บทที่ 2006 – ข่าว
  เทียนฮี่ เรินโม่!!
  ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นอัจฉริยะตระกูลเทียนฮี่ตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ต้องประหลาดใจอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเขารู้สึกได้ถึงจิตอสูรสีชาด อันที่จริงแล้วจิตอสูรไม่ใช่สิ่งที่ดีมากนัก แม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการฝึกฝนให้กับบุคคล แต่มันก็ทำให้สภาพปราณถูกเบี่ยงเบน อย่างไรก็ตามเมื่อจิตอสูรสีชาดได้ประสานเข้ากับกายสีชาด มันจะทำให้พลังปราณที่ถูกเบี่ยงเบนกลับคืนสู่สภาวะสมดุล
  เทียนฮี่ เรินโม่ก็เหมือนจะสังเกตเห็นคนที่อยู่ข้างหน้า เขาจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกใจ พร้อมกับตะโกนว่า “วิ่ง หลีกทาง!!”
  หลังจากนั้นเทียนฮี่เรินโม่ก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง
  ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าเทียนฮี่เรินโม่ไม่อยาก

  เทียนฮี่ เรินโม่!!
  ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นอัจฉริยะตระกูลเทียนฮี่ตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ต้องประหลาดใจอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเขารู้สึกได้ถึงจิตอสูรสีชาด อันที่จริงแล้วจิตอสูรไม่ใช่สิ่งที่ดีมากนัก แม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการฝึกฝนให้กับบุคคล แต่มันก็ทำให้สภาพปราณถูกเบี่ยงเบน อย่างไรก็ตามเมื่อจิตอสูรสีชาดได้ประสานเข้ากับกายสีชาด มันจะทำให้พลังปราณที่ถูกเบี่ยงเบนกลับคืนสู่สภาวะสมดุล
  เทียนฮี่ เรินโม่ก็เหมือนจะสังเกตเห็นคนที่อยู่ข้างหน้า เขาจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกใจ พร้อมกับตะโกนว่า “วิ่ง หลีกทาง!!”
  หลังจากนั้นเทียนฮี่เรินโม่ก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง
  ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าเทียนฮี่เรินโม่ไม่อยากดึงเขาให้เข้าไปมีส่วนร่วม เทียนฮี่เรินโม่จึงเลือกตะโกนบอกแทนที่จะตะโกนเรียกชื่อของเขา ถ้าหากเทียนฮี่เรินโม่วิ่งมาฝั่งที่ชิงสุ่ยอยู่ เขาจะสามารถหลบหลีกได้ง่ายกว่า แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ ตอนนี้เทียนฮี่เรินโม่วิ่งหนีไปอีกทางทำให้กลุ่มที่ไล่ตามสามารถเข้ารุมล้อมเขาได้ง่ายขึ้น
  ชิงสุ่ยมีความสุขอยู่ลึกๆ นี่คือมิตรภาพ ถ้าหากผู้อื่นมีจุดประสงค์ซ่อนเร้นพวกเขาก็คงวิ่งตรงมาหาชิงสุ่ยเพื่อใช้ชิงสุ่ยเป็นแพะรับบาป และเมื่ออยู่ในยามวิกฤต ต่อให้เป็นมิตรสหายบางคนก็กล้าที่จะทรยศเพื่อน ฉะนั้นแล้ว คนที่ไร้ความภักดีราคาต้อยต่ำยิ่งกว่าผลประโยชน์
  “สหาย!! ทางนี้!! ข้าจะช่วยท่านหนีเอง”ชิงสุ่ยตะโกนออกมาอย่างโพงพาง
  เทียนฮี่เรินโม่มองเห็นท่าทางที่มั่นใจของชิงสุ่ย เขาจึงยิ้มแล้ววิ่งตรงมาหาชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยมองดูกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คนที่อยู่ด้านหลังเทียนฮี่เรินโม่ ผู้นำกลุ่มนั้นความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยก็ไม่แน่ใจว่าเทียนฮี่เรินโม่ไปทำอะไรให้กับพวกเขา
  ชิงสุ่ยพาตัวเทียนฮี่เรินโม่ใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาหายวับไปในพริบตาต่อหน้ากลุ่มคนทั้งหมด แม้ว่าแต่ละคนจะยังคงยืนสับสน แต่พวกเขาก็คิดเองเออเองและเข้าใจไปว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะต้องใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง
  ทั้งสองคนไปปรากฏตัวอยู่ในเมือง ชิงสุ่ยไม่แน่ใจจุดที่เขาอยู่มากนัก แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมแล้วมันน่าจะเป็นเมืองมหาวายุ
  เมืองมหาวายุคือเมืองที่มีพายุใหญ่พัดผ่านอย่างน้อยครึ่งวัน บางครั้งลมพายุพัดผ่านแบบไม่หยุดเลยเป็นเวลาหลายวัน เพียงแค่มองดูก็บอกได้เลยว่าอาคารแต่ละหลังแข็งแรงเป็นอย่างมาก
  เทียนฮี่เรินโม่ที่ได้รับบาดเจ็บ ห้องพักภายในโรงเตี๊ยมที่ชิงสุ่ยพาไป หลังจากชิงสุ่ยทำการรักษา เทียนฮี่เรินโม่ก็อาการดีขึ้นไหมเล็กน้อย แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
  “สหาย ท่านช่วยข้าเอาไว้อีกแล้ว”
  หลายปีที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้เจอกันเลย แต่รูปลักษณ์ของท่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในตอนที่เขาเจอเทียนฮี่เรินโม่เป็นครั้งแรก ชิงสุ่ยยังคงเป็นเพียงผู้ฝึกสอนระดับบัญชาสวรรค์พินาศ ใครจะไปคาดคิดว่าเวลาสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้
  ทั้งคู่ต่างก็มีภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เล็กน้อย ทั้งสองเคยพูดคุยติดต่อกันตอนอยู่บนมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ แต่ชิงสุ่ยเป็นคนที่ไม่เคยอยู่กับที่ และมักจะออกเดินทางอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองคนแทบไม่เคยเจอกันเลย
  ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น ชิงสุ่ยยังคงจำได้ว่าเทียนฮี่เรินโม่ต่อสู้เพื่อหญิงสาว แต่ตอนนี้แม้ว่าเขาจะบรรลุขึ้นสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศไปแล้ว เขาก็ไม่ใช่คู่มือคู่ต่อกรกับชิงสุ่ยชิงสุ่ยจริงๆแล้วถามว่า “เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”
  เมื่อสิบกว่าปีก่อน เทียนฮี่เรินโม่ต่อสู้กับคนอื่นก็เพื่อหญิงสาวผู้หนึ่ง ความรู้สึกที่หญิงสาวผู้นั้นมีต่อเทียนฮี่เรินโม่เป็นความรู้สึกที่น้อยนิด เมื่อเทียนฮี่เรินโม่พ่ายแพ้ให้กับศัตรู เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้กระทั่งเส้นลมปราณก็ถูกเบี่ยงเบนจนบิดเบี้ยว ทำให้เส้นลมปราณทั้งหมดเกือบถูกทำลาย
  โชคดีที่ได้ชิงสุ่ยเข้าช่วย เทียนฮี่เรินโม่จึงกลับมามีพลังได้อีกครั้ง
  “ยังคงดี อย่างไรก็ตาม คนพวกนั้นไม่มีทางปล่อยเราไปแน่ ตระกูลของพวกมันยิ่งใหญ่มาก และยังครอบครองขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ครั้งนี้มันอยากให้ข้าตาย เพียงแต่ข้าโชคดีที่ได้มาเจอท่าน”เทียนฮี่เรินโม่สีหน้าแลดูไม่มีความวิตกกังวล
  “ท่านหมายความว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ท่านยังคงต่อสู้เพื่อความรักของท่านอยู่อีกหรือ?”ชิงสุ่ยถามด้วยความแปลกใจ  “ใช่ ข้าอยากจะอยู่กับเธอจริงๆ และเพื่อจะทำเช่นนั้นได้ ข้าจะต้องโค่นล้มซือเฉิงเย่หยางและตระกูลซือเฉิงให้ได้เสียก่อน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว เธอจะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายทุกอย่างหากอยู่ร่วมกับข้า”เทียนฮี่เรินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น
  “ฮ่่าฮ่าฮ่า มันก็พูดยาก หากที่ชายคนนึงจะหาหญิงสาวที่เหมาะสมกับตนได้”
  “ข้าอุทิศชีวิตให้กับเธอเท่านั้น ถ้าหากข้าอยู่ร่วมกับเธอไม่ได้ ตลอดชีวิตที่เหลือของข้า ข้าไม่มีทางแต่งงานกับใคร”เทียนฮี่เรินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า
  ผู้คนมากมายใช้ชีวิตอยู่บนความรัก แต่หลายคนก็ไม่อาจเทียบกับเทียนฮี่เรินโม่ได้ ชิงสุ่ยชื่นชมในการอุทิศตนครั้งนี้ เทียนฮี่เรินโม่เป็นคนที่น่านับถือ เพราะว่าบนโลก แรกเริ่มเดิมที หากผู้ชายที่มีพละกำลังสูงส่งและมีอำนาจเงินตรา พวกเขามักจะมีภรรยาหลายคน
  แน่นอนมาชิงสุ่ยรู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนดีความรักคือสิ่งที่ควรค่าแก่การชื่นชม แต่ก็เป็นความเห็นแก่ตัวเช่นกัน ชิงสุ่ยไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ และผู้หญิงทุกคนที่อยู่ข้างกายของเขาก็รวมเป็นคนดี การที่มีพวกเธออยู่เคียงข้างเธอเป็นพรที่ได้รับจากฟ้า แต่ก็ต้องแลกมากับการที่เขาไม่สามารถมอบความรักที่สมบูรณ์ให้กับทุกคนได้
  “แล้วข้าจะช่วยท่านจัดการตระกูลซือเฉิงได้ด้วยวิธีใดบ้าง?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
  “สหาย ไม่จำเป็น ข้าหาวิธีจัดการมันเองได้ มิฉะนั้น ผู้อาวุโสของเธอก็คงไม่ให้เวลาข้ามานานขนาดนี้”เทียนฮี่เรินโม่ส่ายหน้า
  “เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่ช่วยท่านโดยตรง แต่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของท่าน เมื่อท่านทำธุระของท่านเสร็จ ให้มาหาข้าที่เมืองฉาง”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  “ตกลง หลังจากที่ข้าทำทุกอย่างเสร็จ ข้าจะรีบไปเยี่ยมเยียนท่าน”
  ……………..  ชิงสุ่ยช่วยเทียนฮี่เรินโม่ฟื้นฟูความแข็งแกร่งและปรับปรุงรากฐานพลัง ทำให้พลังของเทียนฮี่เรินโม่เพิ่มพูนแบบก้าวกระโดด สำหรับคนที่มีรากฐานร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อเพิ่มพูนพลังความสามารถของคนเหล่านี้จะสูงเป็นพิเศษ
  ชิงสุ่ยกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิ ในช่วงเวลาที่ผ่านไปมันไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก และทุกอย่างยังคงดำเนินการไปอย่างราบรื่น สิ่งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับหอคอยจักรพรรดิคงมีเพียงเรื่องความเมตตากรุณาเท่านั้น
  แม้ว่าหลายคนจะจงใจพยายามทำลายชื่อเสียงของหอคอยจักรพรรดิโดยการทำให้ผู้คนเข้าใจผิด แต่ชิงสุ่ยก็ไม่เคยต้องออกมาแก้ต่างเพราะผู้คนเชื่อมั่นในใจของตัวเองอยู่แล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นเพียงแค่ข่าวปลอม
  ชิงสุ่ยตั้งใจจะไปเยี่ยมภัตตาคารหยกรัญจวนเพื่อแจ้งให้อวี้ซี่หยวนรู้ว่าเขากลับมาแล้ว ต่อให้เครือข่ายข้อมูลของภัตตาคารหยกรัญจวนจะรับทราบเรื่องนี้ก่อน แต่เขารู้สึกว่าเขาควรจะไปเยี่ยมเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนสำคัญ
  “เร็วมากๆ”อวี้ซี่หยวนดีใจที่ได้เห็นชิงสุ่ย
  “ทำไมข้ารู้สึกว่าคำพูดของท่านเหมือนไม่อยากให้ข้ากลับมา ฮ่าฮ่าฮ่า”ชิงสุ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ
  “ไม่จริงเลย ท่านกลับมาก็ดีแล้ว ข้ามีข่าวจะแจ้งให้ท่านทราบ ไม่รู้ว่าท่านเองอยากจะฟังมันหรือไม่?”อวี้ซี่หยวนถามด้วยรอยยิ้ม