บทที่ 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

 

ความสําเร็จของฟางหยวนเกิดจากการทํางานหนักของเขาและความช่วยเหลือจากคนรุ่นก่อน

 

แต่วังสวรรค์ก็เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของฟางหยวน และผู้อมตะจากภูมิภาคอื่น นี่คือรากฐานและความแข็งแกร่งของพวกเขา

 

“ไม่มีทางเลือก ข้าต้องถอยเท่านั้น” ฟางหยวนคิด

 

เขาไม่มีความคิดที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิอีกต่อไป

 

มันไม่มีประโยชน์ที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิ

 

แต่ในจังหวะนี้แผ่นดินกลับแยกออกและกลืนกินภูเขาทั้งหมดเข้าไปด้วยความเร็วสูง

 

ด้วยความบังเอิญ เมืองจักรพรรดิอยู่ในเส้นทางของรอยแยกดังกล่าว

 

“โอ้ ไม่!”

 

“ปกป้องเมืองจักรพรรดิ!”

 

เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน

 

ผู้อมตะภาคกลางพยายามปกป้องเมืองจักรพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพ

 

ทุกคนทําได้เพียงเฝ้ามองรอยแยกกลืนกินเมืองจักรพรรดิเข้าไปเท่านั้น

 

เมืองจักรพรรดิจมลงสู่ร่องลึกใต้พิภพและสลายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

ในเมืองแห่งนี้มีประชากรนับล้านคน มีผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อต่อต้านฟางหยวน มีคนโชคดีจํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่

 

เย่ฟานและหงอี้เป็นส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้

 

“ช่วยพวกเขา!” หลี่ฮวงตะโกน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะช่วยให้เจ้าสมปรารถนา!” ฟางหยวนโจมตี

 

ตอนนี้เขาอยู่ในร่างราชันภูต เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

 

ฟางหยวนเห็นหงอี้กับเยู่ฟานที่มีโชคเชื่อมต่อกับเขาและรู้สึกไม่แปลกใจที่โชคของเขาถูกระงับมาตลอด

 

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป!

 

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด และใช้อีกสองท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

“บัดซบ!” หลี่ฮวงไม่สามารถหยุดฟางหยวน เขาตะโกนด้วยความโกรธและทําได้เพียงเฝ้ามอง ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนตกตายเท่านั้น

 

ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีชนชั้นสูงที่เข้าร่วมในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรวมอยู่ด้วย

 

หงอี้และเยฟานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

“ฟางหยวน เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เจ้ากลับสังหารมนุษย์ เจ้าช่างชั่วร้ายนัก เจ้าสมควรตาย เจ้าต้องตาย!” ดวงตาของชิงเต่กลายเป็นแดง… เขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความโกรธ

 

การโจมตีของฟางหยวนทําให้ภาคกลางพบความสูญเสียครั้งใหญ่

 

เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่สําคัญของภาคกลาง มันมีการจัดเตรียมบนเส้นทางมนุษย์ที่สามารถสนับสนุนผู้อมตะของภาคกลางทั้งหมด

 

ภาคกลางใช้ระบบนิกาย เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่ผลิตอัจฉริยะที่มีโชคมากมาย หากผู้คนเหล่านี้สามารถเติบโต มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้อมตะในอนาคต

ในสงครามห้าภูมิภาค ผู้อมตะจํานวนมากจะตกตาย ผู้คนเหล่านี้เป็นเมล็ดพันธุ์อมตะและเป็นกําลังรบของภาคกลาง

 

การสูญเสียนี้ทําให้หลี่ฮวงและชิงเยโกรธมาก พวกเขาต้องการฉีกร่างของฟางหยวนออกเป็นชิ้นๆ

 

ด้านฟางหยวน เขารู้สึกโล่งใจ หลังจากกําจัดผู้คนเหล่านั้น เขาจะมีความได้เปรียบด้านโชคมากขึ้น

 

ฟางหยวนกวาดตามองซากเมืองจักรพรรดิก่อนจะล่าถอย

 

หลี่ฮวงและชิงเย่ไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

 

“ปีศาจ!”

 

“เขาฆ่าทุกคนในเมือง ครอบครัวของข้าอยู่ที่นั่น!”

 

“ฆ่าเขา กําจัดภัยพิบัติของโลกใบนี้!

 

ผู้อมตะภาคกลางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ผู้ใดจะสามารถหยุดข้า?”

 

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดทําได้

 

ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับผู้อมตะภาคกลางและคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจับตัวฟางหยวนเช่นกัน

 

เว้นเพียงพวกเขาจะมีค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาไม่สามารถจัดตั้งพวกมัน

 

นอกจากนั้นแม้พวกเขาจะสามารถขังฟางหยวนไว้ในค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ ฟางหยวนก็ยังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทรงพลัง เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้ในที่สุด

 

การเสียชีวิตของโจวซ่งซินเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

 

“บึม!”

 

ด้วยการโจมตีที่รุนแรงของฟางหยวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งของภาคกลางเกือบพังทลายลง

 

ฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของเขา ด้วยความหวาดกลัว เขารีบซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนที่เข้ามาสนับสนุน

 

ฟางหยวนไม่รู้ว่าฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกว่า เขาจะได้รับประโยชน์มากหากเขาสามารถทําลายมัน

 

การดํารงอยู่ของฟางเจิ้งเป็นภัยคุกคามของเขา

 

“ฟางหยวน ฟางหยวน!” แต่ในจังหวะนี้ปิงช่ายฉวนกลับติดต่อเขาอีกครั้ง

 

“บิงชายฉวน เจ้ายังกล้าติดต่อข้าอีกงั้นหรือ? ความล้มเหลวทั้งหมดในวันนี้เป็นเพราะเจ้า!” ฟางหยวนโกรธมาก

 

แม้วังสวรรค์จะมีรากฐานที่ลึกล้ําแต่พวกเขาก็ยังเสียเปรียบการร่วมมือกันของสี่ภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่อีกสี่ภูมิภาคไม่สามารถทํางานร่วมกัน

 

ในความเป็นจริงกองกําลังของทั้งสี่ภูมิภาคยังเก็บรักษาความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของพวกเขาเอาไว้ ตัวอย่างเช่นทะเลทรายตะวันตกที่ไม่ได้นําผู้อมตะระดับแปดและคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดออกมา ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลต่างๆไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขายังอยู่ที่ทะเลทรายตะวันตก

 

ปิงชายฉวนถอนหายใจ “ข้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เราพบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เรายังมีโอกาส นั่นคือแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!”

 

วังสวรรค์จัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมขึ้นมาเพราะพวกเขาต้องการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

ตอนนี้การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมยังไม่ประสบความสําเร็จ มันยังขาดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จ

 

แม้การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะจบลงแล้ว แต่มันยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะผลิตร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จขึ้นมาและถูกส่งไปยังวังสวรรค์

 

แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะจะสามารถหยุดการโจมตีของกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่มันยังมีปั ญหาในการขนส่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

หลังจากได้ยินคําอธิบายของปิงช่ายฉวน ฟางหยวนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น “ดูเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะเป็นความหวังสุดท้ายของเรา”

 

ฟางหยวนเร่งเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติโดยไม่ลังเล

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

วายุไร้ขอบเขตพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์ ขณะเดียวกันค่ายกลวิญญาณอมตะก็พยายามต่อต้านอย่างสุดกําลัง

วูหยงและคนอื่นๆแสดงออกอย่างเคร่งขรึม

 

จื่อชิวหยูกล่าวเสียงต่ํา “ไม่น่าเชื่อ พลังอํานาจของค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของภาคกลางช่างอัศจรรย์นัก!”

 

วูหยงเสียสละร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพื่อปลดปล่อยวายุไร้ขอบเขต แม้ตอนนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่กําไรของพวกเขายังน้อยกว่าก่อนหน้า

 

“ดูเหมือนเราต้องโจมตีจากภายนอกและภายในพร้อมกัน” อี้ห่าวฟางกล่าว

 

ปาซื่อปาคิดก่อนกล่าว “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ก่อนหน้านี้เราลอบโจมตีโดยไม่ให้เวลาพวกเขาเตรียมตัว แต่ตอนนี้เราต้องระวังกําลังเสริมจากวังสวรรค์ เราต้องการความช่วยเหลือจากคนนอก”

 

ทุกคนเห็นด้วยกับคํากล่าวของปาซื่อปา

 

แม้วายุไร้ขอบเขตจะทรงพลัง แต่มันก็เป็นเพียงท่าไม้ตาย เมื่อมันถูกใช้งานไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถตอบโต้มันได้ในที่สุด

 

วูหยงรู้สึกหนักใจ

 

การลอบโจมตีล้มเหลว เขาไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะได้อย่างรวดเร็ว

 

วูหยงตระหนักว่ายิ่งสถานการณ์นี้ดําเนินต่อไปนานเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น พวกเขาต้องแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปข้างในขณะที่อีกกลุ่มอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาทําเช่นนั้น เมื่อกําลังเสริมของวังสวรรค์มาถึง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากขึ้นเช่นกัน

 

วูหยงถอนหายใจ แม้การแยกกลุ่มจะนําไปสู่ปัญหา แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก

 

“แม้ข้าจะเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่ข้าก็ไม่สามารถระดมคนมามากกว่านี้ ผู้อมตะระดับแปดสามคนคือขีดจํากัด” วูหยงสูดหายใจลึกและเริ่มเตรียมการ

 

จื่อชิวหยูเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาต้องเข้าไปภายใน วูหยงมีพลังการต่อสู้สูงที่สุด เขาต้องเข้าไปปกป้องจื่อชิวหยูและต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ภายใน

 

ในเวลาเดียวกันกําลังเสริมของวังสวรรค์อาจแข็งแกร่งมาก มันจะปลอดภัยกว่าหากทิ้งปาซื่อปาและอี้ห่าวฟางที่เป็นผู้อมตะระดับแปดไว้ด้านนอก

 

ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคใต้กําลังพูดคุยเกี่ยวกับแผนการของพวกเขา การแสดงออกของวูหยงพลันเปลี่ยนแปลงไป เขามองไปทางทิศเหนือและกล่าวเบาๆ “บางคนกําลังมา”

 

กองกําลังที่นําโดยสามผู้อมตะระดับแปดเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

ผู้อมตะระดับแปดคนแรกคือชายชราถือไม้เท้าที่ดูใจดี เขาเป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าเหยาและเป็นราชันใต้คนปัจจุบันของถ้ําสวรรค์นิรันดร เหยากวง!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สองอยู่ในชุดคลุมขาว ร่างกายสูงใหญ่ เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าไป่ซู จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สามสวมมงกุฎทรงสูงและสวมชุดคลุมสีทอง เขาก็คือองค์ชายฟังเซียน!

 

กลุ่มผู้อมตะที่ติดตามมาด้านหลังพวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิอมตะชูตู๋ เหนียงเอ๋อเฉียน หยวนหรางซุน เหนียงเอ๋อฝู และคนอื่นๆ

 

“สหายจากภาคเหนือ พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” วูหยงถามเสียงดัง

 

เหยากวงหัวเราะก่อนกล่าว “ศัตรูอยู่เบื้องหน้า พวกเราจะร่วมมือกับพวกเจ้าโจมตีวังสวรรค์!”

 

วูหยงหัวเราะเสียงดัง กําลังเสริมของวังสวรรค์ยังไม่มา แต่เขากลับได้พันธมิตรใหม่มาแทน