เล่มที่ 24 เล่มที่ 24 ตอนที่ 704 อภิเษกเป็นทองแผ่นเดียวกัน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ผู้ใดไม่รู้บ้าง เมื่อใดที่ซูจิ่นซีเผยรอยยิ้มเช่นนี้ ไม่มีทางเป็นเรื่องดีแน่นอน

ทว่า มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่รู้จักบุตรีผู้นี้ของเขาดีเท่าที่ควร

เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “จิ่นซี พูดเช่นนี้หมายความว่าเจ้าตกลงแล้วหรือ? ดียิ่งนัก สมกับเป็นธิดาของข้า! ”

น่ารังเกียจ ซูจิ่นซีอยากอาเจียนเสียจริง

ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา

ใบหน้าของนางยังคงปรากฏรอยยิ้มเป็นมิตร “อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เยี่ยโยวเหยาที่เป็นฝ่ายขอหย่า ทว่าเป็นหม่อมฉันที่ขอหย่ากับเขา! ”

มู่หรงอวิ๋นไห่ตกใจเล็กน้อย “เจ้าขอหย่าพระสวามีหรือ? ” นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่ไหนแต่ไรมา สามีล้วนเป็นฝ่ายขอหย่า ไม่เคยมีกรณีที่ภรรยาเป็นฝ่ายขอหย่า

ในไม่ช้า รอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้ามู่หรงอวิ๋นไห่ก็กว้างขึ้น “ดี ดี ดี! ธิดาของมู่หรงอวิ๋นไห่ ทำอันใดล้วนไม่ถือว่ามากเกินไป หย่าก็หย่า! ”

พูดจบ มู่หรงอวิ๋นไห่ก็พูดเสริมอีกหนึ่งประโยคว่า “จิ่นซี! เจ้ารีบเขียนหนังสือหย่าเสีย พ่อจะสั่งให้คนนำไปส่งให้ถึงมือเยี่ยโยวเหยา”

เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของมู่หรงอวิ๋นไห่ ซูจิ่นซีก็นึกสงสัยว่านางไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของเขา

ต่อให้สายตาของจงซีจือบกพร่อง ทว่าสายตาของจิ่วหรงยังบกพร่องด้วยหรือ?

เขาใช้ตบะผสานดวงวิญญาณจนกลายเป็นดวงจิตที่สมบูรณ์ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะมองสวะชั้นต่ำเช่นนี้?

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะครุ่นคิดเรื่องเหล่านี้

จากท่าทางของซูจิ่นซี ไม่อาจบอกได้ว่านางกำลังคิดสิ่งใด

“ไม่ หม่อมฉันจะเชิญเยี่ยโยวเหยามา และมอบหนังสือหย่าให้เขาด้วยตนเอง”

ใบหน้าของมู่หรงอวิ๋นไห่แข็งค้างไปชั่วขณะ ทว่าไม่นานนักก็ปรากฏรอยยิ้ม

“ย่อมได้ เจ้ากับเยี่ยโยวเหยาเป็นสามีภรรยากัน ตอนนี้เจ้าจะหย่าสามี หากจะแต่งงานใหม่ก็ต้องพูดคุยตกลงกันให้ชัดเจน

เมื่อเวลานั้นมาถึง พ่อจะส่งยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดในแคว้นหนานหลีไปคุ้มกันเจ้า”

ซูจิ่นซีกัดฟันกรอด “ตกลง! ”

ขณะนั้นมีองครักษ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามา เขามอบรายงานด่วนที่แนวหน้าส่งมาให้มู่หรงอวิ๋นไห่กับมือ

มู่หรงอวิ๋นไห่ที่กำลังมีความสุข บอกให้องครักษ์อ่านเนื้อหาในรายงานให้ฟัง

สุดท้าย องครักษ์จึงรายงานว่า “กราบทูลฝ่าบาท โยวอ๋องทรงทราบว่ากงจู่กลับมาแล้ว จึงนัดหมายให้กงจู่ไปพบกันที่ชายแดนในอีกสามวัน เพื่อหารือเรื่องการทหารระหว่างสองแคว้น”

ใบหน้าของมู่หรงอวิ๋นไห่มืดครึ้ม “ระหว่างเขากับกงจู่ยังมีเรื่องทางการทหารอันใดให้หารือกันอีก?” มู่หรงอวิ๋นไห่นำรายงานมาอ่านอย่างละเอียด

องครักษ์เหลือบมองซูจิ่นซีด้วยสีหน้าลำบากใจ

“โยวอ๋องกล่าวว่า… โยวอ๋องกล่าวว่าขอเพียงกงจู่ยินยอมไปพบ หากการหารือเป็นไปอย่างราบรื่น กองทัพจงหนิงจะถอนกำลังออกจากชายแดนร้อยลี้ และจะพักรบเป็นระยะเวลาสี่เดือนจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า”

พักรบสี่เดือน?

สำหรับมู่หรงอวิ๋นไห่ นับว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งยังเป็นผลดีต่อแคว้นหนานหลีอย่างมาก

แม้แคว้นหนานหลีจะไม่ขาดแคลนกำลังทหารและเสบียง ทว่าพวกเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากทั้งสองแคว้นได้!

แคว้นจงหนิงที่เพิ่งยึดครองแคว้นซีอวิ๋น เวลานี้นับว่าเป็นแคว้นที่รุ่งเรืองแข็งแกร่ง ทั้งพวกเขายังมีสกุลหนานกงและสกุลหลาน ซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพที่เก่งด้านการต่อสู้และเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์สงคราม

ถือว่าได้เปรียบอย่างมากในด้านความแข็งแกร่งของแคว้นและกำลังทหาร

อย่างไรเสีย ฤดูหนาวเป็นช่วงที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำสงครามมากที่สุด สำหรับแคว้นหนานหลีแล้ว ไม่ถือเป็นเรื่องดีอันใด

ตอนนี้แคว้นจงหนิงเสนอให้พักรบ ย่อมเป็นโอกาสอันดีที่แคว้นหนานหลีจะได้พักหายใจบ้าง

เช่นนั้น เขาจะไม่ยอมรับข้อเสนอได้อย่างไร?

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ มู่หรงอวิ๋นไห่ก็แทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ เขาถือรายงานทหารไว้ในมือ

“จิ่นซี นี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ เจ้าต้องไป! ต้องไปคุยกับโยวอ๋องให้ได้ คว้าโอกาสสี่เดือนนี้ให้แคว้นหนานหลีของเรา รอจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า… ”

แม้มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่ได้พูดประโยคที่เหลือ ทว่าสายตาเย็นชาของเขาได้บอกทุกอย่างชัดเจนแล้ว

รอจนถึงหลังฤดูใบไม้ผลิ แคว้นหนานหลีจะต้องมีกลยุทธ์การสงครามที่เหมาะสมและดียิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน

ซูจิ่นซียิ้มเยาะที่มุมปาก ทว่าน่าเสียดายที่มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่ทันเห็น

ซูจิ่นซีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หนังสือหย่ายังต้องเขียนหรือไม่? การอภิเษกสมรสกับแคว้นเป่ยอี้ยังดำเนินต่อไปหรือไม่? ”

มู่หรงอวิ๋นไห่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างตรงประเด็น “เขียน! ต้องเขียน! และต้องเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นเป่ยอี้ ทว่าค่อยพูดเรื่องนี้หลังจากฤดูใบไม้ผลิปีหน้า”

มู่หรงอวิ๋นไห่คิดแล้วคิดอีก และกล่าวเสริมว่า “จิ่นซี ไม่ว่าอย่างไร เจ้าต้องยับยั้งโยวอ๋องแทนพ่อ ไม่ให้เขาโจมตีแคว้นหนานหลีจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าไม่ต้องไปส่งหนังสือหย่าให้เยี่ยโยวเหยาด้วยตนเอง ทว่าพ่อจะไปส่งเอง”

ท่านไม่กลัวถูกเยี่ยโยวเหยาฆ่าตายหรืออย่างไร!

ซูจิ่นซีมีท่าทีเรียบเฉย มองไม่ออกว่านางกำลังครุ่นคิดสิ่งใด

“ตกลง! ”

ซูจิ่นซีตอบรับและไม่พูดอันใดอีก จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง

มู่หรงอวิ๋นไห่ยังกล่าวเน้นย้ำตามหลัง

“จิ่นซี อย่าลืมเรื่องหารือแผนการทหารกับเยี่ยโยวเหยาที่ชายแดนในอีกสามวันข้างหน้า เจ้าต้องยับยั้งเยี่ยโยวเหยา ยับยั้งกองทัพแคว้นจงหนิงจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พ่อและประชาชนต้องขอบใจเจ้าแล้ว! ”

เมื่อพ้นประตูออกมา ซูจิ่นซีก็ยืนพิงเสาและอาเจียนออกมาอย่างแรง

น่ารังเกียจยิ่งนัก

ผ้าเช็ดหน้าสีขาวยื่นมาจากทางด้านหลัง ซูจิ่นซีไม่ได้รับมา ทว่านางเงยหน้ามองเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น เป็นมู่หรงฉี

“จิ่นซี เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลย เสด็จพ่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย เปลี่ยนไปจากตอนที่เขาเพิ่งกลับมา ทว่าเขาทำเพื่อแคว้นหนานหลีของเรา เป็นเพราะกังวลเรื่องสงครามชายแดน ทุกวันนี้จึงเหนื่อยล้าจนส่งผลกระทบต่อจิตใจ หากมีเวลา เจ้าก็มาดูแลเสด็จพ่อบ้าง”

ซูจิ่นซีกระแอมสองครั้ง “เป็นเช่นนี้เองหรือ หากเสด็จพี่ไม่พูด ข้าคงคิดว่าเขาข้ามมิติเวลามา! ”

“ข้ามมิติเวลา? ”

มู่หรงฉีมองซูจิ่นซีด้วยความสงสัย

ใบหน้าของซูจิ่นซีแสดงออกอย่างเรียบเฉย “ไม่มีอันใด ข้าเพียงเหนื่อยเล็กน้อย ขอตัวกลับไปพักก่อน หากกองทัพม้าที่จะไปเยือนชายแดนตะวันตกเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วก็เรียกข้าด้วย”

ทันทีที่พูดจบ ซูจิ่นซีก็เดินออกจากวังโดยไม่รอให้มู่หรงฉีตอบโต้

หลังออกจากวัง ซูจิ่นซีไม่ได้กลับไปที่สกุลจง ทว่านางตรงไปยังจวนที่เคยอยู่กับเยี่ยโยวเหยาก่อนหน้านี้

แม้คนที่คุ้นเคยจะไม่อยู่แล้ว ทว่าเขาได้ทิ้งคนดูแลจวน บ่าวรับใช้ และผู้ติดตามไว้ที่นี่

ซูจิ่นซีชำระร่างกายเสร็จก็ผล็อยหลับไป

หลังจากจิ่วหรงคุ้มกันซูจิ่นซีจนกลับมาถึงแคว้นหนานหลี เขาก็หายตัวไปโดยไม่บอกลาสักคำ ซูจิ่นซีที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของจิ่วหรง คุ้นชินกับความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของเขาแล้ว

ตอนที่จิ่งหรงจากไป เขาได้ทิ้งจิ้งจอกเก้าสีไว้ให้นาง

เช้าวันรุ่งขึ้น มู่หรงฉีนำกองทัพม้ามารับซูจิ่นซีด้วยตนเอง เขาคุ้มกันซูจิ่นซีไปพบเยี่ยโยวเหยาที่ชายแดน เพื่อนัดพบหารือเกี่ยวกับเรื่องสำคัญทางการทหาร

ม้าห้อตะบึงอย่างรวดเร็ว สองวันต่อมา ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึงเมืองหม่านเยวี่ย ชายแดนระหว่างแคว้นหนานหลีกับแคว้นจงหนิง

เจ้าเมืองออกมาต้อนรับฉีอ๋องและฉางอันกงจู่เข้าเมืองเป็นการส่วนตัว และจัดการที่พักให้พวกเขาด้วยตนเอง

ทว่าซูจิ่นซีกลับเจอผู้ที่นางนึกไม่ถึงว่าจะพบกันที่นี่

นางไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะพบเขาที่นี่เวลานี้