Ch.69 – เปิดเผยตัวตน

Translator : Reheikichi / Author

วันรุ่งขึ้น หลังจากการช่วยพวกซิคจากเขาวงกต ‘วังวนสุสานกษัตริย์’

 

[ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ต้องขอตัวก่อน ]

 

ผมและกุเร็นเห็นมิเซ่กลับก่อนเวลาเล็กน้อย

เธอบอกว่าจะไปซื้อเครื่องปรุงที่ในเมือง…

 

[ มิเซ่ทำมื้อเที่ยงมากินเอง … เป็นแม่ศรีเรือนดีแฮะ ]

 

ผมไม่สนใจที่กุเร็นพูดและเริ่มครุ่นคิด

ควรตามไปไหม ในฐานะผู้คุ้มกันก็ควรจะตามไป แต่… รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

ก่อนจะออกจากห้องเรียน มิเซ่มองมาที่ผมอยู่ครู่หนึ่ง

แววตาราวกับจะจับผิดผม

 

――รู้สึกตัวแล้วเหรอ?

 

ผมนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อน

ในเขาวงกต ‘วังวนสุสานกษัตริย์’ เพื่อช่วยพวกซิค ผมจึงต้องต่อสู้ต่อหน้ามิเซ่ เธอจึงเริ่มสงสัยว่าผมจะเป็น ‘ผู้คุ้มกัน’

ถ้าหากเธอจะหาวิธีเพื่อพิสูจน์ตัวจริงของผมก็ต้องระวังอย่าเต้นไปตามเธอ แม้มันจะไม่ใช่การคุ้มกันที่ดีที่จะปล่อยให้เธอไปคนเดียว

 

[ มีธุระด่วนนะ ขอกลับก่อนนะ]

[ เอ๊ะ? ทรูเอทด้วยเหรอ? ]

 

จากนั้นผมก็แยกกับเอลิเซียด้วยประโยคสั้นๆ

หากเธอไม่มีความระแวงใดๆ ก็คงจะแสร้งทำว่าเป็นเรื่องบังเอิญและเข้าใกล้มิเซ่ได้ แต่คราวนี้หยุดดีกว่า หลังจากนำเสื้อคลุมดำออกมาจากกระเป๋า ผมก็ถอนหายใจและเริ่มทำตามแผน

 

ตอนนี้มิเซ่กำลังเข้าไปในเมืองตามที่บอกกับพวกเรา

ขณะที่กำลังไล่ตามไป ผมก็หยิบ ‘กระดาษสื่อสาร’ ออกมาจากกระเป๋า

 

แบบนี้ผมคงคุ้มกันได้ไม่ดีนัก จึงขอความช่วยเหลือจากออสเพราะเป็นกรณีฉุกเฉิน

แต่ออส――

 

[ ออส…? ]

 

ไม่ว่าผมจะรอนานแค่ไหน ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากออสจาก ‘กระดาษสื่อสาร’

 

――หมายความว่ายังไง?

 

ติดต่อกับออสไม่ได้

ขณะที่อยู่ในภารกิจ ก็บอกออสไว้แล้วนี่ว่าให้ติดต่อกับผมให้มากที่สุด

 

เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น?

หรือออสไม่สามารถตอบกลับมาได้จริงๆ

 

…ผมไม่มีเวลามาคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น

 

อาจจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่ตอนนี้ผมต้องให้ความสำคัญกับมิเซ่ก่อน

ขณะที่ผมกำลังไล่ตาม เด็กผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าก็ ――เริ่มวิ่งทันที

 

――หลุดเส้นทางรึเปล่านะ?

 

ผมเริ่มวิ่งไล่ตามมิเซ่ที่จู่ๆ ก็เริ่มวิ่ง

แต่ว่าขณะที่วิ่งตาม ผมก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่เธอวิ่งขึ้นมา

 

――ไม่ นี่มัน

 

ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของคนที่หลุดเส้นทาง

แต่เป็นการตรวจสอบว่ามีคนแอบตามหรือไม่

 

มิเซ่เลี้ยวที่มุมขวาขณะที่วิ่ง

บางทีเธออาจจะดักรออยู่ที่มุมตรงนั้นแน่

 

ดังนั้นจะให้เป็นไปตามแผนของเธอไม่ได้

ผมหยุดไล่ตามมิเซ่ เลี้ยวเข้าที่มุมหนึ่งก่อนที่เธอจะเข้าไป

 

เพราะเป็นคนในราชวงศ์ถึงได้เรียนรู้วิธีการมารึเปล่านะ? เพราะมิเซ่วิ่งเร็วมาก

เมื่อผมเดินผ่านซอยด้านหลังที่มิเซ่กำลังดักรออยู่――

 

[ ปล่อยนะ! ]

 

ผมก็ได้ยินเสียงร้องของมิเซ่

 

[ ป ปล่อยนะ! พวกคุณเป็นใคร―― ]

[ ――หุบปากซะ ]

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงเบาๆ ของชายคนนั้นดังมา มิเซ่ก็หยุดพูดทันที

ดูเหมือนจะถูกจี้ด้วยมีดหรืออะไรบางอย่าง

ผมพลางคิดแผนการต่างๆ ขึ้นในใจ

มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเธอได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน?

เป็นไปได้ไหมว่าจะติดต่อออสที่ขาดการติดต่อให้มาที่นี่?

ทั้งที่ฉากตรงหน้าผมควรจะคิดอย่างใจเย็น แต่ในหัวกลับร้อนรนจนคิดอะไรไม่ออก

ขืนเป็นแบบนี้มิเซ่อาจจะถูกชายพวกนั้นทำร้ายก็ได้

ทันทีที่ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัว ผมก็เลิกคิดและพุ่งเข้าไปหามิเซ่

 

[ รีบถอยกันเร็ว ก่อนที่ผู้คุ้มกันจะรู้สึกตัว ]

[ ――ไม่ยอมปล่อยให้ไปหรอก ]

 

ต่อหน้ากลุ่มโจรและมิเซ่ ผมปรากฏตัวตรงหน้า

ใบหน้าถูกซ่อนไว้ด้วยผ้าคลุมสีดำ แต่มิเซ่น่าจะรู้ตัวจริงของผมได้ทันทีจากเสียง มิเซ่เบิกหน้ามองผมด้วยความแปลกใจ ขณะที่ผมหันไปมองศัตรูทั้งสอง

 

[ บัดซบ มันมาจนได้! ]

[ บ้าเอ้ย ไม่มีทางเลือก! ต้องฆ่า―― ]

 

ชายที่ถือมีดจี้คอมิเซ่อยู่ หยิบกริซอาบยาพิษเข้าไปใกล้เธอ

เพราะลังเลว่ากริซจะถูกใบหน้าเธอ ผมจึงขว้างบางอย่างใส่ข้อมือของชายคนนั้น

ทันทีหลังจากนั้นก็ใช้《กระสุนเวท》ยิงเข้าที่กลางหัวของชายอีกคนที่อยู่ข้างหลัง

 

――สบาย

 

ไม่ได้หมายความว่าจัดการศัตรูได้แบบสบาย

แต่เพราะแสดงตัวไปว่าเป็นผู้คุ้มกันของมิเซ่ไปแล้วจึงรู้สึกสบายใจต่างหาก

 

ตั้งแต่วันที่องค์กรถูกยุบและชีวิตประจำวันของผมดำเนินมา สิ่งสำคัญที่เป็นชีวิตประจำวันของผมก็อยู่ตรงหน้าเสมอ เบื่อหน่ายเต็มทีแล้วกับการแอบซ่อน ระวังตัวเพื่อไม่ให้ใครจับได้ เบื่อที่จะเมินเฉยต่อสถานการณ์ขององค์กรแล้ว

 

ปล่อยให้ตัวเองไปความรู้สึก

อยากจะปกป้อง อยากจะต่อสู้เพื่อสิ่งสำคัญ

 

[ คุณทรูเอท… เหรอคะ? ]

 

หลังจากนั้นก็ฆ่าชายคนที่สองได้อย่างไม่ยากเย็น

มิเซ่ถามด้วยเสียงสั่น

ผมยกถอดเสื้อคลุมดำและตอบออกไป

 

[ ――ใช่แล้ว ]