ตอนที่ 1181 - ทายาทเทพกระบ

The Divine Nine Dragon Cauldron

นี่คือพรจากสวรรค์หากเทพกระเรียนจะได้เป็นจิตวิญญาณสมบัติศักดิ์สิทธิ์เขาจะได้แหล่งกำเนิดพลังเทพกลับมาอย่างง่ายดายด้วยอำนาจของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุยาวนานหลายพันปี และถ้าหากอันดับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์สูง เขาจะได้เป็นเทพที่แข็งแกร่งกว่าเดิมด้วย!
  เทพกระเรียนคือเทพที่กำลังจะตายเป็นเรื่องยากที่เขาจะหาต้นแบบสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ต้องพูดถึงสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจริงในอันดับที่ยี่สิบเอ็ด
  อันดับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์แบบจักรพรรดิบนโลกมีอยู่มากเกินกว่าหนึ่งพันอันดับ
  ดังนั้นสมบัติศักดิ์สิทธิ์แบบจักรพรรดิอันดับที่ยี่สิบเอ็ดจึงเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของเทพกระเรียน!
  “ข้าจะเป็นก็ได้!”   เทพกระเรียนตกลงทันทีด้วยความดีใจในแววตา
  ความชิงชังต่อซือหยูของเขาหายไปเพราะซือหยูได้เสนอโชคชะตาที่ดีกว่าความตายกับเขา
  ซือหยูพยักหน้าเขาเปิดหม้อชำระวิญญาณและปลดปล่อยดวงวิญญาณเทพกระเรียนออกมา หลังจากนั้น ซือหยูเปิดใช้ทรายดาราทางช้างเผือกเพื่อให้เทพกระเรียนเข้าไปได้
  เมื่อมีดวงวิญญาณในทรายดาราซือหยูรู้สึกได้ว่ามันจะใช้งานได้ดีกว่าเดิม!
  “นายท่าน…ซือหยู…”
  เทพกระเรียนที่เพิ่งจะเป็นจิตวิญญาณสมบัติพูดด้วยความอับอาย
  “ข้าต้องใช้เวลาสองเดือนเพื่อหลอมรวมกับสมบัติจนเป็นจิตวิญญาณสมบัติ!”
  ซือหยูพยักหน้าแสดงการรับรู้
  “นายท่าน…มีผนึกในสมบัติชิ้นนี้!”   เทพกระเรียนพูดหลังจากผ่านไปไม่นาน
  “หากผนึกไม่หายไปข้าเกรงว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะชำระล้างสมบัติชิ้นนี้! ถ้าหากมันถูกชิงไป มันจะกลายเป็นของคนอื่น!”
  ซือหยูตอบ
  “ใช่!ข้ารู้แล้ว ตอนนี้ข้าต้องไปหาใครบางคน!”
  ตอนที่เทียนจี่จื้อให้ทรายดาราทางช้างเผือกกับซือหยูเขามอบให้ด้วยสองเงื่อนไข
  อย่างแรกคือเขาต้องสังหารจักรพรรดิโลหิตซือหยูทำสำเร็จไปแล้ว
  อย่างที่สองซือหยูต้องบอกคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อกับเมฆากุหลาบ
  ซือหยูไม่พบเมฆากุหลาบบนแผ่นดินจิวโจวเป็นไปได้ว่านางอาจอยู่ในพันธมิตรบูรพา แต่ก็ไม่มีใครบอกอะไรซือหยูเมื่อเขาถามเรื่องนี้
  นางอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงในพันธมิตรบูรพาก็ได้  ซือหยูถามหลังจากครุ่นคิด
  “เจ้าเคยได้ยินสตรีนามเมฆากุหลาบหรือไม่?”
  เทพกระเรียนตอบในไม่นาน
  “ไม่เลย!หากนางมีชื่อเสียง ข้าก็คงรู้จักไปแล้ว!”
  ซือหยูมิได้ผิดหวังในคำตอบเขาพยักหน้า
  “ไม่เป็นไร!เจ้าเริ่มหลอมรวมกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”
  ในตอนนั้นเองซือหยูสัมผัสได้ถึงพลังเทพจิง เขาถามด้วยความแปลกใจ
  “มีเรื่องสำคัญระหว่างเจ้ากับเทพจิงรึ?”
  เมื่อได้ฟังเทพกระเรียนอ้ำอึ้ง สีหน้าเขาสลับซับซ้อน เขารู้ว่าเขาปิดบังอะไรจากซือหยูไม่ได้เลย เขาจึงบอกรายละเอียดเรื่องงานชุมนุมเหล่าเทพกับซือหยู
  งานชุมนุมเหล่าเทพรึ?ซือหยูที่ได้ฟังรายละเอียดประทับใจในความกล้าของเทพกระเรียนกับเทพจิง จากนั้น เขาตาลุกวาว
  “ฮ่าๆๆๆๆยินดีด้วย เทพขนนก!”
  เทพจิงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อบินลงมา
  เขาไม่รู้ว่าซือหยูบังคับให้เทพกระเรียนพูดคำสั่งเสียเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร!
  ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้ม
  “ท่านกล่าวเกินไปแล้ว!ข้าเป็นเพียงตัวแทนเทพเท่านั้น!”
  “หึหึ!อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย! เจิ้งหยวนชิงไม่ได้มองข้ามเจ้า เจ้าจะต้องสุดยอด!”
  แท้จริงแล้วเทพจิงไม่ได้คิดจะยกยอซือหยูเลยซือหยูกลายมาเป็นตัวแทนเทพจากคนนอกธรรมดา ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ต่างกับฟ้าถล่ม!
  เมื่อเทพจิงพูดถึงเจิ้งหยวนชิงซือหยูความตั้งใจของเขาทันที
  “ข้าว่าแม่นางหยวนชิงคงเตรียมงานชุมนุมเหล่าเทพเต็มที่แล้ว!ตอนนี้เราเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสม!”   เทพจิงสบายใจเมื่อซือหยูพูดเช่นนี้เขามองรอบ ๆ ด้วยรอยยิ้ม
  “จริงด้วย!เราพูดที่นี่ไม่ได้ ข้าว่าเรารู้กันอยู่แล้ว ฝากเจ้าบอกเจิ้งหยวนชิงว่าข้าก็พร้อมแล้วเหมือนกัน!”
  ซือหยูพยักหน้าจากนั้นเทพจิงก็จากไปพร้อมกับกองทัพของเขาหลังจากพูดคุยกับซือหยูไม่นาน
  ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปยังโลกทั้งสองใบอย่างรวดเร็วเทพขนนกและเทพจิงได้ทำข้อตกลงลับ ๆ ด้วยกัน เทพจิงถอนทัพอย่างไร้เงื่อนไขและไม่ขออะไรจากเทพขนนกเลย
  การที่เทพจิงเคลื่อนทัพมาด้วยความโกรธแค้นและกลับไปเช่นนั้นทำให้หลายคนพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างสนุกปาก
  ไม่นานคนก็ได้ข่าวจากโลกของเทพจิงหลังจากหารือกันต่อหน้า เทพจิงที่ชื่นชมซือหยูอย่างมากยืนยันตัวตนของซือหยูว่าเขาเป็นเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่!   คำพูดที่ลั่นมาจากเทพจิงย่อมไม่มีการหักล้างจากผู้ใด!
  ไม่นานทั้งแผ่นดินบูรพาก็ตกตะลึงจากข่าวนี้
  ต้องขอบคุณเครือข่ายข่าวของหยางไท่ที่กระจายข่าวนี้อย่างรวดเร็วแม้แต่หยางไท่เองก็งุนงง
  หลังจากอ่านเอกสารกองหนาหยางไท่เริ่มเดินไปมาในห้องพลางครุ่นคิดด้วยใบหน้าหนักใจ
  “นายน้อยมีปัญหาอันใดข้ายินดีแก้ไขให้ท่าน!”
  หยางไท่ตอบห้วนๆ
  “จะปัญหาอะไรอีกเล่า?เจ้าอำนวยความสะดวกให้ข้าได้สานสัมพันธ์กับซือหยูได้ไหม?”
  “ซือหยูน่ะรึ?”
  ชายแก่ตอบพลางกระพริบตา
  “ซือหยูทำอะไรแปลกๆ รึ?”   “เขาไม่ได้ทำอะไร!”
  หยางไท่ถอนหายใจ
  “เขาน่ะ…กลายเป็นเทพไปแล้ว!”
  “อ๊า!”
  ชายแก่อ้าปากกว้างราวกับได้ยินสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
  “นายน้อยท่านเล่นมุกใช่ไหม? เขาเป็นแค่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่งในครั้งสุดท้ายที่เราเจอ!”
  หยางไท่ตอบด้วยรอยยิ้ม
  “สำหรับเขาขั้นพลังไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย! ตอนนี้เขาคือเทพขนนกที่ปกครองโลกเทพกระเรียน ให้ตายสิ! อุบายจะเยี่ยมยอดไปถึงไหน!”
  “เขาสังหารเทพจากนั้นก็กลายเป็นเทพ…ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะได้ตั้งรกรากในพันธมิตรบูรพา แต่เขายังได้ตำแหน่งเทพด้วย! ในอนาคตต่อไป เราจะต้องเรียกเขาว่าเทพขนนกในตอนที่ได้เจอ!”   ในใจหยางไท่มีแต่ความรู้สึกประหลาด
  กับสามัญชนคนเดียวทำให้เกิดสงครามระหว่างเทพจิงและเทพกระเรียนด้วยความตายของบุตรชายและบุตรสาวของแต่ละคน
  แต่สัญชาตญาณหยางไท่บอกเขาว่าซือหยูคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังสงครามครั้งนี้
  สุดท้ายเทพกระเรียนที่มุ่งมั่นจะฆ่าซือหยูกลับทิ้งคำสั่งเสียอันลักลั่น แต่งตั้งเขาให้เป็นตัวแทนเทพในโลกใบนั้น มันมีแต่เรื่องน่ากังขา!
  หยางไท่แน่ใจว่าเรื่องพิลึกพิลั่นเหล่านี้มีซือหยูเป็นต้นเหตุ!
  การสังหารเทพนั้นเป็นเรื่องเหนือกว่าจินตนาการของหยางไท่แต่ซือหยูกลับทำสำเร็จได้อย่างไม่ต้องลงแรง
  เมื่อชายแก่ได้ฟังเรื่องราวเขาได้แต่อ้าปากค้าง
  “นายน้อยหรือว่าชายคนนั้นจะเป็นเทพที่กลับมาเกิดใหม่ตามคำร่ำลือ? กลแต่ละไม้ช่างน่ากลัวนัก!”
  หยางไท่ถอนหายใจ
  “มารดามันเถอะ!สำหรับข้า กลทุกไม้ของเขาน่าสะพรึงกลัวขึ้นเรื่อย ๆ!”
  “เขาสังหารเทพทั้งที่เป็นคนธรรมดา!ตอนนี้ยังได้ตำแหน่งหนึ่งในร้อยเทพของพันธมิตรอีก! ข้าไม่กลัวหรอกว่าเขาจะทำอะไรต่อไปกับพันธมิตร! แต่ที่ข้ากังวลคือเขาอาจจะคิดร้ายต่อข้า!”
  หยางไท่เริ่มเสียใจที่เขาเป็นคนชี้นำตระกูลเทพกระเรียนที่ทำให้แผนของซือหยูติดขัด
  ชายแก่รับรู้ความตั้งใจของหยางไท่
  “นายน้อยใยเราไม่ช่วยเหลือเขาเล่า?”
  หยางไท่ยิ้มแหยๆ
  “เทพจะต้องการสิ่งใดจากเราเล่า!น้ำตาลบนของหวานจะดีเท่ากับถ่านไฟในยามเหมันต์รึ?”
  “ข้าเพิ่งจะได้รับรายงานมานายน้อยโลกเทพตำราเกลียดชังซือหยู เขาถึงกับส่งคนไปลอบสังหารซือหยู!”
  หยางไท่ที่สนใจเพียงสงครามระหว่างสองเทพตาลุกวาว
  “ดีล่ะ!เจ้าเริ่มหาข่าวเรื่องโลกเทพตำราได้แล้ว!”
  ในโลกเทพตำรา
  ฉินเฟยเฉินนายน้อยแห่งตระกูลเทพตำราถอนหายใจด้วยความกังวลเมื่อได้รายงานจากอู๋โจว
  “ข้าประมาทมันเกินไป!เราเสียโอกาสดีที่สุดในการจับมันไปแล้ว!”
  ตอนนี้ซือหยูคือหนึ่งในร้อยเทพแม้ว่าเขาเพิ่งจะเลื่อนตำแหน่งมาก็ตาม
  ถ้าฉินเฟยเฉินจับตัวซือหยูไม่ได้เทพตำราจะเป็นศัตรูกับชาวพันธมิตรทันที
  และตอนนี้ก็ยากมากที่จะจับตัวเขา
  เขาคือผู้ปกครองโลกเทพกระเรียนเขาถูกปกป้องโดยยอดฝีมือมากมาย ขณะเดียวกันซือหยูก็ยังเป็นสหายกับเทพจิงที่พิสูจน์ความเป็นมิตรด้วยการยืนยันตัวตนของซือหยูว่าเป็นเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่!
  หากเขาคิดจับตัวซือหยูเขาจะต้องคิดถึงเรื่องเทพจิงด้วย
  แต่ปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้สำคัญนักปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือซือหยูได้เบี่ยงเบนความสนใจของเจิ้งหยวนชิงมายังเทพตำรา!
  ฉินเฟยเฉินกังวลในเรื่องของเจิ้งหยวนชิงเป็นอย่างยิ่ง
  หากเจิ้งหยวนจิงรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปตระกูลของเขาจะเกิดปัญหาใหญ่
  ดังนั้นฉินเฟยเฉินจึงไม่กล้าทำอะไรแม้ซือหยูจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาไม่อยากจะทำให้เจิ้งหยวนชิงรู้ตัว!
  ด้วยเหตุนี้ซือหยูจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ฉินเฟยเฉินไม่กล้าเคลื่อนไหว นี่คือปัญหาในตอนนี้!
  อู๋โจวกลอกตา  “นายน้อยข้าคิดว่าเราต้องใช้คนนอกทำงานนี้!”
  “คนนอก?คนนอกที่เชื่อถือได้เรอะ?”
  ฉินเฟยเฉินไม่ค่อยพอใจเขาอยากจะลงมืออย่างลับ ๆ คนนอกกับแผนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไปกันได้
  อู๋โจวพูดด้วยรอยยิ้ม
  “นายน้อยท่านจำเสี้ยววิญญาณเทพที่ร่อนเร่ในโลกแห่งความมืดได้หรือไม่? พวกมันจะทำงานนี้ตราบเท่าที่เราจ่ายมากพอ!”
  ฉินเฟยเฉินเลิกคิ้วและเริ่มใช้ความคิด
  อู๋โจวพูดต่อ
  “งานชุมนุมเหล่าเทพจะเริ่มขึ้นในอีกหกเดือนถึงตอนนั้น ตัวตนเทพขนนกของซือหยูจะเป็นที่ยอมรับจากพันธมิตร ถึงตอนนั้นการสังหารเขาก็เป็นเรื่องยากแล้ว! เราต้องฆ่าเขาก่อนหน้านั้น! เสี้ยววิญญาณเทพเหล่านั้นไม่เคยทำให้ลูกค้าผิดหวัง!”
  ฉินเฟยเฉินพยักหน้า  “เช่นนั้นก็ดี!ข้าขอฝากให้เจ้าจัดการ บอกให้พวกมัน…ฆ่าซือหยูซะ! เจ้าจะต้องทำงานนี้ให้เสร็จด้ยทุกสิ่งที่มี ต่อให้ต้องส่งว่าที่เทพไปในโลกเสี้ยววิญญษณก็ตาม!”
  ฉินเฟยเฉินรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจับตัวซือหยูในตอนนี้เขาจึงต้องการสังหารซือหยูเท่านั้น
  “น้อมรับบัญชา!”
  เจิ้งหยวนชิงกำลังง่วนอยู่กับภาระงานในหอพันธมิตร
  แม้นางจะได้ข่าวการตายของเทพกระเรียนระหว่างสงครามกับเทพจิงนางก็ไม่แปลกใจเพราะนางรู้ว่าเทพสองคนนี้จะต้องต่อสู้กันในไม่ช้าก็เร็ว
  แต่เมื่อได้ยินว่าซือหยูกลายเป็นเทพนางได้แต่อุทานด้วยความตกใจ
  “ข้าไม่คิดมาก่อนเลย!เขาทำได้ยังไง?”
  ในตอนที่นางอยู่ตระกูลเทพกระเรียนนางมีความรู้สึกว่าซือหยูถูกจับอยู่ในเรือนนั้น เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักโทษมาเป็นเทพขนนกในเวลาอันสั้นนี้ได้ยังไง?
  เมื่อเจิ้งหยวนชิงนึกได้ว่าหยางไท่ก็หวาดกลัวซือหยูนางจึงรู้สึกได้
  “เขาคือจอมวางแผนตัวจริง!”
  นางพูด
  “หัวหน้าพูดเรื่องอะไรหรือ?”
  เสียงอ่อนโยนจากชายดังตามมา
  เป็นเสียงที่มาจากมนุษย์เขาคือปู้หลูยี่ หนึ่งในสามยอดฝีมือที่ผู้คุมกฎอาวุโสส่งมายังหอพันธมิตร เขาเป็นทายาทของเทพกระบี่
  ร่างกายของเขาเปล่งรัศมีกระบี่ออกมาอย่างยิ่งใหญ่แม้แต่ดวงตาของเขาก็เหมือนกับกระบี่สองเล่ม
  เจิ้งหยวนชิงตอบ
  “ข้าพูดถึงเทพขนนกคนใหม่ข้าได้ยินว่าเทพจิงยืนยันว่าเขาคือเก้ามังกรที่กลับมาเกิดใหม่!”   เจิ้งหยวนชิงพูดต่อ
  “เขาเป็นเทพที่ฉลาดมากข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะได้ขึ้นตำแหน่งเทพในระยะเวลารวดเร็วเช่นนี้! ช่างน่าประหลาด!”
  นางเริ่มเชื่อแล้วว่าซือหยูจะได้กลายเป็นผู้มีพลังระดับเทพอย่างแน่นอน!
  หลังจากคิดไม่นานเจิ้งหยวนชิงพูดอีกครั้ง
  “เขาเป็นมนุษย์เหมือนกับเจ้าเจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือ?”
  ปู้หลูยี่คงจะไม่สนใจซือหยูหากเจิ้งหยวนชิงไม่พูดเช่นนี้เขาเปรียบเทียบซือหยูกับตัวเขาเองในใจเมื่อรู้ว่าซือหยูเองก็เป็นมนุษย์ จากนั้นเขาจึงตอบอย่างดื้อรั้น
  “นั่นก็แค่ตัวแทนเทพที่เป็นเทพแต่ในนามเท่านั้น!พลังยังห่างไกลกว่าจะเป็นเทพ! เขาไม่ได้มีอะไรเลย!”