เสี่ยวเฟิงลืมตอนขึ้นมาแล้วก็พบว่าฟ้าสว่างแล้ว
เสี่ยวเฟิงกำลังจะลุกขึ้น แต่ก็ได้ยินอะไรบางอย่างมาจากประตูห้องของตัวเอง ประตูห้องของเขาก็ค่อยๆเปิดออกมาเผยให้เห็นร่างของใครบางคน
ตอนแรกนั้นเธอไม่ได้เดินเข้ามาทันที แต่ชะโงกหน้าเข้ามาดูโผล่มาแค่ดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่งเท่านั้น ทันทีที่เจ้าของดวงตาเห็นว่างเสี่ยวเฟิงเหมือนยังหลับอยู่ เธอจึงเปิดประตูเข้ามาด้วยความโกรธ
“คนใช้ไร้ประโยชน์! ไอ้พี่จอมซกมก! ยังไม่มาทำมื้อเช้าให้อีก! หนูเกลียดพี่!”
เสี่ยวหลิงเพิ่งลุกออกจากเตียงก่อนหน้านี้ ผมสีทองของเธอฟูฟ่องชุดนอนของเธอยุ่งไปหมด เธอขยี้ตาแล้วก็ขึ้นมายืนบนเตียงของเสี่ยวเฟิงแล้วก็เตะใส่ท้องของเขา
“สัญญาไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะดูแลฉันตลอดไปน่ะ! ผู้ชายตอแหล! ไปตายซะ!”
โชคร้ายที่เธอแรงน้อยเกินไป เตะแรงแค่ไหนเสี่ยวเฟิงก็ไม่รู้สึกเจ็บ
“ไอ้พี่งี่เง่า! เห็นเกมสำคัญกว่าหนูสินะ?!”
“ชอบหนีไปกับผู้หญิงอื่นตลอดเลย! หน้าไม่อาย! ทิ้งหนูแล้วสินะ?”
“หนูก็น่ารักนะ! แล้วทำไมยังจะหนีไปหาคนอื่นอีก? พี่มันแย่ที่สุด!”
“ทั้งๆที่อยู่กับหนูก็น่าจะดีที่สุดแล้วแท้ๆ! ถ้าอย่างงั้นล่ะก็…หนู… หนูทำได้ทุกอย่างที่พี่ขอให้ผู้หญิงคนอื่นทำได้นะ!”
เสี่ยวหลิงที่กำลังโกรธจัดทิ้วตัวใส่เสี่ยวเฟิงอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะพบว่าตาของเสี่ยวเฟิงภายใต้หมวกนั้นลืมอยู่
“อะ…! ตื่นมาตอนไหนเนี่ย?”
เสี่ยวหลิงตกใจจนเสียงสั่นแล้วมองไปที่พี่ชายของเธอ
“ก็…ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องเลย”
เสี่ยวเฟิงพูดอย่างจนใจแล้วก็ถอดหมวกออก
“โรคจิต! นี่แอบฟังที่หนูพูดสินะ! ไอ้แมลงโซโครก!”
ใบหน้าของเสี่ยวหลิงแดงก่ำแล้วก็โวยวายออกมา เธอยังคงเตะเสี่ยวเฟิงด้วยแรงน้อยๆของตัวเอง
แต่ที่เดินเหยียบอยู่นั้นมันคือตัวของพี่ชายเธอ ในที่สุดเธอก็เสียสมดุลแล้วล้มลงจนได้ ร่างเล็กร่วงลงจากเตียงหน้าฟาดพื้น
“ว้ายยยยย!”
เสี่ยวหลิงร้องออกมาแล้วหลับตาปี๋
แต่เสี่ยวเฟิงไม่ยอมให้เธอเจ็บแน่ๆร่างของเขาขยับอย่างรวดเร็วลงไปอยู่กับพื้นแล้วรับร่างเล็กๆนั้นมาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง
เสี่ยวหลิงค่อยๆลืมตาแล้วก็พบว่าเธออยู่ในอ้อมแขนของพี่แทนที่จะอยู่บนพื้น เธอไม่ได้ออกจากอ้อมแขนของผู้เป็นพี่กลับกันเธอซุกตัวลงไปในอ้อมแขนของเขาต่อไป
“นี่! ไอ้พี่โง่! ก่อนหน้านี้แกแค่หูแว่ว ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ฉันแค่เข้ามาปลุกแกเฉยๆ เข้าใจไหม?”
“คร้าบๆๆ เช้านี้อยากกินอะไร?” เสี่ยวเฟิงถอนหายใจก่อนจะปล่อยน้องสาวของตัวเอง
“นม ขนมปังงปิ้งกับไข่ลวก”
“นี่ วันที่ต้องกินวิตามินนะ เดี๋ยวเปลี่ยนนมเป็นน้ำมะเขือเทศแล้วกัน”
“หนูเกลียดน้ำมะเขือเทศ…”
“กินไปเถอะน่า”
…
หลังจากมื้อเช้า เสี่ยวหลิงยังคงนั่งดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างเชื่องช้า และเสี่ยวเฟิงก็กลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
เขากลับมาที่พื้นที่พิเศษอีกครั้ง แต่ตอนนี้มีคนยืนอยู่เต็มไปหมดเขาแทบจะกลืนหายไปกับฝูงชน
ตามหุบเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คนรวมทั้งบริเวณหน้าด่านด้วย เต็มไปด้วยคนขายของและนักธุรกิจอยู่เต็มไปหมด แผงขายของเต็มไปด้วยของอย่างยาเพิ่มพลังและใบวาร์ป ถึงจะสามารถซื้อจาก npc ได้เหมือนกันแต่ตอนนี้ร้่นก็แออัดสุดๆ หลายๆคนจึงเลือกที่จะซื้อจากผู้เล่นด้วยกัน เสี่ยวเฟิงนับถือในความหัวใสของพวกพ่อค้าจริงๆ
พวกเขามาที่นี่เพื่อที่จะทำภารกิจพิเศษ – ถ้ำสลามันเดอร์ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นเป้นสมาชิกของกลิด์ใหญ่ๆมากมาย เพื่อนร่วมทีมของเสี่ยวเฟิงนั้นคงมีกลยุทธ์อีกหลายอย่างหลังจากที่พวกเขาทำภารกิจสำเร็จหลังจากที่พวกเขาทำได้สำเร็จแล้ว
แต่เสี่ยวเฟิงรู้สึกเสียใจที่โรสไม่ได้รอเขาที่ทางเข้าของพื้นที่พิเศษ เขาคาดเดาไว้ว่าตอนนี่เขาออกจากเกมตรงนี้แล้วจะถูกลอบโจมตีจากคนของมิตซัมเมอร์ เขาจะได้สวนคืนเธอได้
น่าเสียดายที่โรสไม่ได้ทำเช่นนั้น เป็นไปได้ว่าที่นี่มีคนอยู่เยอะเกินไปหรือไม่ก็ที่นี่ไม่ใช่เขตขอองมิตซัมเมอร์
แต่อันที่จริงโรสก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะเล่นงานเขาในตอนที่เขากลับเข้ามาในเกม แต่ไนท์คูเออร์ห้ามเอาไว้. แล้วก็มิตซัมเมอร์ไม่มีคนมากพอที่จะปิดสถานที่นี้ได้ และคยส่วนมากที่มาอยู่ที่นี่ก็เป็นสมาชิกของกิลด์ใหญ่ๆทั้งนั้นมิตซัมเมอร์ก็คงไม่อยากที่จะสร้างปัญหา
“เสี่ยวจิง คิดว่าหมอนั่นจะสามารถเทียบพวกเราได้ไหม?”
“นี่พูดอะไรเพ้อเจ้อออกมาเนี่ย? ถ้าก่อนหน้านี้ก็คงตอบว่าไม่แหละ แต่ตอนนี้ก็ไม่มั่นใจแล้วล่ะ”
โรสนั้นนิ่งไปส่วนไนท์คูเออร์ก็พูดต่อ
“ในเขตหัวเซียนี่คงไม่มีใครเก่งไปกว่าเขาแล้วล่ะ ฉันเชื่อว่าเขาน่าจะเก่งพอๆกับเบลดมาสเตอร์เลยล่ะมั้ง เขามีเลเวลสูงที่สุดในเขต อาจจะในเซิร์ฟเวอร์ด้วย รู้ไหมว่าเขาเก็บเลเวลยังไง? เขาจัดการมอนสเตอร์เป็นพันตัวในเวลาเดียวกัน!”
“พันตัวในเวลาเดียวกัน? ด้วยตัวเองเลยเหรอ? มอนสเตอร์เลเวลเท่าไหร่? ใช้เวลาไปขนาดไหน?” โรสถามด้วยความประหลาดใจ
“ก็น่าจะจัดการด้วยตัวเองแหละ เขาจัดการพวกมอนสเตอร์เลเวล 20 ใน 5 นาที คงรู้นะว่าหมายความว่าอะไร เลเวลและอุปกรณ์ของเขานั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้ แต่ยังมีอีกอย่างที่สำคัญมาก” ไนท์คูเออร์ว่า
“มันคืออะไร?” โรสทำใจตัวเองให้เย็นลงแล้วพูดต่อ
“เขาจะมีอิทธิพลมากน่ะสิ! ถ้าตามปกติแล้วการที่เราจะไปทำภารกิจในเขตพิเศษ ก็ต้องให้เขามาช่วยเพราะเขาเป็นนักบวช แต่ตามประสบการณ์ในการเล่นเกมของฉันแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาระดับนั้นจะทำให้กิลด์ต่างๆหาทางที่จะเอาเขามาเข้าร่วมภารกิจให้ได้แม้แต่กิลด์ที่เก่งที่สุดอย่างไดย์นาสตี้ก็ตามถ้าเป็นอย่างงั้นถึงมิตซัมเมอร์จะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ความต่างชั้นของเราก็ไดนาสตี้ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆแล้วในวันหนึ่งเราก็คงจะไม่สามารถเทียบได้ และก็ไม่มีเหตุผลให้พวกนั้นไม่ทำแบบนี้ด้วย”
โรสนั้นนิ่งไปโดยไม่พูดอะไรอยู่นาน
“นี่ ฉันเคยถามไปแล้วนะว่า ระหว่างเธอกับไอ้หอกหักนั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วจะจบได้ไหม? ฉันรู้นะว่ามิตซัมเมอร์น่ะมีความหมายกับเธอมากขนาดไหน แต่ถ้าเธอคิดจะไปเป็นศัตรูกับเขา เขาจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เธอไม่มีทางที่จะจัดการได้แน่ๆ แล้วมันก็จะจบลงแบบแย่ๆเหมือนกัน” ไนท์คูเออร์จ้องมาทางโรสแล้วว่าอย่างงั้นเธอต้องการที่จะให้ความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 จบลง แต่เธอไม่รู้สาเหตุของมัน
“ปัญหานี้คงจะไม่มีทางจบลงได้”
โรสพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเธอนั้นแสดงความไร้ชีวิตชีวาอย่างชัดเจน อันที่จริงถ้าเธอยอมรับมันได้ปัญหาก็จบไปตั้งนานแล้ว แต่ด้วยเธอไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้เพราะความทรนงตนของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีวันให้อภัยเสี่ยวเฟิงแน่ๆ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ไนท์คูเออร์ถามด้วยความสงสัย ก่อนที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ แล้วก็ถามต่อด้วยความสงสัยที่พุ่งสุดขีด “ทำไมต้องโกรธเขาขนาดนั้น? ไอ้หอกหักนั่นข่มขื…”
“หุบปากซะ!” โรสนั้นโกรธแล้วก็เบือนหน้าหนีไป
…
เสี่ยวเฟิงดูรายชื่อเพื่อนแล้วพอว่าเฉียนโตวโตวนั้นไม่ได้อยู่ในเกมแล้ว เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็มีข้อความจำนวนมากถูกส่งมาจากเหลาซวีและคนอื่นๆในทีมสำรวจ แต่หลังจะคิดอยู่นานเขาก็เลือกที่จะไม่อ่านมัน
ตอนนี้เขายังทำตามแผนในการหาเงินต่อไป เขาเลือกที่จะเข้าไปยังเมืองเทียนหลงก่อน แล้วก็ไปต่อที่เมืองรกร้างผ่านระบบเคลื่อนย้าย ลึกเข้าไปยังหุบเขากระดูกเพื่อทำภารกิจต่อ
ตอนนั้นเองที่เหลาซวีนั้นเข้าเกมมา เสี่ยวเฟิงจึงข้อความไปหาเพื่อถามวิธีในการเป็นสตรีมเมอร์ เพราะในหมู่คนที่เขารู้จักเหลาซวีดูพึ่งพาเรื่องนี้ได้มากที่สุดแล้ว
“อย่างแรกเลยต้องไปสมัครเป็นสตรีมเมอร์ที่เว็บไซต์หลักก่อนตามขั้นตอน ฉันมีคนรู้จักที่รับทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวติดต่อให้แล้วคุยกับเขาเองเลยนะ นายไม่ใช่คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าหมอนั่นคงจะบริการให้อย่างดีเลยล่ะนะ” เหลาซวีนั้นตอบข้อความทันทีที่เห็น
“ขอบใจมากๆ” เสี่ยวเฟิงตอบแบบง่ายๆ
ไม่เกิน 1 นาที ก็มีข้อความเข้าจากชายที่ชื่อว่าบัตเตอร์ฟลายเขาเป็นนักรบเลเวล 8 เขาเลยได้พูดคุยกันทันที
เจ้าหน้าที่ของเว็บไซต์ทางการรับผิดชอบเฉพาะเนื้อหาของเว็บไซต์หลักเท่านั้น ส่วนการพัฒนาหรือซ่อมแซมระบบนั้นพวกเขาไม่ต้องทำ ไม่แปลกใจที่เจ้าหน้าที่นั้นจะเข้ามาเป็นผู้เล่นด้วย
“คุณยอดฝีมือแห่งการรักษา เดี๋ยวผมจะคอยช่วยเหลือเอง ก่อนอื่นเลยก็ล็อคอินเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของเกม…”
ดูท่าเหลาซวีจะบอกเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อบแล้ว ไม่นานนัก เขาก็มีไอดีและอุปกรณ์สำหรับถ่ายทอดสดของตัวเองแล้ว บัตเตอร์ฟลายช่วยลดขั้นตอนในการยืนยันตัวตนออกไปให้
“หมดแล้วเหรอ?”
เสี่ยวเฟิงดูฟังก์ชั่นการถ่ายทอดสดด้วยความสงสัย เขาสามารถเห็นผ่านหน้าจอได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่แบบทันที ผู้ชมสามารถให้เหรียญทอง แสดงความเห็นได้ แล้วความเห็นนั้นจะปรากฎขึ้นในจอ แล้วยังสามารถดูจำนวนผู้ติดตามฟีดแบ๊คจากสตรีมเมอร์คนอื่นๆได้ด้วย