โดนเจอตัว
โจวเหวินปีนขึ้นไปบนปล่อง ก่อนที่จะมองไปปรอบๆ เขาเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยควันดำ และภูเขาไฟนั้นคือทุกอย่างที่เขาเห็น รอบๆข้างนั้น มีเพียงที่เดียวที่ดูต่างออกไปนั้นคือระหว่างภูเขาไฟ2ลูก มันมีภูเขาที่เหมือนเสาค้ำสวรรค์อยู่ที่นึงด้วย
“หรือว่าตรงนั้นจะเป็นหอคอยที่จักรพรรดินีว่าไว้นะ มันอยู่บนยอดเขานั้นเหรอ”โจวเหวินคิดในใจ แต่ไม่ว่าจะมองยังไง สิ่งที่มันดูแปลกตาจากภูเขาไฟลูกอื่นๆก็มีแค่การที่มันสูงกว่าชาวบ้านเขาเท่านั้น
แต่ตอนนี้โจวเหวินเองก็ไม่มีที่จะให้ไปเหมือนกันเพราะงั้น เขาเลยรีบวิ่งไปที่ภูเขาสูงที่ว่าก่อน
“เป็นไปได้ไหมเนี่ยที่การเคลื่อนย้ายจะผิดพลาดหน่ะ”โจวเหวินรู้สึกได้ถึงอะไรแลปกๆ แต่ความผิดพลาดที่ว่าทำไมต้องมาเกิดกับแท่นทองแดงที่ทุกครั้งมันจะวาปไปยังจุดเดิมเสมอด้วยละ
โจวเหวินวิ่งไปตตามพื้นในร่างของแมวหิมะ ระหว่างทางเขาเห็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติโดนพ่นออกมามากมาย หลังจากนั้นไม่นาน สายฟ้าก็ผ่าและพาตัวสิ่งมีชีวิตต่างมิติพวกนั้นหายวับไป
“หรือว่าสายฟ้าที่ผ่าลงมานั้นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ารอยแยกของมิติ ที่นำพาเจ้าพวกนี้ไปสู่โลกน่ะ สิ่งมีชีวิตต่างมิติทั้งหมดที่อยู่บนโลกก็มาจากที่นั้นงั้นเหรอ ถ้างั้น ถ้าฉันโดนผ่าบ้าง ฉันก็จะได้ย้อนกลับไปยังพื้นที่ต่างมิติบนโลกรึเปล่านะ แล้วจะไปโผล่ที่พื้นที่ต่างมิติไหนกันละ”โจวเหวินคิดในใจ
ถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาละก็โจวเหวินต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า ไม่งั้นมนุษย์อย่างเขาเข้ามาในเขตต่างมิติแบบนี้ ถ้าโดนสิ่งมีชีวิตต่างมิติเจอตัวเข้าละก็ ชะตากรรมถึงตายแน่ๆ
โชคยังดีที่แถวๆนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่เก่งๆซักเท่าไร มากที่สุดก็เป็นแค่ระดับตัวอ่อนไม่ก็ตำนาน มีน้อยตัวที่เป็นระดับมหากาพย์และมีระดับเร้นลับเท่าที่เห็นแค่ตัวเดียวเท่านั้น
“ถ้ามันไม่สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่แกร่งๆแถวๆนี้จริงๆละก็ ตรงนี้ก็เป็นจุดฟาร์มชั้นยอดเลยละ มันมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติหลากหลายชนิด แถมแต่ละตัวก็มีความต่างกันอย่างชัดเจนด้วย”โจวเหวินมองดูไปเรื่อยๆระหว่างการเดินทาง เขาใช้สดับวานรฟังเสียงรอบข้างอยู่เสมอ ภูเขาเสาหินนั้น อยู่ห่างกับโจวเหวินในตอนแรกมากๆ ทำให้เมื่อยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตต่างมิติมาเท่านั้น
โชคยังดีที่โจวเหวินมีความสามารถของเนตรมรดกกับลูกแก้วกลบกลิ่นทำให้โจวเหวินนั้นสามารถเดินทางทะลุผ่านเหล่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติได้โดยที่ไม่โดนโจมตี ช่วยทำให้ภาระของเขาเบาขึ้นทันตาเลย
โจวเหวินเดินทางไปเลยเรื่อยๆ เขาใช้เวลาเกือบ3ชั่วโมงในการเดินทาง ประตูมิติของแท่นทองแดงนั้นจะเปิดออกได้แค่36ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าโจวเหวินไม่โดนเจอตัวซะก่อนละก็เขาก็คิดว่าจะกลับทางนี้เหมือนกัน
โจวเหวินมองดูภูเขาที่อยู่ใกล้แค่นี้แล้ว แต่ก็ยังไม่เจออะไรเลย ไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติอยู่ใกล้ภูเขานี้ด้วย ไม่มีวี่แววของสายฟ้าที่ผ่าลงมาอีกตั่งหาก
ส่วนเรื่องภูเขาไฟปะทุนั้น โจวเหวินไม่รู้ เพราะส่วนยอดของมันนั้นอยู่เหนือควันดำบนท้องฟ้าไปซะอีก
หลังจากที่สแกนรอบๆภูเขาเรียบร้อย เขาก็พบว่าไม่มีอะไรอยู่ เขาเลยลังเลแล้วตัดสินใจลองปีนดู ถ้าเขาไม่เจออะไรอีก เขาก็จะย้อนกลับทางเดิมเพื่อป้องกันการโดนซุ่มโจมตี
โจวเหวินมองไปรอบๆ แล้วพบว่าแถวนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติ เขาเลยปีนขึ้นเขาไปตรงๆ
เขาใช้ร่างของแมวหิมะกระโดดไปตามหินไปมา เพราะว่าภูเขานั้นไม่ได้ใหญ่มากแต่มันชันสุดๆ กำแพงภูเขานั้นแทบจะลาดเอียง90องศาตั้งฉากกับพื้น โจวเหวินเลยต้องใช้รอยแตกของหินในการยึดตัวเองและพักแทน
ตัวของแมวหิมะเองก็ไม่ได้มีความสามารถในการบิน และโจวเหวินเองก็ไม่คิดจะใช้ด้วย เพราะป้องกันการโดนมองเห็นโดยใช่เหตุ
พอเห็นว่าเขากำลังจะปีนไปได้ครึ่งทาง โจวเหวินก็พบว่าบนนั้นมีแผ่นหินรองรับเขาอยู่ เขาเลยลงหยุดที่นั้นคิดจะพักเบรกปรับสภาพร่างกายตัวเองก่อน
แต่ทันทีที่ไปแตะลงบนแท่นหินนั้นเอง เขาก็พบว่ามันมีถ้ำอยู่เหนือกำแพงหินด้านหลังของแท่นหินนั้น พร้อมกับมีดวงตาคู่นึง จ้องมองดูออกมาจากภูเขาที่มืดมิด
นี้ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของโจวเหวินอย่างเดียว แต่เขาสังเกตเห็นดวงตาคู่นึงมองเขาจริงๆ ดวงตานั้นเรืองแสงได้ทำให้ดูเด่นในถ้ำมืดมากๆ
เจ้าของดวงตาคู่นั้น ค่อยๆเดินออกมาจากถ้ำ สายตานั้นจ้องมองโจวเหวินเขม็ง ทำให้โจวเหวินขนลุกซู่ เตรียมอัญเชิญสดับวานรออกมาพร้อม
แต่ทันใดนั้น ยังไม่ทันได้รอให้โจวเหวินอัญเชิญสดับวานรเลย สิ่งมีชีวิตต่างมิติตัวนั้นก็ออกมาจากถ้ำ มันเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่มีหัวเป็นเสือแต่มีปีก
ร่างกายของมันเป็นสีดำแต่ก็มีบางจุดที่เป็นสีน้ำเงิน ปีกของมันมีประกายสีน้ำเงินบางทีก็สว่างบางทีก็มืด ตอนที่มันสว่างมันจะสว่างเหมือนกับคริสตอล แต่พอมันมืด ตัวของมันก็จะเหมือนกับเหล็กสีดำที่วางอยู่กับพื้น
โจวเหวินรู้สึกได้ถึงลมปราณมหาศาลได้ทันที่จากตัวของมัน มันเป็นระดับเร้นลับแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีความสามารถการใช้ร่างความกลัวได้ไหม
โจวเหวินเคลื่อนไหวออกมาช้าๆ แต่สิ่งมีชีวิตต่างมิติตัวนั้นก็ยังมองตามโจวเหวินเหมือนกับล๊อกเป้าเอาไว้
“โฮก!!!”วินาทีต่อมา สิ่งมีชีวิตต่างมิติคำรามและพุ่งตรงเข้ามาด้านหน้าทันที
โจวเหวินก็เริ่มตอบโต้กลับ แต่ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างออกมาได้ เขาจึงถอยไม่สวนกลับแต่อย่างใด
ตู้ม
ลำแสงเข้มข้นสูงตกลงมาจากบนยอดภูเขาถล่มสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับเร้นลับตัวนั้นและแช่แข็งมันไว้
แม้แต่ระดับเร้นลับที่ดูจะแข็งแกร่งไม่สามารถต้านทานอะได้เลย ร่างของมันยังคงค้างท่าเดิมที่มันเคยเป็น
บนยอดเขามีร่างๆนึงปรากฏตัวออกมา
โจวเหวินตอนแรกใช้ความสามารถของสดับวานรแล้ว เขาก็รู้รูปร่างของเธอได้คร่าวๆ เธอเป็นผู้หญิงสวมเสื้อกันหิมะ ดูสวยมากแต่สีหน้าดูเฉยชา รัศมีรอบตัวเธอนั้นมันต่างจากมนุษย์ปกติ มันดูเย็นเยือกแข็งยังไงชอบกล
นั้นก็เพราะจริงๆแล้วเธอนั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่มีความแข็งแกร่งสูงตั่งหาก
“ทำไมถึงมีแมวหิมะมาอยู่ที่นี้กันเล่า”หญิงสาวเสื้อหิมะพูดด้วยความสงสัยก่อนจะเอื้อมมือลงไปแล้วหยิบโจวเหวินขึ้นมาอุ้ม
ในตอนนั้น มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติอีกตัวนึงตัวคล้ายๆงู เลื้อยลงมาจากข้างบน ก่อนจะมองสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับเร้นลับที่โดนแช่แข็ง “นี้มันเสือเวหานี่ ฉลาดมากนะที่เลือกที่มาเลือกซ่อนตัวอยู่นี้ มิน่าละทำไมหาตัวไม่เจอเลย”
“เอามันไปปล่อยในสายฟ้าซะซิ” หญิงสาวคนนั้นพูด
สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่มีหางเป็นงูนั้นตอบ ก่อนจะคว้าตัวของเสือปีกที่โดนแช่เป็นน้ำแข็งอยู่นั้น ก่อนจะเขวี้ยงมันไปที่บริเวณภูเขาไฟ
ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่บินข้ามท้องฟ้าเหมือนดาวตก ก่อนจะผ่านสายฟ้ามิติแล้วหายวับไป
“แล้วเอาไงกับเจ้านี้ดีละ”งูตัวนั้นถามก่อนจะมองไปที่แมวหิมะที่เป็นโจวเหวินแปลงร่างมา
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”ผู้หญิงพูดก่อนจะบินตรงขั้นไปยังภูเขาที่สูงเสียดฟ้า สัตว์ประหลาดหางงูไม่พูดอะไร เขาตามผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปยังยอดเขา