เมื่อจางลี่เฉินเดินลงมาชั้นล่าง แมดดี้ที่กำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะห้องรับรองชั้นหนึ่งกำลังพูดอยู่กับชาร์ลีย์ที่เดินเข้ามาในอาคารไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ “มิสเตอร์ชาร์ลีย์คะ มิสเตอร์ลี่เฉินมีเหตุจำเป็นที่ต้องออกจากโรงพยาบาลมาที่นี่ด้วยเรื่องส่วนตัวเร่งด่วน เกรงว่าเขาจะไม่มีเวลามาพบคุณในวันนี้ได้”
น้ำเสียงของหญิงสาวค่อนข้างเป็นทางการและหนักแน่น ชาร์ลีย์ไม่ได้ติดใจอะไรกับน้ำเสียงของเธอ เขาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าแทนว่า “โอ้ มิสแมดดี้! ผมก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนอะไรมิสเตอร์ลี่เฉินเลย ผมรอได้ ผมรอได้เสมอ … โอ้ มิสเตอร์ลี่เฉิน ลงมาแล้วหรือครับ”
“อรุณสวัสดิ์ โอ้ ไม่สิ ต้องเป็นสวัสดียามบ่ายแล้วสินะ มิสเตอร์ชาร์ลีย์ มีธุระอะไรกับผมอย่างนั้นหรือครับ?” หลังจากส่งยิ้มกลับไปให้แมดดี้ จางลี่เฉินที่กำลังเดินลงบันไดมาก็หันไปมองชาร์ลีย์ก่อนจะเอ่ยถาม
“ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ ผมกำลังดูแลงานก่อสร้างที่กำลังขยายตัวอยู่แล้วบังเอิญไปเห็นว่ามิสแมดดี้ขับรถพาคุณมาที่สำนักงานนี้เข้าพอดีเลยอยากจะมาเพื่อทักทายคุณสักเล็กน้อย เห็นคุณมีสุขภาพดีแบบนี้ผมเองก็โล่งใจ”
“ขอบคุณ อย่างไรก็ตามทำไมคุณถึงเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงานพื้นที่ก่อสร้างได้? บริษัทก่อสร้างไม่ได้ส่งผู้จัดการโครงการมาดูแลเองอย่างนั้นหรอกหรือ?”
“โอ้ โดยปกติแล้วโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์จะต้องได้รับการดูแลจากใครบางคนเป็นพิเศษจากทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาน่ะครับ มิสเตอร์ลี่เฉิน ตามที่ระบุในข้อตกลง เอ็ดเวิร์ดขอให้คุณลงชื่อให้ผมเป็นผู้จัดการหัวหน้าของ LS กรุ๊ป บางทีคุณคงไม่ได้สังเกตเห็นในส่วนนั้น”
“อย่างนี้นี่เอง ขอโทษด้วยมิสเตอ์ชาร์ลีย์ สภาพจิตใจของผมคงเบลอไปเล็กน้อย เอาล่ะ เนื่องจากคุณเป็นผู้ดูแลการขยายโรงงานดังนั้นคุณก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของการจัดหาพนักงานสำหรับโรงงานใหม่นี้ด้วย ตำแหน่งระดับสูงของบุคลากรการจัดการของบริษัทที่มักเรียกว่า … แมดดี้ มันคืออะไรนะ?” จางลี่เฉินทำทีไตร่ตรอง
“ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ค่ะ” หญิงสาวลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ
“ใช่ ๆ มิสเตอร์ชาร์ลีย์ คุณเต็มใจที่จะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ LS กรุ๊ปหรือเปล่า?”
“ได้โปรดเรียกผมว่าชาร์ลีย์เถอะครับบอส! รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ จริง ๆ นะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากจริง ๆ!”
แม้มันจะดูไร้สาระมากที่จะแต่งตั้งผู้จัดการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการเจรจาธุรกิจมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลแต่ชาร์ลีย์ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรและตกลงรับอย่างมีความสุขไปในทันที
ไม่เหมือนท่าทีที่สงบเสงี่ยมของเอ็ดเวิร์ดที่จะให้ความเคารพมากกว่าเมื่อได้รับคำสั่ง ชาร์ลีย์เต็มไปด้วยท่าทางประจบประแจงอย่างเห็นได้ชัด
“เยี่ยม! แมดดี้ ร่างเอกสารแต่งตั้งมิสเตอร์ชาร์ลีย์โดยอ้างอิงถึงสวัสดิการจากของมิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดสำหรับข้อตกลงต่าง ๆ ชาร์ลีย์ รอเอกสารตกลงของคุณที่นี่ก่อนก็แล้วกัน โอ้ใช่! เพราะคุณมักเป็นคนที่สื่อสารกับผู้อื่นได้ดีเสมอเพราะฉะนั้นคุณพอจะมีวิธีอะไรที่จะช่วยโน้มน้าวให้หมอดื้อรั้นที่คิดว่าคนไข้ของตัวเองต้องอยู่ภายใต้การสังเกตอาการแต่ความจริงแล้วคนไข้คนนั้นหายดีแล้วอยากเป็นอิสระบ้างไหม?”
“คุณหมายถึง?”
“ผมแอบออกจากโรงพยาบาลมา จริง ๆ แล้วผมต้องรีบกลับไปที่นั่นในทันที ผมกำลังถูกใยแมงมุมคลุมตัวจากการนอนเฉย ๆ อยู่บนเตียงที่นั่น! การรักษาเพียงอย่างเดียวที่ผมได้รับในทุก ๆ วันคือวิตามิน 4 เม็ดและแพทย์ผู้ดูแลบอกว่าผมต้องใช้เวลา 1 – 2 เดือนเพื่ออยู่แบบนั้น…” ยังไม่ทันที่จางลี่เฉินจะได้พูดจบ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักก่อนจะรับสาย
“ลูกรัก ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน?”
“ที่โรงงานครับแม่ โครงการขยายครั้งที่ 2 จำเป็นต้องมีผู้จัดการหัวหน้างานและการสรรหาบุคลากรต้องเป็น … ”
“แม่ก็คิดว่าลูกกำลังเดินเล่นอยู่รอบโรงพยาบาล! ที่ไหนได้ลูกกลับไปอยู่ที่ชานเมือง! ดร.สปริงส์รู้เรื่องนี้ไหมว่าลูกออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว?” เสียงของลิลี่เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมแทนในทันที
“เอ่อ ผมมาที่โรงงานเพื่อแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทเท่านั้น มันใช้เวลาไม่นาน…”
“หรือก็คือลูกแอบหนีออกจากโรงพยาบาลไป!”
“โอ้ แต่แม่ครับ ผมนำวิตามินมาด้วยเพราะงั้นผมสามารถกินที่ไหนก็ได้! อย่าเพิ่งโกรธกันสิครับ ผมกำลังจะกลับไปที่โรงพยาบาลอยู่พอดี … ” จางลี่เฉินที่กำลังพูดด้วยสีหน้าขมขื่นในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงชาร์ลีย์กระซิบมาจากด้านหน้า “บอส ส่งโทรศัพท์ให้ผม บางทีผมอาจมีวิธีที่จะทำให้แม่ของคุณไม่โกรธได้”
จางลี่เฉินนิ่งเงียบ “แม่ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ของผมต้องการอธิบายให้แม่ฟัง …” จากนั้นเขาส่งโทรศัพท์ให้ชาร์ลีย์
“สวัสดีครับมาดามลิลี่ ผมชาร์ลีย์นะครับ ยังจำผมได้ใช่ไหม? เราเคยพบกันมาก่อนในห้องพักผู้ป่วย”
“โอ้ สวัสดีค่ะมิสเตอร์ชาร์ลีย์ แน่นอนค่ะ ฉันจำได้”
“ผมต้องขอโทษจริง ๆ นะครับมาดามสำหรับเรื่องวันนี้ ผมเองที่เป็นคนขอให้มิสเตอร์ลี่เฉินมาที่แมทเทิลสโลว์ซ้ำ ๆ หลายครั้งเพราะมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อยกับการก่อสร้าง และแม้ว่ามันจะไม่ได้ใหญ่มากมายอะไรแต่ก็ต้องมีการเจรจาจากฝ่ายว่าจ้างและผู้รับเหมา เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผม ผมได้ทำเอกสารชุดหนึ่งที่จะต้องให้มิสเตอร์ลี่เฉินเซ็นหล่นหายจึงทำให้ผมไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอให้เขามาที่แมทเทิลสโลว์เพื่อพบกับผู้จัดการโครงการของบริษัทก่อสร้างเป็นการส่วนตัว ผมเสียใจ ต้องขอโทษมากจริง ๆ นะครับ…”
เมื่อลิลี่ได้ยินเสียงผู้ชายที่มีอายุแก่กว่าเธอประมาณ 10 – 20 ปีกล่าวขอโทษด้วยความจริงใจกับเธอด้วยความผิดที่ได้ทำลงไปทำให้เธอยิ้มได้อย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “โอ้ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ เป็นเรื่องปกติของการส่งต่อเอกสาร ไม่ต้องกังวลนะคะ เด็กคนนี้ควรได้ออกไปข้างนอกและสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้”
“มาดามลิลี่ คุณเป็นคนที่ใจดีและโอบอ้อมมากจริง ๆ คุณความดีในตัวมิสเตอร์ลี่เฉินนั้นต้องสืบทอดมาจากคุณแน่ ๆ รู้ไหมครับว่าถ้าเราจัดการเพื่อลดต้นทุนในการขยายโรงงานในครั้งนี้เราจำเป็นต้องรับสมัครพนักงานใหม่ 320 คนเพื่อรักษาการบริหารที่ดี อย่างไรก็ตามมิสเตอร์ลี่เฉินใจดีและมอบโอกาสในการทำงานทั้งหมด 400 ตำแหน่ง…”
“เดี๋ยวนะคะมิสเตอร์ชาร์ลีย์ คุณกำลังบอกว่าลูกชายของฉันกำลังจะรับสมัครพนักงานใหม่ 400 คนเพื่อทำงานให้กับเขาอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ถูกต้องแล้วครับ ยังไม่เพียงแค่นั้นนะครับ มิสเตอร์ลี่เฉินยังได้แจ้งให้เลขาของเขาติดต่อโรงพยาบาลเอกชนเพื่อคอยสังเกตอาการของเขาแทนด้วย จะได้ไม่เป็นการสูญเสียทรัพยากรทางการแพทย์สาธารณะแห่งชาติไปอย่างไร้ประโยชน์ ผมสามารถรับรองได้เลยว่าไม่มีนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่คนไหนที่จะโดดเด่นยอดเยี่ยมและมีจริยธรรมเหมือนเขาในสหรัฐอเมริกานี้อีกแล้ว”
“ไม่มีนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่คนไหนที่จะโดดเด่นยอดเยี่ยมและมีจริยธรรมเหมือนเขาในสหรัฐอเมริกา? ขอบคุณสำหรับคำชมเชยของคุณมากนะคะ ถ้าอย่างนั้นขอฉันคุยกับลี่เฉินเขาจะได้ไหมคะ?” ลิลี่ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของเธอผ่านน้ำเสียงที่ออกมาได้เลย
“แน่นอนครับ! สวัสดีครับมาดาม” ชาร์ลีย์พูดก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนจางลี่เฉินผู้ซึ่งมีท่าทีดูสับสนนิดหน่อยในตอนนี้
“ครับแม่?”
“ลูกรัก แม่จำได้ว่าลูกมีพนักงาน 2 คนเมื่อ 2 – 3 เดือนก่อน…”
“ใช่ครับ! แต่ตอนนี้โรงงานของผมกำลังพัฒนาได้อย่างราบรื่นมากและหลังจากโรงงานขยายตัวเสร็จจำนวนพนักงานก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 คน”
“โอ้ แม่ได้ยินเรื่องการขยายตัวโรงงานของลูกอยู่แต่แม่คิดว่ามันเพียงแค่สร้างห้องใหม่ไม่กี่ห้อง แม่ไม่ได้คิดว่าลูกจะจัดการโรงฆ่าสัตว์มาถึงจุดนี้ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ พร้อมคนงานมากกว่า 100 คนและอีก 400 คนจะทำให้ลูกมีพนักงานมากถึง 500 กว่าคน! มันจะไม่ใช่บริษัทเล็ก ๆ อีกต่อไป โอ้พระเจ้า ลูกรัก ลูกทำได้อย่างไร?”
“สมองและโชคนิดหน่อย” จางลี่เฉินตอบกลับแบบไม่ได้สนใจอะไร “แม่ แม่คิดอย่างไรกับสิ่งที่มิสเตอร์ชาร์ลีย์พูด ที่ว่าจะย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองทรัพยากรทางการแพทย์สาธารณะแทน”
“ลูกรัก ลูกจะได้รับอิสระอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ลูกย้ายไปโรงพยาบาลเอกชน ลูกกำลังจะกลายเป็นลูกค้ามากกว่าจะเป็นคนไข้ ลูกต้องการแบบนั้นแน่หรอจ๊ะ?”
“ผมสัญญาว่าผมจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอะไรอีก! ยิ่งไปกว่านั้นโรงพยาบาลเอกชนจะไม่ยอมให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงไปไหนหรือทำอะไรที่พวกเขาต้องทำด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอครับ?”
ลิลี่เงียบไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ! มันไม่ดีต่อลูกนักที่ต้องมากินวิตามิน 4 เม็ดต่อวันแต่กลับอยู่ที่เตียงของโรงพยาบาลรัฐเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แม่เห็นด้วยกับการที่ลูกจะย้ายไปแต่แม่จะเป็นคนหาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง”
“ได้ครับ แต่เลขาของผมหาไว้ให้แล้ว เธอจำกัดเหลือโรงพยาบาล 2 – 3 แห่งและกำลังติดต่อกับพวกเขาอยู่ในตอนนี้”
“โอ้พระเจ้า เลขางั้นเหรอ?! ใช่แล้ว ลูกเองก็ต้องมีเลขาสินะ! เอาล่ะลูกรัก แม่จะยอมให้เธอหาโรงพยาบาลไปก็ได้แต่แม่จะต้องไปดูสถานที่จริงก่อนที่ลูกจะย้ายไป”
“ได้ครับ…” หลังจากตกลงกับแม่เพิ่มเติมจางลี่เฉินก็วางสายโดยไม่สามารถหยุดรอยยิ้มบนใบหน้าได้เลย
หลังจากที่ชายหนุ่มหายใจถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเซ็นชื่อในเอกสารที่ แมดดี้มอบให้มาก่อนจะส่งเอกสารกลับไปให้ชาร์ลีย์ “ชาร์ลีย์ คุณทำได้ดีมาก! ดูเหมือนว่าคุณจะสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มากทีเดียว”
“ชมผมมากเกินไปแล้วนะบอส! ผมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคุณเสมออยู่แล้วครับ” ชาร์ลีย์เซ็นชื่อในเอกสารโดยไม่ได้ดูรายละเอียดใด ๆ ในขณะที่เขาตอบกลับอย่างจริงใจและสุภาพ
จางลี่เฉินพยักหน้าขณะที่เขาหัวเราะอย่างตื่นเต้นก่อนจะเดินออกจากอาคารสำนักงานพร้อมกับแมดดี้ แต่ก่อนที่จะได้เข้าไปนั่งอยู่ในรถ เขาหันไปคุยกับชาร์ลีย์ที่กำลังโบกมือลาเขา “ผมสังเกตเห็นว่าแม้ว่าผู้ขายจะผูกขาดตลาดได้แค่ไหนแต่องค์กรขนาดใหญ่ที่มีขนาดตามกำหนดก็ยังต้องมีองค์กรการจัดการที่ทันสมัย ด้วยเหตุนี้หลังจากการขยายโรงงานโดยรวมเสร็จผมตั้งใจจะปรับปรุงระบบการจัดการของบริษัทแบบในครั้งเดียว เมื่อถึงเวลานั้นบางทีคุณอาจได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่านี้แล้วก็ได้ ตั้งใจทำงานให้ดี ชาร์ลีย์”
ชาร์ลีย์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัวก่อนจะตอบเสียงดัง “โอ้! โอ้! มิสเตอร์ลี่เฉิน! ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ!”
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เขาแล้วเข้าไปนั่งข้างในรถ
แมดดี้สตาร์ทรถและขับออกจากพื้นที่โรงงานขนาดใหญ่ไปอย่างช้าๆ ขณะที่เธอกำลังเร่งความเร็วบนทางหลวง หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะพูกขึ้นมาว่า “LS กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นโดยคุณคนเดียวดังนั้นไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะสงสัยการตัดสินใจของคุณ อย่างไรก็ตามคุณไม่รู้สึกว่ามันเป็นการประมาทไปเล็กน้อยเหรอคะที่แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโดยตรงเช่นนี้ ฉันไม่ได้มีอคติกับมิสเตอร์ชาร์ลีย์แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาถูกเรียกว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกของวอลสตรีท …”
“ไม่สำคัญว่าชาร์ลีย์จะเป็นอย่างไรหรอกแมดดี้! ตราบใดที่เขามีประโยชน์กับผม ผมก็ไม่สนว่าเขาจะเป็นสุนัขจิ้งจอกหรือหมาจิ้งจอกหรืออะไรก็ตาม เขามีส่วนแบ่งแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“แต่ความโลภในใจยากที่จะควบคุมได้! การให้เขาทำทุกอย่างแบบนี้…”
“ถ้าเขาทรยศผม ผมจะปล่อยให้เขาตาย” จางลี่เฉินมองออกไปนอกหน้าต่างและพูดอย่างไม่ใส่ใจ “จากนั้นผมก็จะมองหาผู้จัดการคนใหม่ที่จะมาดูแลทุกอย่าง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ กฎหมายจะไม่คุ้มครองสิทธิของผู้บริหารในบริษัท เรื่องมันก็เท่านี้”
แมดดี้เกือบสำลักน้ำลายในขณะที่ร่างของเธอเริ่มสั่นกลัว คำเตือนต่าง ๆ ที่เธอมีอยู่ในใจไม่สามารถทะลักออกมาจากปากของเธอได้อีกไป จากนั้นในที่สุดเธอก็จำได้ถึงความสามารถในการตัดสินใจที่โหดร้ายของเขาในคืนที่เธอได้เจอกับชายหนุ่มข้าง ๆ คนนี้เป็นครั้งแรก
“ฉันคงกังวลมากเกินไปจริง ๆ ที่คิดว่าคุณจะถูกหลอก! ดูเหมือนว่าเป็นฉันเองมากกว่าที่กำลังหลอกตัวเองอยู่” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะได้ยินเสียงของจางลี่เฉินดังขึ้นมา “แมดดี้ ขับเข้าไปในป่า! ผมมีสิ่งที่ต้องทำ!”