นักแคสหญิง
สองทุ่ม จู้เจียอินเริ่มการแคสเกมของเธอตามเวลา เพียงครู่เดียวก็มีคอมเม้นต์ขึ้นหน้าจอเต็มพรืด เมื่อมองเห็นคำทักทายอย่างอบอุ่นที่แฟน ๆ มอบให้ ความรู้สึกเสียใจที่ค้างคาอยู่นิดหน่อยจากตอนที่ออกมาจากร้านกาแฟบลูเมาท์เทนก็หายไปจนเกลี้ยง
“สวัสดีค่ะทุก ๆ คน!” พอปรับเสียงของหูฟังให้ดีแล้วจู้เจียอินก็ส่งคำทักทายไปให้บรรดาแฟนคลับ
“สาวน้อยตอนนี้แคสได้แค่ตอนสองทุ่มเท่านั้นเหรอ โธ่ ทุกวันแค่สองชั่วโมงมันไม่พอเลยนะ!” ในหมู่คอมเม้นต์มีประโยคยาว ๆ เด้งขึ้นมา
“ช่วยไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เปิดเทอมแล้ว ว่างแค่ตอนค่ำ แล้วก็แคสได้แค่สองชั่วโมงเองด้วย ไม่สามารถจะอยู่กับทุกคนจนดึกมากได้แล้ว” จู้เจียอินมองดูคอมเม้นต์แล้วตอบข้อสงสัย นี่ก็เป็นวิธีการพูดคุยของเธอกับแฟน ๆ ตามปกติ เพียงแต่ว่าคำถามข้อนี้เธอตอบมาหลายครั้งแล้ว
จู้เจียอินเริ่มแคสเกมตอนปิดภาคเรียนหลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จแล้ว ทุกวันอยู่ว่างไม่มีอะไรทำ เวลาส่วนมากก็สามารถจะเอามาทุ่มให้ได้ ผลตอบรับที่ได้มาถือได้ว่าไม่เลว เรียกได้ว่าพอมีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อยในแพลตฟอร์มนี้ หลังจากเปิดภาคเรียน เวลาว่างก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้นแล้ว จู้เจียอินรีบปรับเปลี่ยนกิจวัตร ทุก ๆ วันไลฟ์สดแค่ตอนสองทุ่มถึงสี่ทุ่มเป็นเวลาสองชั่วโมง ส่วนวันศุกร์กับวันเสาร์จะเพิ่มเวลาขึ้นอีกหน่อย แต่ว่าเมื่อเทียบกับช่วงปิดภาคเรียนแล้วระยะเวลาที่ใช้ก็หดสั้นลงเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันแรกที่ไลฟ์สดหลังเปิดภาคเรียนจู้เจียอินก็ต้องอธิบายปัญหาข้อนี้อยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้ผ่านมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังมีคนถามอยู่ เธอเองก็ต้องคอยตอบไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
“แคสเตอร์ยังเป็นนักเรียนเหรอ”
“นี่ ถ้าดูจากวันแรกที่แคสเตอร์ไลฟ์สด ปิดเทอมนี้มันค่อนข้างนานเลยนะ แคสเตอร์เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยเปล่า”
“แคสเตอร์อยู่มหาวิทยาลัยไหน บางทีอาจจะเป็นเพื่อนร่วมสถาบันก็ได้นะ”
“อยากรู้ว่าสาวน้อยหน้าตาเป็นยังไง ทำไมไม่เปิดกล้องล่ะ”
คำถามข้อนี้ก็เป็นเรื่องเก่าเช่นกัน การไลฟ์สดของจู้เจียอินมีแต่เสียง ไม่เห็นคน คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องรูปร่างหน้าตาเธอมาก
“ผู้หญิงที่ไม่โชว์หน้าตา ทุกคนก็อย่าไปอยากรู้ถึงจะดี”
แล้วก็มีคอมเม้นต์แบบนี้ออกมาเหมือนกัน พวกที่คาดการณ์อย่างเจตนาร้ายว่านักแคสที่ไม่ยอมโชว์หน้าตาจะต้องน่าเกลียด เรื่องนี้จู้เจียอินไม่เคยเห็นด้วยเลย ด้านหน้าตาเธอก็ยังมีความมั่นใจอยู่หลายส่วน แต่ปัญหาก็คือนี่มันเกี่ยวอะไรกับเกมตรงไหนล่ะ เธอเป็นนักแคสเกม การเล่นเกมก็คือเรื่องที่มีความสุขเป็นอันดับหนึ่ง ด้านหนึ่งเล่นเกมอีกด้านหนึ่งสามารถคุยกับคนมากมายขนาดนี้ก็คือเรื่องที่มีความสุขอันดับสอง ส่วนเรื่องที่ว่าสาวน้อยในกล้องหน้าตาดีหรือไม่ เรื่องนี้เธอไม่ขอไปยุ่งด้วย
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าทีมฮวาหรงที่เชิญเธอเข้าร่วมยังต้องดูหน้าตาด้วยเธอจึงไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย แต่เรื่องที่ว่าสามารถเข้าร่วมกับกิจกรรม The Kings of Glory ในสถาบันเธอก็รู้สึกว่าดีมาก ๆ ผลลัพธ์สุดท้ายกลับกลายเป็นความผิดหวัง ในใจก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย แต่ก็มีความโล่งใจด้วย
“ใช่แล้ว แคสเตอร์น่าเกลียดมาก ไม่กล้าเปิดกล้อง กลัวแฟน ๆ หาย” จู้เจียอินพูดกับคอมเม้นต์ที่สงสัยระดับหน้าตาของเธอ
“คุณไม่เปิดกล้องจะอันฟอลให้คุณเสียยอดฟอลโลว์ไปเดี๋ยวนี้เลย!”
มีข้อความลอยออกมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แถมยังทำให้เกิดข้อความตอบกลับมากมายเลยด้วย แล้วก็กลายมาเป็นข้อความสแปมซ้ำกันรัว ๆ อย่างรวดเร็ว จู้เจียอินดูแล้วก็แค่ยิ้ม ๆ รู้ว่าทุกคนก็แค่ล้อเล่น พวกคนที่ต้องดูหน้าตาจริง ๆ ของนักแคสด้วยไม่มีอยู่ในห้องไลฟ์สดของเธอตั้งแต่แรกแล้ว
“เอาล่ะ เริ่มเปิดเกมแล้วนะ” จู้เจียอินเลิกสนใจข้อความนอกเรื่องพวกนี้แล้วเริ่มการแคสเกมของเธอ แอคเคาท์ปัจจุบันของเธอมีแรงค์ conqueror 27ดาว ทุกคืนจะเล่นโหมดพีคแบทเทิลหนึ่งชั่วโมง อีกชั่วโมงหนึ่งก็ไปไต่แรงค์ โหมดการแข่งขันทั้งสองโหมดสำหรับเธอแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกัน ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ลงเดี่ยวอยู่แล้ว ไม่เคยมีคู่หู
หนึ่งชั่วโมงของพีคแบทเทิลจบลงอย่างรวดเร็ว เล่นไปสามเกม ชนะสองแพ้หนึ่ง ทั้งสามเกมจู้เจียอินต่างก็เล่นเป็นตัวป่า เกมหนึ่งแบกเพื่อน เกมหนึ่งเพื่อนร่วมทีมแบก เกมที่สามเน่าตั้งแต่เริ่มเกมจนจบเกม เล่นแล้วอึดอัดสุด ๆ
“อนาถชะมัด ขอดื่มน้ำลดแรงกดดันหน่อยนะคะ” จู้เจียอินสภาพจิตใจยังดีอยู่ การแข่งขันก็ย่อมต้องมีแพ้มีชนะ ใคร ๆ ก็อยากจะชนะตลอดไม่เคยแพ้ทั้งนั้น แต่ว่าไม่มีใครที่สามารถทำอย่างนั้นได้
แต่ว่าคนดูเหมือนจะไม่คิดแบบนั้นเลย พอมีเกมหนึ่งที่เล่นเละเทะขึ้นมาก็ดึงดูดคำวิพากษ์วิจารณ์มาได้เป็นกอง ทันใดทันแคสเตอร์นี่ก็ทำไม่ถูกนั่นก็ทำไม่ถูก อย่างกับว่าเป็น bronze คนหนึ่งที่ไม่ทันระวังไปเล่นเกมพีคแบทเทิลอย่างนั้นล่ะ
“เฮ้ จิตใจฉันยังไม่พังทลายเลย ทำไมถึงรู้สึกว่ามีคนดูบางคนจิตใจพังทลายไปก่อนแล้วล่ะคะ” จู้เจียอินมองดูคอมเม้นต์พวกนี้ พูดอย่างไม่เร็วไม่ช้า อีกทางหนึ่งก็ถอนตัวออกมาจากโหมดพีคแบทเทิลแล้ว ดำเนินตามจังหวะการไลฟ์สดของเธอต่อไป เริ่มการไต่แรงค์หนึ่งชั่วโมงประจำวัน
“ชนแล้ว!!”
“ชนกับหลิวหลิวแล้ว!”
“หลิวหลิวกำลังเล่นเอาชัยชนะต่อเนื่องอยู่นะ! ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะชนะติดกันไปมากกว่าร้อยครั้งแล้ว!”
“ว้าว!”
คอมเม้นต์เป็นชุดหลั่งไหลเข้ามาในช่วง BP จำนวนคนที่ดูไลฟ์สดเพิ่มขึ้นพรวด ๆ จู้เจียอินอ่านคอมเม้นต์พวกนี้แล้วก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น — เธอเจอเข้ากับนักแคสเกมอีกคนหนึ่งในเกมนี้
การเจอกันแบบนี้ในแรงค์ต่ำหายากมาก แต่ว่าพอมาเป็นแรงค์สูงแล้วกลับเจอบ่อยกว่ามาก ๆ ไม่ว่าอย่างไรจำนวนผู้เล่นแรงค์สูงก็มีน้อยกว่า อีกทั้งพวกนักแคสเกมส่วนใหญ่แล้วก็เล่นเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ปกติแล้วเวลามาเจอกันแบบนี้ก็จะเรียกว่า “ชนกัน”
แต่ที่จู้เจียอินมาชนเข้าในวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงนักแคสธรรมดา ๆ แค่ดูจากคอมเม้นต์ที่ไหลเหมือนได้ข่าวใหญ่รวมทั้งจำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้นมาพรวดพราดก็รู้แล้วว่าผลของการชนกันรอบนี้มันมากมายขนาดไหน
จู้เจียอินตอนนี้สามารถพูดได้เพียงแค่ว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อยในแพลตฟอร์มนี้ เป็นพวกที่อยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ว่าหลิวหลิวที่เธอมาชนเข้าคนนี้นั้น นักแคสที่ใหญ่กว่าเธอในแพลตฟอร์มนี้สามารถนับด้วยมือทั้งสองข้างได้ถ้วนเลย แล้วถ้าดูเอาแค่หมวด The Kings of Glory นี้อย่างเดียวแล้วล่ะก็ ยิ่งถือได้ว่าเป็นนักแคสหญิงอันดับหนึ่งที่ไม่เป็นสองรองใคร ความนิยมมากกว่าจู้เจียอินเกินสิบเท่า มีหลายคนที่หยุดเกมที่กำลังเล่นอยู่หันมาดูอย่างสนอกสนใจ
“เจียอินสู้ ๆ เวลาที่แฟนคลับต้องเชียร์มาถึงแล้ว!” ด้านของจู้เจียอินมีแฟนเดนตายส่งคอมเม้นต์ให้กำลังใจจู้เจียอินออกมา
จู้เจียอินไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ไม่ได้คิดมากด้วย ยังคงเดินไปตามทางของเธอต่อไป ในขั้น BP ยังคงขอตำแหน่งตัวป่า และสุดท้ายก็เลือกอาเคอที่เธอชำนาญที่สุดมา
“อีกฝั่งเป็นหลิวหลิว!” ตอนนี้เพื่อนร่วมทีมตัวเองก็รู้แล้วว่ากำลังอยู่ในไลฟ์สด พูดออกมาในกล่องแชต
“ตัวจริงตัวปลอม?”
“จริงแท้แน่นอน!”
“ว้าว!”
ชื่อเสียงของหลิวหลิวไม่เล็กน้อย เกือบทุกคนที่ดูการแคสเกมต่างก็เคยได้ยินชื่ออันโด่งดังของเธอมาก่อนแล้ว
เกมเข้าสู้หน้าโหลดอย่างรวดเร็ว ไอดีของอีกฝ่ายแสดงออกมา แล้วก็เป็นแอคเคาท์ที่เพิ่งจะไลฟ์ชนะต่อเนื่องของหลิวหลิวจริง ๆ ด้วย เกมนี้ก็หยิบเอาตัวป่ามา ที่ใช้คือกงซุนหลีเป็นแครี่สายป่า
เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในแรงค์สูงแบบนี้ น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นเปิดเกมกันอย่างสงบสุขอย่างในตำรา เปิดมาก็แอนตี้บัฟทีมไฟต์กันตั้งแต่เลเวลหนึ่งเป็นเรื่องประจำ อาเคอของจู้เจียอินออกมาจากฐาน คิดจะดูก่อนว่าซัพพอร์ตของตัวเองมีไอเดียอะไรบ้างไหม ผลก็คือพวกตัวเองสามคนกลับยืนบื้ออยู่ในบ่อ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ลอยออกมากลับกลายเป็นคำพูดถึงทุกคนสามประโยค
“ขอถ่ายรูป!”
“พี่หลิวหลิว ผมเป็นแฟนคลับพี่นะ!”
“ผมอยากจะแจกเฟิร์สบลัดให้หลิวหลิว!”
“โห! นี่เขาอยากจะรวมหัวกันหรือไงเนี่ย” จู้เจียอินก็เพิ่งเคยชนกับนักแคสใหญ่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน เห็นเพื่อนร่วมทีมสามคนนี้ก็ตะลึงไป
จากนั้นเพื่อนร่วมทีมทั้งสามก็ออกมาจากฐานในที่สุด
คนที่บอกว่าขอถ่ายรูปนั่นตรงไปเวดป่าศัตรู จู้เจียอินก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขากำลังจะไปโรมเวดป่าหรือว่าไปหาโอกาสขอถ่ายรูปกันแน่
คนที่ร้องเสียงดังว่าเป็นแฟนคลับนั่นเดินไปตามเลนที่ตัวเองรับผิดชอบตามปกติ
คนที่บอกว่าอยากแจกเฟิร์สบลัดให้ก็เดินตามเลนไปตามปกติเหมือนกัน แต่ใครก็ไม่กล้าการันตีว่าพอเขาไปเจอเข้ากับกงซุนหลีของหลิวหลิวแล้วจะทำอะไร
“นี่จะเล่นกันยังไงอะ” จู้เจียอินพึมพำ
………………………………………………………….
พีคแบทเทิล (巅峰赛) เป็นโหมดที่ยังไม่มีใน rov ดังนั้นจะขออธิบายรายละเอียดหน่อยนะคะ (เข้าจีนประมาณเมษายนปีนี้เองค่ะ)
เป็นโหมดเวลาลิมิตที่พอเปิดซีซั่นใหม่แล้วมีผู้เล่นไต่แรงค์สูงไปเยอะจำนวนหนึ่งก็จะเปิดโหมดนี้ขึ้นมา คนที่เข้าร่วมได้ต้องอยู่ในแรงค์ conqueror เท่านั้น แล้วพวกเขาก็จะมาสู้กัน พอปิดโหมดคนที่ได้ห้าพันอันดับแรก (สำหรับเซิร์ฟจีน ถ้าเข้าไทยก็คงได้น้อยกว่านี้เยอะ) ก็จะได้รับตำแหน่ง “ราชาแห่งพีคแบทเทิล” ไปครอง มีความแตกต่างจากไต่แรงค์ปกติคือ
ปีหน้าอาจจะมาลงบ้านเราก็ได้นะคะ ใครแรงค์คอนก็สู้ ๆ ค่ะ แต่ซิลเวอร์ตัวน้อย ๆ อย่างเราไม่เกี่ยวอยู่แล้ว 555
ขอแปลเป็นทับศัพท์แบบแต่งเองเพราะรู้สึกว่าได้อารมณ์กว่าแปลไทยเป็นโหมดสูงสุดหรือโหมดเหนือสุดอะไรพวกนั้นค่ะ (นึกคำไทยที่มันใช่ไม่ออก)
หลิวหลิว (柳柳) เป็นชื่อที่เราลังเลนิดหน่อยเหมือนกันว่าจะเขียนยังไงดี ถ้าจะเขียนตามพินอินมันน่าจะเป็น หลิ่วหลิ่ว (อ่าน หลิวหลิ่ว เพราะเสียงสามสองตัวติดกันตัวหน้ามันจะเสียงสูง) แต่ว่าความหมายของคำคำนี้มันคือต้นหลิวด้วยนี่สิ… แต่ก็ตกลงแปลแบบนี้นะคะ เรียกว่าจะพินอินก็ไม่ใช่ จะแปลไทยก็ไม่เชิงยังไงไม่รู้
อีกคำคือสาวน้อย คำนี้บอกตรง ๆ ว่าเรายังนึกคำแปลดี ๆ ไม่ออกเลย คำจีนคือ 小姐姐 แปลตรง ๆ น่าจะเป็น “พี่สาวตัวน้อย” เหมือนจะเป็นคำที่เขาใช้เรียกคนอย่างสนิทสนมโดยที่ไม่จำเป็นว่าอายุมากกว่าหรือน้อยกว่า คำประเภทนี้ของจีนที่เราเคยเห็นก็มี เสี่ยวเจียเจีย, เจียเม่ย (เรียกผู้หญิง) เสี่ยวเกอเกอ, ตี้เกอ (เรียกผู้ชาย) แบบหน้ากับแบบหลังต่างกันยังไงไม่รู้เหมือนกันค่ะ