจครั้งนี้มาเพื่อยืนยันว่าเขาวงกตได้รับผลกระทบหรือไม่ ใช่ว่าทั้งห้าชั้นจะถล่มลงมาหมด แต่เป็นการตรวจสอบพื้นที่และเพดานว่ากำลังจะมีการถล่มหรือไม่ คงจะไม่หลงทางหรอกเพราะพนักงานกิลด์ไดระบุปลายทางไว้บนแผนที่ที่เราซื้อไว้ให้แล้ว
ผมจึงถามทั้งสี่คนก่อนเริ่มการสำรวจ
[ มีใครเคยสำรวจ ‘วังวนสุสานกษัตริย์’ มาก่อนไหม? ]
ออสและกุเร็นยกมือขึ้นเมื่อผมถาม
ออสยกมือขึ้นตามที่รู้กันดีอยู่แล้ว เพราะเธอเป็นคนแนะนำสถานที่นี้เอง ย่อมรู้จักโครงสร้างเพื่อคุ้มกันเป็นอย่างดีเพื่อให้พาเป้าหมายคุ้มกันหนีได้ทันท่วงที
[ ฉันเคยเข้าไปข้างในช่วงสงครามนะ… ออสล่ะ? ]
[ หืม? ฆะ … ฆ่าเวลาน่ะ! ]
ออสตอบคำถามของกุเร็นด้วยรอยยิ้มไร้กังวล
แน่นอน คงตอบไปไม่ได้ว่ามาสำรวจเพราะภารกิจที่ได้รับจากองค์กร แต่คำตอบที่เธอตอบไปว่าเป็นการฆ่าเวลาก็ถูกต้องเช่นกัน เพราะออสออกสำรวจเขาวงกตต่างๆ ระหว่างภารกิจด้วย โดยให้เหตุผลว่า [ ไม่อยากให้ฝีมือตก ]
[ ถะ ถ้าเป็นนักผจญภัยระดับสูง ดูเหมือนจะสำรวจเขาวงกตได้ราวกับมาเดินเล่นเลยค่ะ คงไม่แปลกสำหรับคุณออสหรอกค่ะ ]
มิเซ่พูดด้วยรอยยิ้ม
[ ถึงเราจะมีแผนที่แล้ว แต่ถ้าคนที่มีประสบการณ์ นำทางจะดีกว่าใช่มั้ย? ]
เมื่อเอลิเซียถามและมองไปยังออส ออสก็คร่ำครวญร้อง [ อาา ]
[ ขอโทษด้วย เราจำทางไม่ได้เลย ]
[ ฉันด้วย ]
เมื่อได้ยินคำตอบจากทั้งสองคน เอลิเซียจึงเลือกใช้แผนที่ตามแผนเดิม
โดยผมและกุเร็นเดินนำหน้าและข้างหลังเป็นพวกผู้หญิง
เมื่อลงบันไดจนถึงแสงจากด้านนอกก็ค่อยๆ ดับลง
[ มิเซ่ คบเพลิง ]
[ ค่ะ ]
เมื่อส่งสัญญาณให้มิเซ่ พวกเราก็ต่างจุดคบเพลิงขึ้น
เมื่อเข้าไปในชั้นล่างด้านในของ ‘วงวนสุสานกษัตริย์’ เราก็ตรวจสอบสภาพภายในของจุดที่ไปถึง
ทางเดินลงบันไดมืด แต่เมื่อเข้าไปภายในแล้วก็มีแสงสว่างเต็มไปหมด คบเพลิงที่ถูกจุดติดอยู่กับกำแพง
[ ที่นี่คือเขาวงกตเหรอ… สว่างกว่าที่คิดไว้นะคะ ]
[ ก็นะ เพราะมันอยู่ใกล้เมืองหลวงจึงมีนักผจญภัยหลายคนมาตรวจสอบ คบเพลิงที่ติดไว้บนกำแพงก็เสมือนเครื่องรับประกันนะ ]
กุเร็นอธิบายให้มิเซ่ฟัง
นักผจญภัยพยายามเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สำรวจคนต่อๆ ไป เพราะหากมีแสงสว่าง มอนสเตอร์ก็จะไม่ค่อยเข้าใกล้และมอนสเตอร์ยังจุดไฟเองไม่ได้ นี่ถือเป็นความปรารถนาดีอย่างหนึ่งสำหรับพรรคพวกนักผจญภัย
[ ออสพอจะคุ้นกับเขาวงกตนี้บ้างไหม? ]
[ อืมมม ยังไงมันก็ผ่านมานานแล้วที่เราค้นหาจุดโจมตีนะ ]
[ จุดโจมตี? ]
เอลิเซียเอียงหัว
[ เขาวงกตมีภูมิประเทศหลากหลายที่คาดไม่ถึง หากเจอมอนสเตอร์ที่รับมือลำบากก็จะเตรียมแก๊สพิษที่เตรียมไว้ล่วงหน้า―― ]
[ ――ออส ]
เพราะดูท่าทางจะพูดอะไรเกินกว่าที่ควร ผมจึงห้ามไว้
ออสที่รู้สึกตัวถึงสิ่งที่ผมจะสื่อ จึงขอโทษพร้อมกับแลบลิ้น
[ อ่ะ นี่มัน… สมุนไพรไม่ใช่เหรอคะ? ]
มิเซ่ก้มลงและจ้องไปยังสมุนไพรที่เติบโตบนกำแพง
เธอมองดูสมุนไพรอย่างคุ้นเคย
[ …สมุนไพรที่ใช้ในห้องเรียนเภสัชเวท โตขึ้นในที่แบบนี้เองเหรอ? ]
มิเซ่พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
มิเซ่ให้ความสนใจกับทุกอย่างที่มองเห็นในวงกต เธอหยุดดู จากนั้นก็ขยับอีกครั้งไปเรื่อยๆ แต่บางทีคงเพราะรู้สึกเสียใจที่ทำให้เพื่อนๆ ต้องหยุดทุกครั้งที่เธอหยุดด้วย จึงเริ่มเดินแต่คอก็ยังขยับมองไปมาอยู่
[ มิเซ่รู้ไหมว่าทำไมในเขาวงกตถึงได้มีทรัพยากรมากมายที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์? ]
เพราะเห็นเธอกำลังสนุกกับเขาวงกต จึงมีคนยกคำถามเกี่ยวกับเขาวงกตมาถามเธอ
[ ก็ต้อง… เพราะอยากจะล่อมนุษย์เข้ามาเหรอคะ? ]
[ คำตอบนั้นถูกต้อง เขาวงกตคือรังของมอนสเตอร์และมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ก็กินมนุษย์ ดังนั้นเขาวงกตจึงมีไว้เพื่อล่อมนุษย์ที่เป็นอาหารมากิน ]
เป็นไปตามที่คาดหวังสินะ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีเป้าหมายในการเป็นนักผจญภัย แต่ก็พอมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง
[ มาคุยสบายๆ กันคงไม่ดีแล้วล่ะ เพราะมันมาแล้ว ]
การคุยกันของกุเร็นและมิเซ่จึงหยุดลง
เงาของมอนสเตอร์ใกล้เข้ามาแล้ว