ทีมฮวาหรง

 

นอกประตูทิศเหนือมหาวิทยาลัยตงเจียง ร้านกาแฟบลูเมาท์เทน

เนื่องจากสัญญาณ Wifi ที่ดีเป็นพิเศษ สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นแหล่งรวมตัวของผู้เล่น The Kings of Glory ทุกที่ทางสามารถมองเห็นผู้เล่นจับโทรศัพท์มือถือต่อสู้ในหุบเขากษัตริย์ ลูกค้าที่มาที่นี่บ่อย ๆ ต่างก็ชินแล้ว

แต่ว่าวันนี้บนชั้นที่สองมีลูกค้าโต๊ะหนึ่งที่ดึงดูดสายตาได้เยอะมาก พวกเธอก็เป็นผู้เล่น The Kings of Glory เช่นกัน แต่ว่าแต่ละคนต่างก็เป็นสาวงาม ตอนนี้มารวมกลุ่มกันก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่งดงามสุด ๆ ขึ้นมาแล้ว

คนกลุ่มนั้นก็กำลังเล่นเกมอยู่ สำหรับคำวิจารณ์อย่างสนใจจากรอบด้านพวกนี้พวกเธอต่างก็เคยชินแล้ว ถ้าจะพูดเรื่องความแข็งแกร่งและความสำเร็จแล้ว ในมหาวิทยาลัยตงเจียงก็ย่อมต้องเป็นทีม Suger ของประธานชมรม The Kings ซูเก๋อที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าเพียงพูดถึงเรื่องชื่อเสียงแล้ว ทีมฮวาหรงของพวกเธอที่ประกอบไปด้วยนักศึกษาหญิงสาวสวยระดับดาวมหาวิทยาลัยทั้งก๊วนก็ไม่ได้แตกต่างจาก Suger สักนิดเดียว

ในคนกลุ่มนั้นมีเพียงนักศึกษาหญิงคนเดียวที่ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดสายตาขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะพยายามตั้งสมาธิทั้งหมดให้อยู่ในเกมเท่าที่จะทำได้แล้ว  แต่ในบางครั้งบางคราก็ยังสามารถได้ยินคำวิจารณ์คำสองคำเกี่ยวกับพวกเธอลอยเข้าหูมา

“นั่นรุ่นพี่เว่ยซินหรานจากภาควิชาการจัดการ กัปตันทีมฮวาหรง”

“ทีมฮวาหรง โอ้ ๆๆ!”

“คนที่อยู่ด้านซ้ายของเธอเป็นเลนกลางของฮวาหรง ชื่อหลี่เหยียนเหยียน”

“คนถัดมาชื่อหยางฉี ดูเหมือนจะเล่นออฟเลน”

“แล้วคนทางขวาล่ะ”

“เล่นแครี่ หานซิ่วลี่”

“งั้นอีกคนหนึ่งล่ะ”

“คนนี้ไม่รู้จัก อาจจะเป็นคนใหม่ก็ได้ล่ะมั้ง”

คนที่รู้ก็แนะนำให้คนที่ไม่รู้ คนไม่รู้ก็กลายเป็นคนรู้แล้วขยายข่าวต่อไปอีก นักศึกษาหญิงกลุ่มนั้นของทีมฮวาหรงกลายมาเป็นหัวข้อสนทนาหลัก ในสถานการณ์ที่วุ่นวายแบบนี้พวกรุ่นพี่ทั้งหลายต่างก็ทำหูทวนลม  จู้เจียอินชื่นชมขึ้นมาในใจเล็กน้อย แต่ถึงแม้ว่าหูจะได้ยินคำวิจารณ์ลอยมาเป็นครั้งคราว การควบคุมก็ไม่ได้ช้าไปสักนิด เกมนี้ยังเล่นได้ไม่เลวอยู่

จู้เจียอินมองดูข้อมูลของตัวเองในหน้าต่างข้อมูล 13 คิล 2 ตาย 3 แอสซิส ค่อนข้างพอใจ การแข่งขันตอนนี้ก็ได้รับชัยชนะมาแล้วด้วย พวกเธอประสบความสำเร็จในการตีฐานของศัตรูจนแตก

การเงินสูงสุด, MPV, Quad Kill, Legendary……

สัญลักษณ์รางวัลละลานตาที่มอบให้ฮีโร่ป่าอาเคอของจู้เจียอินทำให้เธอยิ่งดีใจไม่รู้แล้ว

แต่ว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ทั้งหลายกลับไม่เห็นว่าบนใบหน้าของพวกเธอมีความรู้สึกยินดีหลังจากที่เล่นชนะเลย หลังจากทั้งหมดกวาดตามองข้อมูลสถิติหลังจบเกมอย่างเร็ว ๆ แล้วก็กลายเป็นฉันมองเธอ เธอมองฉัน

“รุ่นพี่…” จู้เจียอินมองเว่ยซินหราน เรียกออกมาคำหนึ่ง

“เล่นได้ไม่เลว” เว่ยซินหรานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณค่ะ” จู่เจียอินว่าอย่างดีใจ

“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าตอนค่ำยังต้องไปแคสเกมรึเปล่า” เว่ยซินหรานพูดพลางมองดูเวลา “หรือว่าเลื่อนแล้ว”

“เปล่าค่ะเปล่า งั้นฉันไปก่อนนะคะ” จู้เจียอินกล่าว

“โอเค พวกเราจะนั่งอีกหน่อย เอาไว้ฉันค่อยติดต่อหาเธอนะ” เว่ยซินหรานพูด

“ได้ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะรุ่นพี่ แล้วเจอกันนะคะรุ่นพี่ทุกคน” จู้เจียอินลุกขึ้นยืน หลังจากหันไปกล่าวคำอำลากับสมาชิกของทีมฮวาหรงแล้วก็หันหลังเดินจากไป พอเดินไปถึงบันไดก็อดหันกลับมามองอีกครั้งไม่ได้ เห็นเว่ยซินหรานยังมองตามเธอมาอยู่ก็รีบยกมือขึ้นโบกให้ หลังจากเห็นเว่ยซินหรานยิ้มแย้มพยักหน้าให้เธอแล้วก็เดินลงบันไดไป

เว่ยซินหรานดึงสายตากลับมามองเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนที่อยู่ข้าง ๆ และทั้งสามคนก็เหมือนจะระงับปากมานานแล้ว รีบอ้าปากออกมาอย่างอดใจไม่อยู่

“เล่นดีจริง ๆ เหรอ ฉันดูไม่ออกเลย มา ๆ ไป ๆ ตีเลนฉัน เดินผ่านเลนครั้งไหนก็ไม่เคยพลาดเลย! ฉันรู้สึกว่าฉันได้กินครบชุดแค่ครีปชุดแรกเท่านั้นเอง! พวกเธอดูการเงินที่อยู่ท้ายสุดของฉันสิ…” เลนกลางหลี่เหยียนเหยียนเปิดปากขึ้นมาเป็นคนแรก

“รอบที่ไปแอนตี้บลูนั่น เรียกให้มารวมตัวนางก็ไม่มา สุดท้ายต้องเป็นฉันที่เคลียร์ครีปหมดแล้วเดินไปหา เดิมทีเล่นเป็น 0 แลก 3 ได้แท้ ๆ หรืออย่างน้อยก็ 1 แลก 3 สุดท้ายเล่นจนเป็น 2 แลก 3 จำตอนนั้นได้ไหมซินหราน” แครี่หานซิ่วลี่กล่าวพลางหันไปมองเว่ยซินหราน

เว่ยซินหรานพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองออฟเลนหยางฉีที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย

หยางฉีดูแล้วไม่ได้อารมณ์ขึ้นเหมือนอีกสองคน ก่อนอื่นก็วางถ้วยกาแฟที่เพิ่งจะยกขึ้นจิบลงไปบนโต๊ะก่อน แล้วก็ค่อย ๆ เปิดปากพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า “ไม่เห็นมาทำอะไรที่เลนบน”

“เลนบนอวีจี ปีศาจวัว*ยังชอบไปหาบ่อย ๆ นางรู้ว่าจับไม่ได้ง่าย ๆ ก็ต้องไม่ไปแน่อยู่แล้วสิ” หลี่เหยียนเหยียนกล่าว

หลังจากทั้งสามคนแสดงความเห็นของตัวเองออกมาบ้างแล้วก็หันไปมองเว่ยซินหรานอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ซินหราน เธอว่าไง” หลี่เหยียนเหยียนพูด

“ฉันว่า…” เว่ยซินหรานถือถ้วยกาแฟ สายตาก็หันไปเหลือบมองที่นั่งที่จู้เจียอินเคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ตามสัญชาตญาณ ผลก็คือเห็นสายชาร์จวางทิ้งอยู่ตรงนั้นนิ่ง ๆ เว่ยซินหรานอึ้งไป จากนั้นก็เห็นร่างร่างหนึ่งเดินมาถึงตำแหน่งตรงนั้นแล้ว

“ขอโทษค่ะ ฉันลืมของ” จู้เจียอินก้มตัวลงหยิบสายชาร์จที่ร่วงไปอยู่บนเก้าอี้ ตอนที่เธอมาถึงก่อนหน้านี้ได้เอาโทรศัพท์มือถือมาชาร์จแบต พอเริ่มเล่นเกมก็ดึงออกจะได้ไม่รบกวนการเล่น ตอนเดินไปกลับลืมทิ้งเอาไว้

“แล้วเจอกันนะคะพวกรุ่นพี่” หลังจากหันไปยิ้มให้สี่คนของทีมฮวาหรงอีกรอบแล้วจู้เจียอินก็หันหลังเดินจากไปอีกครั้ง

ทอดสายตามองตามอีกรอบ แต่คราวนี้จู้เจียอินไม่ได้หยุดยืนที่หัวบันไดแล้วหันมาโบกมือให้พวกเธอ แต่เดินหนีไปทันทีเลย เว่ยซินหรานหันหน้ากลับมามองพวกเพื่อนร่วมทีม บรรยากาศค่อนข้างน่ากระอักกระอ่วน

“นางได้ยินไหมเนี่ย” หานซิ่วลี่กล่าว

“ได้ยินก็ได้ยินไปสิ ถ้าซินหรานก็เห็นด้วยกับความเห็นของพวกเราก็จะได้ไม่ต้องไปอธิบายอะไรกับเขาให้มากความอีก” หลี่เหยียนเหยียนกล่าว

เว่ยซินหรานไม่ยอมตอบคำ เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่นานก็เห็นร่างของจู้เจียอินเดินออกไปจากร้านกาแฟ แล้วก็ไม่ได้เดินเข้าประตูทิศเหนือของมหาวิทยาลัยไปด้วย เธอรู้ว่าเนื่องจากจู้เจียอินต้องแคสเกม ปกติแล้วก็เลยไม่ได้พักอยู่ที่หอพักของสถาบัน แต่กลับเช่าหอพักอยู่ข้างนอกคนเดียว

“น่าเสียดาย” พูดถึงจู้เจียอินแล้ว เว่ยซินหรานก็ส่ายหน้าทอดถอนใจอย่างเสียดาย

“อาจจะเพราะว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ด้านแคสเกม เธอก็เลยเล่นตัวคนเดียวไปหน่อย” เว่ยซินหรานหันหน้ากลับมาพูดกับเพื่อนร่วมทีม

“แค่เล่นตัวคนเดียวไปหน่อยงั้นเหรอ” หลี่เหยียนเหยียนที่ถือสามาก ๆ ที่ถูกจู้เจียอินแย่งครีปไปยังเคืองอยู่

“การเงินขึ้นให้เร็ว จะได้แสดงดี ๆ ให้คนดูได้” ดู ๆ ไปแล้วเว่ยซินหรานก็ยังพอจะเข้าใจสไตล์การเล่นของจู้เจียอินอยู่บ้าง

“นั่นมันเกมลงเดี่ยว แถมยังต้องเป็นเกมลงเดี่ยวแรงค์ต่ำด้วยปะ ถ้าแรงค์สูงป่วนเพื่อนร่วมทีมจนเละเทะแบบนี้จะให้นางคนเดียวเล่นหนึ่งต่อห้าเลยไหม อย่าว่าแต่พวกเราเล่นลีก ทุก ๆ ทีมต่างก็เน้นที่การร่วมมือกันทั้งทีมกันทั้งนั้น ถ้าการเล่นแบบนี้มันเชื่อถือได้งั้นก็ยกครีปสามเลนให้คนคนเดียวเลี้ยงจนโตไปเลยสิ ง่ายมากเลย!” หลี่เหยียนเหยียนกล่าว

“เอาน่า ฉันรู้แล้ว” เว่ยซินหรานบอก “ก็จะไม่ไปชวนเธอมาร่วมทีมก่อนแล้วกัน!”

“ไม่ชวนก่อนเหรอ”

เว่ยซินหรานกำลังจะพูดอะไ แต่วีแชตบนโทรศัพท์มือถือก็มีข้อความใหม่เข้ามาเสียก่อน พอมองดูทีหนึ่งกลับเป็นจู้เจียอิน

“รุ่นพี่ เรื่องทีมนี่ฉันขอคิดอีกหน่อยนะคะ”

“เอาเหอะ คนเขาปฏิเสธพวกเรามาก่อนแล้ว” เว่ยซินหรานยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโชว์ให้อีกสามคนดู

“งั้นไม่ยิ่งดีหรือไง” หลี่เหยียนเหยียนพูด

“เขาเล่นแบบนี้ ถึงจะยินดีเข้ากับพวกเราแล้วปรับเปลี่ยน แต่หลังจากเปลี่ยนสไตล์การเล่นแล้วยังจะเล่นได้หรือไม่ก็พูดได้ยากจริง ๆ ถ้าไม่มีการเงินที่ปัง ๆ แบบนี้อาจจะเจอปัญหามากมายเลยก็ได้” หานซิ่วลี่วิเคราะห์

“หยางฉี เธอว่าไง” เว่ยซินหรานหันไปถามหยางฉีที่สงบปากสงบคำ

“ก็อาจจะ” หยางฉียังคงมีท่าทางไม่แยแสเหมือนเดิม พูดอย่างไม่จืดไม่เค็มมาประโยคหนึ่ง

………………………………………………

*ปีศาจวัวเป็นชื่อฮีโร่อีกตัวหนึ่งนะคะ น่าจะฮีโร่ศัตรู ไม่ใช่สำนวนอะไร

 

เกลียดทีมนี้ แต่ละคนชื่อโคตรยาว

 

ถึงจะไม่ได้เดินเฉียดน้องเหอด้วยซ้ำ แต่เราปักธงแล้วว่าคนนี้นางเอกค่ะ มันไม่มีคนอื่นให้เชียร์แล้ว