บทที่ 2019 – จับอสูรหมีทลายเหมันต์ เพลิงจตุรเมฆา
“ข้าเองก็ชอบเหมือนกัน“เป่ยหมิงเสวี่ยเม้มริมฝีปากด้วยท่าทางเขินอาย
“เอาละ ในเมื่อพวกท่านทุกคนชอบ ข้าก็จะพยายามให้ดีที่สุดที่จะจับมัน“ชิงสุ่ยหัวเราะคึกคัก
ชิงสุ่ยพุ่งตรงเข้าหาอสูรหมีทลายเหมันต์พร้อมกับเจ้ากิเลนน้อย เขาจะต้องเอาชนะพวกมันให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นถ้าหากพวกมันร่วมมือกัน เขาจะกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และไม่อาจต่อต้านได้อีก
โฮกกกก!!
อสูรหมีทลายเหมันต์ไม่มีทีท่าจะยอมถอย แม้เจ้ากิเลนน้อยจะทำให้พวกมันกังวล แต่พื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่คือภูเขาน้ำแข็ง คือเขตแดนของมัน คนอื่นเป็นคนนอก มันไม่มีทางยอมถอยเด็ดขาด อสูรหมีทลายเหมันต์ส่งเสียงร้องคำรามและยิงก้อนน้ำแข็งทรงกลมเข้าใส่เจ้ากิเลนน้อย
กิเลนโดดเด่นทางด้านไฟ ในขณะที่อสูรหมีทลายเหมันต์โดดเด่นทางด้านน้ำแข็ง ทั้งสองจึงเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ
ทางทฤษฎี อสูรหมีทลายเหมันต์ควรจะกำชัยชนะเหนือเจ้ากิเลน เพียงแต่เจ้ากิเลนมีความแข็งแกร่งกว่ามาก ดังนั้นผู้ที่จะได้กำชัยชนะจึงยากที่จะบอก ภายในองค์ประกอบ 5 ธาตุ น้ำและไฟตัดสินกันด้วยปริมาณ น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ แต่ถ้าน้ำมากกว่าไฟก็จะดับ
ปังงงง!!
เปลวไฟลุกท่วมล่างเจ้ากิเลนเผาผลาญน้ำแข็งของอสูรหมีทลายเหมันต์จนเกิดเสียงแตก เมื่อสถานการณ์ย่ำแย่ลง อสูรหมีทลายเหมันต์ทั้ง 5 ตัวก็พุ่งตรงเข้าหาเจ้ากิเลนน้อยอย่างบ้าคลั่ง
ปังงงง ปังงงงง….. เสียงระเบิดดังสนั่น ทั้งเจ้ากิเลสน้อยและอสูรหมีทลายเหมันต์ต่างก็ระเบิดพลังทำลายล้างเข้าหากัน ชิงสุ่ยปลดปล่อยทักษะปรมัตถพุทธะเพื่อสนับสนุนเจ้ากิเลนน้อย ในไม่ช้า เจ้ากิเลนน้อยก็ได้รับชัยชนะ
อสูรหมีทลายเหมันต์ดูย่ำแย่ ร่างกายของพวกมันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด อ่อนแอจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ เสียงคำรามแห่งความหวาดกลัวดังทั่วทั้งพื้นที่
ชิงสุ่ยนำยาเม็ดเสริมอสูรออกมา 2 เม็ด และมอบให้กับหญิงสาวทั้งสองคน
“เอายาเม็ดนี้ไปให้อสูรตัวที่พวกท่านชอบ เนื่องจากมีอยู่ 5 ตัว ถ้าหากตัวใดต่อต้านก็ฆ่าได้เลย“ชิงสุ่ยหัวเราะเขาตั้งใจกล่าวเพราะรู้ดีว่าอสูรหมีพวกนี้เข้าใจภาษามนุษย์
หญิงสาวทั้งสองคนเจอตัวหมีที่ดูแข็งแกร่งกว่าตัวอื่น พวกเธอจึงเอายาเม็ดเสริมอสูรให้พวกมันกิน
ยาเม็ดเสริมอสูรค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ในชั่วพริบตาสายใยพันธะของทั้งสองฝ่ายก็เกิดขึ้น พลังปราณจิตของทั้งสองเกิดการแลกเปลี่ยน เมื่อสัตว์อสูรกินยาเม็ดเสริมอสูร หาพวกมันไม่เชื่อฟังเจ้าของ แล้วเข้าต่อสู้กับเจ้าของ ร่างกายของพวกมันจะเกิดการต่อต้าน ปราณจิตในตัวจะขัดขืน ก่อให้เกิดความทรมานกาย
หลังจากทำให้อสูรมีที่ต้องการเชื่อฟังคำสั่ง ชิงสุ่ยก็ทำการรักษาบาดแผลของพวกมันและเพิ่มความแข็งแกร่งตอนนี้พวกมันมีพลังเราๆ 2500 ล้านเต๋าและมีพลังโจมตี 5000 เต๋าในการโจมตีพิเศษ ความแข็งแกร่งของมันเริ่มไม่ได้ห่างจากเจ้ากิเลนน้อยแล้ว เพียงแต่เจ้ากิเลนน้อยสามารถต้านทานการโจมตีที่แข็งแกร่งกว่าราย และยังสามารถเติบโตเป็นตัวเต็มวัย ในขณะที่อสูรหมีทลายเหมันต์ที่อยู่เบื้องหน้าคือระดับโตเต็มวัย
หญิงสาวทั้งสองคนยืนอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ร้องขอให้อสูรของตนแสดงความสามารถ พวกมันได้รับทั้งตัวยาและผลไม้จากชิงสุ่ย ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มพูนขึ้นอย่างชัดเจน
เมื่อประเมินจากความสามารถของอสูรหมีทลายเหมันต์ ตอนนี้อสูรหมีแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้าของ เพียงแค่พลังโจมตี ด้วยพลังในปัจจุบันของหญิงสาวทั้งสองคน พวกเธอไม่มีทางหลบการโจมตีของอสูรหมีทลายเหมันต์ได้ทัน
การเดินทางครั้งนี้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า พวกเธอรู้ดีว่าพวกเธอติดหนี้บุญคุณชิงสุ่ย หากปราศจากชิงสุ่ยพวกเธอไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้เลย นี่ไปกว่านั้น ชีวิตของพวกเธอก็คงจะตกอยู่ในความเสี่ยง
ชิงสุ่ยจ้องมองอสูรหมีทลายเหมันต์อีก 3 ตัวที่เหลือ มันยากที่จะพบสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและเหมาะสมเช่นนี้ระหว่างการเดินทางเขาเองพบเจออสูรมากมาย แต่ทุกตัวล้วนถูกไล่ล่าหรือถูกฆ่าทันทีที่คิดโจมตีชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยนำเหรียญตราสัตว์อสูรออกมา มันทำหน้าที่เหมือนสถานที่กักเก็บสัตว์อสูร สัตว์ทุกตัวที่อยู่ภายในจะจำศีลเป็นเวลานานหนึ่งปีหลังจาก 1 ปีพวกมันก็จะถูกปล่อยออกมาเพื่อกลับไปยังที่ของตน
มันแตกต่างจากถุงผ้าแพรต่างมิติเพราะเหรียญสัตว์อสูรนั้นจะสามารถเก็บสิ่งมีชีวิตเอาไว้ภายในได้ ในขณะที่ถุงผ้าแพรไม่สามารถทำได้
ชิงสุ่ยเก็บพวกมันที่เหลือทั้งสามเอาไว้กับตัวเพื่อตามหาผู้เหมาะสมต่อไป
การเดินทางภายในดินแดนปราณจิตถึงแม้จะไม่พบสิ่งใดอย่างน้อยการเดินทางครั้งนี้ก็คุ้มค่า
ชิงสุ่ย สามารถฝึกฝนสัตว์อสูรที่ได้ทุกชนิดแล้วตอนนี้เขาเองก็ครอบครองทั้งจากกิเลนน้อย มันทำให้เขารู้สึกว่าอสูรหมีทลายเหมันต์เป็นสัตว์ที่ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายพวกมันจึงกลายเป็นสัตว์ที่เอาไว้สำหรับตามหาผู้ที่เหมาะสมเท่านั้น
ทุกคนมีขีดจำกัดในการครอบครอง ทั้งอวี้ซีหยวนและเป่ยหมิงเสวียได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว ฉะนั้นต่อให้กำราบสัตว์อสูรอีกตัวนึงได้มันก็ไร้ประโยชน์
ชิงสุ่ย แม้จะไม่ใช่นักจับสัตว์อสูรแต่จานจะจับสัตว์อสูรแต่ละตัวมันไม่ใช่เรื่องง่ายฉะนั้นเขาย่อมไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ง่ายดาย
ในตอนนี้ชิงสุ่ยกำลังนั่งอยู่บนเจ้ากิเลนน้อยซึ่งกำลังโบยบินอยู่บนน่านฟ้าความเร็วของมันอาจจะไม่เท่ากับสัตว์ประเภทนกแต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
แต่ระหว่างที่มันกำลังโบยบินประกายไฟก็เกิดขึ้นจากบริเวณฝ่าเท้าพร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น
เพลิงจตุรเมฆา : ความเร็วในการเครื่องที่เพิ่มขึ้นสี่เท่าพลังในการดูดกินปราวเป็นศูนย์
หลังจากให้มันกินผลอสูรบรรพกาลมันก็ไร้ปฏิกิริยาจนกระทั่งมันโผบิน ในที่สุดชิงสุ่ยก็ได้เห็นทักษะแฝงแรกของมัน ทักษะที่ช่วยเพิ่มพูนความเร็ว