“แบะ……” ท่านแบะแบะเหนื่อยมาก การเสียเลือดจำนวนมากทำให้มันอ่อนแอถึงขีดสุด มันพยายามจะตื่นตัวเอาไว้ในระหว่างการต่อสู้ เพราะรู้ว่าเมื่อการต่อสู้สิ้นสุด มันจะไม่สามารถคงร่างใหญ่โตนี้ไว้ได้ และในวินาทีต่อมา ร่างของมันก็กลับเป็นลูกแกะตัวเล็ก บัวเมายื่นมือออกไปอุ้มมันมาไว้แนบอกโดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าของตนจะเปื้อนเลือดของท่านแบะแบะ เขาใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดที่บาดแผลของท่านแบะแบะอย่างระมัดระวัง และโรยผงยาลงบนบาดแผลเพื่อห้ามเลือด
คนที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณพามาต่างถอยไปอยู่ที่ด้านหนึ่ง พวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็รักษาความเชื่อของตนเอาไว้ได้
ศิษย์เก้าอารามมองพวกเขาด้วยท่าทางที่เหมือนจะร้องไห้ พวกเขาอดมองไปทางผู้อาวุโสของตนไม่ได้ ผู้อาวุโสของเก้าอารามถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าเงียบๆ เมื่อเหล่าศิษย์เห็นเช่นนั้น พวกเขาก็ก้าวออกไปทันทีอย่างไม่ลังเล novel-lucky
เมื่อศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณเห็นศิษย์เก้าอารามเดินเข้ามา พวกนางก็ลุกขึ้นอย่างระแวดระวังโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง
“ไม่ต้องกลัว……ข้าไม่ได้คิดร้าย แค่อยากจะช่วยรักษาแผลให้เจ้า” ศิษย์คนหนึ่งของเก้าอารามมองศิษย์วิหารหยกวิญญาณที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างระมัดระวัง และพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลเพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายตกใจ
ถ้าไม่ได้เห็นกับตา พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าหญิงสาวกลุ่มนี้จะหนักแน่นเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ในสนามรบพวกนางไม่ได้ด้อยไปกว่าบุรุษเลย สายตาที่แน่วแน่นั้นมีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างยิ่ง
เมื่อศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณได้ยินคำพูดเขา และเห็นประมุขวิหารหยกวิญญาณพยักหน้าให้พวกนาง นางจึงผ่อนคลายลง พอคลายความระวังตัวลง เหล่าหญิงสาวที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกมากนักก็ทำตัวไม่ถูก ศิษย์คนนั้นหน้าแดงเล็กน้อยและพยักหน้าให้ศิษย์เก้าอารามอย่างเขินอาย นางยื่นแขนที่บาดเจ็บให้และมองอีกฝ่ายอย่างคาดหวังด้วยดวงตากลมโตเป็นประกาย
เพียงมองครั้งเดียวก็ทำให้ศิษย์เก้าอารามคนนั้นใจเต้นตึกตัก
เมื่อครู่นี้ หญิงสาวคนนี้ยังต่อสู้อย่างกล้าหาญองอาจ แต่จู่ๆนางก็เผยสีหน้าที่มีเสน่ห์ออกมา ความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นในหัวใจเขา เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจึงหน้าแดง เด็กหนุ่มก้มหน้าทายาให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
ภาพคล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นทั่วจัตุรัส ศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณล้วนเป็นหญิงสาวที่มีชีวิตชีวา แต่ละคนมีความโดดเด่นในแบบของตัวเอง เมื่อพวกนางลดการระวังตัวและถอยจากสนามรบ พวกนางก็เผยท่าทีนุ่มนวลอ่อนโยนออกมา ข้างๆศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณทุกคนจึงมีศิษย์จากเก้าอารามรายล้อมอยู่หลายคน
และศิษย์สำนักธาราเมฆที่มาพร้อมกับวิหารหยกวิญญาณก็มีคนล้อมรอบพวกเขาเช่นกัน พวกคนที่ถอนตัวจากเก้าอารามเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ก็มีอดีตเพื่อนร่วมอารามคอยดูแล
บรรยากาศตึงเครียดในจัตุรัสอันตรธานหายไป ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ สามัคคีกลมเกลียวกัน พวกคนอาณาจักรบนได้สิ้นลมหายใจไปอย่างเงียบๆ ตอนที่ตาย ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีดำ ริมฝีปากเป็นสีม่วงคล้ำ แสดงให้เห็นว่าพิษนั้นร้ายแรงมาก
ปาเฮ่อทรมานด้วยน้ำมือของจวินอู๋เสียอยู่ครึ่งชั่วโมง แต่สำหรับเขา มันรู้สึกเหมือนถูกทรมานอยู่สามสิบปี เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกเขา ทุกนาที ทุกวินาทีที่ผ่านไปคือเวลาแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัส สำหรับเขา ความตายไม่น่ากลัวอีกต่อไป แต่เป็นการปลดปล่อยที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา ทว่า จวินอู๋เสียไม่คิดที่จะปล่อยเขาไปง่ายๆ นางราดน้ำมันลงบนตัวเขาและจุดไฟเผา ผลักปาเฮ่อให้ลงสู่ขุมนรกที่ลึกที่สุด มันเป็นความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมานที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมา
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ปาเฮ่อเตรียมไว้ให้ซูหย่า จวินอู๋เสียแค่คืนมันกลับไปให้เขา ให้เขาชดใช้หนี้เลือดนี้