บทที่ 2020 – ทะเลสาบ หนวดที่แสนน่าสะพรึงกลัว

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2020 – ทะเลสาบ หนวดที่แสนน่าสะพรึงกลัว
  ชิงสุ่ยค่อนข้างตกใจที่ค้นพบว่าเจ้ากินเลนน้อยเกิดกระบวนท่าใหม่อย่างทักษะเพลิงจตุรเมฆา และแน่นอนว่าเมื่อความเร็วของมันเพิ่มขึ้นพลังของมันก็ย่อมต้องเพิ่มขึ้น ตัวของมันเองยังเข้าถึงพลังไฟที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มันสามารถต้านทานไฟได้ถึง 70 ส่วน แม้จะไม่เทียบเท่ากับชิงสุ่ย แต่ไฟที่ต้านทานได้ก็อยู่ในระดับเดียวกับเปลวไฟแรกเริ่ม
  เจ้ากิเลนน้อยจะกลาายเป็นพาหนะในอนาคตของชิงสุ่ย เนื่องจากมันมีทั้งขนาดใหญ่และความเร็วในการบินที่สูงทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้พลังปราณในการขับเคลื่อนการบิน
  ทั้งสามคนมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึก ด้วยอสูรที่ทุกคนครอบครองมันยิ่งรับประกันโอกาสในการมีชีวิตรอดชิงสุ่ยเชื่อมั่นว่าการพัฒนาคือเรื่องดี อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยเองก็พร้อมที่จะเดินทางกลับ มันคงเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากเราจะหยุดก่อนจะล้ำเส้นขีดจำกัดอย่างน้อยตอนนี้ประโยชน์ที่ได้รับก็เพียงพอแล้ว
  ทั้งสามรวบรวมสมุนไพรมากมายจัดทั่วทั้งภูเขาน้ำแข็ง ผมไปถึงดอกบัวหิมะ หลินจือน้ำแข็ง และอื่นๆอีกมากมาย
  ………………….
  เมื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้หญิงสาวทั้งสองคนไม่อาจรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายที่เข้าใกล้ การที่พวกเธอมีสัตว์อสูรของตัว รวมถึงชิงสุ่ยอยู่ข้างการ มันทำให้พวกเธอไร้กังวล
  ซึ่งตรงกันข้ามกับชิงสุ่ย เขามีเรื่องให้ต้องพิจารณามากมาย แม้จะสามารถปกป้องชีวิตตนเองสามารถนำหญิงสาวทั้งสองหลบหนีได้ แต่บ่อยครั้งความสูญเสียก็อาจจะเกิดขึ้ หากขาดความระมัดระวัง
  สองวันผ่านไปอย่างสงบสุข ชิงสุ่ยให้อสูรสยบมังกรออกสำรวจทุกพื้นที่ตามหาสถานที่ใหม่ใหม่ มีสิ่งมีชีวิตเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่สามารถคุกคามอสูรสยบมังกรได้ หากให้เปรียบเทียบด้านความเร็ว ก็คงไม่มีตัวใดจะเหนือกว่าอสูรสยบมังกรแม้จะแข็งแกร่งกว่าก็ตาม
  หลังจากออกสำรวจ พวกเขาก็เดินทางมาถึงทุ่งหญ้าเขียวขจี
  ทุ่งหญ้ากว้างและเต็มไปด้วยพุ่มไม้หนา หญ้ามีความสูงพอ ๆ กับร่างมนุษย์หลายคนต่อตัวกัน สัตว์อสูรยักษ์ก็ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งคราว รวมทั้งงูพิษและแมลงด้วย ในขณะเดียวกันสถานที่อื่น ๆ บางแห่งมีหญ้าสั้นซึ่งสูงประมาณข้อเท้า ในบางสถานที่พื้นดินถูกเปิดเผยและเปลือยเปล่า
  ชิงสุ่ยสอดส่ายสายตาไปรอบรอบเพื่อคว้านหาสถานที่ซ่อนสมบัติ แม้แต่สัตว์อสูรสยบมังกรเองก็เหมือนจะไม่พบสิ่งใด
  “ชิงสุ่ย ท่านเห็นทะเลสาบใหญ่อย่างนั้นหรือไม่?” เป่ยหมิงเสวียชี้นิ้วออกไปยังสถานที่ที่ห่างไกล
  “ไปกันเถอะ!!”ชิงสุ่ยมองไปทางทะเลสาบใหญ่และทั้งสามคนรีบไป
  รอบๆทะเลสาบมีแต่ความเงียบสงัด ไม่มีสัตว์หรือนกอาศัยอยู่เลย น้ำที่นี่ใสมากและพืชพรรณรอบ ๆ ก็ดูปกติ ทุ่งหญ้าเขียวดูสบาย ๆ เหมือนสนามหญ้าที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษในชีวิตที่ผ่านมาของเขา
  ชิงสุ่ยขมวดคิ้ว “มันแปลกมาก แหล่งน้ำมักจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า นก เต่าต่างๆนานา แต่ดูสิ ที่นี่ไม่มีอะไรเลย”
  “หรือว่ามันจะมีพิษ”อวี้ซีหยวนกล่าวถาม
  “ไม่ ข้ามั่นใจว่ามันไม่มีพิษ”ชิงสุ่ยเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษ มีทางที่พิษจะรอดพ้นสายตาของเขา
  “ถ้าเช่นนั้นมันจะต้องมีอสูรที่น่ากลัวอยู่ในน้ำและคอยจับสัตว์ทั้งหมดที่เข้าใกล้กินเป็นอาหาร”เป่ยหมิงเสวียยิ้ม
  “มันก็อาจจะเป็นไปได้”ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอกำลังล้อเล่น
  “ระวังทุกคน อย่าประมาทและอย่าเข้าไปใกล้ทะเลสาบนี้มากเกินไป” ชิงสุ่ยและผู้หญิงทั้งสองยืนห่างออกไปเล็กน้อยมองไปที่ทะเลสาบอย่างจริงจัง
  ทะเลสาบนี่ขนาดไม่เล็กเลย ดังนั้นชิงสุ่ยจึงแทบไม่สามารถจินตนาการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรหิวกระหายจริงแล้วมันจะมีขนาดใหญ่เพียงใด? การจะกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทะเลสาบขนาดใหญ่นั้นมันจะต้องตะกละตะกลามขนาดไหน?
  กลุ่มเงาปรากฏให้เห็นได้จากระยะไกล
  ชิงสุ่ยจ้องมอง “พวกเขาอยู่ที่นี่”
  หญิงสาวทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ “พวกเขาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
  คนที่มาถึงมีคนจากพระราชวังจันทน์กระจ่าง ตระกูลซือเฉิง ตระกูลโซ่ว และอีกคนที่ไม่มีใครรู้
  ชิงสุ่ยและเหล่าหญิงสาวไม่ได้นำสัตว์อสูรออกมา ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามมาพร้อมกับสัตว์อสูรของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่แต่งตัวประหลาดจากพระราชวังจันทน์กระจ่าง เขามาพร้อมกับมังกรดินที่มีความแข็งแรงพอๆกับอสูรหมีทลายเหมันต์ คนจากตระกูลโซ่วและคนอื่นๆก็มาพร้อมกับราชาวานรวชิรและอสรพิษสามหัว พวกมันดูแข็งแกร่งยิ่งกว่ามังกรดิน ส่วนตรกูลซือเฉิงก็มาพร้อมกับอสูรหิมะเพลิงม่วง
  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประหลาดใจที่ได้เห็นชิงสุ่ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแววตาที่มองมาจากคนของตระกูลซือเฉิงและตระกูลโซ่ว
  “ช่างน่าประหลาดใจนักที่เราได้มาเจอกันตรงนี้ เจ้าเห็นเล่ยเปาบ้างหรือไม่?”ชูไป๋กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
  “ช่างน่าแปลกใจจริงๆ เล่ยเปาคงจะรออยู่ที่ทางออกแล้ว คนของเขาตายหนึ่ง บาดเจ็บหนึ่ง”เมื่อเห็นความหยิ่งยโสของชูไป๋ ชิงสุ่ยก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าขันทีทะนงตนจะทำตัวอย่างไร
  “ดี ดี ดีแล้วที่ไม่ตายหมด”   คนที่พูดคือชายวัยกลางคน ความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่มีใครรู้ ผู้ชายคนนี้มีรูปร่างที่ดี แต่เขาเป็นคนหัวสูงเขาเคยพบเจอกับชิงสุ่ยครั้งแรกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาจ้องมองไปที่อวี้ซีหยวนและเป่ยหมิงเสวียที่อยู่ด้านข้างชิงสุ่ยด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปด้วยเลสนัย
  ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็รู้สึกถึงพลังแปลกๆกระจายทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ เมื่อเขาหันไปดูก็พบวัตถุขนาดใหญ่ยักษ์โผล่พ้นน้ำทะเล
  ชิงสุ่ยจับหญิงสาวล้วรีบให้ย่างก้าว 9 เทวา ในขณะที่วัตถุยักษ์ก็พุ่งลากอสูรอสรพิษสามหัวลงไปในน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว
  เจ้าอสรพิษสามหัวส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวช ก็จะหายวับไปในพริบตา ไม่เห็นแม้แต่น้ำสาดกระเซ็น
  ทุกคนตกตะลึงและรีบถอยห่างจากทะเลสาบ วัตถุนั้นมันคืออะไร? อสรพิษแข็งแกร่งมากและมีพลังถึงขั้นสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ก็ยังถูกกลืนหายไปโดนไม่แม้แต่จะดิ้นรน
  “ตาย!!!”ชายร่างโตอารมณ์เสียเหมือนคนที่เพิ่งสูญเสียพ่อแม่ เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะหดหู่หรือเสียใจดี อย่างเจ้าอสรพิษก็รับเคราะห์ตายแทนเขา
  “ชิงสุ่ยยย สิ่งน่ากลัวนั้นมันคืออะไร?”อวี้ซีหยวนหัวใจเต้นระรั่ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะชิงสุ่ย เธอก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของมัน
  “ข้าเห็นเพียงแค่เส้นหนวด”ชิงสุ่ยกล่าว เขาเห็นหนวยักษ์เต็มสองตา
  แม้ชิงสุ่ยจะกล่าวเช่นนั้น เขาก็รู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย มันอาจจะคล้ายหนวดปลาหมึก แต่สูรมากมายบนโลกนี้หลายตัวก็มีหนวดแม้ไม่ใช่หมึก ดังนั้นมันจึงยากที่จะคาดเดาเพียงเพราะหนวด
  ชูไป๋และคนอื่นๆต่างยืนหน้าซีด หากโดนการโจมตีเมื่อสักครู่ ในกลุ่มของเขาย่อมไม่มีใครรอด สิ่งที่เกิดขึ้นน่ากลัวกว่าที่คิด เขารีบพาคนของเขาออกจากพื้นที่ ไม่มีเวลาแม้แต่จะกล่าวทักทายชิสุ่ย