ตอนที่ 411 มันกำลังเคลื่อนไหว!

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ดาบนั้นแทงลึกลงไปยังแนวกระดูกสันหลังอย่างแม่นยำ ทำเอาลู่กว่างเจ็บปวดจนหลั่งเหงื่อท่วมใบหน้า

 

 

จากนั้นก็ค่อยๆแทรกใบมีดลงไปอย่างช้าๆทีละนิ้วทีละนิ้ว

 

 

เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังของตนเองถูกกรีดออก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังถูกเลาะออกมา

 

 

ลู่เวยมองดูอย่างตกตะลึง สตรีผู้นี้จงใจใช่หรือไม่?

 

 

จงใจใช้อาวุธของนางไปทำร้ายเสด็จพ่อใช่ไหม?

 

 

“เจ้ามันหญิงชั่วใจอำมหิต รู้หรือไม่ว่าทำร้ายราชามังกรมีโทษหนักสถานใด? เผ่ามังกรทั้งสี่ทะเลจะไม่มีผู้ใดยอมปล่อยเจ้าไป!” ลู่เวยฝืนประคองลมหายใจร้องตะโกนออกมา

 

 

ที่นางกังวลไปยิ่งกว่านั้นก็คือจะไม่อาจเอาดาบกระดูกมังกรของนางคืนมาได้…..

 

 

หากไม่มีดาบกระดูกมังกร พลังของนางก็จะลดทอนลงไป

 

 

ตลอดหลายปีมานี้ที่นางสามารถกลายเป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นของเผ่ามังกรได้นั้น ดาบกระดูกมังกรมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

ตอนนี้หากดาบกระดูกมังกรถูกใช้เลาะกระดูกของเสด็จพ่อ แล้วต่อไปนางจะใช้มันได้อย่างไรกัน?

 

 

ถึงแม้ว่านางจะเป็นมังกรทอง…..แต่คล้ายกับว่านางจะแตกต่างจากมังกรทองตัวอื่นๆ

 

 

พอฝึกฝนไปจนถึงระดับหนึ่งก็ยากที่จะทะลวงขึ้นไปได้อีก ตั้งแต่เล็กเสด็จแม่ก็ต้องเสาะหาเม็ดยาจำนวนมากมายส่งเสริมการฝึกฝนของนาง ถึงได้ทำให้นางหลบเลี่ยงความบกพร่องที่ไม่เหมาะสมกับฐานะของมังกรทองไปได้

 

 

เพื่อจะได้เพิ่มพูนพลังในการฝึกฝน หลายปีมานี้นางจึงกินคนไปไม่น้อย….

 

 

ดงนั้นในสายตาของคนภายนอก นางจึงยังคงเป็นมังกรทองอยู่

 

 

“แม่นาง ข้าเองก็ขอเตือนเจ้าสักคำ เป็นคนสมควรมีความเมตตาปราณีอยู่บ้าง เจ้าใช้ดาบของเวยเอ๋อร์ไปทำร้ายเสด็จพ่อของนาง นี่มันเป็นจิตใจที่ชั่วช้าเพียงไร?” หลิ่วฮุ่ยรู้ถึงความหมายในวาจาของลู่เวย จึงรีบเอ่ยขึ้นมา

 

 

“ดาบนี้มีที่มาอย่างไร ในใจของพวกเจ้ามิใช่รู้ดีอยู่แล้วหรือ?” ตู๋กูซิงหลันกวาดสายตาเย็นชาไปยังสองแม่ลูก ทั้งเย็นยะเยือกทั้งเด็ดขาด

 

 

หัวใจของสองแม่ลูกพลันกระตุกขึ้นมา จนใจสั่นสะท้าน แต่ว่าบนใบหน้ายังคงไม่ยอมแสดงสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

 

 

ชือหลีเองก็เห็นดาบในมือของนางแล้ว……นั่นคือกระดูกของตนเอง นางย่อมต้องคุ้ยเคยยิ่งกว่าผู้ใด

 

 

นางไม่เคยคิดเลยว่า ……กระดูกของนางจะถูกนำไปหลอมเป็นดาบ!

 

 

ตอนนั้นที่ลู่กว่างลงมือเลาะกระดูกของนางด้วยตนเองก็เพื่อที่จะเอาไปทำศาสตราวุธให้กับลู่เว่ย?

 

 

ชั่วขณะนั้น เยื่อใยความผูกพันในสายเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อยของชือหลีก็เหือดแห้งไปในทันที

 

 

จะต้องมีจิตใจที่ชั่วช้าถึงเพียงไรถึงจะสามารถเลาะกระดูกของบุตรสาวคนหนึ่งไปทำเป็นอาวุธให้กับบุตรสาวอีกคนโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าได้กัน?

 

 

ที่นางต้องการย่อมมิใช่แค่ให้ลู่กว่างอยู่มิสู้ตายอีกต่อไปแล้ว!

 

 

“ไอ้สารเลว!” นางกำหมัดขึ้นมา นัยตาสีแดงมีแต่ความเคียดแค้นสุดหยั่ง!

 

 

หากมิใช่เพราะว่าบนทรวงอกยังคงมีตะปูตรึงมังกรที่ยังมิได้ถอนออกไป ตอนนี้นางจะต้องพุ่งเข้าไปถอดกระดูก เลาะเส้นเอ็น ดื่มเลือดของเขาด้วยตนเองเป็นแน่!

 

 

“อาหลัน! เจ้ารีบสังหารไอ้แก่สารเลวนั้นเสีย!” ชือหลีปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย

 

 

ตู๋กูซิงหลัน “เข้าใจแล้ว”

 

 

แค่ประโยคเดียวของชือหลี ก็ทำให้ลู่กว่างระเบิดโทสะออกมาในทันที

 

 

เขาพยายามทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อทะลวงออกจากขอบเขตยันต์กักจิตวิญญาณของตู๋กูซิงหลัน แต่ว่ายิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งสิ้นไร้เรี่ยวแรง

 

 

เขานอนแผ่ลงไป ส่งเสียงคำรามออกมา เสื้อผ้าบนร่างล้วนขาดวิ่น บนร่างค่อยๆเปลี่ยนเป็นเกล็ดสีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว

 

 

จากนั้นด้วยความเร็วที่ดวงตาสังเกตเห็นได้เขาก็กลายเป็นมังกรยักษ์ที่ยาวถึงห้าจั้ง

 

 

ถึงพลังกำลังภายในร่างถูกผนึกเอาไว้ แต่อย่างไรเขาก็เป็นถึงราชามังกร ย่อมสามารถเปลี่ยนร่างกลับเป็นมังกรได้อยู่

 

 

พอเห็นว่าลู่กว่างยังสามารถจะกลายเป็นร่างจริงได้ หลิ่วฮุ่ยกับลู่เวยก็ผ่อนลมหายใจออกมา

 

 

ยามที่มังกรอยู่ในร่างจริง จึงจะแข็งแกร่งอย่างที่สุด

 

 

ร่างแท้ของราชามังกรย่อมมิอาจมองข้าม ต่อให้ใช้เพียงกำลังจากเนื้อหนังก็ยังสามารถมอบความตายให้กับฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ได้อยู่!

 

 

ร่างสีน้ำตาลของมังกรยักษ์เหยียดขยายออกไปจนเต็มลานกว้างของตำหนักกลาง เขายกเศียรขนาดใหญ่ขึ้นสูง เกล็ดทั่วร่างเหมือนดั่งแผ่นหิน พอมองเห็นตู๋กูซิงหลันที่อยู่ตรงหน้าก็กางกรงเล็บตะปบลงไป

 

 

ตู๋กูซิงหลันเองก็ไม่ได้ใช้ดาบใหญ่

 

 

นางเหาะถอยหลังออกไปอย่างพลิ้วไหวก็หลบพ้นการตะครุบของมังกรยักษ์ไปได้

 

 

ร่างของมังกรยักษ์ใหญ่โตมาก แต่การเคลื่อนไหวก็ยังคล่องแคล่วว่องไว ถึงเขาจะไม่อาจใช้พลังเวทย์ เช่นนั้นก็ยังสามารถใช้ร่างเนื้อทั้งร่างเข้ากดทับ

 

 

ตู๋กูเจวี๋ยคว้ามือของชือหลีเอาไว้แน่นอยู่ตลอดเวลา ดวงตาของเขาเป็นประกาย “น้องเล็กของข้าแข็งแกร่งไร้ต้าน ไอ้ปลาดุกเฒ่านั้นไม่มีทางสู้นางได้แน่นอน ไม่ต้องกลัวไป”

 

 

ชือหลี “ข้าก็ไม่เคยคิดว่านางจะพ่ายแพ้”

 

 

……………

 

 

ดาบกระดูกมังกรในมือของตู๋กูซิงหลันยังคงมีเลือดหยาดหยด นางขมวดคิ้วเบาๆ ขณะที่มังกรยักษ์ใช้กรงเล็บตะปบลงมาอีกครั้ง นางก็ยื่นมือออกไปคว้ากรงเล็กของมังกรยักษ์เอาไว้ไต่ขึ้นไปตามแผ่นเกล็ดหนาๆของเขา เพียงสองสามครั้งก็ปีนขึ้นไปจนถึงลำคอของมังกร

 

 

ที่ด้านหลังลำคอ มีรอยแผลลึกจากดาบอยู่รอยหนึ่ง เป็นบาดแผลที่เมื่อครู่ตู๋กูซิงหลันแทงเอาไว้

 

 

ต่อให้แปลงเป็นร่างมังกร รอยแผลจากคมดาบนั้นก็ยังไม่อาจสมานตัวได้

 

 

นางสวมชุดแดงตลอดร่าง ยืนตระหง่านอยู่บนหลังคอของมังกรยักษ์ แสงแวววาวจากไข่มุกราตรีทั่วทั้งตำหนักคล้ายจะทอทาบลงไปบนร่างของนาง

 

 

มังกรยักษ์ขยับร่างอย่างคลุ้มคลั่ง คิดจะสะบัดนางให้หล่นลงมา

 

 

ตู๋กูซิงหลันย่อตัวลงเล็กน้อย คว้าเขามังกรบนเศียรของเขาเอาไว้ คนก็ยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ทั้งยังไม่ยอมเสียเวลา ใช้ดาบแทงซ้ำลงไปบนปากแผลกรีดลึกลงไปในเนื้อ

 

 

“โฮ่ว~” มังกรยักษ์ส่งเสียงคำรามกึกก้องออกมา ดาบกระดูกมังกรแทงลึกลงไปบนผิวเนื้อของมันทีละนิ้วๆ

 

 

เนื่องเพราะว่าเขาเปลี่ยนร่างกลับเป็นมังกรยักษ์ ความยาวของดาบกระดูกมังกรนี้จึงสั้นเกินไป ไม่อาจกรีดลงไปให้ถึงแนวกระดูกของเขา แต่แค่กรีดผิวหนังออกมาก็สร้างความเจ็บปวดจนเขาต้องม้วนร่างลงไปแล้ว

 

 

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงไม่เข้าใจว่า ทำไมสตรีเผ่ามนุษย์ผู้นี้จึงสามารถใช้ดาบกระดูกมังกรได้อย่างสะดวกสบาย

 

 

เพราะขนาดเป็นเวยเอ๋อร์…..ยังต้องใช้เวลาฝึกฝนอยู่เป็นนานจึงจะสามารถยกดาบเล่มนี้ขึ้นมาได้

 

 

นางเป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น……ไยจึงสามารถใช้าตราของเผ่ามังกรได้กัน?

 

 

ตู๋กูซิงหลันมิได้รีบร้อน

 

 

นางไม่ได้ใช้ดาบยักษ์เฉือนเจ้ามังกรยักษ์ตัวนี้ แต่เลือกใช้ดาบกระดูกมังกร

 

 

ใช้กระดูกของชือหลี มาล้างแค้นให้กับชือหลี! นี่คือการแสดงความเคารพนับถือต่อชือหลี

 

 

พอดาบกระดูกมังกรไม่อาจแทงลึงลงไปได้มากกว่านี้แล้ว ตู๋กูซิงหลันก็กระชับข้อมือลากยาวไปตามแนว กรีดเป็นปากแผลยาวไล่ลงไป

 

 

แต่ว่าความยาวของตัวดาบจะมีข้อจำกัด เพียงกรีดเอาเนื้อหนังออกมา ยังคงไม่ลึกถึงข้อกระดูก

 

 

ลู่กว่างรู้สึกได้แล้วเช่นกัน เจ็บปวดนั้นก็ส่วนเจ็บปวด แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ร้อนรนแล้ว

 

 

หากคำนวนตามเวลา คนที่จะมารับตัวเจ้าสาวจากเผ่ามังกรทมิฬกำลังจะมาถึงแล้ว

 

 

ถึงอย่างไรเผ่ามังกรทมิฬก็ถือเป็นผู้นำของเผ่ามังกรทั้งสี่ทะเล เมื่อเห็นเขาที่เป็นราชามังกรทะเลตะวันตกถูกรังแก ไหนเลยจะนั่งดูอยู่เฉยๆโดยไม่สนใจได้กัน?

 

 

ขอเพียงเขาใช้ร่างจริงต้านทานเอาไว้ ไม่ปล่อยให้นางถอดกระดูกของตนเองออกไป ก็จะสามารถพ้นวิกฤตนี้ไปได้

 

 

เขายังคงพลิกร่างม้วนลงไป ไม่ให้นางลงมือได้โดยง่าย

 

 

ลู่เวยฝืนลุกขึ้นมานั่ง นางแทบจะใช้กำลังออกไปทั้งหมด ฉวยโอกาสนี้ปล่อยลูกดอกลับใส่ตู๋กูซิงหลัน

 

 

ลูกดอกลับเจ็ดแปดดอกพุ่งเข้าใส่หัวใจของตู๋กูซิงหลัน อย่างไม่อาจหลบพ้น

 

 

“ระวัง!” ชือหลีร้องเสียงดังออกมา เตะเท้าออกไปใส่**บสินเจ้าสาวตรงหน้า คิดจะใช้มันสกัดกั้นลูกดอกลับของลู่เวยเอาไว้

 

 

นางถูกตะปูตรึงมังกรกักพลังเอาไว้จึงไม่มีกำลังมากพอจะสกัดพวกมันได้ทัน

 

 

ลูกดอกลับเหล่านั้นยังคงพุ่งเข้าใส่ตู๋กูซิงหลัน

 

 

ขณะที่เห็นอยู่ว่ากำลังจะเข้าสู่หัวใจของนางอยู่แล้ว

 

 

ตู๋กูซิงหลันก็ยื่นมือเปล่าออกมาข้างหนึ่ง คว้าลูกดอกลับทั้งหมดรวบเอาไว้ในฝ่ามือ

 

 

ผลักฝ่ามือส่งกลับออกไป ลูกดอกลับทั้งเจ็ดแปดดอกก็พุ่งเข้าไปในร่างของลู่เวย แทบจะทำให้นางทะลุเป็นกระชอน

 

 

ขณะที่ตู๋กูซิงหลันคว้าลูกดอกเหล่านั้นขึ้นมาไว้ในมือ ก็สกิดโดนฝ่ามือเป็นปากแผลเล็กๆ หยดโลหิตสองหยดไหลออกมา พอดีหยดลงไปบนดาบกระดูกมังกร

 

 

ทันใดนั้นเองก็เห็นดาบกระดูกมังกรเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา…..มันกำลังเคลื่อนไหว ราวกับหัวใจที่เต้นอยู่!

 

 

 

 

 

 

……………………………….

 

 

ไรท์ : (กำลังลับดาบให้หลันหลันอยู่ เอาให้คมๆ)

 

 

ตอนต่อไป “นางมิใช่เผ่ามนุษย์ทั่วๆไป”