ภาคที่ 33 กลับชาติมาเกิด ตอนที่ 92 ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 92 ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา Ink Stone_Fantasy

 

ขณะเดียวกันที่รัฐเมฆทักษิณา

ภายในพระราชวัง

“ลูกศิษย์ของข้าผู้นี้ ช่างทำให้ข้าตกตะลึงเสียจริงเชียว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณานั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหญ้าสีดำ บ่อลึกด้านหลังเอ่อท่วมไปด้วยไอหนาวสีขาว ภายใต้การพรั่งพรูของไอหนาวสีขาว ใบหน้าของประมุขรัฐเมฆทักษิณาก็เปลี่ยนเป็นเลือนราง นัยน์ตาทั้งสองของเขาลึกล้ำยากคาดคะเน “ขั้นอลวนสำแดงการกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอดออกมาได้ ช่างมีพื้นฐานและการสั่งสมอันลึกซึ้งนัก”

ด้วยพลังยุทธ์ของเขา ประมุขรัฐเมฆทักษิณา จะให้เขาไม่ใช้ความเร้นลับระดับเทพจักรวาล แล้วใช้เพียงแค่ความเร้นลับของกฎเกณฑ์ขั้นอลวนไปถึง ‘การกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอด’ ถึงแม้ว่าจะมีเคล็ดวิชาเช่นนี้ให้เขาไปศึกษา ประมุขนครหลวงรัฐเมฆทักษิณาก็ยังไม่กล้าพูดว่ามีความมั่นใจเต็มร้อย!

“ชาติก่อนเขาจะต้องเป็นเทพจักรวาลอย่างแน่นอน! แล้วก็ไม่รู้เลยว่าเป็นผู้ใดกันที่คิดค้นเคล็ดวิชาขั้นอลวนกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอดนี้ขึ้นมา เป็นบุคคลผู้ไร้เทียมทานสักคนหนึ่งในโลกกำเนิดเมื่อชาติก่อนของเขาอย่างนั้นหรือ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาคิดใคร่ครวญ “พรสวรรค์และพลังยุทธ์เช่นนี้ของเขา ตอนนั้นไม่คารวะบรรพชนฝานเป็นอาจารย์ แต่กลับคารวะข้าเป็นอาจารย์แทน เป็นเพราะเหตุใดกัน”

ความเป็นมาของลูกศิษย์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ พลังยุทธ์ก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้

ประมุขรัฐเมฆทักษิณาก็ต้องคิดไตร่ตรองอย่างต่อเนื่องแล้ว!

“เขาไม่มีทางคุกคามข้าได้” ประมุขรัฐเมฆทักษิณามีความมั่นใจในตนเอง ด้วยพื้นฐานของเขา บุคคลผู้ไร้เทียมทานล้วนมิอาจสังหารเขาได้ทั้งสิ้น เขาก็ย่อมมีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับศิษย์ผู้นี้อยู่แล้ว

“เช่นนั้นที่เขาคารวะข้าเป็นอาจารย์ก็เพราะสมบัติล้ำค่าอย่างนั้นหรือ ก็เพื่ออิสรภาพอย่างนั้นหรือ หรือจะบอกว่า…มิปรารถนาจะข้องเกี่ยวกับสงครามประเทศโบราณ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาครุ่นคิด หกรัฐโบราณแกร่งกล้า แต่ก็ต่อสู้กันอย่างร้ายกาจ ถ้าหากเป็นสมาชิกคนสำคัญของสกุลฝานก็ล้วนมิอาจหลีกเลี่ยงสงครามได้ แต่ถ้าหากเป็นเค่อชิงก็ไม่เหมือนกันเสียแล้ว สิทธิประโยชน์ของเค่อชิงเล็กน้อยกว่ามาก แต่เผชิญหน้ากับภารกิจ…ก็ยังสามารถเลือกได้ว่าจะรับหรือจะไม่รับ

“ฮ่าฮ่า ไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อเขาคารวะข้าเป็นอาจารย์ ในชาตินี้ก็เป็นลูกศิษย์ของข้าแล้ว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาอมยิ้ม “มีผู้ช่วยที่ดีคนหนึ่ง ในภายภาคหน้าสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้าก็จะมีคืนวันที่ดีขึ้นเป็นอย่างมากแล้ว”

สิบสำนักวิชาใหญ่

นอกจากแปดสำนักวิชาใหญ่ที่เป็นของหกรัฐโบราณแล้ว ‘ลัทธิกระบี่สวรรค์’ ที่เหลืออยู่ ต่างก็กดดันรังแกสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ก่อนหน้านี้ยังกล้ายกพลไปถึงสี่รัฐมารทมิฬด้วย

ช่วยไม่ได้

ประมุขรัฐเมฆทักษิณาไม่เกรงกลัวผู้อื่น แต่บรรดาขุมอำนาจใหญ่ที่มีความเป็นมาอันใหญ่โตเหล่านั้นก็มิได้กลัวเกรงประมุขรัฐเมฆทักษิณาเช่นกัน!

“เสวี่ยอิง” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาส่งสารเรียกตัวในทันใด แต่ร่างแยกอีกร่างหนึ่งของตงป๋อเสวี่ยอิงก็อยู่ที่นครหลวงรัฐเมฆทักษิณามาโดยตลอด

เพียงไม่นาน

ตงป๋อเสวี่ยอิงอาภรณ์ทองก็เคลื่อนที่เป็นลำแสงไปยังสถานที่บำเพ็ญแห่งนี้ของท่านอาจารย์

ประมุขรัฐเมฆทักษิณาอมยิ้มมองดูหนุ่มน้อยอาภรณ์ทองผู้เดินเข้ามาจากที่ไกลๆ  สายตาที่เขามองดูลูกศิษย์ในยามนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเสียแล้ว

“เสวี่ยอิง เจ้าซ่อนเร้นได้อย่างลึกล้ำน่าดูทีเดียว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาพูดยิ้มๆ

“ท่านอาจารย์ทราบแล้วหรือขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

“มิตรสหายกลุ่มหนึ่งที่รัฐโบราณคิมหันตวายุบอกข้าหมดแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า การกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอด! นอกจากรัฐโบราณสหโลกาและรัฐโบราณคิมหันตวายุแล้วยังมีเคล็ดวิชาขั้นอลวนกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอดอื่นอยู่ด้วย” ประมุขรัฐเมฆทักษิณามองตงป๋อเสวี่ยอิง “ใช่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ใครคิดค้นขึ้นกันหรือ เป็นท่านอาจารย์ของเจ้าในชาติก่อน หรือว่าผู้แกร่งกล้าคนใดของโลกกำเนิดในชาติก่อนกันเล่า”

“เป็นเทพจักรวาลท่านหนึ่งในสำนักวิชาของข้าเมื่อชาติก่อนขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงยังคงปิดบังเป็นการชั่วคราว

“ดูท่าทางสำนักในชาติก่อนของเจ้าก็ต้องแข็งแกร่งมากทีเดียว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาพยักหน้า

เขาย่อมไม่กล้าคิดอยู่แล้วว่าอาจเป็นขั้นอลวนคนหนึ่งคิดค้นขึ้น!

เพราะเคล็ดวิชาขั้นอลวนกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดยอดสองศาสตร์ที่ดินแดนจิตโลกามีอยู่นั้นล้วนเป็นสิ่งที่บุคคลผู้ไร้เทียมทานคิดค้นขึ้นทั้งสิ้น! ขั้นอลวนคิดค้นออกมาอย่างนั้นหรือ นั่นเป็นเรื่องล้อเล่นแล้ว! ถ้าหากรู้เข้า เกรงว่าคงจะก่อกวนผู้แกร่งกล้าจำนวนมากทีเดียว ถึงอย่างไรการหยั่งรู้ระดับนี้ก็ยังร้ายกาจอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะมีการอ้างอิงเกราะของ ‘แม่ทัพโม่กู่’ มาก่อน มีการสั่งสมของโลกกำเนิดสองแห่งมาก่อน คิดค้นเคล็ดวิชาเช่นนี้ออกมา ก็ยังคงน่าหวั่นเกรงเหลือเกิน

“ใช่แล้ว เจ้าวางแผนว่าจะกลายเป็นเทพจักรวาลเมื่อใดหรือ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาเอ่ยถามอย่างผ่อนคลายสบายใจ “เกรงว่าตอนนี้ผู้ที่คาดเดาว่าเจ้าเป็นผู้กลับชาติมาเกิดก็มีอยู่ไม่น้อย ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนเร้นอีกต่อไปแล้วล่ะ”

“ในเร็ววันนี้แหละ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

“วิถีอากาศหรือ เขตลวงโลกเทียมหรือ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาซักไซ้

“วิถีอากาศ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

“เฮ้อ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาผ่อนลมหายใจแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ข้ายังคิดว่าเจ้าจะทำให้วิถีอากาศและเขตลวงโลกเทียมกลายเป็นเทพจักรวาลอย่างต่อเนื่องกันทั้งสองวิถีเสียอีก”

“ไม่รีบร้อนหรอก ยังคงสั่งสมไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยอย่างถ่อมตน

ถึงแม้ทุกคนจะคิดว่าตนเป็นเทพจักรวาลกลับชาติมาเกิดกันหมด เป็นเช่นนี้ชั่วคราวก็ดีแล้ว! ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็จะกลายเป็นเทพจักรวาลอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว

“ในเมื่อตอนนั้นเจ้ามิได้คารวะบรรพชนฝานเป็นอาจารย์ แต่กลับคารวะข้าเป็นอาจารย์ จากนี้ไปเจ้าก็สามารถอ่านตำราทั้งหลายที่มีอยู่ในสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้าได้ทั้งหมด ถ้าหากมีสิ่งใดที่ข้าสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ เจ้าก็พูดมาได้ทั้งสิ้น ข้ามีแก้วผลึกจักรวาลมากมายก่ายกอง แต่สิ่งที่ล้ำค่าจริงๆ นั้นก็มิอาจซื้อมาได้หรอก! อย่างเช่นสมบัติลับล้ำค่าระดับสุดยอด และเคล็ดสืบทอดลับมากมาย ต่างก็ไม่ขายกันทั้งสิ้น! สิ่งใดที่สามารถใช้แก้วผลึกจักรวาลตัดสินได้ ข้าล้วนช่วยเหลือเจ้าได้ทั้งสิ้น เจ้าแกร่งกล้า ก็สามารถช่วยเหลือสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้าได้! ยิ่งสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้าแพร่หลายไปกว้างไกลเท่าใด ก็ยิ่งหาแก้วผลึกจักรวาลมาได้มากมายเท่านั้นแหละ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาพูดยิ้มๆ เขามิได้เห็นลูกศิษย์ตรงหน้าผู้นี้เป็นเด็กน้อยรุ่นหลังอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นบุคคลผู้กล้าแกร่งที่ใกล้เคียงกับตนในด้านการบำเพ็ญแล้ว

“ท่านอาจารย์โปรดวางใจ ถ้าหากต้องการ ศิษย์ก็จะไม่เกรงใจแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงอมยิ้ม พูดถึงขนาดนี้แล้ว แต่หากต้องการจริงๆ เขาจึงจะสามารถเอ่ยปากได้

“อืม” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาอมยิ้มพยักหน้า เขามีความรู้สึกผ่อนคลายชนิดหนึ่ง

ช่วยไม่ได้

ตลอดมา ก็มีเขาเพียงคนเดียวที่ต่อสู้เพื่อสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์! ผู้ช่วยคนอื่นๆ นั้นมีพลังยุทธ์อ่อนแอเกินไป

******

ณ นครหลวงรัฐเมฆทักษิณา ภายในลานหิมะเหิน

ร่างแยกอีกร่างหนึ่งของตงป๋อเสวี่ยอิงอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว ภายในห้องเงียบแห่งหนึ่งที่ลานหิมะเหิน ไอหอมแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องเงียบ ทำให้คนจิตใจปลอดโปร่ง

“ศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงอาภรณ์ทองนั่งอยู่บนเบาะรองนั่ง แต่ในสมองกลับระลึกถึงเนื้อหาของศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกา

แน่นอนว่าเขามิได้บำเพ็ญ

พลังยุทธ์ในตอนนี้ยังมิอาจบำเพ็ญศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกานี้ได้ เงื่อนไขของเคล็ดวิชาลับนี้ช่างเกินจริงเป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลที่เขาศึกษาเคล็ดวิชาลับนี้ก็เพื่อให้เข้าใจว่าร่างแยกสองร่างซึ่งอยู่ที่โลกกำเนิดที่แตกต่างกัน สามารถเกิดการรับสัมผัสได้หรือไม่

“จริงๆ เลย”

ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้วน้อยๆ “ถึงแม้ว่าการรับสัมผัสวิญญาณจะลึกลับ แต่ว่าโลกกำเนิดสองแห่งต่างก็มีกฎเกณฑ์สูงสุดที่แตกต่างกัน! แต่มีระยะทางห่างไกลกันเป็นอย่างยิ่ง ร่างแยกสองร่างอยู่ที่โลกกำเนิดคนละแห่ง…การรับสัมผัสระหว่างกันเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง”

อ้างอิงจากที่ศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกาว่าเอาไว้

ร่างแยกร่างหนึ่งมุ่งหน้าไปยังโลกกำเนิดอีกแห่งที่อยู่ห่างไกล เพราะเป็นผู้มาจากภายนอก ก็อาจถูกกฎเกณฑ์สูงสุดของโลกกำเนิดอีกแห่งหนึ่งขัดขวางได้! พลังที่สูงที่สุดก็ได้แค่สำเร็จระดับขั้นอลวนเท่านั้น อ้างอิงจากประสบการณ์ที่ ‘ประมุขรัฐเมฆทักษิณา’ สำแดงศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกา ร่างแยกที่เขาส่งมุ่งหน้าไปยังโลกกำเนิดแห่งอื่นก็มีทั้งที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ร่างแยกที่อ่อนแอหน่อย วิญญาณก็อ่อนแอ การรับสัมผัสต่อร่างจริงที่ดินแดนจิตโลกาก็อ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงการรับสัมผัสอย่างสุดกำลังเท่านั้น จึงจะสามารถส่งถ่ายความทรงจำได้อย่างทุลักทุเล

ส่วนร่างแยกที่แข็งแกร่ง การรับสัมผัสต่อร่างจริงที่ดินแดนจิตโลกาก็แข็งแกร่งกว่าเป็นอย่างมาก รวบรวมจิตใจเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งถ่ายเชื่อมต่อความทรงจำระหว่างกันได้แล้ว

“ท่านอาจารย์เขาเป็นเทพจักรวาลระดับขั้นที่สอง หลังจากที่ข้าบรรลุแล้วก็เป็นเพียงแค่ระดับขั้นที่หนึ่งเท่านั้นเอง! ไม่รู้ว่าที่โลกกำเนิดที่แตกต่างกัน ร่างแยกทั้งสองจะสามารถรับสัมผัสได้หรือไม่” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยพึมพำ “คาดว่าความหวังในการสื่อสารแลกเปลี่ยนอย่างทุลักทุเลนั้นคงจะยิ่งใหญ่นัก!”

ก็กลัวว่าจะไม่สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้!

เขาทิ้งร่างแยกอื่นเอาไว้ที่ดินแดนจิตโลกา เพื่ออะไรน่ะหรือ ก็เพื่อให้มีทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ตนเองเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญได้ไกลยิ่งขึ้น! ถ้าหากไม่สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนความทรงจำได้ นี่ก็จะมีอันตรายชนิดหนึ่งคงอยู่…

ร่างแยกสองร่างอาจค่อยๆ สร้างความคิดความปรารถนาที่แตกต่างกันขึ้นมา เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็ยังดี ด้วยระดับขั้นการบำเพ็ญจิตใจของตงป๋อเสวี่ยอิง ความเร็วในการสื่อสารแลกเปลี่ยนความทรงจำทั้งสองสามารถเป็นไปได้อย่างกลมกลืน แต่ถ้าหากเวลายาวนานมากอย่างเช่นหลายหมื่นล้านปีหรือว่ายาวนานกว่านั้น วิญญาณจึงจะแข็งแกร่งพอ สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนระหว่างกันได้ เช่นนั้นก็สามารถเกิดปัญหาขึ้นได้แล้ว!

สติรับรู้แตกกระจาย นี่เป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนัก!

“คงจะไม่มีปัญหา รอหลังจากที่ข้ากลับไปยังบ้านเกิดที่กลับชาติมาเกิดแล้ว ถ้าหากสองฝั่งมิอาจรับสัมผัสกันได้ ไม่มีทางสื่อสารแลกเปลี่ยนความทรงจำกันได้ ก็ทำให้ร่างแยกของทางฝั่งดินแดนจิตโลกานี้พยายามแข็งแกร่งขึ้นอย่างสุดกำลัง ซื้อหาแก่นแท้อลวนมากลืนกินตามอำเภอใจ! ถ้าหากยังไม่ได้การ ก็ได้แต่บำเพ็ญในระยะเวลาอันสั้น เวลาเนิ่นนาน ก็ต้องให้นิทราไปก่อนแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยพึมพำ

สามารถทำการส่งถ่ายมหาทลายโลกาได้ ร่างแยกทั้งสองที่โลกกำเนิดสองแห่ง โดยทั่วไปแล้วพลังยุทธ์ต่างก็แข็งแกร่งเป็นที่สุด

โดยปกติทั่วไปแล้ว อย่างน้อยต่างก็เป็นเทพจักรวาลระดับขั้นที่สองกันทั้งสิ้น! เพราะว่ามาถึงระดับขั้นนี้แล้ว จึงจะมีความเป็นไปได้ในการบำเพ็ญศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกาให้สำเร็จ

สิ่งที่ตงป๋อเสวี่ยอิงอาศัยก็คือ ‘พลังของป้ายคำสั่งจิตโลกา’ จึงจะสามารถกลับไปยังบ้านเกิดได้

ป้ายคำสั่งจิตโลกานั้นน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

อย่างเช่นศาสตร์การส่งถ่ายมหาทลายโลกา ถึงแม้ว่าจะสามารถส่งร่างแยกมุ่งหน้าไปยังโลกกำเนิดอีกแห่งหนึ่งได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับการขับไล่ของโลกกำเนิดอีกแห่งหนึ่ง ก็ยิ่งไม่มีทางกลับชาติมาเกิดได้!

‘การกลับชาติมาเกิด’ นั้น ผู้มาจากภายนอกจะต้องสามารถได้รับการอนุญาตของกฎเกณฑ์สูงสุดจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้

ไม่กลับชาติมาเกิด…ขีดจำกัดของพลังยุทธ์ก็คือขั้นอลวน การหยั่งรู้ของโลกกำเนิดแห่งหนึ่งนั้นก็มีขีดจำกัด สิ่งที่สามารถศึกษาเรียนรู้ได้ก็มีขีดจำกัดเช่นเดียวกัน! มีเพียงการกลับชาติมาเกิดเท่านั้น การยกระดับพลังยุทธ์จึงจะไม่มีขีดจำกัด จึงสามารถสอดแทรกเข้าสู่โลกกำเนิดแห่งหนึ่งได้อย่างแท้จริง ได้รับคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของโลกกำเนิดแห่งนั้น

“พรึ่บ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงหลับตาลงแล้วเริ่มต้นสงบจิตใจบำเพ็ญ

………………………………………….