เฉินโม่มองเฉินกั๋วเหลียง แล้วถามอย่างราบเรียบ “คุณปู่ ยังมีอะไรอีกมั้ย?”
เฉินกั๋วเหลียงที่มองเฉินโม่ สายตาเปล่งประกาย ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงพยักหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีอะไรแล้ว นายลงไปเถอะ!”
“ครับ!” เฉินโม่หันหลัง เดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
คนของตระกูลเอียนกลับไปแล้ว ในห้องโถงของตระกูลเฉินยังคงมีบรรยากาศที่จริงจัง สายตาของทุกคนที่จับจ้องอยู่ที่เฉินโม่ ต่างก็มีความสงสัย
เมื่อก่อนทุกคนคิดว่าการที่เฉินโม่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันของตระกูล เป็นเพราะเขาโชคดี ตอนนี้ที่ตระกูลเอียนดั่งด้นเดินทางไกลมาในวันตรุษจีนเพื่อมาหารือเรื่องแต่งงาน มันหมายถึงอะไร?
แม้ว่าสมาชิกของตระกูลเฉินจะไม่ค่อยได้สนใจเฉินโม่ แต่ทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่ จากท่าทีของเอียนหม่านชวน พวกเขาก็ได้กลิ่นของความผิดปกติแล้ว
เดิมยังคาดหวังว่าเฉินเหล่ยจะใช้เย่เฟยเออร์กดขี่พวกเฉินโม่ วินาทีนี้ทุกคนล้วนหน้าบึ้ง และก็ไม่ได้หวังอะไรแล้ว
จะไปแข่งกับสาวงามอันดับหนึ่งของยานจิง เย่เฟยเออร์ที่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของหนานซูไม่ว่าจะหน้าตาหรือสง่าราศี หรือชาติตระกูล ล้วนด้อยกว่ามาก
เวลานี้ ด้านนอกก็ดังขึ้นด้วยเสียงคนมารายงาน “ประธานบริษัทของตงยิง กรุ๊ปหลินตงยิงมาครับ!”
เฉินกั๋วเหลียงที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ได้เก็บความครุ่นในชั่วขณะ มองไปยังเฉินตงซุ่นที่อยู่ด้านข้าง แล้วกล่าว “ตงซุ่นประธานหลินน่าจะมาเพราะลูกนาย นายไปต้อนรับหน่อย”
“ครับ!” เฉินตงซุ่นค่อยๆเดินออกไป
ในห้องโถง มีคนเริ่มคุยกันแล้ว
“ประธานหลินปีนี้มาเร็วกว่าปีก่อน เขาต้องรู้ว่าพี่ตงซุ่นนั้นได้เลื่อนขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ว่า กลัวว่าเมื่อมาช้าไปจะไม่จริงใจพอ” เฉินตงหวาหัวเราะพูด
“คาดว่าปีนี้คนที่จะมาสวัสดีปีใหม่กับพี่ตงซุ่นนั้นคงไม่น้อย ช่างน่าอิจฉาจริงๆเลย!” เฉินตงเยว่ถอนหายใจ
เฉินฉงซานยิ้มอย่างเย็นชา “ตงเยว่ นายยังต้องอิจฉาคนอื่นอีกเหรอ? ตอนนี้นายก็เป็นผู้ที่สภาเทศบาลเมือง ปีนี้คนที่มาสวัสดีปีใหม่นาย เกรงว่าก็คงไม่น้อยใช่มั้ยล่ะ!”
เฉินตงเยว่หัวเราะแล้วพูด “มันก็สู้นายไม่ได้ ตอนนี้นายนั้นเป็นคนที่ควบคุมการเงินของหนานซู คนที่จะประจบนายต้องมากกว่าฉันแน่!”
เฉินตงหวาที่ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นเฉินจิงเย่ที่นั่งไม่ติด
“พวกนายไม่ต้องเถียงกันแล้ว ไม่ว่าจะยังไง ก็เหนือกว่าพี่จิงเย่อยู่แล้ว!”
ได้ยินชื่อเฉินจิงเย่ ทั้งสองก็หยุดเถียงกันทันที มองเฉินจิงเย่แล้วหัวเราะลั่น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความดูถูก
“ตงหวา ตีคนไม่ตีหน้า พูดจาไม่ว่าร้ายคนอื่น นายจงใจทำให้จิงเย่ขายหน้าใช่มั้ย?” เฉินฉงซานหัวเราะพูด แม้ว่าคำพูดของเขาฟังแล้วจะหวังดี แต่ในน้ำเสียงนั้นมีความเย้ยหยันไม่ว่าใครก็ฟังออก
เฉินจิงเย่และครอบครัวออกไปจากตระกูลเฉินหลายปี ทำงานอยู่ในอำเภอเฟิ่งซานมาโดยตลอด ไม่มีเพื่อนทีหนานซู อีกอย่างสถานะตอนนี้ของเฉินจิงเย่ อยู่ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเฉิน ก็ไม่มีหน้าตาอะไร จะมีใครจะมาสวัสดีปีใหม่เขาละ?
แต่ไหนแต่ไรมางานปีใหม่ของตระกูลเฉิน เฉินจิงเย่ก็คือตัวตลกของตระกูลเฉิน ไม่ว่าบ้านไหนก็มีคนมาสวัสดี มีแต่เฉินจิงเย่ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว
หลายปีมานี้ เฉินจิงเย่ก็ชินแล้ว สำหรับสายตาดูถูกและความเย้ยหยันพวกนั้น เขาถึงขั้นเมินเฉยมันได้
ไม่ช้า เฉินตงซุ่นก็ได้พาชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา
ชายวันกลางคนได้ก้าวเดินมาหาตรงหน้าของเฉินกั๋วเหลียงอย่างฉับไว โค้งคำนับแล้วกล่าว “คุณท่านเฉิน ผู้น้อยหลินตงยิงมาสวัสดีปีใหม่ท่าน!”
“ประธานหลินเกรงใจไปแล้ว เชิญนั่ง!” เฉินกั๋วเหลียงยิ้มทักทาย เป็นมิตรและใจกว้าง
หลินตงยิงวางของขวัญในมือลง ยิ้มแล้วพูด “ของขวัญเล็กๆน้อยๆ หัวงว่าท่านจะชอบ!”
เฉินตงซุ่นทำท่าผายมือ “ประธานหลิน เชิญนั่ง!”
ในขณะที่เฉินตงซุ่นเชิญหลินตงยิงนั่งลงไม่นาน ด้านนอกก็ดังขึ้นด้วยเสียงของคนรายงาน
“ประธานของซานสุ่ย กรุ๊ป หวางหมิงจูมาครับ!”