“เควสเสร็จแล้ว” เสี่ยวเฟิงตอบ
“นายผ่านหมอกสีดำนั่นได้? แล้วทำไมถึงตายกลับมาอีกล่ะ?”
“ฉันเจอบอสแล้วกโดนฆ่ามา” ชายหนุ่มกัดฟันเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนฆ่า
“บอสเหรอ? เก่งขนาดนั้นเลย?” ติงติงเริ่มสงสัยหนักขึ้น
“เลเวล 30 ระดับตำนาน”
“…”
หญิงสาวพูดไม่ออกเพราะบอสตัวนั้นมันเลเวลสูงกว่าผู้เล่นทั้งหมดมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเสี่ยวเฟิงถึงตายกลับมา
“ไปส่งเควสกันเถอะ”
ทั้งสองกลับไปยังเมืองเตียนหลง และจุดเกิดของติงติงเองก็อยู่ที่เมืองนี้ด้วยเช่นกัน
พวกเขาไปส่งเควสนี้กับบิชอปไคเซอร์ แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะต้องสูญเสียของบางอย่างไปเพราะเขาแต่ของรางวัลที่ได้รับมานั้นก็ช่วยเขาได้เยอะ
พระเจ้าอวยพร
คุณภาพ สีเงิน
เลเวล 15
ชนิด ต่างหู
ความต้องการ ทุกคลาส
ค่าสเตตัส
โชคดี +1
ความฉลาด +1
สเน่ห์ +1
มันคือต่างหูระดับสูงเลยแถมยังบวกค่าสเตตัสลับทั้งสามอีกด้วย
ไคเซอร์เองก็ดูเหมือนจะเร่งรีบมาก หลังจากที่เสี่ยวเฟิงส่งเควสเสร็จแล้วเขาก็ออกไปทันทีโดยไม่ได้ให้เควสต่อ
ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกมาจากวิหาร เขาก็เห็นพาลาดินและเหล่านักบวชคนอื่นๆวิ่งเข้าอออกกันวุ่นวาย
เสี่ยวเฟิงมั่นใจเลยว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ กองทัพปีศาจเองก็สร้างเมืองขึ้นมาได้แล้ว นั่นหมายความว่ากำลังจะเกิดสงครามใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเกมแน่ๆ
เซิร์ฟเวอร์เองก็เปิดมานานแล้ว แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่เองก็ยังมีเลเวลไม่ถึง 15 กันเลย
ผู้เล่นส่วนใหญ่เองก็ยังไม่มีอุปกรณ์มากมายนัก บางช่องยังว่างเปล่าอยู่เลย แม้แต่เสี่ยวเฟิงก็เช่นกัน
พวกของสวมใส่เสริมนั้นถือว่าหายากที่สุดแล้ว เพราะมันจะให้ค่าสเตตัสลับหรือแม้แต่สกิลพิเศษได้
ยิ่งไปกว่านั้นพวกผู้เล่นเองก็ยังมีเกราะไม่ครบเลยด้วยซ้ำ ในเกมนี้มีเกราะด้วยกัน 7 ส่วนนั่นก็คือ ส่วนหัว,ท่อนบน,เอว,สองมือ,ท่อนล่าง และเท้า มีน้อยคนนักในฮัวเซียที่จะมีเกิน 5 ชิ้น
ยกตัวอย่างนักรบที่มีพลังชีวิต 170 ตามปกติ และพลังโจมตีที่ 80
แม้แต่อุปกรณ์ระดับเทพเจ้าที่เลเวล 15 เองก็ยังค่าสเตตัสทั้งหลาย +10 นั่นหมายความว่าหนึ่งไอเทมสามารถเพิ่มความสามารถได้มากถึง 10 หรือ 20 เลยทีเดียว
มันจึงแทบจะเป็นปกติเลยที่จะได้เห็นผู้เล่นต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงไอเทมสวมใส่เหล่านี้
ย้อนกลับไปตอนที่เสี่ยวเฟิงเก่งที่สุดในหมู่บ้านเริ่มต้น เขาสามารถฆ่าใครก็ได้ในเมืองนั้นเพื่อเอาไอเทมชิ้นอื่นๆ ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้แน่ๆ
แต่ตอนนี้ผู้เล่นคนอื่นต่างก็มีไอเทมที่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว บางคนก็ดีกว่าเขาด้วยซ้ำ
มีความแตกต่างระหว่างไอเทมอยู่ ผู้เล่นที่เลเวล 100 ตัวเปล่าไม่สามารถสู้ชนะผู้เล่นที่ของเต็มตัวเลเวล 50 ได้หรอก
นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีเส้นแบ่งที่เลเวล 15 ให้เป็นโซนเร่งรีบ เพราะโซนนี้ดรอปไอเทมมากมาย
ดังนั้นการที่ผู้เล่นจะสามารถออกจากโลกของการเริ่มต้นได้นั่นก็หมายความว่าเขามีเลเวลเกิน 15 และมีอุปกรณ์เต็มตัวแล้วนั่นเอง
เวลานั้นไม่รอช้า และระบบเองก็ออกแบบมาให้เป็นแบบนั้นด้วย
เสี่ยวเฟิงเดินไปยังโซนผ่อนคลายของเมืองเตียนหลงที่มีร้านข้างทางมากมายตั้งแต่ ร้านอาหาร,ร้านน้ำชา ไปจนถึงบาร์ แถมยังมีผู้คนมากมายกว่าในโลกจริงอีกด้วย
ติงติงกับเสี่ยวเฟิงเดินเข้าไปในบาร์พวกเอลฟ์ ทั่วทั้งร้านเป็นการตกแต่งสไตล์เอลฟ์และNPCทุกคนก็เป็นเอลฟ์เช่นกัน แถมเครื่องดื่มเองก็รสชาติดีอีกด้วย
เขาเจอห้องลับที่ติงติงนั่งอยู่ ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาในนี้ดูเหมือนว่าติงติงจะพูดคุยอะไรบางอย่าง
“จิงจิง ฉันสัญญาเลยว่าเธอจะไม่ผิดหวัง เขาโคตรเก่งเลยนะ! อย่างที่ฉันบอกไปแล้วไงว่าเขาเป็นพระก็จริงแต่ก็เก่งมากๆเลย พลังฮีลของเขานั้นสูงกว่าพระทั่วไปสองถึงสามเท่าเลยนะ แถมยังสู้ได้ด้วย ไม่มีใครจะเทียบเขาได้อีกแล้วนะ!”
เสี่ยวเฟิงก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วเดินเข้าไป
ห้องไม่ใหญ่มาก มันเหมือนกับบ้านต้นไม้มากกว่า ติงติงที่ถอดหน้ากากออกแล้วเธอก็นั่งพูดมากอยู่อย่างนั้น
ร่างผอมบางในชุดโทนดำนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ ไนท์คูเออร์นั่นเอง
หรือจะให้เรียกว่าราชินีแห่งมหาวิทยาลัยเซีย สีเย่จิง
“ท่านเสี่ยวมาแล้ว! ขอแนะนำให้รู้จักจิงจิง…”
ติงติงกำลังจะลุกขึ้นแต่ไนท์คูเออร์ก็ห้ามไว้
“ไม่ต้องหรอก พวกเรารู้จักกัน” เธอมองไปยังเสี่ยวเฟิงด้วยความหงุดหงิด
เธอไม่เคยคิดมาก่อนในโลกนี้ว่า ติงติงจะพาหมอนี่มา
“อะไรนะ? รู้จักกันแล้วเหรอ?” ติงติงรู้สึกประหลาดใจ
“ทำไมจะไม่ล่ะ? เขาคือพระที่เก่งที่สุดเลยนะ”
ไนท์คูเออร์พูดพลางมองไปยังเสี่ยวเฟิงด้วยสายตาเหน็บแนม พร้อมกับหันไปบอกกับติงติงอย่างหงุดหงิด “ฉันบอกแล้วไงว่าให้เธอตามข่าวในฟอรั่มด้วย”
“ถ้ารู้จักก็ดีเลย งานน่าจะง่ายขึ้นเยอะ ท่านเสี่ยวสนใจจะเข้ากิลด์ของเราไหม? นายจะได้เป็นหัวหน้าหน่วยพระเลยนะ แถมจะได้เจอสาวๆในนั้นด้วยนายจะโคตรปังเลยนะ!”
ติงติงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กลับกันเธอชวนเสี่ยวเฟิงให้เข้าร่วมกิลด์ของเธอ มิดซัมเมอร์
นั่นคือกิลด์เดียวในฮัวเซีย หรืออาจจะกิลด์เดียวของทั้งเซิร์ฟเวอร์
ติงติงพูดอย่างรวดเร็ว “พวกเราตั้งแคมป์กิลด์กันเสร็จแล้ว และจะต้องมีชื่อเสียงมากๆแน่ นายไม่ผิดหวังแน่นอน”
“โอ้? แคมป์จะเสร็จแล้วเหรอ? ที่ไหนล่ะ?” เสี่ยวเฟิงถามด้วยความสงสัย
“ถามทำไมล่ะ?” ไนท์คูเออร์ระแวงสุดๆ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เผชิญหน้ากันแบบนี้
ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น ถ้าหมอนี่จะก่อเรื่องล่ะก็ไม่มีใครหยุดเขาได้แน่
“ไม่หรอก แค่ถามเฉยๆ”
เสี่ยวเฟิงส่ายหัว ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรู้ที่ตั้งไปทำไม เพราะคำตอบก็มีอยู่แล้ว ทันทีที่กิลด์ถูกตั้งขึ้นมามอนสเตอร์มากมายจะต้องไปรุมทึ้งที่นั่น
เขาไม่อยากจะไปป่วนขั้นตอนการก่อสร้างหรอก เขาแค่หวังว่ามันจะเสร็จสิ้นโดยเร็วก็พอ
ทุกอย่างจะต้องกลายเป็นฝุ่นแน่ๆ หากพวกเธอไม่อาจตั้งรับมอนสเตอร์ได้
ซึ่งดูแล้วก็น่าจะใช้เวลาไม่นานนัก น่าจะราวๆ 1 – 2 วันเห็นจะได้
“นายต้องการอะไร? จะมาป่วนกิลด์เราล่ะสิ?”
ไนท์คูเออร์จ้องหน้าเสี่ยวเฟิง เซ้นส์ลูกผู้หญิงของเธอบอกมาว่าชายคนนี้อันตรายเกินไป
นั่นคือสิ่งที่เธอได้เรียนรู้มาจากวิชาศิลปะการต่อสู้
“ไม่มีอะไรหรอก”
เสี่ยวเฟิงส่ายหัว เขาไม่ได้ต้องการอะไรหรือแม้แต่จะตามล่าโรสด้วยซ้ำ เพราะเขามีเป้าหมายคือกลุ่มมิดซัมเมอร์เท่านั้น
แต่ตอนนี้โรสเองก็เป็นประธานกลุ่มมิดซัมเมอร์ เธอได้ก้าวขาเข้ามาในที่ที่ไม่ควรจะเข้าที่สุดและกลับออกไปไม่ได้ด้วย เธอคนนั้นมั่นใจเลยว่าเสี่ยวเฟิงจะไม่เป็นปัญหากับเธอ
“นาย…”
ไนท์คูเออร์กำลังจะพูดแต่ก็มีโทรศัพท์มาคั่นไว้ก่อน เธอจ้องไปที่เสี่ยวเฟิงแล้วรับสาย เสียงที่ตามมานั้นเบามากแต่ฟังดูแล้วน่าจะเป็นโรส
“ฉันไปก่อนล่ะ แล้วเจอกัน!”
จากนั้นไนท์คูเออร์ก็วางสายแล้วก็รีบเดินจากไป เธอจ้องเสี่ยวเฟิงก่อนที่จะลากติงติงออกไปด้วย ดูเหมือนว่าโรสจะเจอปัญหาใหญ่แล้วพวกเธอต้องไปช่วย
“ไปกันเถอะติงติง ฉันไม่อยากคุยกับหมอนี่เท่าไหร่หรอก”
“เอ๋? ไม่ใช่ว่ารู้จักกันเหรอ?”
“ฉันรู้ ฉันรู้ดีกว่าใครเลย! หมอนี่มันร้ายกาจมาก! จำได้ไหมว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันบอกเธอ…”
ทั้งสองเดินออกไปจากร้านนี้ เสี่ยวเฟิงไม่สนใจในคำพูดของไนท์คูเออร์อยู่แล้ว แถมนี่ก็ดึกมาแล้วเขาก็ต้องออกจากเกมไป เขาเริ่มคิดได้แล้วต้องไปพูดคุยกับน้องสาวที่เขาห่างเหินมานานในช่วงไม่กี่วันมานี้บ้างซะแล้ว