เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 970
ลู่ฝานมองดูแผนที่อย่างละเอียด ก็เอะใจขึ้นเล็กน้อยว่า วิธีการจัดเรียงของสี่เจดีย์ยานี้ ก็คือเส้นลายการก่อตัวของค่ายกลทำลายห้าธาตุค่ายเล็กไม่ใช่เหรอ

ลู่ฝานใช้ฝ่ามือรวบรวมปราณชี่ และดึงดูดพลังฟ้าดินรอบตัวแล้วก็ปลดปล่อยพลังออกไปด้านหน้า

ค่ายกลทำลายห้าธาตุค่ายเล็กก็ปรากฏขึ้น และเมื่อนำไปประกบกับแผนที่ ก็พลันพบว่า ทั้งสี่จุด ก็คือองค์ประกอบท่ามกลางค่ายกลทำลายห้าธาตุ อันได้แก่ไฟน้ำทองไม้!

ส่วนจุดที่ห้านั้น ก็อยู่ที่ตรงใจกลางของเมืองหลวง!

ลู่ฝานยิ้ม เล่นกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ

นี่หากว่าไม่ได้เป็นผู้ฝึกชี่ ก็คงจะหาพบได้ยากจริง ๆ ด้วย!

เมื่อกำหนดสถานที่แน่ชัดแล้ว ลู่ฝานก็รีบเดินทางไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว ในระหว่างทางต้องทะลุผ่านค่ายกลเคลื่อนฟ้าที่ได้จัดวางไว้ในแต่ละจุด แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหา

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่ ลู่ฝานจะมาถึงสถานที่แห่งนี้ เมื่อมาถึงก็ปรากฏเห็น สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ราวกับภูเขาอยู่ที่ด้านหน้า

มองดูอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ฝานก็จดจำได้ว่า นี่คือหม้อ ซึ่งเป็นหม้อที่มีขนาดใหญ่อย่างที่สุด!

ในขณะเดียวกัน ลู่ฝานรู้สึกว่าทั้งเจดีย์เสวียนเก้ามังกรและหม้อสือฟางที่อยู่ในร่างกายต่างก็เริ่มที่จะกระสับกระส่ายขึ้นบ้างแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจดีย์เสวียนเก้ามังกร ที่ผุดขึ้นมาพูดว่า: “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมท่านถึงได้มาสถานที่แห่งนี้ สมควรตายจริง ๆ นี่คือถ้ำปีศาจ นี่คือรากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งปวง ครั้งก่อนที่สือฟางพาฉันมาที่นี่นั้นไอ้คนชั่วที่อยู่ภายในนี้ ยังคิดที่จะจับฉันกลับเข้าไปในหม้อเพื่อหลอมอีกครั้งหนึ่งด้วย”

เมื่อได้ยินที่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรร้องตะโกนขึ้น ลู่ฝานก็แน่ใจได้ว่าเขามาถึงสถานที่ที่ถูกต้องแล้ว

ที่นี่ก็คือเจดีย์ยาที่ร่ำลือกันในตำนาน แม้ว่ามองจากภายนอกแล้ว เหมือนจะไม่ใช่หอคอยเลยด้วยซ้ำ

ลู่ฝานเดินเข้าไปด้านใน ขณะที่เดินไปไม่กี่ก้าว ลู่ฝานก็พลันรู้สึกว่าตนเองได้ทะลุผ่านค่ายกลอะไรสักอย่าง

จากนั้นทิวทัศน์เบื้องหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

จากเดิมเป็นถนนที่ไร้ผู้คน ทันใดนั้นก็กลับกลายเป็นบรรยากาศที่คึกคัก ส่วนสิ่งก่อสร้างที่เป็นลักษณะหม้อโบราณขนาดใหญ่นั้น เวลานี้กลับเปล่งประกายลำแสงเก้าสี

“ค่ายกลแบ่งแยก เคลื่อนฟ้าเปลี่ยนเป็นดิน ช่างน่าสนใจยิ่งนัก! ”

ลู่ฝานยิ้ม และกวาดสายตามองไปรอบด้าน ผู้คนที่เดินไปมานั้น ชัดเจนว่าเป็นผู้ฝึกชี่ทั้งหมด เสียงดังอลหม่านอย่างไม่สิ้นสุด

“พี่ถัง ยาถังไร้เทียนทานเล่มนี้ของท่าน เขียนบรรยายได้ดีมากเลย ฉันขอยืมกลับไปอ่านทำความเข้าใจสักหน่อย เผื่อฉันจะได้เรียนรู้วิชายาด้านในนี้บ้าง”

“พี่ถู่พูดชมเกินไปแล้ว วิชายาต่อสู้ของท่าน ก็เก่งกาจยอดเยี่ยมมาก ฉันเองก็ต้องการที่จะเรียนรู้บ้างเหมือนกัน”

……

“สูตรการกลั่นยาชั้นเลิศ วิชายาเบญจธาตุน้อยฉบับแก้ไขแล้ว มีใครที่สนใจจะดูบ้าง ซึ่งสามารถลดทอนสมุนไพรบางอย่างลง แต่ฤทธิ์ของยาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง”

“ของนายนี้นับประสาอะไร มาดูวิชาแผ่ขยายลมปราณของฉันนี่สิ เส้นชีพจรหนึ่งเส้นสามารถเก็บรวมพลังชี่ได้ถึงสองจุด ไม่มีอันตราย ง่ายต่อการฝึกฝน มาดูกันได้เลย! ”

……

ขณะที่ลู่ฝานเดินต่อไปข้างหน้านั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนพูดขึ้นจากรอบด้าน

มีทั้งขายสูตรการกลั่นยา มีการประลองวิชายา และยังมีผู้ที่ได้ผลตอบรับการประลองยาที่ไม่ได้ดั่งใจและกำลังประลองบุ๋นอยู่ด้วย

ผู้คนจำนวนมากมายราวกับมด ที่เดินเข้า ๆ ออก ๆ จากสิ่งก่อสร้างแห่งนี้

แต่ละคนอย่างน้อยเป็นถึงผู้ฝึกชี่ที่ได้รับการชื่นชมยกย่องจากภายนอก แต่เมื่ออยู่ที่นี่ พวกเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกชี่ธรรมดาที่ลุ่มหลงอยู่กับการกลั่นยาเท่านั้น

“คุณพี่ท่านนี้ ดูจากลักษณะของพวกคุณแล้ว พวกคุณน่าจะเป็นนักบู๊ล่ะสิ พวกคุณเข้ามาด้านในได้อย่างไรกัน? ”

ทันใดนั้น ก็มีคนผู้หนึ่งขวางทางลู่ฝานเอาไว้

เขาอยู่ในชุดคลุมยาวสีขาว มีรอยสักยาสามเม็ด

ลู่ฝานนำหยกหยกแห่งจิตออกมาและพูดว่า: “มีของชิ้นนี้ ได้ไหมล่ะ? ”

ชายผู้นั้นรับหยกหยกแห่งจิตมาตรวจดู สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีและพูดว่า: “ที่จริงแล้วที่พวกคนรับใช้กำลังทะเลาะวิวาทกันอยู่ก็เพราะคุณนั่นเอง คุณตามฉันมา”

ขณะที่พูด ชายผู้นั้นก็พาลู่ฝานเดินเข้ามาภายในหม้อยักษ์นั้น

เมื่อเข้ามาด้านใน ลู่ฝานก็พลันมองเห็นตำหนักที่ใหญ่โตรโหฐาน สิบสามเองถึงกับอ้าปากค้าง

นี่ก็คือเจดีย์ยา นี่ก็คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้ฝึกชี่

ใบหน้าของลู่ฝานเต็มไปด้วยรอยยิ้มในทันที