นี่คือพรจากสวรรค์หากเทพกระเรียนจะได้เป็นจิตวิญญาณสมบัติศักดิ์สิทธิ์เขาจะได้แหล่งกำเนิดพลังเทพกลับมาอย่างง่ายดายด้วยอำนาจของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุยาวนานหลายพันปี และถ้าหากอันดับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์สูง เขาจะได้เป็นเทพที่แข็งแกร่งกว่าเดิมด้วย!
เทพกระเรียนคือเทพที่กำลังจะตายเป็นเรื่องยากที่เขาจะหาต้นแบบสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ต้องพูดถึงสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจริงในอันดับที่ยี่สิบเอ็ด
อันดับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์แบบจักรพรรดิบนโลกมีอยู่มากเกินกว่าหนึ่งพันอันดับ
ดังนั้นสมบัติศักดิ์สิทธิ์แบบจักรพรรดิอันดับที่ยี่สิบเอ็ดจึงเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของเทพกระเรียน!
“ข้าจะเป็นก็ได้!” เทพกระเรียนตกลงทันทีด้วยความดีใจในแววตา
ความชิงชังต่อซือหยูของเขาหายไปเพราะซือหยูได้เสนอโชคชะตาที่ดีกว่าความตายกับเขา
ซือหยูพยักหน้าเขาเปิดหม้อชำระวิญญาณและปลดปล่อยดวงวิญญาณเทพกระเรียนออกมา หลังจากนั้น ซือหยูเปิดใช้ทรายดาราทางช้างเผือกเพื่อให้เทพกระเรียนเข้าไปได้
เมื่อมีดวงวิญญาณในทรายดาราซือหยูรู้สึกได้ว่ามันจะใช้งานได้ดีกว่าเดิม!
“นายท่าน…ซือหยู…”
เทพกระเรียนที่เพิ่งจะเป็นจิตวิญญาณสมบัติพูดด้วยความอับอาย
“ข้าต้องใช้เวลาสองเดือนเพื่อหลอมรวมกับสมบัติจนเป็นจิตวิญญาณสมบัติ!”
ซือหยูพยักหน้าแสดงการรับรู้
“นายท่าน…มีผนึกในสมบัติชิ้นนี้!” เทพกระเรียนพูดหลังจากผ่านไปไม่นาน
“หากผนึกไม่หายไปข้าเกรงว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะชำระล้างสมบัติชิ้นนี้! ถ้าหากมันถูกชิงไป มันจะกลายเป็นของคนอื่น!”
ซือหยูตอบ
“ใช่!ข้ารู้แล้ว ตอนนี้ข้าต้องไปหาใครบางคน!”
ตอนที่เทียนจี่จื้อให้ทรายดาราทางช้างเผือกกับซือหยูเขามอบให้ด้วยสองเงื่อนไข
อย่างแรกคือเขาต้องสังหารจักรพรรดิโลหิตซือหยูทำสำเร็จไปแล้ว
อย่างที่สองซือหยูต้องบอกคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อกับเมฆากุหลาบ
ซือหยูไม่พบเมฆากุหลาบบนแผ่นดินจิวโจวเป็นไปได้ว่านางอาจอยู่ในพันธมิตรบูรพา แต่ก็ไม่มีใครบอกอะไรซือหยูเมื่อเขาถามเรื่องนี้
นางอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงในพันธมิตรบูรพาก็ได้ ซือหยูถามหลังจากครุ่นคิด
“เจ้าเคยได้ยินสตรีนามเมฆากุหลาบหรือไม่?”
เทพกระเรียนตอบในไม่นาน
“ไม่เลย!หากนางมีชื่อเสียง ข้าก็คงรู้จักไปแล้ว!”
ซือหยูมิได้ผิดหวังในคำตอบเขาพยักหน้า
“ไม่เป็นไร!เจ้าเริ่มหลอมรวมกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”
ในตอนนั้นเองซือหยูสัมผัสได้ถึงพลังเทพจิง เขาถามด้วยความแปลกใจ
“มีเรื่องสำคัญระหว่างเจ้ากับเทพจิงรึ?”
เมื่อได้ฟังเทพกระเรียนอ้ำอึ้ง สีหน้าเขาสลับซับซ้อน เขารู้ว่าเขาปิดบังอะไรจากซือหยูไม่ได้เลย เขาจึงบอกรายละเอียดเรื่องงานชุมนุมเหล่าเทพกับซือหยู
งานชุมนุมเหล่าเทพรึ?ซือหยูที่ได้ฟังรายละเอียดประทับใจในความกล้าของเทพกระเรียนกับเทพจิง จากนั้น เขาตาลุกวาว
“ฮ่าๆๆๆๆยินดีด้วย เทพขนนก!”
เทพจิงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อบินลงมา
เขาไม่รู้ว่าซือหยูบังคับให้เทพกระเรียนพูดคำสั่งเสียเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร!
ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้ม
“ท่านกล่าวเกินไปแล้ว!ข้าเป็นเพียงตัวแทนเทพเท่านั้น!”
“หึหึ!อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย! เจิ้งหยวนชิงไม่ได้มองข้ามเจ้า เจ้าจะต้องสุดยอด!”
แท้จริงแล้วเทพจิงไม่ได้คิดจะยกยอซือหยูเลยซือหยูกลายมาเป็นตัวแทนเทพจากคนนอกธรรมดา ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ต่างกับฟ้าถล่ม!
เมื่อเทพจิงพูดถึงเจิ้งหยวนชิงซือหยูความตั้งใจของเขาทันที
“ข้าว่าแม่นางหยวนชิงคงเตรียมงานชุมนุมเหล่าเทพเต็มที่แล้ว!ตอนนี้เราเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสม!” เทพจิงสบายใจเมื่อซือหยูพูดเช่นนี้เขามองรอบ ๆ ด้วยรอยยิ้ม
“จริงด้วย!เราพูดที่นี่ไม่ได้ ข้าว่าเรารู้กันอยู่แล้ว ฝากเจ้าบอกเจิ้งหยวนชิงว่าข้าก็พร้อมแล้วเหมือนกัน!”
ซือหยูพยักหน้าจากนั้นเทพจิงก็จากไปพร้อมกับกองทัพของเขาหลังจากพูดคุยกับซือหยูไม่นาน
ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปยังโลกทั้งสองใบอย่างรวดเร็วเทพขนนกและเทพจิงได้ทำข้อตกลงลับ ๆ ด้วยกัน เทพจิงถอนทัพอย่างไร้เงื่อนไขและไม่ขออะไรจากเทพขนนกเลย
การที่เทพจิงเคลื่อนทัพมาด้วยความโกรธแค้นและกลับไปเช่นนั้นทำให้หลายคนพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างสนุกปาก
ไม่นานคนก็ได้ข่าวจากโลกของเทพจิงหลังจากหารือกันต่อหน้า เทพจิงที่ชื่นชมซือหยูอย่างมากยืนยันตัวตนของซือหยูว่าเขาเป็นเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่! คำพูดที่ลั่นมาจากเทพจิงย่อมไม่มีการหักล้างจากผู้ใด!
ไม่นานทั้งแผ่นดินบูรพาก็ตกตะลึงจากข่าวนี้
ต้องขอบคุณเครือข่ายข่าวของหยางไท่ที่กระจายข่าวนี้อย่างรวดเร็วแม้แต่หยางไท่เองก็งุนงง
หลังจากอ่านเอกสารกองหนาหยางไท่เริ่มเดินไปมาในห้องพลางครุ่นคิดด้วยใบหน้าหนักใจ
“นายน้อยมีปัญหาอันใดข้ายินดีแก้ไขให้ท่าน!”
หยางไท่ตอบห้วนๆ
“จะปัญหาอะไรอีกเล่า?เจ้าอำนวยความสะดวกให้ข้าได้สานสัมพันธ์กับซือหยูได้ไหม?”
“ซือหยูน่ะรึ?”
ชายแก่ตอบพลางกระพริบตา
“ซือหยูทำอะไรแปลกๆ รึ?” “เขาไม่ได้ทำอะไร!”
หยางไท่ถอนหายใจ
“เขาน่ะ…กลายเป็นเทพไปแล้ว!”
“อ๊า!”
ชายแก่อ้าปากกว้างราวกับได้ยินสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
“นายน้อยท่านเล่นมุกใช่ไหม? เขาเป็นแค่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่งในครั้งสุดท้ายที่เราเจอ!”
หยางไท่ตอบด้วยรอยยิ้ม
“สำหรับเขาขั้นพลังไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย! ตอนนี้เขาคือเทพขนนกที่ปกครองโลกเทพกระเรียน ให้ตายสิ! อุบายจะเยี่ยมยอดไปถึงไหน!”
“เขาสังหารเทพจากนั้นก็กลายเป็นเทพ…ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะได้ตั้งรกรากในพันธมิตรบูรพา แต่เขายังได้ตำแหน่งเทพด้วย! ในอนาคตต่อไป เราจะต้องเรียกเขาว่าเทพขนนกในตอนที่ได้เจอ!” ในใจหยางไท่มีแต่ความรู้สึกประหลาด
กับสามัญชนคนเดียวทำให้เกิดสงครามระหว่างเทพจิงและเทพกระเรียนด้วยความตายของบุตรชายและบุตรสาวของแต่ละคน
แต่สัญชาตญาณหยางไท่บอกเขาว่าซือหยูคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังสงครามครั้งนี้
สุดท้ายเทพกระเรียนที่มุ่งมั่นจะฆ่าซือหยูกลับทิ้งคำสั่งเสียอันลักลั่น แต่งตั้งเขาให้เป็นตัวแทนเทพในโลกใบนั้น มันมีแต่เรื่องน่ากังขา!
หยางไท่แน่ใจว่าเรื่องพิลึกพิลั่นเหล่านี้มีซือหยูเป็นต้นเหตุ!
การสังหารเทพนั้นเป็นเรื่องเหนือกว่าจินตนาการของหยางไท่แต่ซือหยูกลับทำสำเร็จได้อย่างไม่ต้องลงแรง
เมื่อชายแก่ได้ฟังเรื่องราวเขาได้แต่อ้าปากค้าง
“นายน้อยหรือว่าชายคนนั้นจะเป็นเทพที่กลับมาเกิดใหม่ตามคำร่ำลือ? กลแต่ละไม้ช่างน่ากลัวนัก!”
หยางไท่ถอนหายใจ
“มารดามันเถอะ!สำหรับข้า กลทุกไม้ของเขาน่าสะพรึงกลัวขึ้นเรื่อย ๆ!”
“เขาสังหารเทพทั้งที่เป็นคนธรรมดา!ตอนนี้ยังได้ตำแหน่งหนึ่งในร้อยเทพของพันธมิตรอีก! ข้าไม่กลัวหรอกว่าเขาจะทำอะไรต่อไปกับพันธมิตร! แต่ที่ข้ากังวลคือเขาอาจจะคิดร้ายต่อข้า!”
หยางไท่เริ่มเสียใจที่เขาเป็นคนชี้นำตระกูลเทพกระเรียนที่ทำให้แผนของซือหยูติดขัด
ชายแก่รับรู้ความตั้งใจของหยางไท่
“นายน้อยใยเราไม่ช่วยเหลือเขาเล่า?”
หยางไท่ยิ้มแหยๆ
“เทพจะต้องการสิ่งใดจากเราเล่า!น้ำตาลบนของหวานจะดีเท่ากับถ่านไฟในยามเหมันต์รึ?”
“ข้าเพิ่งจะได้รับรายงานมานายน้อยโลกเทพตำราเกลียดชังซือหยู เขาถึงกับส่งคนไปลอบสังหารซือหยู!”
หยางไท่ที่สนใจเพียงสงครามระหว่างสองเทพตาลุกวาว
“ดีล่ะ!เจ้าเริ่มหาข่าวเรื่องโลกเทพตำราได้แล้ว!”
ในโลกเทพตำรา
ฉินเฟยเฉินนายน้อยแห่งตระกูลเทพตำราถอนหายใจด้วยความกังวลเมื่อได้รายงานจากอู๋โจว
“ข้าประมาทมันเกินไป!เราเสียโอกาสดีที่สุดในการจับมันไปแล้ว!”
ตอนนี้ซือหยูคือหนึ่งในร้อยเทพแม้ว่าเขาเพิ่งจะเลื่อนตำแหน่งมาก็ตาม
ถ้าฉินเฟยเฉินจับตัวซือหยูไม่ได้เทพตำราจะเป็นศัตรูกับชาวพันธมิตรทันที
และตอนนี้ก็ยากมากที่จะจับตัวเขา
เขาคือผู้ปกครองโลกเทพกระเรียนเขาถูกปกป้องโดยยอดฝีมือมากมาย ขณะเดียวกันซือหยูก็ยังเป็นสหายกับเทพจิงที่พิสูจน์ความเป็นมิตรด้วยการยืนยันตัวตนของซือหยูว่าเป็นเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่!
หากเขาคิดจับตัวซือหยูเขาจะต้องคิดถึงเรื่องเทพจิงด้วย
แต่ปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้สำคัญนักปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือซือหยูได้เบี่ยงเบนความสนใจของเจิ้งหยวนชิงมายังเทพตำรา!
ฉินเฟยเฉินกังวลในเรื่องของเจิ้งหยวนชิงเป็นอย่างยิ่ง
หากเจิ้งหยวนจิงรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปตระกูลของเขาจะเกิดปัญหาใหญ่
ดังนั้นฉินเฟยเฉินจึงไม่กล้าทำอะไรแม้ซือหยูจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาไม่อยากจะทำให้เจิ้งหยวนชิงรู้ตัว!
ด้วยเหตุนี้ซือหยูจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ฉินเฟยเฉินไม่กล้าเคลื่อนไหว นี่คือปัญหาในตอนนี้!
อู๋โจวกลอกตา “นายน้อยข้าคิดว่าเราต้องใช้คนนอกทำงานนี้!”
“คนนอก?คนนอกที่เชื่อถือได้เรอะ?”
ฉินเฟยเฉินไม่ค่อยพอใจเขาอยากจะลงมืออย่างลับ ๆ คนนอกกับแผนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไปกันได้
อู๋โจวพูดด้วยรอยยิ้ม
“นายน้อยท่านจำเสี้ยววิญญาณเทพที่ร่อนเร่ในโลกแห่งความมืดได้หรือไม่? พวกมันจะทำงานนี้ตราบเท่าที่เราจ่ายมากพอ!”
ฉินเฟยเฉินเลิกคิ้วและเริ่มใช้ความคิด
อู๋โจวพูดต่อ
“งานชุมนุมเหล่าเทพจะเริ่มขึ้นในอีกหกเดือนถึงตอนนั้น ตัวตนเทพขนนกของซือหยูจะเป็นที่ยอมรับจากพันธมิตร ถึงตอนนั้นการสังหารเขาก็เป็นเรื่องยากแล้ว! เราต้องฆ่าเขาก่อนหน้านั้น! เสี้ยววิญญาณเทพเหล่านั้นไม่เคยทำให้ลูกค้าผิดหวัง!”
ฉินเฟยเฉินพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดี!ข้าขอฝากให้เจ้าจัดการ บอกให้พวกมัน…ฆ่าซือหยูซะ! เจ้าจะต้องทำงานนี้ให้เสร็จด้ยทุกสิ่งที่มี ต่อให้ต้องส่งว่าที่เทพไปในโลกเสี้ยววิญญษณก็ตาม!”
ฉินเฟยเฉินรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจับตัวซือหยูในตอนนี้เขาจึงต้องการสังหารซือหยูเท่านั้น
“น้อมรับบัญชา!”
เจิ้งหยวนชิงกำลังง่วนอยู่กับภาระงานในหอพันธมิตร
แม้นางจะได้ข่าวการตายของเทพกระเรียนระหว่างสงครามกับเทพจิงนางก็ไม่แปลกใจเพราะนางรู้ว่าเทพสองคนนี้จะต้องต่อสู้กันในไม่ช้าก็เร็ว
แต่เมื่อได้ยินว่าซือหยูกลายเป็นเทพนางได้แต่อุทานด้วยความตกใจ
“ข้าไม่คิดมาก่อนเลย!เขาทำได้ยังไง?”
ในตอนที่นางอยู่ตระกูลเทพกระเรียนนางมีความรู้สึกว่าซือหยูถูกจับอยู่ในเรือนนั้น เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักโทษมาเป็นเทพขนนกในเวลาอันสั้นนี้ได้ยังไง?
เมื่อเจิ้งหยวนชิงนึกได้ว่าหยางไท่ก็หวาดกลัวซือหยูนางจึงรู้สึกได้
“เขาคือจอมวางแผนตัวจริง!”
นางพูด
“หัวหน้าพูดเรื่องอะไรหรือ?”
เสียงอ่อนโยนจากชายดังตามมา
เป็นเสียงที่มาจากมนุษย์เขาคือปู้หลูยี่ หนึ่งในสามยอดฝีมือที่ผู้คุมกฎอาวุโสส่งมายังหอพันธมิตร เขาเป็นทายาทของเทพกระบี่
ร่างกายของเขาเปล่งรัศมีกระบี่ออกมาอย่างยิ่งใหญ่แม้แต่ดวงตาของเขาก็เหมือนกับกระบี่สองเล่ม
เจิ้งหยวนชิงตอบ
“ข้าพูดถึงเทพขนนกคนใหม่ข้าได้ยินว่าเทพจิงยืนยันว่าเขาคือเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่!” เจิ้งหยวนชิงพูดต่อ
“เขาเป็นเทพที่ฉลาดมากข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะได้ขึ้นตำแหน่งเทพในระยะเวลารวดเร็วเช่นนี้! ช่างน่าประหลาด!”
นางเริ่มเชื่อแล้วว่าซือหยูจะได้กลายเป็นผู้มีพลังระดับเทพอย่างแน่นอน!
หลังจากคิดไม่นานเจิ้งหยวนชิงพูดอีกครั้ง
“เขาเป็นมนุษย์เหมือนกับเจ้าเจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือ?”
ปู้หลูยี่คงจะไม่สนใจซือหยูหากเจิ้งหยวนชิงไม่พูดเช่นนี้เขาเปรียบเทียบซือหยูกับตัวเขาเองในใจเมื่อรู้ว่าซือหยูเองก็เป็นมนุษย์ จากนั้นเขาจึงตอบอย่างดื้อรั้น
“นั่นก็แค่ตัวแทนเทพที่เป็นเทพแต่ในนามเท่านั้น!พลังยังห่างไกลกว่าจะเป็นเทพ! เขาไม่ได้มีอะไรเลย!”