ตอนที่ 2835 ข่าวใหม่

เมืองสกายสปริง สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :

เนื่องจากการที่สภาสิบแปดปีกได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของตัวเองออกมาในการต่อสู้ที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ตอนนี้บริเวณสถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีกมันจึงเต็มไปด้วยผู้เล่นที่ต่อแถวการรอสมัครเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก และจำนวนมันก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเลยเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา แต่นี่ก็ยังไม่ใช่จำนวนที่คงตัว มันยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

โดยนี่มันก็ทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของบุคลากรของสภาสิบแปดปีกนั้นมันรวดเร็วมากๆจนแม้แต่กองกำลังใหญ่ที่ปฎิบัติการอยู่ในเมืองสกายสปริงก็ยังตกตะลึงกับเรื่องนี้

และตอนนี้ มันก็สามารถจะกล่าวได้เลยว่าแค่ผู้เล่นขั้นสามทั้งหมดที่มารวมตัวกันที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกในเมืองสกายสปริงตอนนี้ มันก็มีจำนวนมากพอที่จะทำให้กิลขนาดใหญ่ประหลาดใจได้แล้ว เพราะจำนวนของผู้เล่นขั้นสามที่มารวมตัวกันนั้นมันมีหลายหมื่นคน และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“นี่สภาสิบแปดปีกกำลังจะทำอะไรกัน ? ทำไมพวกเขาถึงรวบรวมสมาชิกขั้นสามจำนวนมากมาไว้ที่นี่ ?”

“สภาสิบแปดปีกกำลังจะมีปฎิบัติการครั้งใหญ่งั้นหรอ ?”

“น่าจะแบบนั้นแหละมั้ง …. นับตั้งแต่สงครามที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับจบลง มือแห่งนักบุญก็ได้ประกาศสงครามเต็มรูปแบบกับสภาสิบแปดปีก โดยในจักรวรรดิออร์คซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่หลักของมือแห่งนักบุญนั้น มันไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุพวกเขาเลย อันเนื่องมาจากพวกเขาสามารถจะควบคุมมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ และตอนนี้แม้แต่จักรวรรดิมังกรดำก็ยังเริ่มโดนรุกรานแล้ว พร้อมกันนั้นถนนรอบเมืองปีกสีเงินก็ถูกปิดกั้นทั้งหมด แม้ว่าในเมืองจะมีห้องเทเลพอร์ต แต่รายได้ของเมืองก็คงจะไม่สูงขึ้นแล้ว โดยใครก็ตามที่กล้าออกมาจากเมืองปีกสีเงินก็จะถูกมอนสเตอร์ Faux Saint จัดการ อย่างไรก็ตามตอนนี้เนื่องจากความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ดังนั้นพวกเขาอาจจะวางแผนที่จะแข่งขันกับมือแห่งนักบุญในจักรวรรดิออร์คก็ได้”

ผู้เล่นที่สงสัยเกี่ยวกับการปรากฎตัวของผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากของสภาสิบแปดปีกอดไม่ได้ที่จะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพวกเขาก็ล้วนเห็นตรงกันว่าสภาสิบแปดปีกกำลังจะมีปฎิบัติการครั้งใหญ่แน่นอน เพียงแต่มันจะเกิดขึ้นที่หนก็เท่านั้น …. เพราะท้ายที่สุดสภาสิบแปดปีกมีใบรับประกันอย่างหอคอยแห่งพันธสัญญาลับที่ไม่มีใครสามารถจะเขย่าได้อยู่

ซึ่งหอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั้นเป็นดินแดนศักสิทธิ์แห่งการเก็บเลเวลเลย แถมมันยังมีมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามดรอปอีก ดังนั้นด้วยการมีหอคอยนี้อยู่ในครอบครอง มันก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นมากที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถเผชิญหน้ากับมือแห่งนักบุญในจักรวรรดิออร์คได้

ในตอนนี้ไม่ใช่แค่คนนอกเท่านั้นที่งงงวยกับการเรียกระดมพลจำนวนมากอย่างกระทันหันของสภาสิบแปดปีก แม้แต่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกที่มารวมตัวกันที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกก็ยังรู้สึกงงงวยและสับสนกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้เลยจริงๆว่าทำไมกิลถึงสั่งระดมผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากเข้ามาที่นี่

“เยว่ซี่ คุณรู้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น ?!”

เจียนโม่วโฉว ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยหมาป่าแดงอดไม่ได้ที่จะถามซัมมอนเนอร์หนุ่มขั้นสามที่เดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

แม้ว่าจะไม่ต้องการใส่ใจ แต่มันก็ทำไม่ได้แน่นอน เพราะออร่าของผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากที่มารวมตัวกันนั้นมันน่าทึ่งมากๆ แถมนี่มันก็ยังอาจส่งผลกระทบไปถึงเรื่องอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่มีให้แลกเปลี่ยนในคลังกิลของสภาสิบแปดปีกด้วย

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่มีมากกว่าหนึ่งร้อยชิ้นให้แลกเปลี่ยนนั้น ถูกแลกไปแปดชิ้นแล้ว และทุกคนก็รู้ดีว่านี่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อเวลาผ่านไป บรรดาทีมนักผจญภัยขนาดใหญ่ที่เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกแล้วก็จะสามารถเก็บสะสมคะแนนกิลได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอัตราการแลกเปลี่ยอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคมันก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าตอนนี้แน่นอน

ขณะเดียวกันตอนนี้เธอแลกมาได้แค่หมวกชั้นยอดระดับอีปิคสำหรับนักดาบเท่านั้น เธอยังต้องการจะแลกอาวุธด้วย เพราะอาวุธนั้นจะช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ของเธอได้อย่างมาก

ซึ่งหากผู้เล่นขั้นสามที่ปรากฎตัวขึ้นจำนวนมากที่นี่ตอนนี้ต้องการจะแข่งขันในเรื่องการแลกเปลี่ยนอาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคด้วย การแข่งขันมันก็จะเข้มข้นขึ้นอย่างมากแน่นอน

“บอสฉันได้สอบถามมาจากคอนเนคชั่นที่เรามีทุกที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทีมนักผจญภัยที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเรา หรือแกนหลักบางคนของสภาสิบแปดปีกที่คุ้นเคยกับเรา แต่มันไม่มีใครรู้จริงๆว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แม้แต่เหล่าแกนหลักส่วนใหญ่ก็ยังสับสนกับเรื่องนี้เช่นกัน” ซัมมอนเนอร์หนุ่มขั้นสามกล่าวพลางส่ายหัว “แต่ฉันได้ข่าวที่ชัดเจนมาเรื่องหนึ่งคือ คำสั่งระดมพลครั้งนี้มันมาจากผู้ช่วยหัวหน้ากิลโดยตรง โดยประกาศนี้ได้แจ้งไปยังสมาชิกทั้งหมดที่กิลไว้ใจมากๆ”

“คุณได้ลองไปตรวจสอบกับพวกแกนหลักที่มีชื่อเสียงบางคนโดยเฉพาะรึยัง ?” เจียนโม่วกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อมีคำสั่งแบบนี้ออกมา มันน่าจะมีปฎิบัติการครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน”

สำหรับปฎิบัติการขนาดใหญ่ โดยทั่วไปกิลจะมอบคะแนนกิลให้เป็นรางวัล ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันจะเพิ่มคู่แข่งในการแลกเปลี่ยนอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคของพวกเขาขึ้นไปอีกจำนวนมาก

และในระหว่างที่เจียนโม่วโฉวกำลังรู้สึกกังวลนั้น มันก็ได้มมีผู้เล่นจำนวนมากเดินเข้ามาในสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก โดยคนเหล่านี้นั้นไม่ได้มีตราสัญลักษณ์กิลของสภาสิบแปดปีกติดอยู่ที่หน้าอก แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้เลย เพราะพวกเขานั้นแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ขณะที่ชายผู้ที่นำหน้าผู้เล่นกลุ่มนี้มานั้นก็มีออร่าที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกขั้นสี่เลยทีเดียว

“ทำไมรองผู้บัญชาการของฮีฟเว่นเบลดถึงมาที่นี่ ?”

“สรุปฮีฟเว่นเบลดเข้ามาอยู่ภายใต้สภาสิบแปดปีกแล้วจริงๆงั้นหรอ ?”

การปรากฎตัวของผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายคนของฮีฟเว่นเบลดนั้นทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสมาชิกของกองกำลังขนาดใหญ่ต่างๆที่พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรเลย ….

แม้ว่าฮีฟเว่นเบลดจะเป็นเพียงแค่ทีมนักผจญภัย แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียงอย่างมาก และพวกเขาก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนสามคนอยู่ในทีม ซึ่งมหาอำนาจต่างๆก็ได้พยายามรับสมัครฮีฟเว่นเบลดกันอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ถูกฮีฟเว่นเบลดปฎิเสธไปทั้งหมด

แต่ตอนนี้ฮีฟเว่นเบลดกับมาปรากฎตัวขึ้นที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก ซึ่งมันเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเลยว่าฮีฟเว่นเบลดได้เข้ามาอยู่ภายใต้สภาสิบแปดปีกแล้ว ดังนั้นมันจึงทำให้กองกำลังต่างๆอดไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง

แถมเมื่อฮีฟเว่นเบลดได้เข้ามาอยู่ภายใต้สภาสิบแปดปีก ความแข็งแกร่งของกิลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกมากเลยทีเดียว

“รองผู้บัญชาการดีไวน์ชาโด้ว กิลสภาสิบแปดปีกนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ ตอนนี้พวกเขามีผู้เล่นขั้นสามอยู่อย่างมากมาย และฉันคิดว่าอีกไม่นานจำนวนผู้เล่นขั้นสามของพวกเขาก็คงจะมากกว่ากิลชั้นยอดส่วนใหญ่แน่นอน” คลีนซิ่งเฟรมอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆอย่างประหลาดใจ

แล้วก็พวกเขาก็ยังได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้ที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับมาบ้าง …

เมื่อก่อนนั้นฮีฟเว่นเบลดของพวกเขาแทบจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าสภาสิบแปดปีกด้วยซ้ำ หากวัดกันในแง่ของผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกตอนนี้นั้นขึ้นไปอยู่เหนือกว่าพวกเขาจนพวกเขาไม่สามารถจะเทียบได้ติดแล้ว และจากที่ดู ความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกก็น่าจะขึ้นมาเทียบเท่ากับกิลชั้นยอดอย่างแท้จริงแล้วด้วย

ดีไวน์ชาโด้วนั้นได้แต่ยิ้มให้กับคำพูดของคลีนซิ่งเฟรมก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “รีบไปกันเถอะ เราไม่ควรปล่อยให้หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมต้องรอเรา ….”

คลีนซิ่งเฟรมนั้นได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะเดินตามดีไวน์ชาโด้วตรงไปยังห้องประชุมชั้นบนสุดของสภาสิบแปดปีกทันที

สำหรับเรื่องนี้เธอเองก็อยากรู้เช่นกันว่าทำไมซือเฟิงถึงส่งคำเชิญอย่างกระทันหันมาให้ฮีฟเว่นเบลด และเรียกให้พวกระดับสูงของฮีฟเว่นเบลดมาที่นี่

พูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว สภาสิบแปดปีกในปัจจุบันก็ไม่น่าจะขาดผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่นี่ ซึ่งตรงกันข้ามกับเกาะดราก้อนฮาร์ทที่สภาสิบแปดปีกขาดแคลนกำลังคนมากๆ เพราะท้ายที่สุดมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสำรวจและออกล่าในชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลก และพูดกันตามตรง สภาสิบแปดปีกควรแบ่งกำลังคนบางส่วนนี้ไปที่เกาะดราก้อนฮาร์ทมากกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนั้นมันมีมรดกขั้นสี่ดรอป ซึ่งนี่มันก็เป็นสิ่งที่กิลขนาดใหญ่ทุกกิลตอนนี้ล้วนต้องการกันอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่นานดีไวน์ชาโด้ว และคนอื่นๆก็ได้มาถึงห้องประชุมชั้นบนสุดของสภาสิบแปดปีกที่ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีก และทีมนักผจญภัยอาชูร่ามารอ
อยู่ก่อนนานแล้ว โดยเมื่อทั้งสองฝ่ายสังเกตเห็นกันและกันนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีประหลาดใจและสงสัยออกมา

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่บางคนกำลังจะพูดอะไรขึ้นนั้น ซือเฟิง และเหลียงจิงก็ได้เดินเข้ามาในห้องประชุม

โดยซือเฟิงได้เดินตรงมานั่งที่หัวโต๊ะซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวหน้ากิล ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ฉันขอโทษจริงๆที่ทำให้พวกคุณต้องรอนาน”

ซึ่งในขณะที่ซือเฟิงพูดนั้น ทุกคนล้วนเงียบทั้งหมด และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมซือเฟิงถึงเรียกพวกเขามาที่นี่

“เหลียงจิง เธออธิบายสถานการณ์โดยละเอียดให้ทุกคนฟังหน่อย …” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“รับทราบ !!” เหลียงจิงที่อยู่ด้านข้างของซือเฟิงได้เดินออกมาเปิดหนังสือเล่มเล็กที่เธอถือไว้อยู่ ก่อนที่เธอจะมองไปยังฝูงชนและพูดว่า “ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเมืองสภาสิบแปดปีกนั้นได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองหลักเรียบร้อย และที่เราเรียกทุกคนมาที่นี่กันก็เพื่อพูดคุย เรื่องปัญหาการพัฒนาของเมืองสภาสิบแปดปีกในอนาคต ….”

“ปัญหาการพัฒนาของเมืองสภาสิบแปดปีก ?” ดีไวน์ชาโด้วที่ฟังอยู่จากด้านข้างอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เมื่อได้ยินเรื่องนี้

ถ้าเป็นเรื่องนี้แล้ว ตามหลักเหตุผลกิลไม่น่าจะขอให้พวกเขามาที่นี่ เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันนับเป็นธุรกิจส่วนตัวของกิลเลย ทีมนักผจญภัยภายใต้กิลไม่น่าจะสามารถออกความเห็นอะไรได้

“ใช่แล้ว …” เหลียงกล่าวพลางพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ฉันเชื่อว่าทุกคนก็ล้วนสงสัยเช่นกันว่าเมืองสภาสิบแปดปีกหายไปไหน ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงจะมาบอกพวกคุณเลยว่าเมืองสภาสิบแปดปีกนั้นได้ถูกเคลื่อนย้ายไปตั้งอยู่ที่แผนที่หุบเขาอาร์กติกแกรนด์ ซึ่งเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบ โดยเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับหุบเขาอาร์กติก
แกรนด์นี่แหละ พวกคุณสามารถดูข้อมูลโดยละเอียดได้เลย …”

เมื่อพูดจบเหลียงจิงก็ได้ทำการส่งข้อมูลโดยละเอียดของหุบเขาอาร์กติกแกรนด์ให้ขึ้นไปแสดงผลบนจอแสดงผลของโต๊ะประชุมเพื่อที่จะให้ทุกคนสามารถตรวจสอบมันได้

หลังจากนั้นทุกคนก็ได้เริ่มคลิก และเข้าอ่านข้อมูลนี้

ทันใดนั้นเองนี่มันก็ทำให้ห้องประชุมทั้งห้องเงียบลง และทุกคนเกือบจะหยุดหายใจ ….