ตาเฒ่าซูเดินมาข้างหน้าลู่ฝาน เอาสองมือไพล่หลัง มองลู่ฝานด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง แล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายก็ได้ยินแล้ว ฉันจะไม่จงใจหาเรื่องนาย แต่ถ้าแม้แต่งานจุกจิก นายยังทำได้ไม่ดี อย่ามาหาว่าคนในเจดีย์ยาอย่างพวกเราไล่นายออกไปก็แล้วกัน ฉันรู้ว่านายเป็นใคร นายไปก่อเรื่องอะไรไว้อีก ถึงมาหลบในเจดีย์ยาของเรา แต่ฉันจะบอกนายไว้ว่า อยู่ที่นี่นายจะเจอปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า”

ลู่ฝานยกยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “คุณนี่รู้ทุกอย่างเลยเหรอ”

ตาเฒ่าซูพูดว่า “ฉันต้องรู้สิ ถือโอกาสบอกนายเลยแล้วกัน เว่ยซูจิ้งเป็นหลานสาวฉัน ไอ้หนุ่มนายซวยแล้ว”

ลู่ฝานเข้าใจทันที ที่แท้ก็ความแค้นส่วนตัวนี่เอง!

ตาเฒ่าซูส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วเดินออกไปด้านนอก พูดโดยไม่หันหน้ามา “ตามฉันมา”

ลู่ฝานยิ้มแหยแล้วเดินตามไป ส่วนสิบสามกวาดตามองกำแพงสองสามครั้ง แล้วเดินตามออกไป

ตาเฒ่าซูเดินเร็วมาก ราวกับจงใจจะทิ้งลู่ฝานไว้ด้านหลัง

แต่ระหว่างที่สิบสามกับลู่ฝานเดินตามไป ก็ใช้วิชาไปด้วย ถ้าตาเฒ่าซูจะทิ้งเขาไว้ด้านหลัง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เดินตามตาเฒ่าซูมาบนบันไดเมฆอีกครั้ง ทั้งสามคนเดินขึ้นไปด้านบน

เดินประมาณเวลาหนึ่งก้านธูป ในที่สุดตาเฒ่าซูก็หยุดลง

สิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้า คือประตูเวิ้งว้าง สีดำขลับลึกลับหมุนวนไปมา

“เข้าไป!”

ตาเฒ่าซูพูดเสียงเย็นชา

ลู่ฝานมองตาเฒ่าซูแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้ขยับไปไหน

ตาเฒ่าซูหัวเราะพรืด แล้วพูดว่า “ฉันนึกว่านักบู๊จะกล้ามากเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะมีคนขี้ขลาดด้วย”

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “จวนอากาศธาตุ ถ้าไม่มีวิธีก็เปิดไม่ได้ ผมกำลังรอให้ผู้อาวุโสซูเปิดประตูอยู่ไงครับ อย่าบอกนะว่าผู้อาวุโสซูแก่จนเปิดประตูไม่เป็นแล้ว”

ตาเฒ่าซูโดนลู่ฝานโต้กลับจนสีหน้าเปลี่ยนไป

“นายก็ดูมีความรู้อยู่บ้างนะ”

ตาเฒ่าซูพูดอย่างราบเรียบ จากนั้นเดินเข้าไป กดมือข้างหนึ่งลงไปในสีดำที่หมุนวนไปมา

ต่อมา ความมืดปกคลุมพวกลู่ฝานทั้งสามคนเอาไว้

ทันใดนั้นโลกหมุนเคว้ง!

ครั้งนี้ลู่ฝานมีประสบการณ์แล้ว เขาใช้ปราณชี่ปกคลุมทั้งตัว ฝ่าเท้าเป็นสายลม ทันใดนั้นบรรยากาศรอบๆ เปลี่ยนไป ลู่ฝานลอยลงมาบนพื้นทันที ดูสง่างามเป็นอย่างมาก

สิบสามดูน่าเวทนามาก เกือบล้มลงมาบนพื้น สีหน้าพะอืดพะอม เหมือนจะอ้วกออกมา

สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือโกดังยาขนาดใหญ่

ชั้นวางยามากมาย วางเรียงรายจนสุดลูกหูลูกตา

กำแพงเก้าสี มีอักษรยันต์วาดอยู่เต็มไปหมด พื้นด้านล่างเท้า ก็มีอักษรยันต์เคลื่อนไหวอยู่

เพิ่งเข้ามาที่นี่ ลู่ฝานรู้สึกว่าค่ายกลนับไม่ถ้วนปกคลุมซ้อนทับอยู่บนตัวเขา เชื่อเลยว่าถ้าเขาทำสิ่งไม่ดีที่นี่ ต้องโดนค่ายกลระเบิดจนแหลกเป็นจุณแน่นอน

ฝั่งซ้ายติดกำแพง ยังมีสมุนไพรกองเล็กๆ อยู่ด้วย

พูดว่ากองเล็กๆ เพราะเทียบกับชั้นวางยาที่สูงหลายเมตร อันที่จริงก็สูงประมาณเขาเล็กๆ ผู้ฝึกชี่อายุน้อยสองสามคน กำลังแยกประเภทสมุนไพรอยู่

ตาเฒ่าซูชี้สมุนไพรกองนั้นแล้วพูดว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป งานของนายคือแยกชนิดของสมุนไพรพวกนั้นและวางให้เรียบร้อยชั่วคราวไปก่อน อย่าคิดจะขโมย สมุนไพรทุกต้นเราได้ผ่านการลงอักษรยันต์แล้ว แค่นายกล้าเอาออกไปจากโกดังยา ถึงแม้เป็นแค่เศษยา นายจะได้ตายอย่างทุเรศทุรัง แม้ฉันไม่ชอบนาย แต่ถ้านายตายในเจดีย์ยา ก็เป็นเรื่องที่วุ่นวาย!”

ลู่ฝานมองสมุนไพรกองนั้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ครับ”

ตาเฒ่าซูเห็นลู่ฝานไม่มีสีหน้าลำบากใจ อีกทั้งยังมีรอยยิ้มเต็มหน้า เขาดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด