ส่วนที่ 4 ภาคความปรารถนาจากบูรพา ตอนที่ 61 ความลับสวรรค์มีความหมายเช่นไร

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

บนยอดเขาหานซานมีทะเลสาบสีเขียวครามอยู่ สงบนิ่งมิอาจหยั่งรู้ตื้นลึก แม้ว่าจะถูกล้อมรอบด้วยความเย็น ผิวหน้าของทะเลสาบก็ยังแผ่ไอหมอกออกมา

ริมทะเลสาบบนหน้าผา มีก้อนหินขนาดต่างๆ กระจัดกระจายอยู่บนพื้นหญ้า แน่นอนว่ามีก้อนหินที่จมอยู่ในทะเลสาบมากกว่านี้อีก บ้างก็จมอยู่ก้นทะเลสาบ บ้างก็เผยมุมแหลมคมกับท้องฟ้า กระเรียนมังกร จำนวนมากที่บินลงใต้เพื่อใช้เวลาช่วงฤดูร้อน กำลังยืนอยู่บนก้อนหินเหล่านั้น พลางไซ้ขนอย่างสบายอารมณ์

ทะเลสาบแห่งนี้ก็คือทะเลสาบสวรรค์ เป็นจุดรวมของน้ำพุร้อนจำนวนมาก หินพวกนั้นก็คือหินสวรรค์ เมื่อนานมากแล้ว หินเหล่านี้ได้ตกลงมาจากสวรรค์และแม้จะไม่เหมือนกับแผ่นป้ายอนุสรณ์คัมภีร์สวรรค์ในสุสานเทียนซูที่ได้รับการบูชาจากคนมาหลายชั่วอายุคน แต่พวกมันก็มีชีวิตที่สบายกว่า ใช้ชีวิตอย่างกว้างไกลน่าสนใจยิ่งกว่า

ชายชรานั่งบนก้อนหินริมทะเลสาบ ดวงตาปิดสนิทเสมือนกำลังอาบแดด

บนเจดีย์สูงด้านหลังก้อนหิน มีผู้รับใช้อยู่หลายร้อยคน แต่กลับไม่มีเสียงใดดังออกมา

หอความลับสวรรค์เป็นสถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดทว่าลึกลับที่สุดในต้าลู่

นี่เป็นที่ออกแถลงการณ์ในการจัดอันดับและประกาศทุกชนิด ได้รับการยอมรับว่ามีความเที่ยงธรรมและเป็นกลางที่สุด มีอำนาจยิ่งใหญ่ไม่มีใครกล้าตั้งคำถาม เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและเกี่ยวข้องในทุกกิจการ หูตาสอดส่องไปทุกที่ แม้แต่ในหมู่คนธรรมดาก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อหอความลับสวรรค์ แต่กระนั้นกลับไม่มีใครรู้ว่ามันตั้งอยู่ที่ใดกันแน่

แต่สำหรับผู้เข้มแข็งที่อยู่ชั้นบนสุดของโลกผู้บำเพ็ญเพียร ที่ตั้งของหอความลับสวรรค์นั้นไม่เคยเป็นความลับ

หอความลับสวรรค์เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนนับไม่ถ้วนในต้าลู่ มีคฤหาสน์มากมาย แม้แต่ภูเขาและถ้ำที่มีชื่อเสียงอีกยี่สิบกว่าแห่ง

ไม่ว่าผู้เฒ่าความลับสวรรค์หอความลับสวรรค์อาศัยอยู่ที่ใด ที่นั่นก็คือหอความลับสวรรค์

ชายชราที่อยู่ริมทะเลสาบก็คือผู้เฒ่าความลับสวรรค์หอความลับสวรรค์

ไม่ว่ายามใดที่เขาหลับตาพักผ่อน ทุกคนในหานซานก็ต้องเงียบเสียงเป็นธรรมดา

ทันใดนั้นผู้เฒ่าความลับสวรรค์ก็ลืมตาขึ้น

ดวงตาทั้งสองโรยราเพราะกาลเวลาและเปี่ยมไปด้วยปัญญา ทว่าตอนนี้มีความตกใจแทรกเข้ามา เขาคือหัวหน้าของแปดมรสุม ระดับการบำเพ็ญเพียรเกินจะบรรยายได้ อย่างไรก็ตาม เขามีทักษะเฉพาะในการคำนวณ จะมีเรื่องใดในโลกที่หลุดรอดสายตาของเขาไปได้ แล้วอะไรที่จะทำให้เขาตกใจได้

ผู้เฒ่าความลับสวรรค์หอความลับสวรรค์ยกมือขวาขึ้นและชี้ไปที่ไอน้ำซึ่งลอยขึ้นมาจากทะเลสาบสวรรค์

ไอพลังปราณที่อ่อนจางแต่เหนียวแน่นแผ่ออกมาจากปลายนิ้ว ละลายหมอกไอน้ำจนกลายเป็นความโกลาหลในทันที

ภายในหมอกที่ปั่นป่วนนั้น มีภาพที่เลือนรางอยู่มากมาย

เมื่อภาพพวกนั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ก็แยกออกเป็นเศษเสี้ยวจำนวนนับไม่ถ้วน

“เกิดอะไรขึ้น”

“เหตุใดเจ้าถึงจากเมืองเสวี่ยเหล่าเดินทางมาถึงหานซาน”

“เจ้าซ่อนจากสายตาข้าได้อย่างไร ชุดดำ…นั่นเจ้าใช่หรือไม่”

“เผ่ามารย่อมหวังจะหาทางทำลายการบรรจบกันของเหนือใต้ แต่ไม่มีเหตุผลที่เจ้าจะมาด้วยตัวเอง มาที่นี่ยิ่งมีเหตุผลน้อยกว่า การทำเช่นนี้มีประโยชน์อันใด”

“พันปีก่อนเจ้าถูกโจวตู๋ฟูทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จากนั้นเจ้าก็ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเสวี่ยเหล่ารักษาอาการบาดเจ็บ แม้แต่ในยามที่ชุดดำวางแผนที่จะล้อมสังหารซูหลี เจ้าก็ให้การช่วยเหลือผ่านท้องฟ้าราตรีเท่านั้น ไม่กล้าที่จะออกจากเมืองเสวี่ยเหล่าแม้แต่เพียงครึ่งก้าว หรือเป็นเพราะเจ้าเกรงว่าซูหลีจะพลันออกมาและทำให้เจ้าบาดเจ็บ แล้วเหตุใดวันนี้เจ้าจึงกล้าออกมาจากเมืองเสวี่ยเหล่า”

“มีเหตุผลสองอย่างเท่านั้นที่ทำให้เจ้าออกจากเมืองเสวี่ยเหล่า ประการแรกก็คือเจ้าหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ประการที่สองคือเจ้ามาหาวิธีรักษาอาการบาดเจ็บที่ได้รับในอดีต”

“มีวิธีใดอยู่ในเขาหานซานแห่งนี้”

“นั่นใครกัน”

“เป็นเขาอย่างนั้นหรือ”

“เขามีของวิเศษใดอยู่กับตัว หรือว่าเจ้าต้องการจะสังหารเขา”

“ทำไมเทียนไห่ต้องการให้ข้าตรวจสอบเขา เจ้ากับเทียนไห่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร”

“นี่มันอะไรกัน…แม้แต่ข้าก็ไม่อาจมองเห็นได้”

“เฉินฉางเซิง เจ้าเป็นคนเช่นใดกันแน่”

“หากเจ้าต้องการสังหารเฉินฉางเซิง ทำไมเจ้าไม่ลงมือตอนที่เขากำลังเดินทางแทนที่จะมายังหานซาน ข้าเข้าใจแล้ว เป็นเพราะเหมาชิวอวี่กับราชันย์แห่งหลิงไห่ร่วมเดินทางมากับเขาตลอดเวลา และมีโอกาสที่สังฆราชได้มอบของวิเศษของนิกายหลวงให้พวกเขานำติดตัวมาด้วย เจ้าเกรงว่าเจ้าอาจจะถูกพวกเขาทำให้เสียเวลา…เจ้าเกรงว่านี่จะเป็นแผนที่พวกเราเตรียมเอาไว้”

“หลังจากเหตุการณ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือพวกเรา สิ่งใดที่เห็นก็เป็นเหมือนกับแผนการ”

“ดังนั้นเจ้าจึงเลือกที่จะมายังหานซานและสังหารเฉินฉางเซิง ตราบใดที่เจ้าหลบเร้นจากข้าได้ ก็ไม่เป็นไรแล้ว”

“แต่กระนั้นเจ้าก็ไม่คาดคิดว่าหลิวชิงกับเสี่ยวเต๋อจะเผยตัวเจ้าได้เร็วนักและทำให้เจ้าเสียเวลาไปไม่น้อย”

“จากนั้น ตอนนี้ก็เป็นตาของข้าแล้วที่จะตัดสินใจ”

ความคิดมากมายปรากฏขึ้นในใจของผู้เฒ่าความลับสวรรค์หอความลับสวรรค์ ทำการคำนวณนับไม่ถ้วน ไอพลังปราณดั่งเส้นด้ายจำนวนนับไม่ถ้วนก่อเป็นภาพอยู่ในห้วงแห่งจิตของเขา

ในเวลาเดียวกัน นิ้วของเขาก็สั่นอยู่ในสายลม ฉีกเป็นเส้นทางนับไม่ถ้วนผ่านไอน้ำ

ไอพลังปราณที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อห่อหุ้มทั่วทะเลสาบสวรรค์

หินจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นจากผืนหญ้า ลอยออกมาจากหน้าผา ลอยขึ้นมาจากทะเลสาบ และพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

น้ำในทะเลสาบสาดกระจาย หญ้าและโคลนร่วงหล่น ทะเลสาบปั่นป่วนเป็นอย่างมาก

จากยอดเขาหานซานจนถึงท้องฟ้าเบื้องบน มีก้อนหินลอยอยู่กลางอากาศจำนวนนับไม่ถ้วน

หินทุกก้อนเป็นจุดสีดำ ระหว่างจุดลากเป็นเส้นที่มองไม่เห็น เส้นที่มองไม่เห็นจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นตาข่าย

ตาข่ายขนาดยักษ์ที่เกิดจากก้อนหินกินพื้นที่กว่าห้าร้อยลี้รอบหานซาน

บัณฑิตวัยกลางคนอยู่ภายในนั้น

อย่างไรก็ตาม ความเป็นกังวลในดวงตาของผู้เฒ่าความลับสวรรค์ไม่ได้ลดลง แต่กลับลึกลงกว่าเดิม

แม้แต่ในตอนนี้ เขาก็ไม่อาจคำนวณได้ว่าบนตัวของเฉินฉางเซิงมีอะไรที่จะทำให้คนผู้นี้ออกมาจากเมืองเสวี่ยเหล่ามาจนถึงที่นี่ได้

เกล็ดหิมะร่วงลงสู่เส้นทางภูเขาอย่างช้าๆ เมฆอึมครึมปกคลุมยอดเขาจนดูเสมือนยามราตรี เสียงฉีกกระชากดังมาจากสถานที่ซึ่งไกลออกไปมาก

เฉินฉางเซิงไม่ทราบว่านั่นเป็นเสียงของหินสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศและเปลี่ยนเขาหานซานทั้งลูกให้กลายเป็นกรงขัง

จิตใจของเขาจับจ้องไปที่บัณฑิตวัยกลางคนที่อยู่อีกฝั่งของลำธาร

จากนั้น สายตาก็จับจ้องไปที่สายตาของบัณฑิตวัยกลางคน

เสมือนเสียงสายฟ้าระเบิดขึ้นกลางใจ ใบหน้าขาวซีดกว่าเดิมจนแทบไม่เหลือสีเลือด

หิมะกลบสีอื่นไปสิ้น แต่มีเพียงสีเลือดที่โดดเด่น

เขาพอจะเดาได้แล้วว่าบัณฑิตวัยกลางคนคือใคร ในตอนนี้เขาเข้าใจข้อความที่สายตาของบัณฑิตวัยกลางคนสื่อและรู้ว่าเหตุใดเขาถึงมาที่นี่

จุดจบที่เขาจะได้พบนั้นไม่ใช่ความตาย แต่จบลงอย่างน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตาย

เป็นจุดจบที่เขากลัวที่สุดนับตั้งแต่คืนนั้นในวันเก่าเมื่อหลายปีก่อน

เมฆหม่นมัวรวมตัวกันรอบภูเขา นำมาซึ่งความมืดมนอนธการ

เหมาชิวอวี่และราชันย์แห่งหลิงไห่สัมผัสถึงมันได้ในเวลาเดียวกัน พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองลึกเข้าไปในภูเขา สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นในทันที

“ปล่อยให้เรื่องไปถึงขั้นนี้เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้จริงๆ”

เหมาชิวอวี่ละสายตาและจ้องไปทางราชันย์แห่งหลิงไห่ สายตาของเขาแหลมคมอย่างยิ่ง แขนเสื้อทั้งสองสั่นกระพือแม้ว่าจะไม่มีลม มือก็คว้าจับบางอย่างภายในแขนเสื้อ

ราชันย์แห่งหลิงไห่มีสีหน้าน่าเกลียดผิดปกติ เขาส่งเสียงคำรามกล่าว “มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”

ปรากฏการณ์ประหลาดบนหานซานไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราชันย์แห่งหลิงไห่ เหมือนกับที่เฉินฉางเซิงและคนอื่นได้คาดเอาไว้ เพราะเขาเคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะได้เป็นว่าที่สังฆราช ราชันย์แห่งหลิงไห่และคนบางคนที่อยู่เบื้องหลังจึงได้จัดการให้เสี่ยวเต๋อมาสร้างปัญหาบนเส้นทางภูเขา แต่ทว่า เขาชักนำความมืดมิดมาได้อย่างไร