บทที่ 1728 พันธมิตรชั่วคราว

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1728 พันธมิตรชั่วคราว

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

“ค่ายกลนี้เป็นอย่างไร?” วูหยงถาม

 

ด้านข้างเขาคือผู้อมตะระดับแปดจื่อชิวหยูและอี้ห่าวฟาง ติดตามมาด้วยกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดของภาคใต้

 

ไม่ไกลนักยังมีเหยากวง จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู และชูตู๋

 

หลังจากหารือ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงชั่วคราว พวกเขาตัดสินใจสร้างความร่วมมือและโจมตีวังสวรรค์

 

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทํางานร่วมกัน ข้อตกลงพันธมิตรค่อนข้างยืดหยุ่น พวกเขายังระวังซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม วูหยงค่อนข้างพอใจกับมัน

 

“ภาคใต้กับภาคเหนือร่วมมือกัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์!

 

“ด้วยความช่วยเหลือจากภาคเหนือ เราจะไม่เสียเปรียบด้านกําลังรบ แม้วังสวรรค์จะส่งกําลังเสริมออกมา แต่ปาชื่อปาและองค์ชายฟังเซี่ยนที่อยู่ด้านนอกสามารถหยุดพวกเขาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เราจะมีเวลาเพียงพอที่จะตอบสนอง

 

วูหยงคิด

 

จื่อชิวหยูกล่าวมาจากด้านข้าง “นี่เป็นค่ายกลรูปแบบใหม่ ข้าไม่เคยเห็นมันในบันทึกใดๆมาก่อน”

 

เหยากวงเผยรอยยิ้ม “สหายภาคใต้สามารถพักฟื้น กลุ่มของข้าพึ่งมาถึงและอยู่ในสภาพที่ดี ให้เราตรวจสอบมัน”

 

วูหยงป้องหมัดขึ้น “ทุกคนรู้จักความกล้าหาญของคนเหนือ เราจะรออยู่ที่นี่และพักฟื้น หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น เราจะให้ความช่วยเหลือทันที”

 

เหยากวงพยักหน้าและออกคําสั่งบางคน

 

ผู้อมตะกลุ่มนี้ถูกคัดเลือกมาโดยปิงช่ายฉวนเพื่อปฏิบัติภารกิจนี้โดยเฉพาะ

 

การบุกโจมตีวังสวรรค์เป็นเรื่องสําคัญ ปิงช่ายฉวนต้องเก็บเป็นความลับ หากมีคนรู้มากเกินไป แผนการของเขาอาจล้มเหลว พวกเขาจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้

 

ดังนั้นปิงช่ายฉวนจึงเลือกคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดเพียงไม่กี่คน

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

 

หลังจากทั้งหมดองค์ชายฟงเซียนเป็นสายลับของภาคกลางที่มีความสําเร็จมากที่สุด

 

หลังจากปิงช่ายฉวนพ่ายแพ้ในสมรภูมิวังสวรรค์ เขาออกคําสั่งเหยากวงก่อนจะติดต่อฟางหยวน

 

เหยากวงเข้าใจความสําคัญของภารกิจนี้ เนื่องจากโอกาสในการฉกชิงวิญญาณชะตากรรมลดลงแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจึงกลายเป็นสนามรบที่สําคัญที่สุด ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถทําลายมัน แผนการของวังสวรรค์จะล้มเหลว

 

ด้วยวิธีนี้ วังสวรค์ต้องใช้เวลาอีกมากในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ความหวังของอีกสี่ภูมิภาคจะเพิ่มขึ้น

 

นี่เป็นเหตุผลที่ภาคเหนือกับภาคใต้สามารถบรรลุข้อตกลงและทํางานร่วมกันด้วยความจริงใจ

 

วังสวรรค์มีท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง แต่ภาคเหนือกับภาคใต้ก็สามารถร่วมมือกัน นี่เป็นสิ่งที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

 

เหยากวงส่งเหนียงเอ๋อยู่ออกไปตรวจสอบค่ายกลวิญญาณอมตะ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เขาสามารถปกป้องตนเอง

 

แนวป้องกันชั้นนี้ของค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นเหมือนถ้ําใต้พิภพ มันเป็นถ้ําขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย บนพื้นปูด้วยหญ้าหลากหลายสีสัน

 

เหนียงเอ๋อตรวจสอบอย่างระมัดระวังภายใต้การเฝ้ามองของทุกคน

 

เหนียงเอ่อผู้มีความสามารถในการเคลื่อนที่ เขาสามารถรักษาชีวิตจากสถานการณ์อันตราย แต่เผชิญหน้ากับค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ เขาไม่กล้าประมาท

 

หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ชีวิตของเขาอาจจบลงที่นี่

 

เมื่อเหนียงเอ๋อเคลื่อนที่เข้าไป หินงอกหินย้อยเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มันเหมือนฟันของสัตว์อสูรที่ต้องการกัดเหยื่อ

 

เหนียงเอ๋อฝพยายามวิ่งหนี แต่แสงสีรุ้งกลับจํากัดความสามารถในการเคลื่อนที่ของเขา มันยังทะลวงผ่านการป้องกันของเขาอีกด้วย

 

“แสงสีรุ้งคือค่ายกลบิดทวารทั้งเจ็ด โจมตีแสงสีรุ้งและช่วยเหนียงเอ๋อยู่ออกมาก่อนจะสายเกินไป!” จื่อชิวหยูตะโกนเตือน

 

ผู้อมตะภาคเหนือกับภาคใต้ทํางานร่วมกันและสามารถช่วยเหนียงเอ๋อฝูออกมาได้ในที่สุด

 

“เกือบแล้ว หากไม่มีพวกเจ้า ข้าคงตายไปแล้ว” เหนียงเอ๋อยู่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

“ใบหน้าของเจ้า” นูเอ๋อเฉียงชี้ไปที่ใบหน้าของเหนียงเอ๋อ

 

“มีสิ่งใด?” เหนียงเอ๋อฝูยกมือขึ้นจับใบหน้าของตนและสัมผัสได้ถึงเนื้อที่แข็งเหมือนหินหยก

 

“เจ้ายังถูกโจมตี ดูเหมือนมันไม่ได้เป็นเพียงค่ายกลบิดทวารทั้งเจ็ดแต่มีค่ายกลหนานหยกรวมอยู่ด้วย” ผู้อมตะคลื่นทมิฬกล่าว

 

เขาเป็นสมาชิกของถ้ําสวรรค์นิรันดรที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกล

 

คํากล่าวของเขาได้รับการยอมรับจากจื่อชิวหยู “นี่เป็นการผสมผสานระว่างค่ายกลปิดทวาร ทั้งเจ็ดและค่ายกลหนานหยกจริงๆ”

 

“แล้วเราจะทําลายมันอย่างไร?” วูหยงถาม

 

จื่อชิวหยูเผยรอยยิ้มมั่นใจ “หากมีเพียงพวกเราอาจเป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้เรามีสหายภาคเหนือ มันไม่ใช่ปัญหา”

 

ขณะที่กองกําลังของภาคเหนือและภาคใต้สร้างความร่วมมือ ฟางหยวนกําลังต่อสู้กับหลี่ฮวง และชิงเย่

 

“ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์เป็นปัญหาจริงๆ” ดวงตาของฟางหยวนสองประกายเย็นเยียบ

 

หลี่ฮวงและซิงเย็ได้รับการสนับสนุนจากท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน ความสามารถของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นในทุกแง่มุม นั่นทําให้พวกเขาสามารถไล่ตามฟางหยวน สําหรับคฤหาสน์ วิญญาณอมตะของภาคกลาง มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงสองหลังที่ไล่ล่าเขา ส่วนที่เหลือกําลังไล่ล่ากลุ่มผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก

หลังจากได้รับข้อมูลจากปิงชายฉวน ฟางหยวนบินไปในทิศทางตรงข้ามกับแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ที่ติ

 

ถึงเวลาแล้ว!” ฟางหยวนสะบัดแขนเสื้อส่งบุตรแห่งภูตจํานวนนับไม่ถ้วนออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย!

 

ฟางหยวนผสานตัวเข้าไปในกองทัพบุตรแห่งภูต

 

“ฟางหยวน เจ้าจะไปที่ใด?” หลี่ฮวงตะโกน

 

“เจ้าถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบแล้ว เจ้าไม่สามารถซ่อนตัว” ชิงเย่หัวเราะเย้ยหยัน

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสองพุ่งเข้าไปหาร่างหลักของฟางหยวน

 

เห็นได้ชัดว่าวังสวรรค์เริ่มใช้มาตรการตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยของฟางหยวนแล้ว

 

“นี่ค่อนข้างลําบาก” ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบินเข้าสู่สวรรค์สีขาว

ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า กายาสวรรค์

 

ด้วยความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายนี้ ฟางหยวนค้นพบเมฆดําขาวอย่างรวดเร็ว

 

“โอ้ ไม่ หยุดเขา!”

 

“ทําลายเมฆดําขาวเหล่านั้น!”

 

หลีฮวงและชิงเย่รู้ว่าฟางหยวนต้องการใช้เมฆดําขาวเพื่อหลบหนี

 

ฟางหยวนหัวเราะ “เหตุใดพวกเจ้าไม่ลองค้นหาร่างหลักของข้าอีกครั้ง?”

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกร!

 

นี่เป็นท่าไม้ตายใหม่ที่ฟางหยวนรวมท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร ราชันภูต บุตรแห่งภูต และใบหน้าที่คุ้นเคยเข้าด้วยกัน มันเป็นหนึ่งในความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขา

 

อสูรวิญญาณร่างมังกรดาบบรรพกาลจํานวนนับไม่ถ้วนบินออไป

 

“เป็นวิธีการที่น่าทึ่ง!” การแสดงออกของหลี่ฮวงและชิงเย่เปลี่ยนแปลงไป

 

อสูรวิญญาณมังกรดาบบรรพกาลสามารถระเบิดตัวเอง มันมีพลังอํานาจที่น่าเหลือเชื่อ

 

กระทั่งเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของหลี่ฮวงก็ไม่สามารถต่อต้าน หลังจากถูกโจมตีหลายครั้ง เสื้อคลุมเพลิงสุริยันก็อ่อนแอลงมาก

 

ซิงเย่อยู่ในสภาพที่น่าอนาถมากกว่า เขาคิดด้วยความตกใจ “ท่าไม้ตายนี้ช่างทรงพลังนัก!!

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกรไม่มีจุดอ่อน มันทรงพลังมาก แต่มันเหมือนวายุไร้ขอบเขตของวูหยงที่ต้องจ่ายด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

วายุไร้ขอบเขตของวูหยงใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋หนึ่งหมื่นร่องรอย แต่หมื่นภูตมังกรของฟางหยวนใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต่ําสี่พันร่องรอย

 

หลี่ยวงและชิงเย่กําลังยุ่งอยู่กับการปกป้องตนเอง ดังนั้นฟางหยวนจึงมีโอกาสหลบหนีโดยพึ่งพาเมฆดําขาว

 

เขาเข้าสู่สวรรค์สีดําก่อนจะใช้ท่าไม้ตายท่องแดนอมตะเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

“ข้ามาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติในที่สุด” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

เขาได้รับตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติมาจากปิงชายฉวน

 

“ผู้ใด?” การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้กองกําลังของภาคเหนือและภาคใต้ตื่นตัวมาก

 

“ข้าเอง” ฟางหยวนกันเสียงเย็น

 

ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลเมี่แตระหนักถึงตัวตนของฟางหยวน

 

ฟางหยวนสังเกตสนามรบอย่างรวดเร็ว วายุไร้ขอบเขตดึงดูดความสนใจของเขามากที่สุด ต่อมาก็เป็นองค์ชายฟงเซี่ยนและปาชื่อปา

“เจ้าอยู่ที่นี่” ชูตู๋ที่ได้รับบาดเจ็บปานกลางบินเข้าไปทักทายฟางหยวน

 

องค์ชายฟงเขียนและปาชื่อปามองฟางหยวนด้วยสายตาซับซ้อน

 

ตอนนี้กลุ่มของวูหยงและเหยากวงสามารถผ่านแนวป้องกันสามชั้นแต่พวกเขายังติดอยู่ที่แนวป้องกันชั้นต่อไป

 

ด้วยการเตรียมการของปิงชายฉวน กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือรู้ว่าฟางหยวนกําลังมา นั่นหมายความว่าผู้อมตะภาคใต้ก็ต้องรู้เช่นกัน

 

ฟางหยวนสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในภาคเหนือและภาคใต้ กองกําลังฝ่ายธรรมะของทั้งสองภูมิภาคพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องร่วมมือกันต่อต้านศัตรูร่วมที่แข็งแกร่ง นั่นคือวังสวรรค์

 

“ไม่ว่าค่ายกลวิญญาณอมตะจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่มันจะหยุดข้าได้อย่างไร”

 

“เวลามีน้อย ข้าไม่ต้องการคําอธิบายเพิ่มเติม เปิดเส้นทางให้ข้า ข้าจะระเบิดกายาแห่งความฝัน!”

 

ฟางหยวนพยักหน้าให้กับชูตู้และเริ่มโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะโดยไม่ยอมเสียเวลา

 

ชูตู้และคนอื่นๆมีความสุขมาก พวกเขากําลังรอสิ่งนี้จากฟางหยวน

 

ฟางหยวนมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝัน ตราบเท่าที่เขาจุดชนวนกายาแห่งความฝัน อาณาจักรแห่งความฝันจะกระจายออกไป ค่ายกลวิญญาณอมตะจะพังทลายลง

 

เพียงไม่นานฟางหยวนก็พบกับเหยากวงและคนอื่นๆ

 

เหยากวงชําเลืองมองวูหยงและจงใจถาม “ฟางหยวน เจ้ามาแล้วงั้นหรือ?”

 

ใบหน้าของวูหยงแข็งค้างไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปทางเหยากวงและกล่าว “ให้ฟางหยวนทําข้อตกลงพันธมิตรก่อน บอกเขาว่าข้ายินดีละทิ้งความบาดหมางระหว่างเราและสร้างความร่วมมือชั่วคราว!”