ขณะที่จางลี่เฉินกำลังสูดอากาศเข้าอยู่นั้น พื้นที่ที่เมานท์โทดนั่งอยู่เกิดการบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย จากนั้นเมล็ดคล้ายดอกไม้บนหลังของมันก็เปล่งสีเหลืองและน้ำเงินจาง ๆ ออกมาอย่างแผ่วเบา ทีละน้อย ๆ ชายหนุ่มดูดเมล็ดที่คล้ายก้อนกรวดเข้าไปผ่านทางรูจมูกและปาก
เมื่อก้อนกรวดเข้าปากไป รสขมที่สัมผัสได้ก็พุ่งขึ้นอย่างโดดชัดในทันที อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทนรสขม ๆ นี้ได้ราวกับว่ามันไร้รสชาติขณะที่เขาเริ่มปรับลมหายใจอย่างช้า ๆ และมั่นคง
หลังจากนั้นไม่นาน นอกเหนือจากความขมที่โดดขึ้นมา ชายหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อนและบวมขึ้น เขาลืมตาแล้วหันไปมองเมานท์โทดที่ค่อย ๆ ตัวเล็กลง หลังจากใช้เวลาอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าไม่ใช่เพราะสัตว์อาคมของเขาที่ตัวเล็กลงแต่เป็นตัวของเขาเองต่างหากที่ใหญ่โตขึ้น กล้ามเนื้อในร่างกายของเขาเริ่มโป่งนูนเมื่อเลือดภายในตัวสูงขึ้น
สองนาทีต่อมาชายหนุ่มได้กลายเป็นชายร่างใหญ่ที่มีความสูงเกือบ 3 เมตรและมีกล้ามเนื้อเหมือนเหล็กปกคลุมไปทั่วร่าง หัวของเขาเกือบจะจรดเพดานของสำนักงานอยู่แล้วในขณะนี้
จางลี่เฉินเริ่มวิตก แต่โชคดีที่ร่างของเขาเริ่มหดตัวลงเหมือนลูกบอลลูนที่ถูกปล่อยลมออกก่อนจะกลายมาเป็นขนาดเท่าดินสอ
กระบวนการที่ทั้งแปลกและลึกลับในการขยายและหดตัวเช่นนี้ถูกกระทำซ้ำอย่างต่อเนื่องจนเขาเริ่มเวียนหัว เมื่อเสียงสูดดมของชายหนุ่มเริ่มลึกขึ้น ก้อนกรวดที่ลอยออกมาจากร่างของเมานท์โทดก็เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและความเร็ว พวกมันพุ่งเข้าสู่ร่างกายของจางลี่เฉินผ่านทางปากและจมูกไม่หยุด
ร่างของสัตว์อาคมค่อย ๆ พร่ามัวจนรูปร่างเริ่มไม่ชัดเจนและยากที่จะมองเห็น ในที่สุด เมื่อร่างของจางลี่เฉินขยายตัวและย่อตัวเป็นครั้งที่หกเสร็จ เมานท์โทดที่กลายเป็นร่างโปร่งใสกลายเป็นก้อนกรวดเม็ดละเอียดที่หายไปในอากาศก่อนที่ผู้เป็นนายของมันจะดูดมันเข้าไปในท้องของเขา
เมื่อถึงเวลาที่ก้อนกรวดสุดท้ายเข้าไปในปากของจางลี่เฉิน ขนาดร่างกายของเขาก็กลับกลายเป็นขนาดปกติเหมือนเดิม ไม่ใช่ขนาดที่สูงกว่าหรือเล็กกว่าที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดเมื่อครู่นี้
หากมองจากความสุขที่เขาได้รับผ่านทางสายตาในตอนนี้ มันเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นหลังได้รับการเสียสละของเมานท์โทด
“นี่สินะคือความรู้สึกของร่างกายเมื่อเต็มไปด้วยพลังหลังผ่านการเปลี่ยนแปลง” ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกำมือแน่น เขาพบว่าในขณะที่กำปั้นของเขากำแน่นและคลายออกนั้น เกล็ดสี่เหลี่ยมที่มีทรงกลมสอดแทรกอยู่ด้านในจะสามารถมองเห็นได้ราง ๆ ที่มือของเขา
เขาใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือของตัวเองไปวางไว้บนโต๊ะไม้เนื้อแข็งที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้ เขาต้องการยกมันขึ้นเพื่อวัดกำลังแต่มันกลับทำให้เขาต้องประหลาดใจที่เขาสามารถบิ่นโต๊ะไม้หนาและแข็งแรงนี้ไปได้แทน
จางลี่เฉินตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งก่อนจะบดแท่งไม้เล็ก ๆ ระหว่างนิ้วมือของเขาจนเป็นฝุ่นไม้
“ฉากแบบนี้สามารถเห็นได้จนชินตาในภาพยนตร์ไซไฟของอเมริกาส่วนใหญ่ที่ฮีโร่ซึ่งเป็นตัวละครหลักเพิ่งได้รับความแข็งแกร่งมาจะไม่สามารถควบคุมพลังของพวกเขาได้ดีเท่าที่ควร ดูเหมือนว่าพลังการเปลี่ยนแปลงที่เราได้รับจะไม่สามารถใช้อย่างที่ชอบได้ในทันที ต้องฝึกฝนเพื่อให้เข้าใจแก่นแท้ของพลัง อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของอนาคต สำหรับตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทักษะทางจิตวิญญาณ…” เมื่อจางลี่เฉินพูดพึมพำกับตัวเองเสร็จ เขาก็เดินออกจากออฟฟิศเพื่อเดินไปยังพื้นที่เปิดโล่งของโรงงานในทันที
หลังการเปลี่ยนแปลงของเมานท์โทดทำให้ตอนนี้จางลี่เฉินเหลือสัตว์อาคมอยู่แค่เพียงสามตัว เกาะมังกรและคิวโกะยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ชายหนุ่มวางแผนที่จะให้พวกมันซ่อนตัวอยู่ในท่อเก็บซากสัตว์ใต้ดินในโรงงานเพื่ออาบมหาสมุทรเลือดไปจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในกรณีนี้จึงเหลือแค่เพียงโครโคดราก้อนเท่านั้นที่ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แน่นอนว่าจางลี่เฉินจะใช้มันเพื่อทดสอบระดับทักษะทางจิตวิญญาณ
มันเป็นคืนที่ข้างนอกมืดมิดมากและมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็น อย่างไรก็ตามในเวลานี้ชายหนุ่มกลับรู้สึกแค่ว่ามันเป็นเพียงอากาศเย็นสดชื่นราวกับว่าเขาไม่รู้สึกหนาวอะไร
ยังไม่ทันได้ปรับให้เข้ากับพลังในปัจจุบัน เขาเผลอไปได้ยินบทสนทนาระหว่างเกษตรกรที่ทำงานช่วงกลางดึกและเจ้าหน้าที่โรงฆ่าสัตว์เกี่ยวกับพายุเฮอริเคนในทะเลที่เกิดขึ้นในความมืดห่างออกจากฝั่งไปหลายร้อยเมตร จางลี่เฉินละความสนใจจากบทสนทนาดังกล่าวเพื่อเดินไปขึ้นรถของตัวเองและขับออกไปที่ประตูของโรงงาน
ประตูจะมีการเปิดอยู่ตลอดเพื่อให้รถขนสัตว์สามารถเข้าและออกจากโรงฆ่าสัตว์ภายใต้การเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงได้ ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 9 คนที่แบ่งเป็น 3 กะ
แน่นอนว่าพนักงานของโรงฆ่าสัตว์ LS แห่งใหม่นี้รู้จักรถของจางลี่เฉินกันทุกคน เมื่อเขากำลังขับผ่านไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนที่กำลังเฝ้าเวรอยู่ก็ลุกขึ้นยืนทำความเคารพในทันที หัวหน้าทีมตะโกน “เซอร์! ยังไม่ได้เปิดไฟหน้ารถเลยครับ!”
“ขอบใจมาก!” ชายหนุ่มรู้ดีกว่าเขาไม่ได้เปิดไฟหน้ารถหลังจากขับออกมา แน่นอนว่าด้วยวิสัยทัศน์ปัจจุบันของเขามันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเขาแต่อย่างใด แต่มันอาจดูแปลกสำหรับคนอื่น ๆ หากมีความแปลกประหลาดเกิดขึ้นและเริ่มสะสมสิ่งผิดปกติไปเรื่อย ๆ มันอาจทำให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้นในอนาคตได้
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องคอยระมัดระวังอย่างมากไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามในช่วงต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้…” จางลี่เฉินพึมพำกับตัวเองขณะขับรถไปบนถนนทางหลวง หลังจากขับรถไปได้ครู่หนึ่งเขาก็หันรถเข้าไปในเขตพื้นที่ป่ากว้างและรีบไปที่ชายหาด
ท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบฝั่ง จางลี่เฉินปิดไฟหน้ารถแล้วลดระดับกระจกหน้าต่างลง จ้องมองไปยังผิวน้ำทะเลระยะไกลจากนั้นก็ออกคำสั่งถึงสัตว์อาคมโดยไร้เสียง
ไม่นาน ละอองหมอกเล็ก ๆ ก็ลอยขึ้นจากทะเลมาอยู่ข้างรถ หลังจากนั้นมังกรเขียวขนาดจิ๋วตัวบางเท่าตะเกียบที่มีความยาว 20 เซนติเมตรก็พุ่งผ่านกลุ่มหมอกและเข้าไปในรถผ่านทางหน้าต่าง วนตัวไปมาขณะอยู่ที่ด้านหน้าของชายหนุ่ม
“36 ครั้ง การหดตัวของสัตว์ตัวนี้จะต้องเป็นอัตราส่วน 1:36 ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าเราไม่จดจ่อหรือมีสติมากพอเราจะไม่สามารถรับรู้ถึงพลังของพ่อมดได้เลย … ” จางลี่เฉินจ้องมองเวิร์มดราก้อนที่กำลังหมุนวนอยู่ในอากาศขณะที่เขาพึมพำด้วยความดีใจ หลังจากสัมผัสสัตว์อาคมอยู่ 2 – 3 ครั้งเขาก็ปล่อยให้มันออกไปข้างนอกทางหน้าต่างรถ
หลังจากออกจากรถไปแล้วเวิร์มดราก้อนที่ดูเหมือนงูของเล่นก็เริ่มขยายตัวท่ามกลางสายลมภายใต้คำสั่งของผู้เป็นนาย เมื่อมันพองตัวเป็นเกลียว ร่างกายของมันกลับกลายเป็นความยาวที่มากกว่า 10 เมตรลอยตัวอยู่ข้างทะเล
ภายใต้กลุ่มหมอกหนา จางลี่เฉินเปิดประตูรถและถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกก่อนจะทิ้งทุกอย่างไว้ในรถ หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้เวิร์มดราก้อนเข้ามาหาเขาด้วยร่างกายที่บิดตัวไปมา ทั้งหัวและหางของมันต่างกำลังเคลื่อนไหว
เมื่อมองมังกรที่เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ตรงเท้า เขาลูบไล้เกล็ดสีเขียวของมันเบา ๆ ชายหนุ่มที่มักเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวังและพิถีพิถันได้ระเบิดความตื่นเต้นอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ”เราจะขี่มังกรวันนี้และมุ่งหน้าไปสู่ขอบฟ้าพรุ่งนี้เช้า วันนี้…เราจะได้ขี่มัน…ฮ่า ๆ…”
ที่ด้านหน้าของทะเลมืดที่ทอดยาวไกลออกไปเท่าที่ดวงตาจะมองเห็นได้ ที่ซึ่งคลื่นสีเขียวดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับท้องฟ้า เขาท่องบทกวีโบราณด้วยเสียงที่ดังก้องก่อนจะขึ้นขี่มังกรและบินลอยขึ้นไป จากนั้นก็ซ่อนตัวเองลงไปในมหาสมุทรผืนใหญ่
น้ำทะเลเย็น ๆ ที่กำลังปกคลุมร่างเปลือยเปล่าของจางลี่เฉินทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
ในขณะที่เวิร์มดราก้อนเคลื่อนไหวร่างกายในทะเล ชายหนุ่มก็ตระหนักได้ว่าเขาสามารถหายใจในน้ำได้ ไม่เพียงเท่านั้น ช่วงเวลาการหายใจใต้น้ำของเขายังใช้เวลาได้นานกว่า 10 นาทีเสียด้วย
30 นาทีต่อมา เมื่อรู้สึกว่าเขาอยู่ห่างจากฝั่งมากพอสมควร จางลี่เฉินขี่เวิร์มดราก้อนและพุ่งลงไปใต้มหาสมุทรที่มีความลึกหลายร้อยเมตร
ทะเลลึกเป็นสีดำสนิทที่ซึ่งแสงจากเบื้องบนไม่อาจส่องถึง โดยใช้ทักษะทางจิตวิญญาณ ชายหนุ่มสั่งให้สัตว์อาคมขยายตัวออกโดยไร้ซึ่งการบังคับขนาด ในเวลาไม่นาน เวิร์มดราก้อนก็กลายร่างเป็นมังกรสูงตระหง่านขนาดยักษ์ที่ยาวเกือบพันฟุตตั้งแต่หัวจนถึงหาง มันทำให้เกิดกระแสน้ำวนจำนวนนับไม่ถ้วน สัตว์ประหลาดแปลก ๆ นับพันที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกรีบพากันหลบหนีจากไป
หลังจากเวิร์มดราก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น จางลี่เฉินผู้ซึ่งยืนหยัดต่อสู้กับสายธารหลากได้เหยียดร่างกายของตัวเองออก มีเกล็ดสีน้ำเงินและสีเหลืองยื่นออกมาจากผิวหนังของเขา ในขณะเดียวกัน เนื้อและกระดูกในร่างกายของเขาก็ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาได้เปลี่ยนตัวเองเป็นร่างยักษ์น่ากลัวที่มีความสูง 9 เมตร มีปากสี่เหลี่ยม ตาโปนและหลุมดำสี่หลุมแทนที่หูและจมูก
กำปั้นของเขามีขนาดเท่ากับลูกบาส เขาลองออกหมัดชกไปข้างหน้า แม้จะมีแรงดันจากทะเลน้ำลึกแต่ชายหนุ่มยังสามารถต่อยกระแสน้ำได้ยาวเกินกว่า 10 เมตร
น้ำทะเลที่อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มเริ่มเกิดการปั่นป่วนขึ้นอย่างรุนแรง มันพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขาตามช่องสี่เหลี่ยมที่กลายเป็นโพรง
เสียงไล่ลมดังสะท้อนจากน้ำทะเลลึก วังวนของกระแสน้ำวนพุ่งออกมาจากปากของจางลี่เฉินเหมือนเขาเป็นสัตว์ประหลาด สัตว์ทะเลนับไม่ถ้วนถูกหั่นเป็นเนื้อบดก่อนจะค่อย ๆ สลายหายไป
แม้จะยังรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่แต่เขาก็เลือกที่จะจบทริปนี้และขี่มังกรกลับไปที่ชายฝั่ง
ดวงจันทร์ที่สดใสประดับอยู่บนฟ้า ณ กลางดึก จางลี่เฉินพลุ่งพล่านออกจากทะเลและส่ายร่างกายของเขา 2 – 3 ครั้งเพื่อสลัดน้ำออกจากตัว
เขาเดินเปลือยเปล่ากลับไปที่รถเพื่อใส่เสื้อผ้า และทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาของเรือที่แล่นจากทะเลไกล ๆ
“สงสัยจริงว่าจะเป็นเรือรบหรือเรือท่องเที่ยว…” ขณะพึมพำกับตัวเอง ชายหนุ่มออกคำสั่งให้มังกรย่อขนาดตัวให้เล็กที่สุดแล้วเคลื่อนย้ายมันเข้ามาอยู่ในกระเป๋า จากนั้นเขาเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และเริ่มเร่งความเร็วขับไปตามถนนทางหลวง
แม้ว่ามันจะเป็นการทดลองที่ดูรีบร้อนแต่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าหลังจากที่ จางลี่เฉินได้รับการเปลี่ยนแปลงเมานท์โทดมา ทักษะทางจิตวิญญาณใหม่และความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายของเขานี้มีความพิเศษอย่างสมบูรณ์
ครั้งล่าสุด ด้วยความช่วยเหลือของคาถา “เชื่อมต่อ” สัตว์อาคมสามารถขยายตัวได้ใหญ่กว่าเดิมถึง 30 เท่าโดยใช้เวลาไม่เกิน 20 วินาที
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาใช้ทักษะทางจิตวิญญาณ เขาสามารถสั่งให้สัตว์อาคมขยายขนาดตัวได้ถึง 36 เท่า พิจารณาจากการสูญเสียพลังของสัตว์อาคมแล้วเกือบจะเป็นศูนย์ มันสามารถคงอยู่ได้ตลอดไปตราบใดที่เขายังไม่ตาย สิ่งนี้หมายถึงความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์อาคมที่ได้รับการบำรุงเลือดมาอย่างน้อย 10 ครั้งก่อนหน้านี้
แม้ว่าร่างกายของจางลี่เฉินจะไม่สามารถขยายหรือย่อตัวได้ 36 เท่าของขนาดดั้งเดิมเหมือนดั่งสัตว์อาคม แต่อัตราส่วนการขยายตัว 1 : 6 และความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายทรงพลังและพลังลึกลับที่มีก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาพอใจ
เขาไม่เคยรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
จางลี่เฉินที่กำลังตื่นเต้นอย่างมากไม่มีความตั้งใจที่จะพักผ่อนในตอนนี้เสียเลย เขาขับรถเข้านครนิวยอร์กและหยุดรถที่ด้านหน้าของโรงแรมที่มีสัญลักษณ์รูปดาวอยู่บนป้าย
“เซอร์ มีอะให้ช่วยหรือไม่ครับ?” เมื่อพนักงานขับรถที่อยู่ทางเข้าของโรงแรมเห็นหน้าต่างรถเลื่อนลงมาจึงเอ่ยถามออกไป
“ส่วนของร้านอาหารเปิดตลอด 24 ชั่วโมงหรือเปล่า?”
“ใช่ครับ! โรงแรมแฮกค์ของเราเป็นโรงแรมระดับสามดาวที่มีมาตรฐานจากระดับห้าดาว นอกเหนือจากการเปิดร้านอาหารตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว เมนูที่นำเสริฟ์ก็จะเหมือนกันทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน พ่อครัวที่นี่พร้อมปรุงอาหารให้แขกผู้มีเกียรติทุกเวลาเลยครับ!”
“เป็นที่ ๆ ยอดเยี่ยมที่กำลังมองหาอยู่พอดี ถ้างั้นก็ช่วยเอารถไปจอดให้ทีนะ ขอบคุณ” จางลี่เฉินก้าวลงจากรถแล้วส่งเงินให้พนักงานคนนั้นไป 5 ดอลลาร์ก่อนจะเดินเข้าโรงแรมไป