กระทั่งจวินอู๋เสียก็คิดไม่ถึงว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณจะพาคนมาช่วย สิ่งนี้เกินความคาดหมายของนาง และทำให้นางตกใจอย่างมาก
คำว่ามโนธรรมนั้นพูดง่าย แต่ในโลกนี้จะมีกี่คนที่ทำเรื่องที่ไม่ละอายใจต่อมโนธรรมของตนได้จริงๆ?
ความแข็งแกร่งของอาณาจักรบนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แต่ศิษย์เก้าอารามพวกนั้นก็ยังเต็มใจก้าวออกมา
แม้จะมีแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่ก็น่าชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง
จวินอู๋เสียมองประมุขวิหารหยกวิญญาณ แล้วพยักหน้าให้เขา จากนั้นก็เช็ดคราบเลือดที่มุมปาก และมองดูปาเฮ่อด้วยสายตาเย็นชา
ศึกวันนี้ยังอีกยาวไกล!
นี่เพิ่งเริ่มเท่านั้น!
ประมุขวิหารหยกวิญญาณยกมือให้สัญญาณ!
“เพื่อเกียรติยศของอาณาจักรกลาง ฆ่า!”
ด้วยคำสั่งคำเดียวนั้น คนทั้งหมดก็วิ่งกรูเข้าไป แสงพลังวิญญาณนับไม่ถ้วนส่องประกาย ภูติประจำตัวมากมายถูกเรียกออกมา เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปทั่วจัตุรัส เลือดและน้ำตา การแก้แค้นและความเกลียดชัง ทักถอเข้าด้วยกันเป็นบทเพลงรบที่บีบหัวใจ!
“อาจารย์ใหญ่! พวกเรามาช่วยแล้ว!” คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สนชีวิตตัวเองพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองที่ล้อมรอบชายชราตัวเล็กพร้อมกับภูติประจำตัวของตน ในบรรดาพวกเขามีทั้งพลังวิญญาณสีฟ้า, พลังวิญญาณสีม่วง, และมีกระทั่งพลังวิญญาณสีเขียวธรรมดา แต่ในเวลานี้พวกเขาลืมความกลัวไปแล้ว ลืมเรื่องความเป็นความตาย วางศักดิ์ศรีไว้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ และพากันพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองที่แข็งแกร่งเหนือกว่าพวกเขามาก! novel-lucky
ชายชราตัวเล็กเงยหน้าขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวาย และมองดูกลุ่มคนที่ฮึกเหิมเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจ คนพวกนั้นเป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเขา สำนักธาราเมฆก่อตั้งมาหลายพันปี สั่งสอนศิษย์ไปแล้วกี่หมื่นคน? เขาลืมหน้าไปหมดแล้ว ไม่รู้กระทั่งว่าคนพวกนั้นชื่ออะไร หรือเข้าสำนักธาราเมฆเมื่อไร แต่คนกลุ่มนี้คือคนที่เข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตน
ท่ามกลางแสงสีทอง แสงพลังวิญญาณสีม่วง สีฟ้า และสีเขียวกระจายสลับกันไป แสงพลังวิญญาณที่แตกต่างกันนี้ส่องประกายวูบวาบตระการตาอยู่ในจัตุรัส
แม้ว่าแสงของพลังวิญญาณสีทองจะส่องสว่างเจิดจ้า เป็นศัตรูที่ไม่มีใครเอาชนะได้ แต่แสงพลังวิญญาณสีอื่นๆที่อาจจะเทียบรัศมีของแสงสีทองไม่ได้ กลับเป็นแสงที่บริสุทธิ์ที่สุดและสวยที่สุดในเวลานี้!
ท่ามกลางการต่อสู้นองเลือด เสียงต่อสู้ห้ำหั่นดังประสานจนเป็นหนึ่งเดียว
วิญญาณสัตว์ขนาดใหญ่หลายร้อยตัวพุ่งไปที่ด้านข้างของท่านแบะแบะและเข้าโจมตีผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองที่โจมตีท่านแบะแบะ พวกมันทั้งกัดทั้งคำราม และโจมตีผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองอย่างรุนแรง พวกมันอาจจะอ่อนแอ แต่พวกมันจะไม่มีวันถอย!
แสงดับลงทีละดวงขณะที่การต่อสู้นองเลือดยังคงดำเนินต่อไป การหายไปของภูติประจำตัวคือสัญญาณบอกว่าเจ้านายของพวกมันได้ตายในสนามรบแล้ว
แม้ว่าวิหารหยกวิญญาณจะนำคนมามากมาย และมีจำนวนมากกว่าผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองหลายเท่า แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณสีทองแล้ว ก็เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน
แต่……
ไม่มีใครหนีเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนที่ตายไม่มีบาดแผลบนหลังเลย กระทั่งตอนที่กำลังจะตาย พวกเขาก็ไม่ยอมหันหลังวิ่งหนี ไม่มีเลยสักคน……
เผชิญหน้ากับศัตรู ใช้ชีวิตเขียนบทเพลงแห่งการยืนหยัดครั้งสุดท้ายของพวกเขา หญิงสาวสวมหน้ากากร่วมต่อสู้กับเหล่าศิษย์ผู้หญิงคนอื่นๆของวิหารหยกวิญญาณ วิหารหยกวิญญาณเก็บตัวมานับพันปี ตอนที่พวกเขารับช่วงต่อสิบสองวิหาร พวกเขาก็ยังไม่ได้สู้ วันนี้คือศึกแรกหลังจากวิหารหยกวิญญาณออกสู่โลกภายนอก!
หลายปีที่เก็บตัวนั้นทำให้ศิษย์วิหารหยกวิญญาณเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูด พวกนางประสานงานกันได้อย่างดีและสกัดกั้นศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง