วิธีการพัฒนาเนตรกระจก

โจวเหวินขมวดคิ้วแล้วมองพิด้า เพราะตอนนี้พิด้านั้นเปลี่ยนไปเหมือนกับว่าเป็นคนละคน เพราะเมื่อกี้นี้ เป็นครั้งแรก ที่เขาเห็นว่ามนุษย์บังคับให้ผู้พิทักษ์เข้ารับดาบแทนตัวเองแล้วส่งผู้พิทักษ์ไปตายแทน

“หวังหมิงหยวนพูดถูก นายแข็งแกร่งจริงๆ”พิด้ามองโจวเหวินแล้วพูด

พอได้ยินชื่อหวังหมิงหยวน โจวเหวินก็หลี่ตาลงแล้วถาม “นายเป็นใครกันแน่”

“พิด้า ชายผู้จะขึ้นไปเป็นราชาแห่งยักษา จำชื่อนี้เอาไว้”พิด้าพูดแล้วกระพือปีกพุ่งทะลุรอยแยกของมิติไปด้วยความเร็วสูง โจวเหวินเห็นช่องว่างของมิตินั้นปรากฏขึ้นและหายวับไปในเวลาแวบเดียวเท่านั้น จะตามไปก็สายไปเสียแล้ว

“หมอนั้นเป็นแบบเดียวกับอาจารย์ซินะ แต่ดูจะต่างกันอยู่นะ”โจวเหวินคิดในใจ ถึงพิด้าจะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาในตอนสุดท้ายแต่เขาก็รู้สึกว่าในร่างของพิด้านั้นมีวิญญาณของมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตต่างมิติผสมรวมกันอยู่ แบบเดียวกับที่หวังหมิงหยวนเป็น

โจวเหวินรู้มาอีกด้วยว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่เห็นด้วยกับหลักการของหวังหมิงหยวน เข้าไปในโลกต่างมิติ และพิด้าเองก็น่าจะเป็น1ในนั้น

โจวเหวินเองตอนแรกก็อยากจะถามเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหมิงหยวน แต่พิด้าหนีออกไปแล้วจะตามไปก็ไม่ได้ เขาเลยกลับไปที่ตระกูลหลูพร้อมกับผลึกอสูรนภาไพลินเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาเป็นคนล้มมันด้วยตัวเอง พอส่งเสร็จโจวเหวินก็ถามกับจ้าวตระกูลหลูเรื่องพิด้า

แต่จ้าวตระกูลหลูกลับบอกเขามาว่า ในเมืองหวางไหนั้นไม่มีนักล่าอิสระที่ชื่อพิด้า และไม่มีใครที่เขาเชิญมาที่ชื่อพิด้าเลย

“แต่ผมเคยเห็นเขาที่ตระกูลหลูนะครับ”โจวเหวินวาดภาพของพิด้าประกอบแล้วยื่นให้จ้าวตระกูลหลู

หลังจากดูเสร็จแล้ว จ้าวตระกูลหลูก็พูดขึ้นมา “ชายคนนี้เป็นนักล่าอิสระของแถบนี้ก็จริง และเขาก็รู้เรื่องนิสัยของสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำเป็นอย่างดีด้วย แต่เท่าที่ฉันจำได้เขาไม่ได้ชื่อพิด้า แต่เป็นอาหยีตั่งหาก”

โจวเหวินพอรู้แบบนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอยากจะตามสืบเรื่องต่อ หลังจากเสร็จภารกิจตรงนี้แล้วเขาก็กลับเมืองหวางไหทันที

นาโอะนั้นไม่ได้เข้าร่วมการล่า เพราะว่าดันไปเปิดเผยตัวเองเร็วเกินไป ทางพันธมิตรจากต่างแดนเลยยกเลิกแผนที่จะส่งเธอไปล่าสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำแล้วส่งไปอีกที่นึงในฐานะชูไอแทน เพื่อไม่ให้ตระกูลอันสงสัยเรื่องที่ว่าชูไอกับนาโอะนั้นเกี่ยวข้องกัน

ตอนแรกโจวเหวินตั้งใจจะกลับลั่วหยางเลย แต่ก่อนจะออกจากเมืองหวางไห เขาก้พบว่ามีผู้พิทักษ์อีกตัวนึงปรากฏขึ้นบนหน้าตารางจัดอันดับ ผู้พิทักษ์ตัวนั้นมีชื่อว่าค่ำคืนดวงดาวเข้าท้าทายสัตว์อสูรอันดับ 2  โจวเหวินได้ดูการประลองด้วย แล้วเขาก็เห็นผู้พิทักษ์ค่ำคืนดวงดาวนั้นยืนอยู่บนอากาศก่อนจะร่ายฝนดาวตกลงมาทำลายทุกอย่าง ระเบิดตูมตามอยู่แบบนั้นเกิน10นาทีจนกระทั้งสัตว์อสูรตัวนั้นเกือบตาย ก่อนที่อีกฝ่ายจะยอมแพ้หนีไป

“มีผู้พิทักษ์มาเพิ่มอีกแล้วเหรอ ไม่รู้ว่าตอนนี้มีคนที่ทำสัญญากับผู้พิทักษ์กี่คนไปแล้วนะ”โจวเหวินคิดในใจ

หลังจากที่ได้ที่2แล้ว มันก็ไม่ไปท้าทายอันดับ1 ดูเหมือนกับว่าไม่ได้คิดตั้งใจจะไปท้าทายมารสวรรค์อยู่แล้ว

โจวเหวินออกจากเมืองหวางไหแล้วดูผลึกสกิลที่ได้มาระหว่างทาง

ผลึกอสูรนภาไพลิน ระดับเร้นลับ ต้องการค่าร่างกาย 41 ค่ามิติ 21 วิชาลลมปราณสายมิติ

“ค่าร่างกาย41อีกแล้ว แบบนี้คงต้องหาวิธีการพัฒนาวิญญาณชีวิตดวงตากระจกให้เป็นระดับเร้นลับให้ได้ก่อนซะแล้วซิ ถ้าทำแบบนั้นแล้วเราก็จะดูดซับสกิลต่างๆได้ตั้งเยอะ” โจวเหวินคิด เขาจนถึงตอนนี้ยังหาวิธีพัฒนาวิญญาณชีวิตดวงตากระจกไม่ได้เลย

แต่ถึงอย่างนั้นรอบนี้ตอนที่เขามาที่เมืองหวางไห ถึงเขาจะไม่ได้ไข่สัตว์อสูรอสูรนภาไพลิน แต่อย่างน้อย เขาก็ได้ไข่ของมันจริงๆมา ถ้าเกิดสามารถฟักลูกตัวน้อยของมันออกมาได้บางทีเราอาจจะได้ใช้ตามแบบที่เราคิด ใช้แทนสัตว์อสูรได้ก็ได้

แต่ตอนนี้ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่ว่า ถ้าเกิดอสูรนภาไพลินมันฟักออกมาแล้ว มันเลี้ยงไม่เชื่องจะทำยังไง แล้วก็ยังถามอีกว่าจะทำยังไงให้มันเชื่องเลย

“จะว่าไปแล้วถ้าฉันเลี้ยงมันเหมือนแมลงจะได้ไหมนะ”โจวเหวินแอบคิด

โจวเหวินขี่วัวยักษ์ต้าเหว่ยแล้วให้มันพากลับไปตามถนน พลางเล่นเกมส์ฟาร์มไปด้วย รอบนี้เขาเล่นเกมส์หลูไท่ จนถึงตอนนี้เขายังจัดการกับจิ้งจอก9หางไม่ได้เลย ระดับเร้นลับตัวอื่นไม่ต้องพูดถึงหลังจากฟาร์มสิ่งมีชีวิตต่างมิติทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเขาก็ไม่มีอะไรให้ฟาร์มแล้วก็ต้องไปตายกับจิ้งจอก9หางตามเคย เหมือนกับรอบที่แล้ว ถึงจะทำลายร่างของมันไปได้ก็ตามแต่ มันก็ยังไม่ตาย มันกลายเป็นร่างความกลัวกลายเป็นเจ้าหญิงปีศาจแล้วฆ่าโจวเหวินทิ้งทันที

แต่รอบนี้ตอนทที่เขาเห็นการโจมตีของร่างความกลัวนั้น โจวเหวินลองมองสวนกลับไปด้วยเนตรกระจก แล้วโจวเหวินก็พบว่าร่างความกลัวที่เป็นสาวงามนั้นย้อนกลับไปเป็นจิ้งจอกอีกครั้ง

แต่มันอาจจะเป็นเพราะว่าความสามารถของเนตรกระจกนั้นยังอ่อนอยู่ ทำให้มีเพียงแค่ใบหน้าเท่านั้นที่กลับไปเป็นจิ้งจอก ส่วนที่เหลือนั้นยังเป็นมนุษย์อยู่

แถมมันย้อนกลับไปเป็นจิ้งจอกได้แค่แปปเดียวด้วย แล้วมันก็รีบกลับไปเป็นคนไวมาก

แต่นั้นก็ทำให้โจวเหวินรู้สึกได้เลย ว่าวิญญาณชีวิตเนตรกระจกกำลังเติบโตขึ้นจริงๆ

แต่ก่อนที่โจวเหวินจะได้ดีใจ หน้าจอของเขาก็ดับไปซะก่อน เขาแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวละครของโจวเหวินตายไปตั้งแต่เมื่อไร

“วิญญาณชีวิตเนตรกระจกดูเหมือนจะสามารถสะท้อนสกิลภาพมายาไปได้ด้วยซินะ ดูเหมือนว่าจะต้องวิญญาณชีวิตเนตรกระจกในการทำลายร่างจำแลงหรือภาพลวงตาที่สิ่งมีชีวิตต่างมิติสร้างขึ้นมาถึงจะพัฒนาวิญญาณชีวิตได้ แต่ไม่รู้ว่าภาพลวงตาที่มนุษย์สร้างมันจะใช้ได้ไหม”โจวเหวินดีใจมากที่ในที่สุดตัวเองก็หาวิธีการพัฒนาวิญญาณชีวิตจนเจอ

ถ้าเกิดเขาพัฒนาจนสุดแล้ว ค่าร่างกายของเขาก็จะถึง41 และเขาก็จะเรียนรู้สกิลระดับเร้นลับได้อีกหลายสกิล มันจะทำให้เขาแกร่งขึ้นไปอีกเยอะเลย

แต่ที่สำคัญกว่านั้น เขายังสามารถดูดซับผลึกของอสูรนภาไพลินได้ ซึ่งบางทีอาจจะเป็นสกิลที่ทำให้เขาวาปได้ไม่จำกัดอีกด้วย

“แล้วฉันจะไปหาสิ่งมีชีวิตที่แปลงร่างได้มาจากไหนกันละ จะให้ไปตายกับจิ้งจอกเก้าหางทุกรอบแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ช้าเกินไปแล้ว”โจวเหวินคิด แต่แล้วพอเขาลองไปหาข้อมูลในเน็ตเขาก็พึ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตต่างมิติหลายตัวเลยที่แปลงร่างได้ดี 1ในนั้นคือเหล่าภูติจิ้งจอกจากแดนตะวันออก

“เออวะ ลืมไปได้ไงกัน ด้านบนหลูไท่มีพวกเทวดาตัวปลอมเต็มไปหมดเลยนี้”โจวเหวินเกาหัว ก็ไม่แปลกที่โจวเหวินจะจำไม่ได้เพราะว่าพวกเทวดาจอมปลอมพวกนั้นมันปลอมเนียนมากซะจนโจวเหวินนึกไม่ออกเหมือนกัน

โจวเหวินเลยเข้าไปในหลูไท่ทันทีแล้วลองใช้เนตรกระจกกับเทวดาตัวปลอม ตอนที่เทวดาตัวปลอมระดับมหากาพย์โดนเนตรกระจก พวกมันก็แสดงร่างที่แท้จริงออกมาให้โจวเหวินเห็นตราบใดที่โจวเหวินยังคงมองอยู่

พอโจวเหวินเห็นว่าวิธีนี้มันใช้ได้ผล เขาก็มองไปได้ซักพัก แต่พอเทวดาพวกนั้นโดนเห็นโดยเนตรกระจกแล้ว พวกมันก็พยายามจะกลับร่างเทวดาทันที แต่ใช้เนตรกระจกนั้นมันกินพลังงานมหาศาล โจวเหวินเลยต้องเปลี่ยนวิญญาณชีวิตสลับเป็นฆาตกรอยู่บ้างบางครั้ง จากนั้นก็เปลี่ยนกลับไปเป็นเนตรกระจก ด้วยวิธีนี้ ทำให้โจวเหวินสามารถพัฒนาความสามารถของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาไปถึงระดับพัฒนา และขั้นสมบูรณ์ได้โดยขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น