“ลูกพี่เสี่ยว ฉันอยากได้พื้นที่ในเมืองเฉิงฉุย ถ้าพี่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ในเมืองเทียนหลง เมืองเฉิงฉุยก็ดูที่จะมีความเป็นไปได้มากกว่า”

 

เฉียนโตวโตวว่า

 

“เราสามารถขยายสาขาได้ เมื่อเราได้รับเงินมากพอนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ภารกิจทุกเมืองดังนั้นเมื่อพื้นที่ภารกิจของเมืองเทียนหลงเปิดขึ้นมันก็จะได้รับความนิยมด้วย” เสี่ยวเฟิงส่ายหัวแล้วว่า

 

“ใช่ เราแค่ต้องการเนื้อหาของภารกิจพิเศษในเมืองเทียนหลงเท่านั้น แค่นี้เราก็มีโอกาสมากขึ้นแล้ว”

 

“ดูจากวามสามารถแล้ว แค่โซนเลเวล 15 ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่หรอกมั้ง?”

 

พี่น้องนิโคลัสเสริม

 

“ไม่เป็นไรเรื่องโฆษณาไม่ต้องเป็นห่วง เราต้องการเวลาสำหรับการทำงานของ npc ซักวัน และเราเลือกสถานที่แห่งนี้ต่อหน้าเราซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของพื้นที่การค้าของเมืองเทียนหลง แต่ตอนนี้มีปัญหาสองอย่าง” เฉียนโตวโตวพยักหน้าแล้วพูดกับเสี่ยวเฟิง

 

“ปัญหาอะไร?” เสี่ยวเฟิงถามทันที

 

“อย่างแรกเลย เราต้องรีบทำการขสยสินค้าด่วนๆเลย และปริมาณก็มากพอสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเช่นน้ำยาเพิ่มพลังระดับสูง เมืองหลักขายแค่ยาเพิ่มพลังชีวิตระดับกลางที่ฟื้นฟูครั้ง 20 เท่านั้น เท่าที่ฉันรู้กิลด์ขนาดใหญ่จำนวนมากหรือพวกผู้เล่นบางคนก็สามารถทำยาฟื้นฟูพลังชีวิตครั้งละ 30 ได้ ยาพลังชีวิตระดับสูง ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ร้านค้าพวกเขาเริ่มขายยาชีวิตระดับสูงมันเป็นการขายระยะสั้น แต่เราก็ไม่มีข้อมูลนี้ ทำให้เราไม่สามารถเทียบพวกพ่อค้ารายใหญ่ๆได้เลย” เฉียนโตวโตวพูดอย่างจนหนทาง

 

“อ่า นั่นก็เป็นปัญหา?” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า เขาคิดว่าเฉียนโตวโตวมีประสบการณืทางธุรกิจอย่างมาก

 

“อีกอย่างถ้าเราต้องการที่จะมีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน เราต้องการงานประมูลที่จะทำให้ทั่วทั้งหัวเซียต้องสั่นสะเทือนด้วย ถึงแม้ว่าการที่พี่โฆษณานั้นจะดีอยู่แล้ว มันก็ยังไม่มากพอ หอการค้าต้องแสดงพลังให้กับในหมู่ผู้เล่นดังนั้นการประมูลจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ”

 

“อืม มีเหตุผลดีเหมือนกัน” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า

 

“ลูกพี่เสี่ยว เพื่อความคึกคักของการประมูลครั้งนี้ เราต้องการผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์บางอย่างเช่นอุปกรณ์อมตะที่อยู่กับพี่” เฉียนโตวโตวเหลือบมองไปที่หูของเซี่ยวเฟิงและพบต่างหูสีดำและสีขาว

 

เสี่ยวเฟิงเปลี่ยนสีหน้าทันที ส่วนพี่น้องนิโคลัสก็ตกใจกับสิ่งที่เธอพูด

 

“อีผู้หญิงหน้าเงิน นี่หน้ามืดตามัวไปหมดแล้วรึไงและตอนนี้ยังจะเอาของล้ำค่าของพี่เสี่ยวไปอีก ถ้ามีมากกว่านี้ไม่ขายพี่เขาไปเลยล่ะ”

 

“ท่าเป็นชื่อเสียงของพี่เสี่ยวก็น่าสนอยู่นะ” เฉียนโตวโตวบ่นกับตัวเอง แต่ทำให้สีหน้าของเสี่ยวเฟิงดุดันยิ่งกว่าเดิมอีก

 

“แน่นอนว่าไม่เอาไปขายหรอกแค่ทำให้คนทึ่งก็พอแล้ว ลองคิดดูถ้ามีอุปกรณ์ระดับอมตะเพียงชิ้นเดียวในการประมูล จะมีคนที่สนใจการประมูลครั้งนี้มากขนาดไหน” เฉียนโตวโตวว่าทันที

 

“ถึงจะฟังสมเหตุสมผล แต่สำหรับพี่เสี่ยวนี่ไม่ขำเลยนะ” เจ๋าซือพูดอย่างสับสน

 

“โอ้พระเจ้าทำไมถึงได้โง่แบบนี้เนี่ย มันก็แค่การแสดงน่า มันจำเป็นนะ แค่แกล้งทำเป็นปั้นราคานิดๆหน่อยๆก็ไม่ต้องจ่ายจริงๆก็ได้ จะเอาราคาเท่าไหร่ก็ได้ยังกลัวว่าจะกลายไปเป็นของคนอื่นอีกเหรอ?” เฉียนโตวโตวพูดด้วยความผิดหวัง

 

“นั่นก็สมเหตุสมผลอยู่นะ แต่มันอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของการประมูล เพราะจะไม่มีใครได้มันอยู่ดีนะ” เสี่ยวเฟิงลองคิดในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

 

“หรืออีกอย่างถ้าจะไม่เอาแบบนั้น ก็แค่หาอุปกรณ์ระดับอมตะมาอีกอันก็พอแล้ว” เฉียนโตวโตวว่าแล้วก็ยักไหล่.

 

“คิดว่ามันหาได้ง่ายๆรีไง?” เสี่ยวเฟิงอดไม่ได้ที่จะแขวะเธอ

 

“โอเค ฉันจะเก็บไปคิดให้ ไปจัดการเรื่องต่างๆได้เลย เจอกันวันพรุ่งนี้นะ” เสี่ยวเฟิงโบกมือลาราวกับบอกว่าหมดธุระแล้ว จากนั้นเขาก็เดินออกจากย่านการค้าไปทางวิหารแห่งแสง เนื่องจากอาร์คบิชอปไคเซอร์กำลังรอเขาอยู่

 

“ตอนนี้ท่านอาร์คบิชอปกำลังรออยู่ที่วิหารหลักแล้ว”

 

อาจเป็นเพราะเสี่ยวเฟิงบอกกัยคนในสตรีมของเขาว่าจะมีภารกิจในวิหารแห่งแสง ตอนนี้ผู้เล่นหลายคนกำลังอยู่ในพระวิหารและมีอาชีพอื่นนอกเหนือจากนักบวชด้วย

 

เสี่ยวเฟิงปลอมตัวอยู่ทำให้ไม่มีใครทักเขาซักคน และพบผู้นำทางที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องโถงและถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เล่นจำนวนมาก

 

ผู้นำทางมองมาทางเสี่ยวเฟิงแล้วก็พูดกับเขาโดยไม่ได้เดินเข้ามาเพราะตอนนี้เขายุ่งมาก

 

เสี่ยวเฟิงโบกมือ เขารู้สถานการณ์แล้วก็รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน เขาเลยไม่ยุ่งกับอีกฝ่ายอีก

 

“นั่นใครน่ะ? ทำไมผู้นำทางต้องสุภาพกับเขาด้วย?”

 

“ฉันก็ไม่รู้ npc ล่ะมั้ง เขาเข้ามาที่วิหารหลัก ที่ๆผู้เล่นไม่สามารถเข้ามาได้”

 

….

 

ไคเซอร์เดินไปมาอยู่ในวิหารด้วยความกังวล ทันทีที่เขาเห็นเสี่ยวเฟิงเดินเข้ามาหา เขาก็ทักฝ่ายตรงข้ามก่อนทันที

 

“ท่านอาร์คบิชอป อยู่ที่นี่เอง”

 

“ทำไมถึงดูกังวลนักครับ?” เสี่ยวเฟิงถามด้วยความสงสัย

 

“กัปตันโบลตันไม่กลับมาหลังจากที่ทำภารกิจไล่ล่าลิชในเขตป่า Muguang ซะที และฉันได้รับข้อความแสดงความช่วยเหลือจากใครบางคนที่ส่งมาเมื่อวาน ฉันกังวลว่าอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา” ไคเซอร์พูดด้วยความกังวลอย่างชัดเจน

 

“งั้นทำไมถึงไม่ส่งความช่วยเหลือไปล่ะ?” เสี่ยวเฟิงถาม

 

“คนที่กัปตันส่งมาเป็นนักผจญภัย ข้อความของสถานที่ส่งโดยเขายังไม่ชัดเจน และอัศวินทั้งหมดถูกส่งไปโดยกัปตันโบลตัน นั้นก็ยังหาไม่เจอเลย” ไคเซอร์นั้นดูเครียดมาก

 

“ชื่อของเขาคืออะไรพอจะรู้ไหม”

 

เสี่ยวเฟิงมั่นใจมากว่าไม่มีทางที่จะจำชื่อคนไม่ได้แน่ๆ เขาเลยถามออกไป มันอาจจะเป็นเหตุที่ไคเซอร์กำลังประสบปัญหาก็ได้ เพราะด้วยความที่เป็น npc พวกเขาไม่สามารถติดตามผู้เล่นที่เฉพาะเจาะจงได้

 

“ชื่อของเขาคือเฉียงกวนเอาเฉินตอนนี้เราต้องออกไปตามหาเขาให้เร็วที่สุด” อาร์คบิชอปไคเซอร์ว่า

 

“เฉียงกวนเอาเฉิน?”

 

เสี่ยวเฟิงรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้มาก เขาค่อยๆนึกหน้าแต่ละคนที่เขารู้จัก ในตอนที่เขาพาเฉียนโตวโตวและสองนิโคลัสไปทำภารกิจในเขตพิเศษ

 

เสี่ยวเฟิงเปิดรายชื่อเพื่อนแล้วค้นหาชื่อที่เขาได้ยินมาในทันที

 

“ไม่สามารถติดต่อคนที่ระบุได้”

 

นั่นทำให้เสี่ยวเฟิงนั้นหัวเสียมาก ไอ้เด็กเวรนั่นมันน่าเตะจริงๆ

 

หลังจากออกมาจาากวิหารแห่งแสง เสี่ยวเฟิงจึงเรียกพี่น้องนิโคลัสมาคุยเรื่องของเพื่อนที่พวกเขาชวนมาเล่นเกมด้วยกัน

 

“ไอ้หมอนั่น่ะเหรอ? ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ มีอะไรอยากคุยรึไง?” เจ๋าซือถามออกมาอย่างแปลกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสนใจคนรู้จักของเขา

 

“มีธุระนิดหน่อยแต่ติดต่อเองไม่ได้” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างอับจนหนทาง

 

“ก็ติดต่อไปทางระบบเพื่อนสิ อ้อ ไอ้หอกหักนั่นมันปิดระบบนี้สินะ ดูท่าต้องไปสั่งสอนซะหน่อยแล้ว” เจ๋าซือนั้นสาปส่งคนที่สร้างปัญหาให้เขาอยู่แป๊บนึง

 

“แนใจนะว่าเขาอยู่ในเมืองเทียนหลง? หรือจะใช้วิธีเรียกในเมืองล่ะ?” เตียจูแนะนำ

 

“เรียกจากภายในเมือง?” เสี่ยวเฟิงไม่เคยได้ยินฟังก์ชั่นนั้นมาก่อน มันเหมือนการเป่าแตรเรียกอย่างงั้นน่ะเหรอ?

 

“ใช่จะมี npc อยู่ที่หน้าทางเข้าของเมือง พี่สามารถฝากให้เขาประกาศอะไรให้ก็ได้ แต่ค่าบริการนี่ก็สูงเอาเรื่องอยู่ คนที่อยู่ในเมืองนี้จะได้ยินคำประกาศ แต่ท้าเขาออกไปด้านนอกเมืองก็จะไม่ได้ยินอยู่ดี you need ten and only those near the main city could hear you. If they go out to do the task or run away, they can’t hear you. And there is a similar function at the bulletin of the main city, you can make one written notice with one coin, and the affected area is still near the main city.” เตียจูว่า

 

“ไม่ยักกะรู้แหะว่ามีระบบแบบนั้นอยู่ด้วย งั้นคงต้องใช้แล้วล่ะ” เสี่ยวเฟิงคิดอยู่นานแต่ก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ เพราะเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่แล้ว

 

“โอเค พวกเราจะรออยู่ที่ประตูทางด้านตะวันออก พอดีว่ายัยหน้าเงินนั้นไม่ต้องการให้พวกเราช่วยเหลือ” เตียจูพูดทันที

 

“งั้นเจอกัน”

 

เสี่ยวเฟิงวางสายแล้วก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของเมือง

 

พวกนิโคลัสมาถึงประตูตะวันออกก่อน เสี่ยวเฟิงแปลกใจที่เฉียนโตวโตวไม่ได้ตามมทั้ง 2 คนมาด้วย

 

“เงินไม่ต้องหรอก ยินดีทำให้ฟรีๆอยู่แล้ว!”

 

เขาพบกับ npc อย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่เก็บเงินเสี่ยวเฟิงซักเหรียญทำให้นิโคลัสทั้ง 2 นั้นอิจฉามาก

 

เสี่ยวเฟิงตกลงในทันที เขารู้สึกดีมากที่ไม่ต้องเสียเงิน ตั้งแต่ที่ราคาของ 10 เหรียญเท่ากับ 1,000 หยวนดังนั้นผู้เล่นที่รวยๆเท่านั้นจึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้

 

“ประกาศถึงคนในเมือง: เฉียงกวนเอาเฉินไปพบกับ xxx ที่ประตูตะวันออกของเมืองเทียนหลงด้วย”

 

คำประกาศถูกบอกออกไปในทันที ถึงระบบประกาศจากเมืองหลักซึ่งสะดวกมาก แต่ชื่อของเสี่ยวเฟิงก็ยังโดนปิดอยู่ดี

 

“โหว ระบบประกาศงั้นเหรอ! ใครมันรวยขนาดนั้นนะ!”

 

“ได้ยินชื่อนั้นไหมล่ะ? นั่นต้องเป็นยอดฝีมือแห่งการรักษาแน่ๆ! เขาคงมีเงินใช้แบบไม่จำกัดเลยล่ะมั้ง?”

 

“ใครคือเฉียงกวนเอาเฉินที่ทำให้ยอดฝีมือแห่งการรักษาต้องเรียตัวเขากันนะ?”

 

“ก็ไม่รู้เหมือนกัน ยอดฝีมือเหมือนกันรึเปล่า? ชื่อก็เหมือนผู้หญิงด้วยนะ”

 

เหล่าคนที่ได้ยินการประกาศนั้นต่างพูดกันด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประตูตะวันออก

 

แต่ผ่านไป 10 นาทีแล้วคนที่พวกเขาอยากเจอนั้นก็ไม่ปรากฎตัวเสียที