เล่มที่ 24 เล่มที่ 24 ตอนที่ 710 ปรนนิบัติพระชายาที่รักให้ดี

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

น้ำเสียงของมู่หรงฉีไม่เคยเคร่งขรึมและเย็นชาเท่านี้มาก่อน

“ลงไปค้นหา! หากหาน้องหญิงไม่พบ พวกเจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอด”

ไปค้นหา?

เจ้าเมืองหม่านเยวี่ยร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง ก่อนจะรีบตอบรับคำ “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะพาคนออกตามหา ไปกันเถิด! ”

เขาพากำลังคนลงไปที่ก้นเหวเพื่อออกค้นหา

ออกไปค้นหาหรือ?

เวลานี้ยังจะค้นหาเจออีกหรือ?

เกรงว่าคงไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้วกระมัง?

มู่หรงอ้าวเทียนเหลือบมองไปที่ก้นเหวด้วยใบหน้าลำบากใจ

“ท่านอ๋อง โปรดฟังกระหม่อมสักคำเถิด… ”

มู่หรงอ้าวเทียนยังพูดไม่ทันจบ มู่หรงฉีก็จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา

“ผู้บัญชาการมู่หรง ระวังสถานะของเจ้าให้ดีด้วย! ”

หลังจากพูดจบ เขาก็พาคนจำนวนหนึ่งออกไปตามหาพร้อมกับเจ้าเมืองหม่านเยวี่ย

มู่หรงอ้าวเทียนตกตะลึง ใบหน้าปรากฏความเคร่งขรึม ทว่าเขาไม่อาจขัดคำสั่งมู่หรงฉีที่มีฐานะเป็นรัชทายาท จึงทำได้เพียงปฏิบัติตามโดยไม่พูดสิ่งใด

ร่างของเยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซียังคงตกลงไป… ตกลงไป…

ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เสียงหวีดหวิวของลมหนาวพัดเข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง

ซูจิ่นซีจับเสื้อบริเวณหน้าอกของเยี่ยโยวเหยาแน่น เยี่ยโยวเหยามือหนึ่งจับเอวของซูจิ่นซี และอีกมือหนึ่งก็ประคองแก้มของนาง

ทั้งสองมองหน้ากัน

ทันใดนั้น ดวงตาของซูจิ่นซีก็พร่ามัวไปด้วยหมอกน้ำค้าง น้ำตาของนางไหลออกมาท่ามกลางสายลมหนาว

“เยี่ยโยวเหยา ท่านโง่เขลายิ่งนัก! รู้ทั้งรู้ว่าสามารถหลุดพ้นไปได้ เหตุใดจึงต้องร่วมตายไปพร้อมกับข้าด้วย? ”

คำพูดนับพันนับหมื่น เยี่ยโยวเหยาเก็บไว้ในใจทั้งหมด ทันใดนั้น เขาก็จับเอวของซูจิ่นซีด้วยสองมือ และพลิกร่างของซูจิ่นซีไว้บนตัวเขา พลางจุมพิตริมฝีปากของนางอย่างดูดดื่ม

“ซูจิ่นซี ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ต่อให้ตาย หนทางหลังความตายหนาวเหน็บถึงเพียงนั้น ข้าจะปล่อยเจ้าไปเพียงลำพังได้อย่างไร? ”

ซูจิ่นซีกัดริมฝีปากของเยี่ยโยวเหยาอย่างรุนแรง

เห็นชัดว่าเยี่ยโยวเหยาเจ็บมาก ทั้งยังมีเลือดไหลซึมออกมา ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับไม่ยอมปล่อย และยินยอมให้ซูจิ่นซีกัดอยู่อย่างนั้น

“เยี่ยโยวเหยา เส้นทางสู่อำนาจของจักรพรรดิก็เหน็บหนาวอย่างมากเช่นกัน ข้าจะยอมปล่อยท่านไปเพียงลำพังได้อย่างไร? จิ่นซีจะไปกับท่านด้วย ตกลงหรือไม่? ”

“ตกลง! ”

ทันทีที่สิ้นเสียงของเยี่ยโยวเหยา อาคมกำไลปี่อั้นบนแขนของซูจิ่นซีก็เปล่งแสงเจิดจ้า

“โฮก” สัตว์เทพกิเลนกระโดดออกมาจากอาคมกำไลปี่อั้น มันลอยลงไปใต้ร่างของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยา ประคองคนทั้งสองไว้บนร่างของมัน และเหาะลงมาพร้อมกับพวกเขา

แววตาของเยี่ยโยวเหยาปรากฏความตกตะลึง ทว่าเขายอมรับความจริงได้อย่างรวดเร็ว

หากปราศจากแรงโน้มถ่วงที่ทำให้ร่วงลงมา และหากไม่มีอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต เยี่ยโยวเหยาคงต้อง ‘รังแก’ ซูจิ่นซีโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด

มือข้างหนึ่งของเขายังคงจับอยู่ที่เอวของซูจิ่นซี ส่วนมืออีกข้างก็เชยคางของนาง

“ซูจิ่นซี เจ้าบอกว่าเส้นทางสู่อำนาจของจักรพรรดินั้นเหน็บหนาวเกินไป เจ้าต้องการเดินไปกับข้า เจ้าจะเปลี่ยนใจหรือไม่? ”

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปากแน่น “เยี่ยโยวเหยา ข้ายังสามารถเปลี่ยนใจได้อีกหรือ? ”

“ไม่ได้! ”

เยี่ยโยวเหยาตอบอย่างดุดัน ทว่าเขาจุมพิตนางอย่างดุดันยิ่งกว่าน้ำเสียงนั้นเสียอีก ทั้งยังบดขยี้ริมฝีปากของซูจิ่นซีอย่างหนักหน่วง

ซูจิ่นซีขัดขืนและทุบหน้าอกของเยี่ยโยวเหยาอย่างแรง

“เยี่ยโยวเหยา ท่านปล่อยข้า พวกเรายังอยู่กลางเหวลึก และกำลังร่วงหล่น ด้านล่างจะเกิดอันใดขึ้นก็ไม่รู้ จะเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้!”

“ท่านปล่อยข้า คนหยาบช้า! ”

เยี่ยโยวเหยาบีบมือซูจิ่นซีแน่น

“ซูจิ่นซี ผู้ที่ลากข้าไปสู่ความตายคือเจ้า ผู้ที่ร่วมเดินทางสู่เส้นทางอำนาจของจักรพรรดิกับข้าก็คือเจ้า ข้าปล่อยให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินทุกอย่าง และมอบชีวิตไว้ในมือของเจ้า โยวอ๋องเช่นข้าวางใจได้แล้ว! ”

ทว่านางไม่วางใจตนเอง!

เมื่อครู่นางหัวร้อน จึงลากเขาลงมาด้วย

นางเปลี่ยนใจไม่ตายตอนนี้ได้หรือไม่?

แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่บนหลังของสัตว์เทพกิเลน หากให้สัตว์เทพกิเลนพาลงไปย่อมปลอดภัย ทว่านางยังไม่เห็นจุดที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์!

หากด้านล่างมีอันตรายเล่า จะทำอย่างไร?

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ‘ตุบ’

ทั้งสองตกจากหลังของสัตว์เทพกิเลน และร่วงลงไปในทะเลสาบกลางหน้าผา

ซูจิ่นซีดิ้นรนเอาชีวิตรอดตามสัญชาตญาณ นางพยายามปีนขึ้นไปเหนือผิวน้ำ

เยี่ยโยวเหยาคนน่ารังเกียจกอดเอวนางแน่น ทำให้นางจมลงไปในน้ำ ทั้งมือข้างหนึ่งของเขายังสอดเข้ามาในเสื้อผ้าของนาง

“ซูจิ่นซี สามีภรรยาคือนกในป่าเดียวกัน เมื่อมีอันตรายเข้ามาใกล้ พวกมันจะแยกจากกัน ทว่าข้ากับเจ้ายังไม่อยู่ในจุดที่อันตราย เจ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน… และทิ้งข้าอย่างไร้ความปราณีเช่นนี้”

เยี่ยโยวเหยาพูดใกล้ใบหูของซูจิ่นซีด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าของเขาปรากฏความคับข้องใจ

ซูจิ่นซีอยากกัดเขาแรงๆ เสียงจริง

ท่านอ๋อง ขอร้องท่าน ปล่อยข้าได้หรือไม่?

นี่มันเวลาใดแล้ว ยังคิดเรื่องเช่นนี้อยู่อีกหรือ?

หากจมน้ำตายจะทำอย่างไร?

เยี่ยโยวเหยาราวกับสัมผัสได้ถึงความคิดของซูจิ่นซี จึงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

เขาพูดว่า “ชายาที่รักอย่ากังวล โยวอ๋องเช่นข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า! ”

ซูจิ่นซีเลิกคิ้วและกล่าวว่า “เยี่ยโยวเหยา พวกเราหยุดทำเช่นนี้ทุกครั้งที่พบกันได้หรือไม่? ท่านจริงจังกว่านี้ได้หรือไม่? พวกเรามาทำเรื่องที่จริงจังได้หรือไม่? ”

“ชายาที่รักวางใจได้ โยวอ๋องเช่นข้าจริงจังอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่ได้พบเจ้า ชายาที่รัก ตอนนี้พวกเราไม่ได้ทำเรื่องที่จริงจังหรอกหรือ? ”

“เยี่ยโยวเหยา ท่านช่างไร้ยางอาย! ”

“อืม โยวอ๋องเช่นข้าไร้ยางอาย! ทว่ายังไร้ยางอายได้มากกว่านี้อีก เจ้าต้องการหรือไม่? ”

“เยี่ยโยวเหยา คนพาล! ”

“อืม โยวอ๋องเช่นข้าเป็นคนพาล ทว่ายังพาลได้มากกว่านี้อีก เจ้าต้องการหรือไม่? ”

“เยี่ยโยวเหยา… ”

แน่นอน ซูจิ่นซีถูกเยี่ยโยวเหยาสำเร็จภารกิจอย่างหนักหน่วง

จากใต้น้ำจนถึงฝั่ง นางถูกพลิกตัวไปมา ซูจิ่นซีไม่รู้ว่านางแบกรับมันได้อย่างไร จนกระทั่งทนไม่ไหวและหมดสติ

เมื่อตื่นขึ้นมา ซูจิ่นซีก็อยู่ในกระท่อมแห่งหนึ่งใต้หน้าผาลึก

แสงจันทร์สาดส่องไปทั่วทุกหนแห่ง

ภายในห้องดูเรียบง่าย อบอุ่น และเงียบสงบอย่างมาก

เยี่ยโยวเหยาอยู่ในชุดสีขาวหิมะ เขานั่งอยู่ข้างหน้าต่างโดยไร้ซึ่งแสงตะเกียง ทว่าใช้แสงจากดวงจันทร์เพื่อพิจารณากองเอกสารหนาเตอะ

ซูจิ่นซีมองแผ่นหลังของเยี่ยโยวเหยา มองเอกสารในมือของเยี่ยโยวเหยา ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

นางอยากตบหน้าตนเองแรงๆ สักที

ก่อนหน้านี้ เป็นผู้ใดที่เสียใจเพราะดึงเยี่ยโยวเหยาลงมาตายด้วยกัน?

นางควรพาเขาไปยังนรกสิบแปดขุม

ไม่เช่นนั้นจะมีคำพูดที่ว่า เยี่ยโยวเหยาไม่ธรรมดา ได้อย่างไร!

ผู้ที่วางแผนกับนาง วางแผนกับหัวใจของนาง และตอนนี้แม้แต่ความตายของนาง เขาก็ได้วางแผนไว้แล้ว

เยี่ยโยวเหยารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลัง จึงวางเอกสารในมือลงและหันกลับมา

“ชายาที่รัก ตื่นแล้วหรือ? ”

ซูจิ่นซีโกรธมากจนกระโดดไปข้างหน้าและคว้าคอเสื้อของเยี่ยโยวเหยาไว้

“เยี่ยโยวเหยา นี่คือสิ่งที่ท่านวางแผนไว้ใช่หรือไม่? ท่านคาดการณ์ไว้แล้วว่าพวกเราจะกระโดดลงไปพร้อมกัน? ”

ไม่เช่นนั้น องครักษ์เงาจะส่งเอกสารเหล่านี้มาถึงที่นี่ภายในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร?

เยี่ยโยวเหยาเลื่อนสายตาลงไปมองมือของซูจิ่นซีตรงหน้าอก ซึ่งกำลังจับเสื้อของตนแน่น เขาขมวดคิ้วมุ่น และมองเข้าไปในดวงตาของซูจิ่นซี

“ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ความสามารถของชายาที่รักก้าวหน้าขึ้นมากทีเดียว! ”

ซูจิ่นซีรู้สึกว่าตนเองหุนหันเกินไป จึงรีบปล่อยมือ

ทว่าทันทีที่ปล่อยมือ เยี่ยโยวเหยาก็คว้ามือของนางไว้

ดวงตาดำขลับลึกซึ้งปรากฏความเจ้าเล่ห์

“ชายาที่รักคิดจะทำอันใด เพิ่งตื่นก็รีบร้อนถึงเพียงนี้ หรือสามีอย่างข้ายังปรนนิบัติชายารักได้ไม่ดีพอ? ”

ขณะที่พูด ไม่รู้ว่ามือของเยี่ยโยวเหยาโอบเอวของซูจิ่นซีตั้งแต่เมื่อใด เขากระชากซูจิ่นซีเข้าไปในอ้อมแขนของตน