Ch.68 – สงสัยว่ามีคนแอบตาม
Translator : Reheikichi / Author
วันรุ่งขึ้น หลังจากการช่วยพวกซิคจากเขาวงกต ‘วังวนสุสานกษัตริย์’
มิเซ่ โฮเนสออกจากห้องเรียนก่อนเวลาเล็กน้อย ซึ่งเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว
[ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ต้องขอตัวก่อน ]
[ ไปทำอะไรเหรอ? ]
โดยปกติแล้วทั้งสี่คน กุเร็น เอลิเซีย มิเซ่และทรูเอทจะต้องกลับบ้านด้วยกัน
เอลิเซียจึงถามมิเซ่ที่จะกลับไปก่อนคนเดียว
[ พวกเครื่องปรุงรสในห้องเริ่มจะหมดแล้วนะคะ เลยคิดจะไปซื้อในเมืองสักหน่อย… ]
[ มาคิดดูแล้ว มิเซ่ก็ทำอาหารมากินเองนี่นะ… เข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้เจอกัน ]
[ ค่ะ พรุ่งนี้ไว้เจอกัน ]
มิเซ่บอกกับเอลิเซียและกุเร็นจากนั้นก็แยกกับทั้งสองคนที่ห้องเรียน
ทันทีก่อนที่จะเดินผ่านประตูห้องเรียนก็เจอเข้ากับทรูเอทโดยบังเอิญ
――เท่านี้คุณก็แอบตามฉันไม่ได้แล้ว
ไม่คาดคิดเลย
ไม่สิ ต้องใช่แน่ หากการคาดการณ์ของฉันถูกต้อง เขาก็ไม่น่าจะแอบตามฉันไปได้
――เพราะทรูเอทแอบคุ้มกันเธออยู่รึไม่?
เมื่อวันก่อนมิเซ่เกิดสงสัยขึ้นมา
เดิมทีก็คิดว่าน่าสงสัยมานานแล้ว พักนี้ในตอนเที่ยงจะมีหลายครั้งที่ทรูเอทมาที่ลานสนามหญ้าช้า โดยเวลาคือทุกๆ สามวัน กุเร็นกับเอลิเซียไม่รู้ตัว แต่เมื่อเห็นทรูเอทมาสาย มิเซ่จะมองสังเกตตัวของทรูเอทซึ่งพบว่าเสื้อผ้าเลอะกว่าปกติและยังมีทรายที่หลังรองเท้า คิดได้อย่างเดียวว่าเขาออกไปที่ไหนสักแห่งข้างนอกโรงเรียน
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวกลับอ้างว่า [ ไปห้องสมุดมา ]
มันเป็นเรื่องจริงที่ทรูเอทชอบอ่านหนังสือ แต่เขาก็ไม่น่าจะไปห้องสมุดบ่อยขนาดนี้
วันหนึ่งที่เขาตอบว่า [ ไปห้องสมุดมา ]
มิเซ่จึงไปถามกับพนักงานห้องสมุดและบอกลักษณะของทรูเอทไป เธอถามว่า [ มีคนลักษณะอย่างที่ว่ามาที่ห้องสมุดหรือไม่ ]
คำตอบคือ―― ไม่มี
เรื่องที่ทรูเอทไปที่ห้องสมุดจึงสรุปในใจมิเซ่ได้ว่าเป็นเรื่องโกหก
เมื่อเห็นว่าทรูเอทโกหก มิเซ่จึงพยายามหาความจริงเรื่องของทรูเอททันที
อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นคนรอบคอบ สุดท้ายจึงจบลงด้วยการเฉไฉเปลี่ยนเรื่องได้
คำถามที่แสนคลุมครือ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย
และเหตุการณ์ในวันก่อนเกิดขึ้น
[ …เขาจะต้องปกปิดอะไรไว้แน่ ]
อาจเป็นเพราะเรื่องวันก่อน จากการเคลื่อนไหวของเขาทำให้มิเซ่สงสัยว่าเขาจะเป็นผู้คุ้มกัน
ซึ่งมิเซ่รู้อยู่แก่ใจว่าต้องมีใครสักคนคุ้มกันเธออยู่
เป็นเรื่องง่ายดายและคาดเดาได้ว่าเป็นคำสั่งจากใคร
――ถ้าคุณทรูเอทเป็นผู้คุ้มกันเขาจะต้องตามมาแน่
มิเซ่คิดเช่นนั้นและตัดสินใจทำตามแผนการ
เรื่องที่ว่าเครื่องปรุงรสใกล้หมดเป็นเพียงเรื่องโกหก จริงๆ แล้วคือการออกไปที่เมืองเพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนตามเธอมารึไม่
มิเซ่เดินผ่านประตูโรงเรียนและออกจากเมืองโดยหยิบกระจกมือใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ
ขณะที่แสร้งทำเป็นมองร้านแผงลอยและตรวจเช็คดูข้างหลัง
รู้สึกเหมือนจะมีคนตามมา
ดูแล้วไม่น่าใช่นักเรียน แต่ถ้าเป็นทรูเอทอาจจะปลอมตัวก็เป็นได้
ร่างคนที่แอบตามมาไม่หายไปแม้จะเดินไปสักพักแล้วก็ตาม
เขาจะต้องติดตามเธออยู่แน่ เมื่อมิเซ่มั่นใจก็เริ่มวิ่ง
[ ฮา ฮา ฮา…! ]
กระเป๋าในมือสั่นอย่างรุนแรง
มิเซ่เลี้ยวไปเส้นทางมุมหนึ่งขณะที่หายใจแรง
เมื่อหยุดที่นั่นและหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
ก็เจอกับคนที่กำลังไล่ตามเธออย่างสิ้นท่าแน่…
[ …เอ๊ะ? ]
ตรงกันข้ามกับที่คาดหวัง ไม่มีทรูเอทอยู่ตรงนั้น
เพราะเธอรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังตามจึงรีบวิ่งทันที…
[ สุดท้ายก็เพราะฉันคิดไปเอง… ? ]
คิดว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่ผู้คุ้มกันด้วยเหรอ?
แม้ว่าจะผิดหวังจากที่คาด แต่มิเซ่ก็สบายใจขึ้น
หากคาดเดาถูกต้องและทรูเอทคือคนคุ้มกัน ก็จะหมายความว่าเขารู้ตัวจริงของเธอ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากคบกันในฐานะเพื่อนต่อไป
ดูเหมือนความปรารถนาของเธอจะสำเร็จด้วยดี
ใช่ รู้สึกโล่งใจ――
[ ――อึ๊ก ]
ปวดหัว
ภายในหัว ความทรงจำจากปีที่แล้ว… ไม่สิ หลายสิบปีก่อน…
ความทรงจำช่วงก่อนที่ฉันจะเกิด
ที่ไม่น่าจะมีความทรงจำแบบนั้นได้ จะต้องเพ้อเจ้อหรือเพ้อฝันไปเองแน่ แต่ภาพในใจกลับชัดเจนมาก
เมืองโบราณที่สภาพเหมือนซากปรักหักพัง ที่ใจกลางเมืองมีใครบางคนกำลังถูกโจมตี โดยมีผู้คุ้มกันฝีมือดีอยู่ข้างกายและมือสังหารที่แต่งชุดคลุมสีดำ ความทรงจำนั้นคลุมเครือ―― จนไม่เข้าใจว่ามันเรื่องอะไร
[ …ปรากฏการณ์เดจาวูรึเปล่านะ ] (เห็นภาพอดีต)
มิเซ่พึมพำขณะที่มือข้างหนึ่งแตะหน้าผากเพราะปวดหัวมาก
พักนี้เธอรู้สึกเหมือนเห็นเรื่องประหลาด ก่อนหน้านี้ที่เอลิเซียบอกว่า [ อาจเพราะเคยอ่านมาจากในหนังสือก็ได้ ] และเธอก็แสร้งทำเป็นเชื่อ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ภาพที่เธอเห็นตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เคยอ่านมาจากในหนังสือ
เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ ไม่เข้าใจเลย
อาการปวดหัวไม่หายไป เพราะไม่สามารถล้มลงกลางถนนได้ มิเซ่จึงเลี้ยวที่ตรอกซอย
และในตอนนั้น――
[ อื๊――อ ]
จู่ๆ มิเซ่ก็โดนปิดปากโดยแขนที่ยื่นมาจากด้านข้าง
เป็นแขนหนาๆ ของผู้ชาย แขนนั้นดึงมิเซ่เข้าไปในตรอกซอยมืดๆ อย่างรวดเร็ว
[ ดีล่ะ… ในที่สุดก็จับตัวได้สักที ]
[ ในที่สุดก็มีโชคมาถึงสักที ]
ชายสองคนในชุดคลุมสีน้ำตาลแดงพูดด้วยรอยยิ้ม
มิเซ่บิดร่างกายเพื่อพยายามหนีจากชายคนนั้น
[ ป ปล่อยนะ! พวกคุณเป็นใคร―― ]
[ ――หุบปากซะ ]
กริซจ่อเข้าที่ของมิเซ่ที่พยายามจะกรีดร้อง
เหงื่อเย็นๆ จึงไหล่จนท่วมหน้าผากของมิเซ่
[ รีบถอยกันเร็ว ก่อนที่ผู้คุ้มกันจะรู้สึกตัว ]
ชายคนนั้นพยายามเคลื่อนไหวขณะที่ปิดปากมิเซ่
แต่วาในตอนนั้น――
[ ――ไม่ยอมปล่อยให้ไปหรอก ]
มิเซ่ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง