“ความจริงแล้วพี่ใหญ่ก็รู้สึกผิดมาก เขาก็อยากจะมา แต่ว่า ตอนนี้เขาถูกคนในบ้านกักบริเวณ ออกมาไม่ได้”
เจเคเงียบไปสักพัก แล้วก็อธิบายแทนม็อกโกออกมาหนึ่งประโยค
แต่ดลธีได้ยินแล้ว กลับหัวเราะออกมา
รู้สึกผิด?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าตอนนั้นท่านประธานของพวกเขารู้ว่าคนถูกม็อกโกพาตัวไป แล้วโทรหาเขาทันที เขาจะไม่พาตัวไปแล้วอย่างนั้นเหรอ
อีกทั้งตอนนั้นตอนที่พวกเขาตามรถไฟขบวนนั้นไปได้ทัน ได้เจอเขาแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้แสนรักนำตัวแม่ของตัวเองกลับมา อีกทั้งยังเจรจาต่อรองกับเขาอยู่อย่างนั้น ว่าสามารถให้เขาพาตัวภารานินไปที่ตระกูลเทวเทพก่อนได้หรือไม่?
ถ้าภารานินถูกนำตัวไปที่ตระกูลเทวเทพ งั้นก็คงมีทางเดียวก็คือความตาย?
ดังนั้น ตั้งแต่ต้นจนถึงจบ ม็อกโกรู้เห็นเรื่องนี้ มีส่วนต้องรับผิดชอบที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
อีกทั้ง ณ จุดจุดนี้ เป็นไปได้ว่า โดยเนื้อแท้ของเขาแล้วก็ถือว่าคำสั่งของของตระกูลเทวเทพนั้นเป็นใหญ่ที่สุด เพราะว่าเขาไม่ใช่อารองของเขา…ขุนนาย เขาไม่มีความกล้าที่จะต่อต้านตระกูลของตัวเอง
และก็ไม่มีความกล้าที่จะยืนหยัดทางเลือกของตัวเอง
“ช่างเถอะ พวกเราไปดูท่านประธานกันดีกว่า”สุดท้ายดลธีก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา หันหลังกลับพาเขาเดินไปยังห้องพักผู้ป่วย
เจเค:“……”
ความหวังบนใบหน้าหดลงมา เขาทำได้เพียงเดินตามไป
ในห้องพักผู้ป่วย แสนรักยังไม่ฟื้นขึ้นมา เขานอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างสงบ มีสายน้ำเกลือแขวนอยู่ ดวงตามองไป ใบหน้าซีดขาว เบ้าตาลึกลงไป ซีดเซียวเป็นอย่างมาก
นี่พึ่งจะไม่กี่วันเอง ก็อ่อนระโหยโรยแรงถึงขนาดนี้แล้ว?
เจเคได้เห็นแล้ว ภายในใจยิ่งโศกเศร้าเสียใจขึ้นมา แม้แต่คำพูดที่เตรียมเอาไว้ ก็พูดไม่ออกสักคำ
“คุณชายเจเค งั้นคุณก็นั่งอยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน ผมไปรับยามาให้ท่านประธานก่อน”
“อืม”
เจเคพยักหน้า แล้วจึงไปนั่งลงข้างๆเตียงผู้ป่วยของแสนรัก
ครั้งนี้ที่เขามา ความจริงแล้วมีจุดประสงค์หนึ่งอย่าง หลายปีมานี้ พวกเขาทั้งสี่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่น้อย แต่ครั้งนี้ปัญหาระหว่างแสนรักกับม็อกโก ทั้งเขาและเปรมไตรต่างรู้สึกไม่ดี
ดังนั้น สถานที่ที่เขาพักอยู่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก จึงรีบมาก่อน
“พี่สาม ตอนนี้คุณกับที่ใหญ่เป็นแบบนี้ ควรทำยังไงดี พี่ใหญ่เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หลังจากเกิดเรื่อง เขาอยากจะมาหาคุณอยู่ตลอด แต่ว่าเขาถูกตระกูลเทวเทพกักตัวเอาไว้ พี่สาม เป็นไปได้ไหมว่าคุณจะไม่โทษเขา”
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น พูดแทนม็อกโกออกมาอย่างเศร้าใจ
คุณชายเจเคคนนี้ ความจริงแล้วมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับม็อกโกอย่างมาก ตอนที่พวกเขาทั้งสองอยู่ที่เมืองหลวง คนหนึ่งเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลทหาร ส่วนอีกคนเป็นคุณชายเล็กของที่มีตำแหน่งสำคัญทางการเมือง
เจเคนั้นตั้งแต่เล็กเขาเดินตามหลังม็อกโกเติบโตขึ้นมา
“แค่กแค่ก……”
ไม่รู้ว่าพึมพำอยู่นานเท่าไหร่ แสนรักที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากไอออกมา ในที่สุด เขาที่อยู่ภายในห้องผู้ผู้ป่วยภายใต้แสงไฟสีขาวที่ไร้อุณหภูมิ ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“พี่สาม คุณฟื้นแล้ว”เจเคได้เห็น ปลื้มปีติขึ้นมาทันใด
“แค่ก——”
แสนรักไอออกมาอีกครั้ง เป็นไปได้ว่าพึ่งจะฟื้น ทั้งร่างกายของเขายังปรับตัวไม่ได้ ในตอนแรกยังรู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยสะดวก
เจเคได้เห็นแล้ว จึงรีบรินน้ำมาให้หนึ่งแก้ว:“พี่สาม คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ผมช่วยพยุงคุณขึ้นมานะ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้พยุงเขาที่อยู่บนเตียงให้นั่งขึ้นมา แล้วก็ยื่นน้ำอุ่นในแก้วไปให้เขาดื่มสักสองอึก
ของเหลวอุ่นๆที่เข้าไปในลำคอเหมือนไฟลน ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลง ถือว่า แสนรักที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นมา กำลังวังชาฟื้นคืนมาบ้าง
“คุณมีอะไรหรือเปล่า”
เขามองไปยังเจเค ใบหน้าหล่อที่ยังมีความซีดขาวอยู่ อีกทั้งไม่ค่อยเป็นมิตร
เจเคได้เห็นแล้ว จึงรีบอธิบาย:“ผมมาเยี่ยมคุณ พี่สาม ขอโทษนะ คุณกับพี่ใหญ่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมกับพี่สองกลับไม่อยู่ข้างกาย ถ้าพวกเราอยู่ด้วยละก็……”
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก”
แสนรักตัดบทลงอย่างเย็นชา ระหว่างคิ้ว ยังมีความหงุดหงิดนิดหน่อย
เจเคตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
อารมณ์ร้ายของพี่สามนั้น เขารู้ดี หลายปีมานี้ พูดได้ว่าพี่ใหญ่นั้นอารมณ์ดีที่สุด ทั้งอบอุ่นและเป็นกันเอง งั้นพี่สามคนนี้กับเขาแล้วนั้นเป็นคนที่อยู่กันคนละระดับ
เขาโมโหง่ายมาก
อีกทั้งเป็นคนที่ถูกยั่วนิดหน่อย ใครก็เอาไม่อยู่แล้ว
“คือว่า……พี่สาม พี่ใหญ่ฝากข้อความมาหาคุณ เขาพูดว่า……ตอนนี้เขายังไม่ได้เอาสถานะที่แท้จริงของคุณบอกให้ที่บ้านของเขารู้ ถ้าคุณไม่ยินยอม เขาบอกว่า เขาจะช่วยคุณปกปิดเรื่องนี้เอาไว้”
ทันใดนั้น เจเคที่อยู่ข้างเตียงคนนี้ พูดประโยคเหล่านี้ออกมาอย่างระมัดระวัง
ตระกูลเทวเทพยังไม่ทันได้รู้สถานะที่แท้จริงของเขา?
แสนรักเบนสายตากลับมาที่เขา:“เขากำลังล้อเล่นหรือเปล่า เขาพาคนมาจับตัวแม่ของผมไปแล้ว ตระกูลเทวเทพของพวกเขายังไม่รู้สถานะของผมอีกเหรอ”
“จริงๆแล้ว ตอนที่พี่ใหญ่พาคนมานั้น คนในบ้านของเขาบอกให้เขาพาตัวแม่ของคุณไป แต่ว่าไม่ได้พูดถึงคุณ พี่สาม คุณอย่าลืมว่า สถานะของคุณในตอนนี้ คือคนของตระกูลหิรัญชา ถ้าไม่มีใครรู้ความจริงของเรื่องราวในปีนั้น งั้นก็คงไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นลูกชายของอารองของเขาอย่างแน่นอน”
เจเคมองเห็นว่าพี่สามคนนี้ไม่ค่อยจะเชื่อ จึงรีบอธิบายคำพูดของม็อกโกที่ฝากเขามา
อีกทั้งความจริงแล้ว ข้อมูลที่ตระกูลเทวเทพได้รับในตอนนี้ มีเพียงภารานินจริงๆ ถ้าพูดถึงแสนรักที่เป็นคนสืบทอดนั้น พวกเขายังไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งหมดนี้ มาจากแผนการของธนากรในปีนั้น
ในที่สุดแสนรักก็ไม่พูดอะไรออกมา