บทที่ 7 บทที่ 16 มุมมองของนีโร

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

สถานีอนามัยในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีหมอเพียงแค่คนเดียว แต่กลับมีพยาบาลอยู่หลายคน 

 

 

แต่นอกจากเด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนพยาบาลแล้ว ที่เหลือก็มีแต่รุ่นแม่ทั้งนั้น 

 

 

เพราะเหตุนี้ นับตั้งแต่ที่จางคุนตกหลุมแบบหาสาเหตุไม่พบจนขาหักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว สิ่งที่น่าสนใจนอกจากการเล่นโทรศัพท์มือถือก็คือการเล่นสนุกกับเด็กสาวคนนี้ 

 

 

เพียะ 

 

 

จางคุนฉวยโอกาสตอนที่นางพยาบาลสาวกำลังจัดเก็บผ้าห่มอยู่เตียงข้างๆ ตีบนสะโพกของเธอจนเกิดเสียงดังอย่างชัดเจน 

 

 

นางพยาบาลสาวตกใจรีบหันกลับมา แต่กลับเห็นจางคุนกำลังดูหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ไม่รู้พลิกเปิดดูกี่ครั้งแล้วอยู่ 

 

 

 “ไอ้คนเลว” นางพยาบาลสาวร้องด่า รู้สึกอดสูจนตาแดงวิ่งออกไป 

 

 

เธอรู้ว่าเธอทำอะไรกับไอ้เลวคนนี้ไม่ได้…ทุกคนล้วนแต่กลัวเจ้าคนหน้าไม่อายคนนี้ ทำไมคนแบบนี้ตกหลุมแล้วถึงไม่ตายไปเลย เพียงแค่ขาหักเท่านั้น 

 

 

 “ฮ่าๆๆๆ” จางคุนหัวเราะขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความลามก “ก้นของสาวน้อยคนนี้งอนจริงๆ อีกนิดเดียวเท่านั้น” 

 

 

 “อา…เป็นไอ้ชั่วที่หากตายไปก็ไม่เสียดายจริงๆ” 

 

 

ในตอนนี้เองจางคุนก็ได้ยินเสียงนี้…เสียงต่ำมาก เหมือนกดเสียงพูด ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของผู้ชายหรือผู้หญิง… 

 

 

เขาหันมองไปยังที่มาของเสียงโดยไม่รู้ตัว เห็นคนสวมชุดคลุมขนาดใหญ่มีหมวก ทั้งยังสวมหน้ากากอนามัยปิดปากกำลังนั่งอยู่ขอบหน้าต่าง…ด้านหลังแบกกระบอกกลมขนาดใหญ่สีดำอันหนึ่ง ไม่รู้ว่าด้านในใส่ของอะไรไว้ 

 

 

แต่ดูจากท่าทางแล้ว ตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่ อีกทั้งยังดูผอมบางมากด้วย 

 

 

แต่จางคุนเป็นใคร ใครในหมู่บ้านพบเห็นก็กลัวแล้ว เป็นคนหน้าไม่อายอีกทั้งยังบ้าอำนาจ จะทนให้คนมาด่าว่าตนเองต่อหน้าอย่างนี้ได้ยังไง 

 

 

 “ไอ้ตัวดี กล้ามาด่าฉันต่อหน้างั้นเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” จางคุนยิ้มเยาะ “เชื่อไหมว่าฉันสามารถบีบแกให้ตายได้ในทันที” 

 

 

คาดไม่ถึงว่าคนในเสื้อคลุมใหญ่นั้นจะโบกมือ “จางคุน ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องไร้สาระกับนายที่นี่ ฉันมาบอกนายเรื่องหนึ่ง” 

 

 

จางคุนไม่สนใจ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาคิดจะเรียกคน เขาคิดแก้แค้นแม้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ 

 

 

 “นายไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมอยู่ดีๆ ตัวเองถึงตกหลุมขาหักได้” คนในชุดคลุมใหญ่พูด 

 

 

จางคุนชะงัก นิ้วมือที่กำลังกดหมายเลขหยุดลงชั่วขณะ จ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าหน้าต่างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย “แกเป็นใคร” 

 

 

 “เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจ” คนคนนั้นพูด “นายรู้เพียงว่าฉันสามารถบอกนายได้ว่าใครทำให้นายตกหลุมก็พอ…อีกอย่าง ฉันยังสามารถช่วยนายให้ได้ผู้หญิงที่นายต้องการอีกด้วย” 

 

 

 “แกพูดถึง…” จางคุนขมวดคิ้วขึ้น “ซานเอ๋อร์?” 

 

 

 “ไม่ใช่ว่านายอยากนอนกับผู้หญิงคนนี้มาตลอดงั้นเหรอ” คนคนนั้นพูด “แต่เธอเป็นแม่หม้ายใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ถึงบ้านนายจะมีเส้นสายอยู่บ้างก็ไม่กล้าใช้กำลังบังคับ กลัวจะปิดไม่มิด ทำให้สังคมโมโห ดังนั้นถึงยังไม่ลงมือบีบบังคับ ไม่ใช่เหรอ” 

 

 

 “ทำไมแกถึงจะช่วยฉัน” จางคุนถาม 

 

 

 “แน่นอนว่ามีเป้าหมาย” คนคนนั้นพูด “แต่นายวางใจได้ ฉันไม่ต้องการเงินของนาย และไม่ได้ให้นายทำอะไรให้ฉัน สรุปแล้วฉันไม่ได้ทำให้นายเสียประโยชน์ อีกอย่างฉันยังสามารถทำให้ขาของนายหายดีในทันทีได้อีกด้วย” 

 

 

จางคุนยิ้มเยาะ “ชิ แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกง่ายๆ งั้นเหรอ” 

 

 

ทันใดนั้นคนคนนั้นก็โยนลูกกลมๆ เล็กเท่าหัวนิ้วมือให้จางคุน มันดูเหมือนขี้ผึ้ง 

 

 

 “บีบมัน ทายาข้างในบนจุดที่นายบาดเจ็บ หลังจากคืนนี้นายจะสามารถเดินได้ตามปกติ” คนคนนั้นหัวเราะ “เชื่อหรือไม่เชื่อ นายคิดเอง แล้วฉันจะมาอีก” 

 

 

 “รอเดี๋ยว” จางคุนรีบร้องเรียก 

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นจะพลิกตัวลงไปจากหน้าต่างแล้วหายไปทันที ในตอนที่จางคุนพยุงตัวไปถึงข้างหน้าต่างนั้นก็มองไม่เห็นเงาคนอีกแล้ว 

 

 

เขากลับมาที่เตียงอีกครั้ง ถือเม็ดขี้ผึ้งเล็กๆ และขมวดคิ้วขึ้น 

 

 

… 

 

 

เช้าตรู่วันถัดมา จางคุนเหลือบมองนอกหน้าต่างอย่างหวาดกลัว 

 

 

เขาบีบเม็ดขี้ผึ้ง คิดว่าเพียงแค่ถูเท่านั้นไม่ได้กินลงไปเสียหน่อย คงไม่มีอะไรน่ากลัวจึงลองถูบริเวณที่บาดเจ็บ 

 

 

คิดไม่ถึงว่าเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาเท้าก็ไม่เจ็บแล้ว ลงจากเตียงแล้วลองเดินไปมาก็ไม่เป็นอะไร กระโดดโลดเต้นก็ไม่เป็นปัญหา ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ 

 

 

ครั้งนี้เขาคาดหวังให้คนสวมชุดคลุมปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจะต้องถามถึงจุดมุ่งหมายของคนคนนั้นให้ได้ 

 

 

เขาไม่ใช่คนที่เชื่อคนง่ายๆ 

 

 

ทันใดนั้น ดวงตาก็พร่ามัว มีบางอย่างพลิกกายเข้ามา จางคุนเพ่งมอง หากไม่ใช่คนเมื่อวานแล้วจะเป็นใคร ชั่วขณะนั้นเขาก็ยิ้มเข้าต้อนรับ “น้องชายผู้นี้ นายมาแล้ว” 

 

 

 “เอ๋ ทำไมครั้งนี้ถึงต้อนรับฉันขนาดนี้ละ” 

 

 

จางคุนหัวเราะและพูดว่า “เมื่อวานฉันไม่รู้ว่าน้องชายร้ายกาจ ตอนนี้รู้แล้ว แล้วทำไมต้องทำสีหน้าไม่ดีใส่ด้วยล่ะ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง นายรักษาเท้าฉันหาย พี่น้องอย่างนายฉันจางคุนยอมรับแล้ว ต่อไปถ้านายมาเมืองนี้ก็บอกฉันสักคำ ฉันจะไปหาทันที ถ้าไม่ไปหาถือว่าเป็นไอ้ลูกเต่า” 

 

 

 “อ๋อ ฟังดูแล้วก็ไม่เลว” คนสวมชุดคลุมหัวเราะเบาๆ “แต่มาพูดถึงเรื่องที่พูดไม่จบเมื่อวานกันก่อนดีกว่า” 

 

 

จางคุนถูๆ มือและพูดว่า “ฉันเองก็อยากรู้ว่าเป็นไอ้สารเลวคนไหนที่ทำร้ายฉันเหมือนกัน แค้นนี้ฉันต้องชำระแน่” 

 

 

 “เขาชื่อว่ามาร์ค” คนสวมชุดคลุมพูด “ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ร้านขายเต้าหู้ของซานเอ๋อร์ เป็นคนต่างชาติ” 

 

 

 “คนต่างชาติ?” จางคุนขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็พูดว่า “คงไม่ใช่ คนที่ฉันพบวันนั้น…ที่แท้ก็เป็นไอ้นั่น อยู่ที่นั่นเลยเหรอ…แม่ง ได้กันแล้วแน่ๆ แย่ชิบ กล้าแย่งผู้หญิงของฉัน มิน่าถึงทำร้ายฉัน จะต้องเป็นนังหญิงสารเลวซานเอ๋อร์ฟ้องอะไรแน่เลย แย่จริง หญิงชายสุนัขคู่นี้” 

 

 

 “ดูท่าทางนายคงเริ่มแค้นแล้วสินะ” 

 

 

จางคุนชกลงบนเตียง พูดอย่างโมโหว่า “แม่ง! ฉันจะเรียกคนไปจัดการกับเจ้าคนต่างชาติคนนั้นเดี๋ยวนี้” 

 

 

พูดแล้วเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทันที แต่ในขณะที่กำลังจะโทรติดนั้นก็หยุดมือทันควัน ดูเหมือนกำลังลังเล 

 

 

คนสวมชุดคลุมเยาะเย้ยว่า “ทำไม ไม่ลงมืองั้นเหรอ” 

 

 

จางคุนกลับกัดฟันพูดว่า “คนต่างชาติคนนั้น…ไม่รู้ว่ามีที่มายังไง ถ้าจัดการไม่ดีจะเกิดเรื่องยุ่งได้ ฉันต้องคิดให้ดี อีกอย่าง…นายจงใจให้ฉันจัดการคนชื่อมาร์คคนนี้ใช่ไหม” 

 

 

 “ไม่ถือว่าโง่ อย่างน้อยก็ยังดูออก” คนคนนั้นพูด “แต่นายวางใจเถอะ ฉันกับมาร์คคนนั้นมีเรื่องกันนิดหน่อยเท่านั้น อีกอย่าง นายไม่ต้องกลัว เขาไม่มีเบื้องหลังอะไร จะว่าไปก็เป็นคนที่ลักลอบเข้ามาที่นี่ ไม่สามารถเผยตัวตนได้ และก็หมายถึง…” 

 

 

นัยน์ตาของจางคุนฉายแววดุร้ายและพูดว่า “และก็หมายถึง…ตายไปแล้วก็ไม่มีใครรู้ แต่ทำไมฉันถึงต้องเชื่อนายด้วย” 

 

 

 “ยาเมื่อวานใช้ได้ดีไหม” คนสวมชุดคลุมพูดขึ้นในทันใด 

 

 

จางคุนพยักหน้าอย่างมั่นใจ 

 

 

 “ฉันยังมีอีกเยอะ” คนคนนั้นพูดและเอาให้จางคุนอีกสองเม็ด จากนั้นก็พูดต่อว่า “การรักษาบาดแผลแบบที่นายเป็นนั้นเป็นเรื่องเล็กมาก บาดแผลหนักกว่านี้แม้จะเป็นบาดแผลจากมีดแทงก็สามารถรักษาหายได้อย่างรวดเร็ว…ฉันเอาให้นายได้” 

 

 

ไม่ว่าจะเป็นใช้เองหรือเอาไปขายแลกเงิน…นี่ก็เป็นเหมือนสมบัติอย่างหนึ่ง จางคุนที่เคยใช้มาแล้วเชื่อมั่นในฤทธิ์ยาชนิดนี้มาก ชั่วขณะนั้นแววตาก็ปรากฏแววความโลภออกมา 

 

 

 “นายต้องการให้ฉันทำยังไง” 

 

 

 “ง่ายมาก” คนคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “อันดับแรก นายทำตามที่ฉันบอก นาย…” 

 

 

… 

 

 

ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ในห้องประมาณยี่สิบนาที สุดท้ายจางคุนก็เผยแววตาอันชั่วร้ายออกมา ถือเม็ดขี้ผึ้งมหัศจรรย์สองเม็ดนี้ไว้ในมือ ใช้สายตาส่งคนแปลกประหลาดคนนั้นจากไป 

 

 

เขาโทรศัพท์ทันที…เรียกให้พวกลูกน้องของเขาลงมือ 

 

 

… 

 

 

ฟู่ 

 

 

นีโรผู้ครองชื่อทรราชถอดชุดคลุมออก จากนั้นก็ถอดหน้ากากปิดปากและนั่งลงอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ เพียงหนึ่งเดียวที่มีในเมืองนี้ 

 

 

 “โง่เหรอ จะเอายารักษาบาดแผลชนิดทีวีอาร์โฟร์ให้นายง่ายๆ ได้ยังไง สองเม็ดหลังเป็นแป้งทั้งนั้นแหละ” นีโรเผยรอยยิ้มชั่วร้ายเหมือนปีศาจน้อย หรี่ตามองดูเงาสะท้อนของตนเองในแม่น้ำ 

 

 

ไม่รู้ว่ามองผิดไปหรือไม่ ดูเหมือนเธอจะมองเห็นรัศมีฟ้าอ่อนในนัยน์ตาของเธอ 

 

 

นีโรขมวดคิ้ว ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แม่น้ำมากขึ้น ยื่นมือปัดม่านตาของตนเองลง แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลย 

 

 

 “ไม่มี” 

 

 

เธอกะพริบตาและไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร คิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาจากการสะท้อนแสงของแม่น้ำจึงไม่ได้ใส่ใจอีก 

 

 

 “อืม…นอนกลางวันก่อนดีไหมนะ” 

 

 

… 

 

 

… 

 

 

 “นายท่าน ทานอาหารเที่ยงค่ะ” 

 

 

ในตอนที่เสียงของโยวเย่ดังขึ้น เจ้าของสมาคมลั่วถึงได้ลืมตาขึ้น เก็บวิสัยทัศน์ของเขากลับจากมุมมองของนีโร 

 

 

ครั้งก่อนตอนที่คุณหนูทรราชผู้นี้ถามราคาซื้อขายกับเจ้าของสมาคมนั้นก็ถูกฝังเมล็ด…และตอนนี้ก็งอกแล้ว