ความผิดของแผนที่
ชมรมฟิสิกส์ประยุกต์?
ซูเก๋อซึ่งมีฐานะเป็นประธานของชมรมที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยตงเจียง หนุ่มฮ็อตระดับสูงสุดผู้โด่งดังทั่วทั้งสถาบัน เมื่อได้ยินชื่อของชมรมนี้ก็อึ้งจนคิดอะไรไม่ออก จากนั้นก็ถึงขนาดต้องเหลือบมองเกาเกอที่ไม่เคยเข้ากับเขาได้เลยแวบหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
ส่วนเกาเกอก็หัวเราะออกมาแล้ว
ชมรมนี้ในสถาบันน้อยคนมากที่จะรู้จัก แล้วก็แทบจะไม่มีคนให้ความสนใจอะไรเลยด้วย แต่ว่าเธอก็เป็นนักศึกษาภาควิชาฟิสิกส์ จะอย่างไรก็ยังทราบถึงการคงอยู่ของชมรมนี้ แต่ว่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วมันยังมีการดำเนินงานตามปกติรึเปล่า เท่าที่เธอรู้ นักศึกษาชั้นปีสามของพวกเธอดูเหมือนว่าจะไม่มีสักคนที่เป็นสมาชิกของชมรมนี้ นักศึกษาภาควิชาฟิสิกส์ยังเป็นแบบนี้ แล้วนักศึกษาภาควิชาอื่นยังจะสามารถไปหวังได้อีกหรือ คิดไม่ถึงเลยว่านักศึกษาใหม่ปีหนึ่งที่อยู่ต่อหน้าคนนี้กลับเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟิสิกส์ด้วยงั้นเหรอ
“ลาก่อน” จากนั้นม่อเซี่ยนก็เอ่ยลาทุกคนอย่างสุภาพแล้วจากไป ทุกคนมองตามหลังเขาไปโดยไม่พูดไม่จา ในตอนนี้ทุกคนก็ได้พบกับสถานการณ์ที่เหออวี้ต้องเจออยู่ทุก ๆ วันแล้ว : ไม่มีอะไรจะพูดกับม่อเซี่ยน
ยอดฝีมือ The Kings of Glory จากชมรมฟิสิกส์ประยุกต์จากไปแล้ว ทีม 422-424 ทั้งห้าคนก็ลุกขึ้นจากตำแหน่งที่นั่งของพวกเขาในที่สุด พวกเขาสุดท้ายแล้วก็ยอมรับความเป็นจริงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าได้แล้ว เพียงแต่บนใบหน้ายังคงมีความสับสนมึนงงอยู่ ซูเก๋อมองดูพวกเขา อยากจะพูดปลอบใจสักหลายคำแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี สุดท้ายแล้วก็ได้แต่ยื่นมือออกไปตบไหล่กัปตันหวงปิน
ทีม 422-424 ทั้งห้าคนแต่ละคนต่างเงียบกริบ และหวงปินที่ได้รับการปลอบใจจากซูเก๋อก็พยักหน้ารับ จากนั้นทั้งห้าคนก็หันหน้าจากไป อย่าว่าแต่คำพูดทักทายตามมารยาทหลังจบเกมเลย พวกเขาไม่แม้แต่จะมองมาทางด้านคลื่น7 สักแวบด้วยซ้ำ
นักศึกษาหญิงที่เตร็ดเตร่อยู่ในสนามแข่งคนหนึ่งเดินผ่านพวกทีม 422-424 ห้าคนไปพอดี หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก็หันร่างกลับไปเหลือบมองเงาหลังของพวกเขา แล้วต่อมาก็เดินมาทางด้านซูเก๋อด้วยสีหน้างุนงง
“ยังไงเนี่ย” เธอถามซูเก๋อตรง ๆ
“อะไรยังไง” ซูเก๋อถามกลับ
“เมื่อกี้ไม่ใช่พวกหวงปินเหรอ ฉันจำได้ว่าพวกเขาเล่นรอบแรกตอนเช้าเลยนิ เป็นไงมาไงถึงไปแล้ว” นักศึกษาหญิงเอ่ยถาม
“เล่นจบแล้ว” ซูเก๋อภูด
“จบแล้ว?” นักศึกษาหญิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเช็คเวลาอย่างตกตะลึง พร้อมกับพูดพึมพำว่า “พวกนายเริ่มกันเร็วเหรอ”
“เปล่า” ซูเก๋อฝืนยิ้ม ทราบว่านักศึกษาหญิงคนนี้กำลังตะลึงเรื่องอะไร
“ดันเร็วเหรอ” เห็นได้ชัดว่านักศึกษาหญิงคนนี้ก็เป็นผู้เล่น The Kings มือเก่าเหมือนกัน ตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ระยะเวลาในตอนนี้จากตอนที่เริ่มการแข่งขันยังไม่ถึงหกนาที ถึงอยากจะกดปุ่มยอมแพ้ก็ยังทำไม่ได้ มีแต่การดันเร็วถึงจะจบได้เร็วขนาดนี้
พอพูดจบนักศึกษาหญิงก็หันร่างไปแล้ว หลังจากที่พูดกับซูเก๋อไปไม่กี่คำแล้วก็เบนสายตามาเหลือบมองพวกคลื่น7 สี่คน เปิดปากขึ้นมาได้ก็แสดงความสัมพันธ์อย่างชัดแจ้ง “เก่งจังนะเกาเกอ ทีมปีนี้แกร่งขนาดนี้เลยเหรอ”
เธอทางหนึ่งพูด อีกทางก็หันไปมองคนที่อยู่ข้างกายเกาเกอ โจวม่อเธอรู้จักอยู่แล้ว ข้ามไปตรง ๆ หันไปสำรวจที่ตัวเหออวี้กับจ้าวจิ้นหรานเป็นหลัก
“ก็งั้น ๆ” เกาเกอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชามากหนึ่งประโยค
“ทำไมมีแค่สี่คน” นักศึกษาหญิงกล่าว
“เธอยุ่งอะไรด้วย” เกาเกอกล่าว
“เป็นศัตรูของรุ่นพี่เกาอีกแล้วเหรอครับ” เหออวี้กระซิบถามโจวม่อ
คำว่า “อีก” นี้ดึงดูดความสนใจของเกาเกอมาได้ หันหน้าไปมองเหออวี้แวบหนึ่ง
โจวม่อเองก็รอจนสายตาแวบนี้ของเกาเกอผละไปแล้วค่อยขยับไปที่ข้างใบหูของเหออวี้ กล่าวด้วยเสียงที่เบากว่าเดิมว่า “ก็นิดหน่อย”
“ไปเถอะ” หลังจากเกาเกอส่งเสียงบอกออกมาคำหนึ่งแล้วก็เดินจากไปโดยไม่หันไปมองนักศึกษาหญิงคนนั้น จ้าวจิ้นหรานเดินตามจังหวะการเคลื่อนไหวของกัปตัน แต่ว่าโจวม่อดูเหมือนจะช้าไปหนึ่งก้าว เหออวี้เข้าใจทันทีและชะลอฝีเท้าลงเหมือนกัน ไปเดินอยู่ข้างตัวโจวม่อ
“เก่งจังนะโจวม่อ กล้าเล่นดันเร็วด้วยเหรอ” นักศึกษาหญิงคนนั้นก็ไม่ได้ไปหาเรื่องแขวะเกาเกอต่อ แต่ว่าหันมาถากถางโจวม่อแทน โจวม่อเก่งกาจในด้านป้องกัน สไตล์ค่อนข้างคงเส้นคงวา การดันเร็วที่เป็นการเล่นเสี่ยงอย่างถึงที่สุดนี้มันช่างแตกต่างจากนิสัยตามปกติของเขาไปคนละทิศเลยจริง ๆ โจวม่อเองฟังแล้วก็ย่อมเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มออกมา
“เพื่อนนักศึกษาใหม่คนนั้นล่ะ นายเล่นตำแหน่งอะไร” นักศึกษาหญิงพูดกับโจวม่อจบแล้วก็หันไปถามเหออวี้
“แครี่” เหออวี้ตอบตามความสัตย์
“อ้อ งั้นนายก็ต้องระวังตัวให้ดีนะ!” นักศึกษาหญิงกล่าวอย่างเป็นห่วงเป็นใยมาก
“ระวังอะไรครับ” เหออวี้ไม่เข้าใจ
“ตำแหน่งที่ผิดพลาดนิดเดียวก็แพ้ทั้งกระดานได้อย่างนี้ ต้องระวังโดนรุ่นพี่เกาเกอของพวกเราด่าจนหูดับตับไหม้ด้วยล่ะ!” นักศึกษาหญิงกล่าว
โจวม่อที่อยู่ด้านข้างฟังแล้วก็กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที พูดตามความจริงแล้วตั้งแต่เหออวี้เข้าร่วมคลื่น7 ก็ไม่ได้ถูกเกาเกอด่าน้อยกว่าทุกคน สมาชิกทีมก่อนหน้านี้หลายคนมากที่ทนรับกับสถานการณ์แบบนั้นไม่ได้จนต้องลาออกไป ดังนั้นโจวม่อจึงได้กลัวมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าเหออวี้จะมีขีดจำกัดความอดทนอยู่ที่ตรงไหน ตอนนี้นักศึกษาหญิงคนนี้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาตรง ๆ ทำให้โจวม่อหันไปสนใจท่าทีของเหออวี้โดยทันที
ผลก็คือเหออวี้กลับยิ้มน้อย ๆ แล้วถามว่า “รุ่นพี่ด่ามาก็ไม่ผิด ทำไมต้องระวังตัวด้วย ควรจะต้องใจกว้างหน่อยไหม”
นักศึกษาหญิงอึ้ง
โจวม่ออึ้ง
ซูเก๋ออึ้ง
เกาเกอที่เดินออกมาแล้วพอได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักฝีเท้าลง เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปและก้าวเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าจ้าวจิ้นหรานที่ตามกัปตันออกมาด้วยก็ได้เห็นว่าบนใบหน้าของเกาเกอมีรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งอยู่
“มีปัญหาอะไรเหรอครับ” ด้านเหออวี้มองเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของทั้งสามคนจึงถามออกมา
โจวม่อไร้คำพูด ได้แต่ตบบ่าของเหออวี้แรง ๆ เหออวี้มองเขา พบว่าในแววตาของโจวม่อเหมือนจะมีบางสิ่งซ่อนเร้นอยู่
“นายพูดถูกมาก” โจวม่อพูดเสียงหนัก
“เป็นรุ่นพี่เกาที่พูดถูกมาก” เหออวี้พูด
“แต่ว่าคนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยเกินไปแล้ว” โจวม่อพูด
“ก็คงเป็นเพราะว่าใจไม่กว้างพอ” เหออวี้พูด
“ถล่มแผนที่*แล้วนะ” โจวม่อพูด
“งั้นก็เป็นความผิดของแผนที่” เหออวี้พูด
ทุกคนที่ได้ยินเงียบลงไปอีกครั้ง
เกาเกอกับชมรม The Kings แล้วก็ผู้เล่น The Kings จำนวนมากมีปัญหากันมาเนิ่นนานแล้ว สาเหตุนั้นหลายคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็รู้ดี นั่นมันเป็นเรื่องความถูกความผิดในเกมงั้นเหรอ ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย สิ่งที่ทุกคนแคร์ก็คือท่าทีของเกาเกอ
ก็แค่เกม ต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ
นี่ก็คือประโยคคำพูดที่ถูกหยิบยกมาแสดงความไม่พอใจต่อเกาเกอที่ถูกใช้บ่อยที่สุด สาเหตุที่เกาเกอไม่ได้รับความเห็นชอบก็เป็นเพราะสาเหตุนี้เป็นส่วนใหญ่ด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าตอนนี้กลับมีคนอย่างนั้นขึ้นมาหนึ่งคนแล้ว ไม่ใส่ใจความจริงจังของเกาเกอสักนิด จุดสนใจของเขาอยู่แค่เพียงความถูกความผิดในเกมเท่านั้น
ณ ขณะนี้ความกังวลของโจวม่อที่มีมาตั้งแต่ตอนที่เหออวี้เข้าร่วมเป็นสมาชิกก็ได้สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง เหออวี้จริงจังเหมือน ๆ กับเกาเกอ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะพบว่านักกีฬาอาชีพที่เกาเกอชื่นชมที่สุดเป็นคนที่เขาเกลียดขี้หน้ามาก ๆ ก็ยังสามารถเข้ากับเกาเกอได้ เพราะว่าเขากับเกาเกอนั้นเหมือนกัน มีท่าทีที่จริงจังต่อเกมเหมือนกัน
จากนั้นโจวม่อก็ตบบ่าเหออวี้แรง ๆ อีกครั้งหนึ่ง ตบจนเหออวี้อยากให้บนร่างของตัวเองมีไอเทมสะท้อนดาเมจบ้างโจวม่อจะได้รู้ว่าเขาตบแรงแค่ไหน
“พวกนายยังไม่ไปอีกเหรอ” เกาเกอที่เดินไปไกลแล้วอยู่ ๆ ก็กันหน้ากลับมาเรียกคนทั้งสอง
“มาแล้ว” เหออวี้กับโจวม่อพูดเป็นเสียงเดียวกัน แล้วเร่งฝีเท้าไล่ตามไปพร้อมกัน
“นั่นใครอะ” นักศึกษาหญิงมองตามแผ่นหลังที่เดินจากไปของทั้งสองคนแล้วถามขึ้น
“เหออวี้ เด็กใหม่ภาควิชาฟิสิกส์” ซูเก๋อกล่าว
“เก่งมากเหรอ” นักศึกษาหญิงพูด
“ยังมีเก่งกว่านี้อีก” ซูเก๋อพูด
“ทำไมถึงถูกเกาเกอขโมยตัวไปได้ทั้งนั้นเลยล่ะ” นักศึกษาหญิงพูด
“นั่นก็ไม่แน่” ซูเก๋อยิ้ม
…………………………………………………….
*ถล่มแผนที่地图炮 อันนี้เป็นสำนวนจีนค่ะ หมายถึงคนที่ตั้งข้อรังเกียจคนอื่นจากที่มาของเขาตามความเชื่อเช่น (จำตัวอย่างจีนไม่ได้แต่สำหรับคนไทยก็น่าจะเป็น) คนยิวงก คนอีสานโง่ คนใต้เป็นพวกก่อการร้าย อะไรแบบนี้ ซึ่งก็ถล่มแผนที่กันได้ตั้งแต่วงแคบ ๆ ขนาดจังหวัดหรือโรงเรียนที่เรียนจบมา จนไปถึงถล่มแบบครึ่งโลกเช่นคนตะวันตกเห็นแก่ตัว กันเลย สรุปก็คือโจวม่อบอกว่าเหออวี้เหมารวมด่าทุกคน (เพราะทุกคนในมหาวิทยาลัยมีปัญหากับเกาเกอทั้งนั้น) ส่วนเหออวี้ก็บอกว่า ทุกคนนั่นแหละที่ผิด!