“ขอบคุณเจ้ามากข้าจะกลับไปสั่งจับนางทันที”
นางลึกขึ้นและกล่าวลาแต่ก็หยุดเดินเมื่อไปถึงประตู
นางให้หยกสื่อสารกับซือหยู
“ติดต่อข้ามาถ้านึกอะไรขึ้นได้โอ้ จริงด้วยสิ ข้าชื่อเจิ้งหยวนชิง”
ซือหยูพยักหน้าโดยไม่รู้ตัวเขาตัวแข็งทื่อในทันที เขาใจเต้นแรง!
เจิ้งหยวนชิง?ผู้คุมกฎอาวุโสอันดับหนึ่งและเทพในตำนานคนนั้น!!
ซือหยูเสียวสันหลังโชคดีที่เขาแสร้งทำเป็นสุขุมในเบื้องหน้าได้ เทพจึงไม่สังเกตอะไร
เจิ้งหยวนชิงไม่เห็นสีหน้าที่แปลกไปชั่วขณะของซือหยูนางพยักอย่างด้วยความรู้สึกผิดด้วยหน้าที่แดงระเรื่อก่อนจะจากไป
หยางไท่มองซือหยูพลางครุ่นคิดแม้ว่าเครือข่ายข่าวสารของศูนย์การค้าจะไม่ข้องเกี่ยวกับจิวโจว แต่ดูจากที่เขารู้ มีเรือผู้คุมกฎอาวุโสได้แล่นออกไปก่อนที่ซือหยูจะขึ้นเรือออกจากจิวโจว
ความผิดพลาดของข่าวเล็กน้อยเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
แต่เมื่อไร้หลักฐานหยางไท่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ แต่ถึงจะมี…เมื่อเขาคิดถึงความเจ้าเล่ห์ของซือหยู หยางไท่ก็ส่ายหน้า เขาไม่คิดจะเป็นศัตรูกัน
หลังจากทั้งสองจากไปซือหยูคิดในความเงียบ
มีเพียงฟ้าดินเท่านั้นที่รู้ว่าเขาสังหารผู้คุมกฎฉินคั่วไม่มีใครนอกจากตัวซือหยูและเทพปีศาจที่รู้ แม้แต่เทพกิเลนยังไม่รู้เรื่องนี้เลย
แต่เขาจะรู้หรือว่าเทพปีศาจพูดถูกในเรื่องที่พันธมิตรบูรพามีวิธีสืบวิเศษ?พวกเขาไม่จำเป็นต้องสืบหาความจริงจากปากผู้ใดเลย นายน้อยแห่งเทพตำราได้แอบวางกับดักเผื่อซือหยู
ร่างทมิฬแล่นประตูขณะซือหยูที่กำลังกลุ้มใจ
ซือหยูชักสีหน้ามีเซียนขั้นสูงสุดจากตระกูลเทพกระเรียนมาป้องกันตำหนักนี้ ใครกันที่สามารถเข้ามาในตำหนักได้โดยที่เซียนเหล่านั้นไม่รู้ตัว?
ด้วยความตกใจและสงสัยซือหยูเปิดประตูและพบเศษกระดาษที่หน้าประตู
เขาม้วนมันขึ้นมาด้วยพลังเพื่อป้องกันตัวจากอาวุธลับเมื่อเขาคลายม้วนกระดาษ เขาพบข้อความเขียนเอาไว้
เมื่อได้อ่านซือหยูหรี่ตาทันที!
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปหลายครั้งเขาเดินไปมาในตำหนักและคิดหนัก
“เหอเสี่ยวหลานเข้ามา”
พักใหญ่กว่าที่เขาจะเริ่มพูด
เหอเสี่ยวหลานมาด้วยความไม่เต็มใจทั้งโมโหและรำคาญ นางผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของซือหยู
“มีข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับเจ้าเจ้าจะฟังข่าวไหนก่อนล่ะ?”
ซือหยูถาม
เหอเสี่ยวหลานหันมอง
“ข่าวดี”
“ข่าวดีก็คือข้าจะปล่อยเจ้าข้าจะไม่ยุ่งกับอิสระเจ้าอีกต่อไป แน่นอนว่าเจ้าไปได้ตั้งแต่ตอนนี้”
ซือหยูไม่ได้ล้อเล่นเลย
เหอเสี่ยวหลานดีใจแต่นางก็ไม่เคลื่อนไหว นางมองเขาอีกครั้งและถาม
“แล้วข่าวร้ายล่ะ?”
ซือหยูจ้องมองเหอเสี่ยวหลานครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ข่าวร้ายคือตัวข้าที่เป็นผู้สืบสวน จำเป็นต้องไล่ล่าเจ้า แม้ว่าเจ้าจะหนีไปถึงสุดขอบโลก!”
เหอเสี่ยวหลานถอนหายใจแรง
“เจ้าพยายามจะทำอะไรกันแน่?”
ฟึ่บ!
“เจ้าอ่านเองสิ”
ซือหยูโยนแผ่นกระดาษให้นาง
เหอเสี่ยวหลานคลี่กระดาษอ่านด้วยความสงสัยและตกใจจากนั้นนางก็ชักสีหน้า นางตะโกนด้วยความแค้นและโกรธเกรี้ยว
“คังเตี้ยยี่ยังไม่ตายเรอะ?มันตกไปอยู่ในมือพี่ใหญ่ข้าสินะ?”
เหอเสี่ยวหลานรู้ดีกว่าใครว่าพี่ชายทั้งสองของนางมองนางอย่างไรนางคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านพ่อ! ทั้งสองอยากให้นางตายก่อนใคร!
พี่กลางนั้นไม่เป็นไรแต่พี่ใหญ่นั้นถวิลหาวันตายของนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อที่ท่านพ่อจะให้มอบบัลลังก์เทพกับเขา เมื่อคังเตี้ยยี่ตกอยู่ในมือพี่ใหญ่หากเขาประกาศข่าวกับทั้งโลก แม้แต่เทพกระเรียนก็ช่วยนางไม่ได้!
ไม่แปลกเลยที่ซือหยูขอให้นางหนีไปเพราะความตายกำลังจะมาถึงนางแล้ว!
“ถ้าเจ้าหนีข้าจะใช้โอกาสนี้ตามล่าเจ้าและหนีออกจากโลกเทพกระเรียน ทั้งเจ้ากับข้าจะได้ประโยชน์ เจ้าว่าอย่างไร?”
ซือหยูแนะนำ
เมื่อเหอเสี่ยวหลานมีความผิดเทพกระเรียนย่อมระเบิดความโกรธใส่ซือหยู และเขาจะต้องตายอย่างไร้ความหมาย
ดังนั้นก่อนที่เรื่องจะเกินมือซือหยูต้องทำการไล่ล่าเหอเสี่ยวหลานที่หนีจากความผิด เมื่อข่าวกระจ่ายออกมา ซือหยูก็หนีไปไกลโดยไร้ร่องรอยให้ติดตามแล้ว
“ไม่มีทาง!”
เหอเสี่ยวหลานตะโกนด้วยความโกรธนางจะนั่งรอความตายอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร?แต่ซือหยูไม่ได้ร้อนรนเลย เขากลับยิ้ม
“เจ้าคิดแบบนั้นข้าก็โล่งใจ”
เหอเสี่ยวหลานมีความหวัง
“เจ้าหาทางออกได้หรือ?”
เหอเสี่ยวหลานรู้จักความล้ำลึกในอุบายของซือหยูสุดขั้วหัวใจ
แต่ถ้าหากนางจับมือกับเขามันจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ไม่มีใครคาดคิด!
ซือหยูกับนางลงเรือลำเดียวกันแล้วไม่มีใครอยากจะให้ข่าวแพร่งพรายออกไป
“ไม่ใช่ทางออกแต่เป็นการวางแผน!”
ซือหยูยิ้ม
แววตาเหอเสี่ยวหลานเต็มไปด้วยความดีใจ
“ข้าจะช่วยเจ้าอย่างดีที่สุดต้องการอะไรจงบอกมา”
ซือหยูลังเลอยู่นานก่อนจะตอบ
“มันเป็นกลยุทธ์ที่จะจัดการทุกอย่างในคราเดียวสำหรับทั้งเจ้าและข้า ถ้าเจ้ายอมรับได้ เราจะเริ่มลงมือ แต่ถ้าไม่ ก็ลืมสิ่งที่ข้ากำลังจะพูดไปซะ”
เหอเสี่ยวหลานตอบ
“ข้ากำลังจะตายอยู่แล้วข้าจะลังเลอะไรอีก?”
ซือหยูพยักหน้าช้าๆ และบอกแผนทั้งหมดกับนาง
เมื่อฟังจบใบหน้าเหอเสี่ยวหลานหมองหม่นลงในทันที นางหน้าซีดราวกับกระดาษ นางพูดพลางตัวสั่น
“เจ้าอยากให้ข้าข้า…”
ซือหยูถอนหายใจ
“เฮ้อเจ้าลืมมันซะเถอะ ความเสี่ยงในแผนนี้มากเกินไป ไม่ได้ดีไปกว่าแผนเสี่ยงหนีเลย”
แต่เหอเสี่ยวหลานไม่ได้ปฏิเสธในทันทีหลังจากคิดอยู่นาน ความเยือกเย็นก็ปรากฏในแววตาที่คล้ายวิหคเพลิงของนาง “เจ้าคิดว่าโอกาสสำเร็จมีเท่าใดกัน?”
ซือหยูคิดไม่นาน
“ไม่ถึง…หนึ่งในสิบ”
“หนึ่งในสิบ…ไม่ได้น้อยเกินไปหรอกน่า!ถ้าเราทำสำเร็จ อนาคตก็จะไม่มีภัยกับพวกเราอีกแล้ว!”
ต่อหน้าความตายเหอเสี่ยวหลานนั้นมีความปรารถนาที่จะเอาตัวรอด
ซือหยูพูด
“ถ้าเรายืนยันตัวตนของคนที่ทิ้งกระดาษแผ่นนี้ได้โอกาสจะเพิ่มขึ้นเป็นห้าในสิบ! ข้าหวังว่าข้าจะคิดถูก”
หลังจากสองวันซือหยูออกจากตำหนักและเดินทางรอบโลกเทพกระเรียน
ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดึงดูดความสนใจและมิอาจเล็ดรอดคนที่คิดร้ายได้
แม้กระนั้นก็ไม่มีใครเห็นพฤติกรรมประหลาดของซือหยูโดยเฉพาะคนตระกูลเทพกระเรียน เพราะซือหยูนั้นมีหน้าที่ของผู้สืบสวนอยู่เขากำลังทำภารกิจให้เทพสองคน ถ้าหากเขาไม่ออกจากตำหนักมาเลย มันจะแปลกกว่าหรือไม่?
เหอจิงหงสนใจซือหยูเป็นพิเศษเขาจับตาดูทุกคนที่ติดต่อกับซือหยูและพยายามฟังสิ่งที่พูดคุย
แม้จะมีตราเทพในมือนี่ก็คือดินแดนของตระกูลเทพกระเรียน ไม่มีความเคลื่อนไหวใดของซือหยูที่รอดพ้นสายตาตระกูลเทพกระเรียน
หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรชอบมาพากลของซือหยูเหอจิงหงจึงสบายใจได้
สองวันต่อมาในห้องลับ เหอเสี่ยวหลานกลับมาหาซือหยู
“เจ้าเตรียมการถึงไหนแล้ว?”
ซือหยูถาม
เหอเสี่ยวหลานม้วนผมเล่นด้วยนิ้วมือและตอบอย่างน่าหลงใหล “ข้ากำลังรอให้ท่านพี่มาจบชีวิตข้าอยู่ยังไงล่ะ!”
ฟึ่บ!
ไม่นานผู้เฒ่าคนหนึ่งก็รีบมาจากนอกประตู
“นายหญิงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เหอเสี่ยวหลานแสร้งทำเป็นไม่รู้และเหลือบมองกับซือหยูโอกาสพลิกชะตาของพวกเขามาถึงแล้ว!
เหงื่อเย็นๆ แตกเต็มใบหน้าตู่หลง
“นายหญิงคังเตี้ยยี่ถูกเจอตัว เขารายงานกับผู้คุมกฎอาวุโสไปแล้ว ข้ามาเพื่อแจ้งข่าวให้ท่าน!”
เหอเสี่ยวหลานยิ้มอย่างเยือกเย็นที่มุมปากแต่นางก็เปิดประตูไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อะไรนะ?เขาไม่ได้หายตัวไปเรอะ? เขายังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?” ตู่หลงเหงื่อแตกพลั่กและเครียดจนสมองแทบจะระเบิด
“ข้าก็ไม่รู้แต่ต่อให้เขาไม่ตาย มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาโลกเทพกระเรียนของเรา นายหญิงต้องหาทางหยุดเขา ถ้าคังเตี้ยยี่ไปบอกผู้คุมกฎอาวุโสเมื่อไหร่มันจะสายเกินไปแล้ว!”
เหอเสี่ยวหลานกล่าว
“แต่ถ้าถูกจับตัวอยู่ข้าไปไหนไม่ได้…”
เหอเสี่ยวหลานมองซือหยูอย่างหมดหวังซือหยูตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“ชะตาของเราผูกกันแล้วข้าจะติดตามเจ้าไปในฐานะผู้สืบสวน! จะต้องหยุดคังเตี้ยยี่ให้ได้!”
ทั้งสองออกจากตำหนักทันทีอย่างรีบร้อน
เมื่อไปถึงกองทัพพวกเขาก็เห็นคนแปลกหน้ามากมาย มีคนแบกคังเตี้ยยี่และเดินมาที่หน้าทัพผู้คุมกฎอาวุโสที่ประจำการโลกเทพกระเรียน คังเตี้ยยี่สีหน้าดำมืดราวกับว่าเขาอยู่ข้างโลงศพของตัวเอง
สาวน้อยคนหนึ่งที่ดูคล้ายสาวใช้มารับเขาอย่างอดทน
“ท่านคังท่านมีอะไรจะพูดหรือ?”
นางถาม
คังเตี้ยยี่หายใจเข้าลึกและพูดด้วยความยากลำบาก
“ข้าต้องการรายงานเหอเสี่ยวหลาน!เป็นฝีมือนาง! นางฆ่าจิงไป่ ลูกของเทพจิง โปรดสืบสวนด้วย ผู้คุมกฎอาวุโส”
หลักฐานมาอยู่ตรงหน้าผู้คุมกฎอาวุโสแล้ว!
ทุกอย่างจบแล้ว!
เหอเสี่ยวหลานตัวสั่นอย่างคุมไม่อยู่นางชักสีหน้า นางนั้นนางก็กัดฟันลอบโจมตีซือหยูและเตรียมจะบินหนี
แต่ซือหยูตอบสนองอย่างรวดเร็วเขาหยิบตราเทพออกมาทันที ภายใต้แสงพลังเทพ เหอเสี่ยวหลานร่างกายบิดเบี้ยว นางล้มลงกับพื้น
ซือหยูพันธนาการนางและถอนหายใจ
“เจ้าเป็นผู้กระทำผิดจริงๆ ข้าต้องขอให้เจ้าให้ความร่วมมือในการสืบสวน”
เมื่อเขาพูดจบเขาก็พานางไปยังตำหนักของตระกูลเทพกระเรียน
เมื่อได้ข่าวผู้คุมกฎอาวุโสเห็นถึงความสำคัญในคดีนี้และส่งเสี่ยวเสวียนมาดูแล
เทพกระเรียนนั้นกำลังบ่มเพาะพลังเขาให้ความสำคัญกับเรื่องของเหอเสี่ยวหลานมากและคิดจะหยุดบ่มเพาะแต่เพียงเท่านี้ เมื่อสายลมสงบแล้ว เขาจึงจะกลับไปบ่มเพาะต่อ
หลักฐานจะต้องถูกทำลายเหอเสี่ยวหลานจะไม่มีความผิด
ในบรรดาลูกทั้งสามเขาตั้งใจจะส่งมอบบัลลังก์เทพให้กับเหอเสี่ยวหลานและไม่ปรารถนาให้มีเรื่องร้ายเกิดกับนาง
ในตอนนั้นเองเสียงของเหอจิงหงดังมาจากนอกห้องลับ
“ท่านพ่อข่าวร้าย! ตังเตี้ยยี่เปิดโปงน้องสาวแล้ว! ผู้คุมกฎอาวุโสกำลังมา!”
เทพกระเรียนราวกับถูกสายฟ้าฟาดเขาหันไปถามอย่างเยือกเย็น
“เหอเสี่ยวหลานอยู่ที่ไหน?เจ้าบอกนางให้หนีหรือไม่?”
หากผู้คุมกฎอาวุโสเข้ามาเอี่ยวนั่นก็หมายความว่าเรื่องได้ถูกรู้กันเป็นวงกว้างแล้ว
เขาเพียงแค่หวังให้เหอเสี่ยวหลานหนีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่นางจะทำได้
“มันสายไปแล้ว!ทันทีที่หลักฐานชัดเจนและปกปิดไม่ได้อีกต่อไป ซือหยูก็จับน้องสาวข้าที่กำลังจะหนีอย่างป่าเถื่อนเพื่อที่จะทำให้เทพจิงพอใจ นางถูกส่งตัวไปที่เรือนข้า ท่านพ่อต้องตัดสินใจ”
เทพกระเรียนไม่พอใจ
“อะไรนะ?เจ้าซือหยูกล้าดียังไง! มันไม่ใช้โอกาสนี้หนีไปแต่กลับหยุดลูกสาวข้าให้หนีเรอะ? มันคิดจริง ๆ รึว่าเทพจิงจะช่วยมันได้?”