ถอนตัว
Rampage คว้าชัยเหรอ
หลังจากเหออวี้ฟังแล้วก็อึ้งไปพักใหญ่ถึงได้มีปฏิกิริยาขึ้นมา จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย”
“พี่รู้” เหอเหลียงพยักหน้า น้องชายของเขาคนนี้อันที่จริงแล้วมีอายุห่างจากเขาค่อนข้างมาก แต่ว่าเอาสองคนพี่น้องมาเทียบกันดูแล้ว น้องชายที่อายุน้อยกว่าหกปีกลับดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่มีเหตุมีผลมากกว่า ตัวเองยึดติดอยู่กับสนามอาชีพมาถึงห้าปี บางทีอาจจะมีความเป็นเด็กหนุ่มไม่มีเหตุผลเหลาะแหละอยู่ภายในร่าง แต่เหอเหลียงเชื่อว่าเหออวี้จะไม่เป็นเหมือนเขาที่เสียเวลากับเรื่องไร้ประโยชน์แน่
แต่จะว่าไปตัวเองก็คิดไกลเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
สนามอาชีพเหรอ
เหออวี้ในตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนฝึกฝนอย่างหนักอยู่เลย ระยะทางกว่าจะถึงเวทีขั้นสูงสุดนั้นยังอยู่อีกยาวไกล! เมื่อมองดูเหออวี้ที่กำลังฝึกฝนอย่างหนักเหอเหลียงก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ
กินข้าวเสร็จแล้วสองพี่น้องก็บอกลากัน ระหว่างทางที่เดินกลับห้องนอนเหออวี้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มคลื่น7 อารมณ์เย็นลงมานานขนาดนี้ตอนนี้ก็กลับมาสู่สภาวะเม้ามอยกันอีกครั้ง ยังคงพูดเรื่องของตงหลินคิงส์คัพ
“ได้ยินมาว่าคิงส์คัพไม่น่าจะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ อาจจะเป็นตอนครึ่งหลังของเทอม ถ้าเป็นแบบนี้ฉันพยายามฝึกซ้อมหนักก็ยังมีโอกาสใช่ไหม” พอเหออวี้เปิดกลุ่มออกมาก็เห็นจ้าวจิ้นหรานพูดอย่างนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีความกระตือรือร้นต่อ The Kings มากกว่าทุก ๆ คนเลย
“แน่นอน ชัวร์!” โจวม่อพูดในแง่ดี รีบส่งกำลังใจให้จ้าวจิ้นหรานสู้ ๆ ทันที
“ว่าไปแล้ว อยู่ครึ่งหลังของเทอมก็น่าจะเพื่อให้แต่ละภาควิชามีเวลาทำความเข้าใจแล้วก็คัดเลือกตัวแทนกันน่ะนะ” เกาเกอไม่เหมือนกับโจวม่อที่จะไปพูดจาแง่ดีกับคนอื่น เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปดื้อ ๆ เลย
“การแข่งขันดุเดือดอยู่นะ!” โจวม่อถอดทอนใจ
เหออวี้ดูแล้วก็รู้สึกว่าได้จังหวะเวลาที่ดี รีบแทรกเข้าไปหนึ่งประโยคอย่างเป็นธรรมชาติว่า “รุ่นพี่โจวม่ออยู่ภาควิชาไหนเหรอครับ”
“คอมพิวเตอร์” โจวม่อตอบ
“คณะเขายอดฝีมือเยอะมาก” เกาเกอพูด
“งั้นคณะพวกเธอล่ะ” โจวม่อถามเกาเกอ
“เด็กเรียนมากกว่า” เกาเกอพูด
“ใช่ๆๆ” เหออวี้พยักหน้ารัว ๆ แสดงความเห็นด้วยออกมา มหาวิทยาลัยตงเจียงมีชื่อเสียง คณะวิทยาศาสตร์ยิ่งโด่งดังยิ่งกว่า เป็นที่รวมตัวของเด็กเรียนจากทั่วประเทศ เหออวี้เดิมทีก็เป็น “เด็กบ้านอื่น” ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง แต่ว่าหลังจากที่ได้ทราบถึงความสำเร็จของเพื่อน ๆ นักศึกษาแล้วก็ถูกทุกคนกลืนหายไปเลย แล้วนี่ก็เป็นแค่ภาควิชาฟิสิกส์ของพวกเขา ภาควิชาคณิตศาสตร์ที่อยู่ข้างประตูฟังว่าไอคิวสูงกันทุกคนยิ่งกว่าอีก ส่วนภาควิชาเคมีที่อยู่เหนือสุดนั่นก็ยิ่งเป็นสัตว์ประหลาดไปกันใหญ่ ภาควิชาฟิสิกส์ค่อนข้างกล่าวได้ว่าปกติที่สุดในบรรดาสามภาควิชาแล้ว แต่ว่าปีนี้มันไม่เหมือนกัน ตัวแทนของนักศึกษาใหม่ นักศึกษาใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสถาบันม่อเซี่ยน ปีนี้มาจากภาควิชาฟิสิกส์ แล้วนี่ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมห้องของเหออวี้พอดีอีกด้วย จากที่อาจารย์เก่าแก่บางคนพูดมา อัจฉริยะขนาดนี้บ่มเพาะดี ๆ อนาคตก็เป็นสมบัติของชาติได้เลย
ม่อเซี่ยนจะเป็นสมบัติของชาติได้หรือไม่เหออวี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าตอนที่เขาไปเยี่ยมเพื่อนนักศึกษาชั้นปีเดียวกันหาคนเข้าคลื่น7 คนที่เล่น The Kings of Glory ในภาควิชาของพวกเขาก็มีไม่น้อยเลย ดังนั้น…
“งั้นยอดฝีมือ The Kings เยอะไหมครับ” คำถามข้อนี้จะอย่างไรเหออวี้ก็ยังต้องถามออกมา เขาเพียงแค่ไม่ได้ดูกระตือรือร้นขนาดจ้าวจิ้นหรานเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วก็คาดหวังรอคอยโอกาสที่จะได้แข่งขันมากขึ้นเหมือนกัน
“เด็กเรียนมากกว่า แต่ก็ยังพอมี” เกาเกอกล่าว
“อ้อ”
“พยายามเข้านะ นายยังมีโอกาสอยู่มาก” จากนั้นเกาเกอก็พูดขึ้นมาอีกประโยค
“พยายามไปด้วยกัน!” จ้าวจิ้นหรานโดดออกมาป่าวร้อง
“สู้ ๆ!” เหออวี้ตอบกลับ
“เฮอะ ๆ” อยู่ดี ๆ หลี่ซือเจี๋ยก็โผล่ออกมาอีกแล้วหมือนผีที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด ส่งข้อความเย็นชามาหนึ่งประโยค
“นายหมายความว่ายังไง” จ้าวจิ้นหรานอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
“ไม่มีอะไร” หลี่ซือเจี๋ยบอกมาแบบนี้ แต่ว่าที่เขาพิมพ์ “เฮอะ ๆ” ออกมาตอนแรกก็แสดงถึงความเหยียดหยามที่เขามีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว แต่ว่าดันมีแค่คำสองคำนี้ก็เลยไม่มีอะไรให้คนตำหนิได้ แต่ว่าจ้าวจิ้นหรานโกรธจนทนไม่ได้ แถมยังอยากชวนทะเลาะจริง ๆ จัง ๆ ให้พิมพ์ขี้เกียจจะพิมพ์เลยส่งข้อความเสียงออกมาตรง ๆ เลย
“เก่งจริงตัวเองก็เล่นให้ดีดิ วัน ๆ เอาแต่มาพูดมีลับลมคมในแบบนี้มีความหมายด้วยเหรอ”
“ฉันไม่สามารถ เชิญตามสบาย”
หลี่ซือเจี๋ยตอบกลับมาห้าคำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีข้อความขึ้นมาในห้องแชตว่าเขาถอนตัวออกจากห้องไปแล้ว
“ประสาทแดกรึไง มีใครประหลาดเหมือนเขาไหมเนี่ย” ด้านจ้าวจิ้นหรานนี่ก็ออกมากระทืบเท้าด้วยความโกรธออกมา โจวม่ออยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา คิดที่จะไปคุยกับหลี่ซือเจี๋ยเป็นการส่วนตัว ผลก็คือข้อความของหลี่ซือเจี๋ยกลับถูกส่งมาให้เขาเป็นการส่วนตัวเสียก่อนว่า “ไม่สนใจ ไม่เล่นแล้ว”
“หมายความว่ายังไง” โจวม่อปากอ้าตาค้าง
“พวกนายก็พยายามหาคนอื่นเถอะ ฉันไม่ลงแข่งแล้ว” หลี่ซือเจี๋ยตอบกลับมา
โจวม่อรีบโน้มน้าวใจเขา แต่ผลก็คือคำพูดโน้มน้าวจริงใจยาวเหยียดที่ส่งออกไปเหมือนกับก้อนหินที่จมลงไปในทะเล หลี่ซือเจี๋ยไม่สนใจเขาอีกเลย
“ไอ้เหี้ย บล็อกกูด้วยเหรอเนี่ย คนอะไรกันวะ สวะ!!” ในกลุ่มตอนนี้จ้าวจิ้นหรานยิ่งโกรธหนักกว่าเก่า เขาไล่ตามตั้งใจจะไปถกเหตุผลกับหลี่ซือเจี๋ย แล้วก็เป็นเหตุผลที่ยาวมากเลยด้วย ผลก็คือแม้แต่ข้อความก็ไม่สามารถส่งออกไปได้ ถูกหลี่ซือเจี๋ยบล็อกชื่อไปเรียบร้อยแล้ว
“……”
“……”
เหออวี้กับเกาเกอแจกจุดสองแถวซ้อนซึ่งเป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่พูดไม่ออกในขณะนี้ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี เกาเกอเพ่งความสนใจไปที่เกมอย่างระมัดระวัง แต่ว่าเกมเกมเดียวเล่นกันจนเพื่อนสนิทแตกคอนี่สุดท้ายแล้วเรียกว่าระมัดระวังหรือไม่ระมัดระวังกันแน่อะ
“นี่ล้อเล่นรึเปล่า” ตอนนี้โจวม่อก็ลงแคปแชตที่คุยกับหลี่ซือเจี๋ยลงไปในกลุ่ม เมื่อเทียบกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองแล้ว เขากังวลเรื่องที่ตอนนี้คลื่น7 มีคนน้อยไปหนึ่งคนมากกว่า พรุ่งนี้ตอนเช้าก็จะเป็นการแข่งขันรอบที่สองแล้ว ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้ว จะไปหาคนที่ห้ามาจากที่ไหนได้ล่ะ
“เขาจงใจแน่ ๆ ! เข้ากลุ่มมาตั้งกี่วันไปแล้ว อยู่ ๆ วันนี้ก็เพิ่งจะมาพูดเนี่ยนะ มันจงใจหาเรื่องให้พวกเราต้องถอนตัว ทำให้พวกเราต้องอับอาย!” จ้าวจิ้นหรานกล่าว
“มีเหตุผล” เกาเกอพูด
“เวลาอะไรแล้วเธอยังจะมาพูดแบบนี้อยู่อีกเหรอ” โจวม่อเคือง
“ก็มันมีเหตุผลจริง ๆ นี่” เกาเกอพูด
“ตอนนี้พวกเราเอายังไงดี เธอหาคนมาได้ไหม” โจวม่อพูด
“นายถามแบบนี้ก็ทำร้ายจิตใจกันไปแล้ว” เกาเกอพูด
“หมายความว่ายังไง”
“อยากให้ฉันหาคนมาขนาดปล่อยเลนกลางไปเลยไหม” เกาเกอพูด
โจวม่อฟังแล้วก็เข้าใจทันที ที่เกาเกอพูดมานี่ก็พูดอ้อม ๆ มากแล้ว ความหมายของเธอที่จริงก็คือถ้าเธอหาคนมาได้ก็ไม่มีวันที่จะเอาหลี่ซือเจี๋ยกับจ้าวจิ้นหรานสองคนนี้หรอก
“ไม่ได้พวกเราก็ไปกันสี่คน ยังไงมีเขาหรือไม่มีเขาก็ไม่สำคัญอะไรอยู่แล้ว!” จ้าวจิ้นหรานประกาศ
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแค่คำพูดยามโกรธ เกมที่แล้วเปี่ยนเชวี่ยของหลี่ซือเจี๋ยก็ไม่มีบทบาทสุด ๆ จริง ๆ แต่ว่ามันก็ไม่ถึงขั้นที่จะไม่หรือไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่ตอนเริ่มเกมที่ไปเอาบัฟฟ้าด้วยกันกับโฮ่วอี้ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้หวงเฉาพังทลาย ถ้าเกิดว่าไม่มีเปี่ยนเชวี่ยของเขา มีเพียงฮีโร่โฮ่วอี้ของเหออวี้ตัวเดียวก็จะไม่มีวันที่จะฆ่าบัฟฟ้าก่อนที่พวกจางเฉิงห่าวจะรีบเข้ามาเวดบัฟฟ้าได้เลย
นี่ก็คือประเด็นอย่างหนึ่งของเกมการแข่งขันนี้ เมื่อไรก็ตามที่ในสนามการแข่งขันใด ๆ มีคนน้อยลงหนึ่งคนก็จะส่งผลให้เกิดความเสียหายในทุก ๆ ด้าน ถ้าเกิดว่าเป็นเกมระดับสูงแล้วจุดอ่อนขนาดใหญ่ยักษ์เช่นนี้เกิดขึ้นมางั้นหกนาทียอมก็ไม่จำเป็นเลยจริง ๆ อาจจะ GG ออกไปได้เลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้โจวม่อไม่มีอารมณ์จะไปคุยกับเขาเลยจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าจ้าวจิ้นหรานเองก็รู้ว่านี่เป็นได้แค่การพูดไปเรื่อยเท่านั้น รีบกล่าวตามมาทันทีว่า “คู่ต่อสู้ของเกมหน้าก็ดูไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ พวกเราผ่านรอบนี้ไปก่อนค่อยพูดกันดีไหม”
“กลัวว่ากฎของการแข่งขันจะไม่อนุญาตรึเปล่า”
“งั้นก็แค่หาคนมาก่อน เล่นไม่ได้ก็เล่นไม่ได้ หาคนครบแล้วค่อยว่ากันอีกที ถึงจะแช่อยู่ในบ่อก็เอาเถอะ…” จ้าวจิ้นหรานกล่าว
……………………………………………..
สปอยล์เล็กน้อย ตอนต่อไปเป็นตอนที่หลายคนน่าจะรออยู่ อย่างน้อยคือเรารอมาก ๆ
เดากันได้ไหมคะ