Ch.71 – คุยเรื่อยเปื่อย

Translator : Reheikichi / Author

ผมกลับไปที่หอพักนักเรียนพร้อมกับมิเซ่

ระหว่างมิเซ่จึงเล่าถึงความสงสัยของผมที่ทำในพักนี้ให้ฟัง

 

[ ไม่แปลกใจเลยก็ยุ่งขนาดนั้นนี่ค่ะ ]

[ ดูออกง่ายขนาดนั้นเลย? ]

[ ไม่หรอกค่ะ ที่จริงตอนแรกฉันก็ไม่รู้สึกสงสัยเลยเหมือนกัน แต่มารู้สึกสงสัยมากขึ้นเพราะตอนที่อยู่กับฉันมักจะพูดว่า ‘เผอิญจำได้ว่ามีธุระนะ’ และจู่ๆ คุณทรูเอทก็หายตัวไปเลย ทั้งตอนพักกลางวัน และในตอนที่กลับมาจากกิลด์ …. แถมยังตอนที่กำลังสำรวจเขาวงกต ]

[ ความจำดีจังนะ ]

[ ….อ๊ะ!? บางทีตอนที่ไปปราบกระต่ายแหลมคมในตอนนั้นด้วย? ที่คุณทรูเอทจู่ๆ ก็แยกกับพวกเราไปพักหนึ่งแล้วบอกว่าจะเข้าไปในเมือง… ]

[ ถูกต้อง ]

 

เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น มิเซ่ก็ผ่อนแรงที่ไหล่และถอนหายใจ

 

[ ไม่ได้สังเกตเลยค่ะ ]

[ เพราะพยายามเคลื่อนไหวโดยไม่ให้ใครผิดสังเกตล่ะนะ ถึงตอนนี้จะความแตกแล้วก็เถอะ ]

 

เมื่อผมพูดออกไป มิเซ่ก็จ้องหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง

 

[ ท้ายที่สุดแม้แต่คุณทรูเอทก็เปลี่ยนไปนะคะ ]

[ หืม? ]

[ ค่ะ …. เวลาอยู่กับฉันไม่มีคนอยู่รู้สึกสบายใจหรอกเพราะเป็นเชื้อพระวงศ์… คนส่วนใหญ่ที่พยายามเข้าหาก็มีแต่คนที่หาประโยชน์ทางการเมืองทั้งนั้น ]

 

มิเซ่ก้มหน้าลงอย่างเศร้าๆ

 

[ มีเพื่อนสนิทในอัลเดเดียบ้างไหม? ]

[ …ไม่มีหรอกค่ะ เพราะอยู่คนเดียวมาตลอด ]

 

อาจเป็นคำตอบที่แฝงความหมายเล็กน้อย

ถ้ามีเพื่อนสนิท เธอคงจะไม่หนีออกจากบ้านแต่แรก

 

[ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าทุกคนก็ไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของมิเซ่นะสิ ]

[ นิสัยที่แท้จริง… เหรอคะ? ]

[ ใช่ สำหรับผมแล้ว คิดว่ามิเซ่เป็นคนแปลกๆ แม้จะไม่มีสถานะเป็นเจ้าหญิงก็ตาม… แน่นอนว่าในทางที่ดีนะ ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลยล่ะ บางทีเอลิเซียกับกุเร็นคงก็คิดเหมือนกัน ]

[ อย่างนั้นเหรอ ฉันไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ… ]

 

ไม่รู้สึกตัวเลย….

 

[ เหมือนตอนที่ว่าจู่ๆ ก็ร้องเพลงออกมาน่ะเหรอ? ช๊านนคือมิเซ่~ โฮเนส~ ใช่แล้ว~ ]

[ วะ ว๊าาาาาาา!? ]

 

มิเซ่หน้าแดงและเบือนหน้าหนีจากนั้นก็เขย่าตัวผมอย่างแรง

 

[ ท ทำไมถึงยังจำได้อีกล่ะคะ!? ]

[ ค่อนข้างน่าตกใจทีเดียวล่ะ ]

[ ช่างมันค่ะ!! ลืมมันไปเถอะค่ะ!! ]

 

ไม่คิดว่าจะลืมได้ในทันทีหรอก แต่ผมก็พยักหน้าให้เธอเพราะเห็นมิเซ่ที่ขอร้องทั้งน้ำตา

 

[ เอ่อ… แปลว่าคุณไม่เบื่อฉันเหรอคะ รู้สึกดีใจ… นิดๆ นะคะ ]

[ พูดตามตรงว่าถ้าเป็นเรื่องเขาวงกตมิเซ่จะเป็นคนช่างพูดจนน่าตกใจเลยล่ะและยังอยากรู้อยากเห็นไปทุกอย่างในเขาวงกตซะอีก… ]

[ งั้น… ฉันอยากถามคุณให้ชัดเจนไปเลยค่ะ คุณทรูเอทคิดยังไงกับฉันเหรอคะ? ]

[ ม้าดีดกระโหลก ]

[ ม้าดีดกระโหลก!? ]

 

มันผุดขึ้นมาในใจนะ! แต่มิเซ่มีสีหน้าจริงจัง นี่จึงไม่ใช่เรื่องตลกแต่เธอถามแบบจริงจัง

เดิมทีที่ยอมเปิดเผยตัวตนครั้งนี้ก็เพราะเกิดเหตุไม่คาดคิดทำให้คุ้มกันมิเซ่ไม่ได้

มิเซ่ที่ฟื้นสติได้อีกครั้ง ได้ถามผม

 

[ อ่อ จะว่าไปแล้ว… เรียกคุณออสมาดีมั้ยคะ ]

 

มันไม่สมเหตุที่จะปกปิดเรื่องของออสอีกต่อไป เพราะการที่ผมเป็นผู้คุ้มกันเธอก็ความแตกแล้ว

แต่เดิมก็ควรจะคุ้มกันแบบนี้แต่แรกแล้ว ไม่ใช่การแอบคุ้มกัน ในเมื่อความแตกการคุ้มกันแบบประชิดตัวจะง่ายขึ้นกว่าเดิมในอนาคต

 

เพราะความเชื่อใจระหว่างผู้คุ้มกันกับผู้ถูกคุ้มกันเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อแสดงความจริงใจ ผมจึงคิดว่าควรให้ออสมาคุยกับมิเซ่แแบบต่อตัวไปเลย

 

[ 28? ]

[ ออส ที่จริงแล้ว―― ]

 

ทันทีที่ผมติดต่อออสด้วยกระดาษสื่อสารและกำลังจะอธิบายสถานการณ์นั้น

 

[ เข้าใจแล้ว ความเลยแตกสินะ หายากนะที่ 28 จะทำพลาด ]

[ มีเรื่องยุ่งยากไม่คาดคิดมากนะ ไว้ผมจะบอกคริสทีหลัง ดังนั้นมาที่นี่ทีได้มั้ย จะได้คุยกับมิเซ่ไปเลย ]

[ …ได้ เราจะรีบไป ]

 

เป็นคำตอบที่ชัดเจนจนผิดปกติเกินไปสำหรับออส

ทันใดนั้นผมก็พลางนึกได้

การที่ต้องเปิดเผยตัวตนกับมิเซ่มันเพราะเกิดเรื่องไม่คาดคิดหลายอย่าง รวมถึงเรื่องที่ติดต่อออสไม่ได้ด้วย

 

[ ออส เมื่อไม่นานนี้ผมเพิ่งติดต่อไป ทำไมถึงไม่ตอบกลับมาเลยล่ะ? ]

 

หลังจากนั้นไม่นาน ออสก็ตอบมา

 

[ คือว่านะ… เราไม่อยู่พักหนึ่งนะ ขอโทษด้วย ]

[ …งั้นเหรอ ในอนาคตก็ระวังด้วยล่ะ ]

[ ….อืม ]

 

จากนั้นจึงยุติการสื่อสารกับออส

 

[ มิเซ่ อีกไม่นานออสก็จะมาแล้ว ]

[ เข้าใจแล้วค่ะ ]

 

สถานที่นัดพบกับออสคือหน้าหอพักหญิง

ดีแล้วล่ะเพราะยังไงผมก็ต้องไปส่งมิเซ่อยู่ดี

 

[ บางทีคุณออสก็อาจคิดว่าฉันเป็นม้าดีดกระโหลกเหมือนกันรึเปล่านะ… ]

[ ไม่หรอก ออสเพิ่งเจอกับมิเซ่ไม่นาน คงไม่ใช่ ]

[ ค่ะ … ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น ]

 

ดูเหมือนเธอจะช็อคน่าดูที่ถูกเรียกว่าม้าดีดกระโหลก

หลังจากนั้นมิเซ่ก็จิตใจห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด

 

[ …แต่ไปรู้เรื่องเลวๆ ที่คนของเชื้อพระวงศ์ทำไว้แล้วยังหนีออกมาจากบ้านได้อีกนะ ]

 

ผมถามเพื่อดึงความสนใจของมิเซ่ไปอีกเรื่อง

 

[ ค่ะ ตอนที่ฉันหนีออกจากบ้าน พวกเขาแทบคลั่ง―――――― ]

 

ขณะที่กำลังเล่าเรื่องในอดีต

จู่ๆ มิเซ่ก็หยุดไป

 

[ ทำไมฉัน? ถึงรู้เรื่องเลวๆ ที่คนของเชื้อพระวงศ์ทำไว้ได้ล่ะ… ]

 

ผมเอียงหัวไปทางมิเซ่ เพราะเห็นเธอพูดอะไรแปลกๆ

 

[ ไม่ใช่เพราะไปเห็นกับตาเหรอ? ]

[ ค่ะ แล้วฉันไม่ได้บอกกับใครเลยว่าจะหนีออกจากบ้านจึงไม่น่ามีใครรู้―― อึก!? ]

 

ทันใดนั้นมิเซ่ก็จับไปที่หัวและเซไปมา

ผู้คนบนถนนต่างจับจ้องไปที่มิเซ่ ผมรีบเข้าไปหามิเซ่และถาม

 

[ เป็นอะไรไปมิเซ่? ]

[ ข ขอโทษค่ะ แต่มันเจ็บที่หัว… ]

 

ใบหน้าของมิเซ่เริ่มซีด มีเหงื่อจำนวนมากไหล่ออกมาจากหน้าผากและการหายใจก็ถี่

ผมสงสัยว่าจะเป็นเพราะพิษ เพราะเธอเคยถูกโจรแตะต้องตัวมาก่อน ――ไม่สิ ถ้าเป็นพิษต้องเริ่มมีอาการแต่แรกแล้ว

 

[ ที่นี่มัน… คุก…? กรงขัง… ข้างใน… เหมือนในความฝัน… ]

 

ดวงตาของมิเซ่เลือนลอยและมองไปที่ไหนไม่อาจรู้ได้

และเธอก็พึมพำออกมา

 

[ …อยากเป็นอิสระ ฉัน… อยากเป็นอิสระ… ]

 

มิเซ่พูดขณะที่กุมหัว

 

[ ทรูเอท? ]

 

มีเสียงเรียกชื่อผมจากข้างหลัง

เมื่อมองย้อนกลับไปที่เห็นออสยืนอยู่ตรงนั้น

 

[ ออส เปลี่ยนแผน รีบพามิเซ่ไปยังที่ปลอดภัย ]

[ นั่นสินะ… แบบนั้นอาจดีกว่า ]

 

ออสพูดขณะที่มองสภาพของมิเซ่

 

[ …ช่างไม่สมเหตุสมผลเลยนะ ]

 

ผมไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่ออสพูดออกมา