ตอนที่ 719: ความโศกเศร้า

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 719: ความโศกเศร้า

“ท่านพ่อ ! ท่านแม่ ! ” หลังจากนั้นซักพัก เสียงร้องที่เจ็บปวดทั้งสองคำดังมาจากเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินค่อย ๆเดินเข้าไปที่กลุ่มคนอย่างช้า ๆ ด้วยขาที่สั่นเทา

“นั่นมันเสียงนายน้อยสี่นี่ นายน้อยสี่กลับมาแล้ว ! “

“นายน้อยสี่กลับมาแล้ว ! “

ยามที่รวมกันอยู่ก็พบว่าเจี้ยนเฉินได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างอย่างทันทีทันใด พวกเขาร้องตะโกนออกมา แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยตวามโศกเศร้าและเสียใจแทนที่จะเป็นน้ำเสียงแห่งความยินดี

ทางเดินได้ถูกเว้นว่างไว้ให้เจี้ยนเฉิน เขาก้าวเดินไปด้วยขาที่สั่นเทาและไปถึงยังเบื้องหน้าของไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้า การที่ได้เห็นผู้ที่เป็นพ่อแม่นอนอยู่ที่บนพื้นนั้น ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกเศร้าโศกเป็นอย่างมาก

“ท่านพ่อ ! ท่านแม่ ! ” เจี้ยนเฉินร้องออกมาอย่างทุกข์ใจ เขาอยากที่จะร้องให้ออกมามากที่สุด ตาของเขาแดงก่ำและน้ำตาสีเลือดก็เอ่อล้นท่วมนัยน์ตาของเขาและร่วงลงมาที่ใบหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีในตอนนี้ เขาสามารถสัมผัสได้เลยว่าพ่อและแม่ของเขาได้ตายแล้ว แม้ว่ายาจิตวิญญาณธาตุแสงขั้นสูงที่เขามีก็ไม่สามารถจะทำให้ทั้งสองคนนี้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้

“นายน้อยสี่ ข้าต้องขออภัยด้วย ข้ารับใช้ชราผู้นี้ช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนักที่ไม่สามารถปกป้องท่านหัวหน้าตระกูลและฮูหยินเอาไว้ได้” ลุงเจียงมายืนอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินด้วยร่างที่สั่นเทา หน้าของเขาซีดและเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าตัวเองผิด

เจี้ยนเฉินไม่ได้กล่าวอะไร เขาจ้องไปที่ร่างที่ไร้วิญญาณของพ่อและแม่โดยที่น้ำตาสีเลือดยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง ซักพักดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเจี้ยนเฉินก็กลับมาเป็นประกายและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว เขาถามเสียงทุ้ม “มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ใครฆ่าพ่อแม่ของข้า ? ” เสียงของเจี้ยนเฉินไม่ได้ดังแต่เยือกเย็น แม้แต่อุณหภูมิรอบ ๆ ยังเย็นลงอย่างรวดเร็วกับสิ่งที่เขาพูดออกมา

บรรดายามที่อยู่รอบ ๆ และผู้อาวุโสทั้งหลายรู้สึกเย็นยะเยือกทั่วทั้งร่างซึ่งมันทำให้พวกเขาตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ในตอนนั้นเอง แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ได้ปลดปล่อยพลังใด ๆ ออกมา แต่เขาก็เหมือนเทพเจ้าแห่งความตายสำหรับทุก ๆ คนและมันน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ

“นายน้อยที่สี่ ก่อนหน้านี้ เซียนผู้คุมกฎสองสามคนมาที่คฤหาสน์เจียงหยางของเราและพูดว่าพวกมันกำลังตามหาท่าน ท่านหัวหน้าตระกูลและฮูหยินถูกฆ่าด้วยน้ำมือของพวกนั้น” ลุงเจียงพูดอย่างทุกข์ใจ น้ำเสียงของเขาโศกเศร้า

เจี้ยนเฉินกำหมัดแน่นและจิตสังหารก็พุ่งพวยออกมาจากร่างกายของเขา มันทำให้มิติโดยรอบรู้สึกเนือย ๆ

ในตอนนั้นเอง เจี้ยนเฉินยกมือขึ้นมาและมองไปที่ไกล ๆ เขาเห็นร่างสี่ร่างในสีแดงเลือดกำลังมุ่งไปข้างหน้าและรอบ ๆ ตัวร่างทั้งสี่นั้นข่มจิตสังหารเอาไว้แต่พวกนั้นทรงพลัง มันคือพลังหยินชั่วร้าย มันคือวิธีการพิเศษที่ได้มาจากการฆ่ามานับไม่ถ้วน

เจี้ยนเฉินรู้ว่าสี่คนนั้นเป็นเซียนผู้คุมกฎและสรุปเอาเองว่านี่คือกลุ่มคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและความน่ากลัว

พลังบรรพกาลในตันเถียนของเจี้ยนเฉินเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เกลียวของพลังบรรพกาลไหลออกมาไม่หยุดจากจุดกำเนิดพลังบรรพกาลและเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเหมือนม้าป่า มันไหลไปทั่วทุกส่วนของร่างกายของเจี้ยนเฉินและในเวลาเดียวกันพลังของเจี้ยนเฉินก็ระเบิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันพุ่งไปถึงบนท้องฟ้าร่วมกับจิตสังหารของเขา มันเหมือนจะทำให้เกิดเมฆดำครึ้มบนอากาศ

“อ๊ากกก ! ” เจี้ยนเฉินคำรามเสียงดังไปบนท้องฟ้า ผมของเขาปลิวไสวเหมือนมันกำลังร่ายรำอย่างบ้าคลั่งทั้งที่ไม่มีลมใดใดพัดเลย กระบี่สังหารมังกรก็ออกมาปรากฏอยู่ในมือของเขาทันที มันส่องแสงสว่างสีดำออกมา

ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาพุ่งไปยังร่างสีแดงทั้งสี่นั้นที่อยู่ในที่ไกล ๆ เหมือนสายฟ้าแล้วหล่อรวมกับกระบี่สังหารมังกร

การที่ได้เห็นพุ่งเข้ามาที่พวกเขาเหมือนคนบ้านั้น ร่างสีแดงทั้งสี่ก็หยุดทันที พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศแล้วขมวดคิ้ว

“เจ้าต้องชดใช้ที่ฆ่าพ่อแม่ข้า ! ” เจี้ยนเฉินคำรามและแกว่งกระบี่สังหารมังกรไปที่สี่คนนั้น ปราณกระบี่ที่ทรงพลังถูกยิงออกมาจากกระบี่และพุ่งอย่างหวังที่จะทำลายล้างไปที่สี่คนนั้น ที่ไหนก็ตามที่ปราณกระบี่ผ่านไปนั้นมันก็ทำให้มิติแตกออกซึ่งทำให้เกิดรอยแตกยาวสีดำบางบางปรากฏขึ้นและก็หายไปในพริบตา

“นี่มันพลังอะไรกัน ? ช่างแข็งแกร่ง” หนึ่งในชายเสื้อสีแดงร้องออกมาอย่างประหลาดใจ หลังจากนั้นไม่นาน หอกยาวสีแดงเลือดก็ออกมาปรากฏในมือของเขา ในเวลาเดียวกันนั้น หอกแบบเดียวกันก็ออกมาปรากฏในมือของคนที่เหลืออีกทั้งสามคน พวกเขาแทงหอกที่มีพลังหยินชั่วร้ายออกไปพร้อมพร้อมกันซึ่งพุ่งไปทางปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน

ตูม ! เสียงกระทบกันดังเกิดขึ้นจากการที่ปราณกระบี่มาชนกับหอกสีแดงทั้งสี่ คลื่นของพลังที่รุนแรงทำให้เกิดลมพัดกรรโชกซึ่งทำให้เกิดความเสียหายไปรอบ ๆ

ปราณกระบี่กระจายออกไปทันทีด้วยหอกทั้งสี่นั้น อย่างไรก็ตามพลังหยินชั่วร้ายล้อมรอบหอกอยู่นั้นก็ส่องสว่างน้อยกว่าเดิมก่อนที่จะลอยไปที่มือของคนทั้งสี่นั้นต่อจากนั้น

เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าคนทั้งสี่นั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่คนทั้งสี่คนและปราณกระบี่ที่ทรงพลังและบริสุทธิ์ก็พุ่งพวยออกมาจากตัวของเขา ในปราณกระบี่นั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น

“หยุด นายน้อยสี่ หยุด ! ” ในขณะนั้น เสียงที่ชราและอ่อนล้าดังมาจากเบื้องล่าง ใบหน้าที่ซีดเผือดของลุงเจียงที่ใช้พลังแห่งธรรมชาติลอยมาจากคฤหาสน์เจียงหยางอย่างโซซัดโซเซปรากฏขึ้น เขาบาดเจ็บจากการโจมตีของเซียนผู้คุมกฎ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การโจมตีธรรมดาแต่อาการบาดเจ็บของเขานั้นหนักมาก หลังจากบินมาได้สักพักพลังธรรมชาติที่เขาใช้ในการบินก็หายไปอย่างรวดเร็วและเขาก็เริ่มร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

ความเย็นชาในสายตาของเจี้ยนเฉินก็ลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ได้เห็นลุงเจียงกำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้า ท่าทีของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปและภาพในวัยเด็กของเขาก็โผล่ขึ้นมาในหัว หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เลิกสนใจชายชุดแดงสี่คนนั้นและหลอมรวมกับมิติเพื่อเข้าไปคว้าลุงเจียงเอาไว้

เลือดพ่นออกมาจากปากของลุงเจียงซึ่งย้อมหน้าของเขาให้เป็นสีเลือด หลังจากหยุดคิดครู่เดียว ยาจิตวิญญาณธาตุแสง 2-3 เม็ดก็ลอยออกมาจากแหวนมิติของเจี้ยนเฉินและลอยเข้าปากของลุงเจียง

ด้วยยาจิตวิญญาณธาตุแสง ทำให้อาการของลุงเจียงไม่แย่ลงและเริ่มทรงตัว เขามองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่อ่อนแรงและพูดอย่างไร้พลัง “นายน้อยสี่ มันไม่ใช่พวกนี้ที่ฆ่าหัวหน้าตระกูลและฮูหยินสี่ ถ้าพวกคนเหล่านี้ไม่ปรากฏตัวมาเพื่อช่วยไล่พวกฆาตกรไปล่ะก็ บางทีตระกูลเจียงหยางของเราอาจจะไม่มีใครรอดชีวิตเลยก็ได้”

เมื่อเจี้ยนเฉินได้ยินอย่างนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปยังชายชุดแดงทั้งสี่นั้น จิตสังหารที่เยือกเย็นที่ดวงตาของเขาก็หายไปและพลังที่เขาเปล่งออกมาก็อ่อนลงอย่างช้า ๆ เขาแบกร่างลุงเจียงบินกลับไปที่คฤหาสน์โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

ในเวลาพลบค่ำ ผู้คนจำนวนมากรวมกันอยู่ที่นอกเขต หัวหน้าตระกูลที่เป็นที่เคารพทั้งหลายที่เมืองลอร์ออกมาจากเขตเพื่อมาร่วมแสดงความเสียใจและแม้แต่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่จากเมืองใกล้เคียงก็ยังมา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นอกเขต ภายใต้คำสั่งของนายน้อยสี่ ในคฤหาสน์จะถูกปิดและไม่รับแขกหน้าไหนทั้งสิ้น