มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 675
เมื่อหลัวซิวเดินมาจนถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางแห่งวิญญาณ ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง ยังคงเป็นเหมือนดั่งปริภูมิในชั้นที่หนึ่ง ที่ด้านหน้าได้ปรากฏเส้นทางแห่งวิญญาณขึ้นมาอีกสาย

เพียงแต่ว่าเสาหินสีดำที่อยู่สองข้างทางของเส้นทางแห่งวิญญาณ พลังวิญญาณที่แผ่ซ่านออกมาในตอนนี้นั้น ได้ถึงระดับมหายุทธ์เป็นที่เรียบร้อย

“นี่ก็คือชั้นที่สองของหอคอยเทพจิต?” แววตาของหลัวซิวเฉียบคมขึ้นมาเล็กน้อย

เป็นที่ประจักษ์ ชั้นที่สองของหอคอยเทพจิต แม้ว่าจะใช้วิธีที่ง่ายที่สุดอย่างวิธีที่หนึ่งเพื่อผ่านด่านนี้ ก็จะต้องฝืนทนอยู่ในกระแสพลังวิญญาณในระดับมหายุทธ์ช่วงกลางเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป

เช่นนี้ก็หมายความว่า ผู้ที่สามารถผ่านชั้นที่สองไปได้นั้น ระดับตัวสำนึกของเขา ก็จะต้องบรรลุถึงระดับนี้เช่นเดียวกัน

“ต้าวหวูซินผู้นั้นปิดปังได้ดีไม่น้อย”

หลัวซิวมองไปยังเส้นทางแห่งวิญญาณสายที่สอง จากนั้นก็ก้าวเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล

เขาไม่มีทางที่จะพอใจแค่เพียงฝืนทนให้ผ่านไปอย่างปลอดภัยในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปอย่างแน่นอน สิ่งที่เขาต้องการคือท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง ทะลวงเส้นทางแห่งวิญญาณ!

ตึก!

วินาทีที่หลิวซิวเหยียบลงไปบนเส้นทางแห่งวิญญาณนั่นเอง พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งก้อนหนึ่งก็ได้จู่โจมเข้ามา เหมือนดั่งคลื่นลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำเข้ามา กระแทกใส่เข้าตัวหยั่งรู้ของเขาอย่างแรง

ระดับของพลังวิญญาณก้อนนี้ ได้บรรลุถึงมหายุทธ์ขั้นห้าเป็นที่เรียบร้อย เกินกว่าระดับมหายุทธ์ขั้นสี่ของเขา

ดูเหมือนว่าจะแตกต่างกันเพียงแดนเล็กเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงระดับมหายุทธ์ ความแตกต่างในหนึ่งขั้นนั้น แตกต่างกันนับพันลี้!

“อึก……”

หลัวซิวส่งเสียงอึกอักออกมาหนึ่งครั้ง รู้สึกสมองสั่นสะเทือน ฝีเท้าสั่นคลอนเล็กน้อย เกือบจะล้มลงไปบนพื้น

ทว่าว่าพลังโจมตีวิญญาณจากเสาหินสีดำที่อยู่สองข้างทางกลับไม่ได้หยุดลงเลยสักนิด ค้อนขนาดมหึมาได้ปรากฏขึ้นมาในกระแสสัมผัสของเขา และทุบลงไปบนตัวหยั่งรู้ของเขาอย่างดุเดือด

“ตัวสำนึกกลายรูป?” หลัวซิวสีหน้าเปลี่ยนไป

เขารวบรวมตัวสำนึกเพื่อต่อต้าน กลับถูกค้อนทุบแตกกระจาย ตัวหยั่งรู้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ร่างของเขาลอยกลับออกมาจากเส้นทางแห่งวิญญาณในทันที เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

ตัวสำนึกกลายรูป เป็นการโจมตีทางวิญญาณอย่างหนึ่ง และการโจมตีด้านนี้ เป็นจุดอ่อนของหลัวซิวพอดี

ตัวสำนึกวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาก แต่มีตัวสำนึกในระดับมหายุทธ์ขั้นสี่เสียเปล่า กลับไม่รู้จักวิธีใช้มัน ก็เลยขาดเคล็ดวิชาวิญญาณไป!

แม้ว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ในสมัยโบราณ แต่ก็ไม่ชำนาญด้านตัวสำนึกวิญญาณและก็ไม่มีวรยุทธ์กลั่นวิญญาณที่ร้ายกาจอะไรมาถ่ายทอดให้เขา

สำหรับเคล็ดวิชาวิญญาณที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์พลังก่อรวมวิญญาณ เมื่อต้องเผชิญกับตัวสำนึกวิญญาณระดับมหายุทธ์ มันก็ไร้ประโยชน์ใด ๆ

“เจ้าหนุ่ม นี่เป็นโอกาสที่ดี ถ้าหากการตระหนักรู้ของเจ้าพอใช้ได้ พอถึงตอนนั้นสามารถลองตระหนักรู้ตัวสำนึกกลายรูปอยู่ที่นี่” จู่ ๆ เสียงของมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำก็ได้ดังขึ้น

ที่นี่อยู่ด้านในหอคอยเทพจิต เพราะฉะนั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำเลยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกพบเข้า

“ท่านก็พูดง่ายไป” หลัวซิวเบ้ปากอย่างไม่มีอะไรจะพูด แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำแนะนำของมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำเป็นวิธีที่ดีไม่น้อย

แต่หากคิดจะตระหนักรู้ถึงความลึกลับมหัศจรรย์ของตัวสำนึกกลายรูป ก็จะต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งวิญญาณเพื่อรับการโจมตี ความเจ็บปวดจากการที่ตัวหยั่งรู้ถูกโจมตี ทำให้เขารู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิด ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถทนรับได้

“สู้ตายวะ!”

หลัวซิวกัดฟันแน่น และก้าวเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งวิญญาณอีกครั้ง

ถึงอย่างไร วรยุทธ์กลั่นวิญญาณ รวมทั้งเคล็ดวิชาวิญญาณก็เป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งท่านอื่นสร้างขึ้นมา และตัวสำนึกกลายรูป เปรียบเสมือนเค้าโครงโดยทั่วไป ตราบใดที่ตระหนักรู้ได้ ก็สามารถใช้ตัวสำนึกกลายรูปเป็นรากฐาน ก่อให้เกิดเป็นเคล็ดวิชาออกมา

จากที่หลัวซิวได้รู้มา เคล็ดวิชาระดับยิ่งเลิศที่บันทึกไว้ในคัมภีร์วรยุทธ์กลั่นวิญญาณ ก็คือตัวสำนึกกลายรูป

“หลัวซิวเข้าไปเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว เหตุใดถึงยังไม่ออกมาอีก?”

“หรือว่าจะพบกับอันตราย และตายอยู่ด้านในแล้ว?”