รวมหัวกันเล่น

 

“นี่จะเล่นกันยังไงอะ”

พอเห็นคำประกาศอันแสนจะกระตือรือร้นของเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนแล้ว จู้เจียอินที่ไลฟ์สดอยู่ก็พึมพำขึ้นมา ส่วนเหออวี่ที่บอกว่าอยากจะสัมผัสกับเกม conqueror ดาวสูง ๆ สักหน่อยก็เลยได้จับแอคเคาท์ของม่อเซี่ยนก็พึมพำขึ้นมาเหมือนกัน พวกเกาเกอได้ยินแล้วก็เข้ามามุงดู พอเห็นคำพูดของเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนก็เดาะลิ้นอย่างประหลาดใจออกมา

“แคสเตอร์หญิงกับแคสเตอร์ชายได้รับการปฏิบัติต่างกันอย่างเยอะเลยนะเนี่ย คราวที่แล้วพี่ไต่แรงค์ชนเข้ากับอี้ไป๋ ทุกคนพากันร้องว่าทีมไฟต์แพ้ได้ อี้ไป๋ต้องตายกันหมดเลย ไปล่าคิลอี้ไป๋กันอย่างกับคนบ้า!” โจวม่อทอดถอนใจ อี้ไป๋ที่เขาพูดถึงก็เป็นนักแคสใหญ่คนหนึ่งเหมือนกัน ความนิยมเมื่อเทียบกับหลิวหลิวแล้วยังสูงกว่าอีก แต่เวลาที่แฟนคลับไปเจอเข้าในเกมกลับมีอาการแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดต่างก็ถือว่าการฆ่าเขาเป็นเกียรติด้วยกันทั้งนั้น

“เกมนั้นเป็นไงครับ” เหออวี้ถามอย่างอยากรู้

“ทีมไฟต์แพ้ได้ หลังจากนั้นมันยังจะมีอะไรอีกล่ะ” เกาเกอกล่าว

“ตามนั้น…” โจวม่อพูดอย่างกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง เนื่องจากการเข้าร่วมของนักแคสที่เป็นที่นิยมทำให้นิสัยของฝ่ายตรงข้ามในเกมเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ คิลจากนักแคสเมื่อเทียบกับป้อมหรือแม้แต่ฐานแล้วกลับมีความสำคัญมากกว่า สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจังหวะการเล่นของคู่แข่งพวกนี้จะกลายเป็นแบบไหน สุดท้ายแล้วอี้ไป๋ก็โดนฆ่าตายไปหลายครั้ง แต่ว่าผลของเกมก็คือพวกโจวม่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

แต่อย่างน้อยนั้นก็ยังเป็นการสู้กัน แล้วตอนนี้ล่ะ

“นายก็รอดูไปก่อนแล้วกัน อาจจะแค่พูดเล่นก็ได้นะ” โจวม่อกล่าว

“ก็ทำได้แค่นั้นแหละครับ” เหออวี้กล่าว

ฮีโร่ที่เขาหยิบมาก็คือเจงกิสข่านเหมือนปกติ ตอนนี้กำลังกันป้อมอยู่ที่เลนล่าง ยังไม่รู้เลยว่าด้านตัวเองนี้ความจริงก็อยู่ในไลฟ์สดของนักแคสเกมเหมือนกัน

“เกมนี้ยากหน่อย” ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์พิเศษอย่างการชนกันขึ้นมา แต่จู้เจียอินก็ยังพูดไปอย่างที่เคยทำมา วิเคราะห์สถานการณ์ในเกม “หวังว่าพี่ใหญ่แฟนคลับทั้งสามคนนั้นจะแค่พูดเล่นนะคะ แต่ว่าเลนล่างก็มีปัญหาเหมือนกัน ถ้ารู้แต่แรกว่าเขาอยากใช้เจงกิสข่าน ฉันก็คงจะให้ตำแหน่งป่าเขาไปแล้ว เจงกิสข่านนี่ฉันแนะนำให้เล่นตำแหน่งป่า ถ้ายืนเลนมันโดนกดง่ายเกินไป อยู่ในป่าพึ่งพาสภาพแวดล้อมกับพุ่ม ความสามารถในการต่อสู้ของเจงกิสข่านก็จะแกร่งขึ้นไม่น้อยเลย แล้วก็ยังสามารถจะเลี้ยงให้โตได้เร็วกว่าด้วย ฮีโร่เจงกิสข่านตัวนี้จำเป็นที่จะต้องหาการเงินให้ได้มาก ๆ เร็ว ๆ ใช้ดาเมจแรง ๆ ถล่มศัตรู ถ้าเกิดช้าไปผลลัพธ์ก็จะไม่ค่อยชัดเจน รอจนถึงเวลาที่ไปถึงป้อมในพลังต่อสู้ก็ลดลงไปขั้นหนึ่งแล้ว แบบนั้นควบคุมยังไงก็ยากที่จะปิดจุดอ่อนได้”

“ทำไมถึงป้อมในแล้วพลังต่อสู้ต้องอ่อนลงด้วยล่ะ” มีคอมเม้นต์ถามขึ้นมา

“เพราะว่าป้อมในไม่มีพุ่มค่ะ” จู้เจียอินตอบ การพูดคุยกันเยอะ ๆ ในระหว่างที่ไลฟ์สดทุกวันทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีเพื่อนมากมาย เหมือนกับว่าไม่ใช่การเล่นเกมคนเดียว

“แคสเตอร์เล่นเจงกิสข่านสักเกมสิ” มีอีกคอมเม้นต์หนึ่งลอยออกมา

“ฮีโร่ตัวนี้ฉันไม่ค่อยคล่อง แต่ว่าถ้าทุกคนอยากดูเดี๋ยวฉันลองดูสักเกมก็ได้ค่ะ ขอดูคอมเม้นต์หน่อย ฉันดูก่อนว่ามีคนเยอะไม่เยอะ” จู้เจียอินกล่าว

ดังนั้นคอมเม้นต์จึงไหลออกมาอย่างรวดเร็ว เหออวี้ไม่รู้สักนิดว่าตอนนี้มีคนเอาเขามาเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีไปแล้ว แล้วก็เตรียมที่จะแสดงให้ดูว่าการเล่นเจงกิสข่นที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

ในเมื่อเจงกิสข่านกลายมาเป็นหัวข้อสนทนา จู้เจียอินก็ย่อมต้องเริ่มไปส่องดูเลนล่างบ่อย ๆ ตั้งใจสังเกตว่าเจงกิสข่านของเหออวี้ทำอะไรอยู่

“อืม เจงกิสข่นาคนนี้ยังเล่นได้ค่อนข้างรัดกุม ทุกคนดูสิคะว่าเขาเอาแต่เฝ้าอยู่ใต้ป้อมตลอด กับดัก 2 อันต่างก็วางเอาไว้ในพุ่มที่ตำแหน่งสำคัญ ๆ แต่ว่าก็ยังต้องระวังให้ดี ถ้าอีกฝ่ายล้อมเข้ามาด้านหลังป้อมบุกฆ่า เจงกิสข่านก็ไม่มีความสามารถที่จะต่อต้านได้มากมายเท่าไหร่เลย” จู้เจียอินกล่าว

แต่ว่าในขณะนั้นเอง กลุ่มแฟนคลับของหลิวหลิวในทีมพวกนั้นก็เริ่มการแสดงของพวกเขาแล้วในที่สุด เป็นหลักฐานอย่างดีว่าพวกเขาเป็นพวกที่คำไหนคำนั้น ก่อนอื่นก็คือคนที่บอกว่าขอถ่ายรูป เป็นตัวซัพพอร์ตกุ่ยกู๋จื่อ เปิดเกมก็วิ่งเข้าป่าของฝ่ายตรงข้าม ในฐานะซัพพอร์ตการส่องวิชั่นก็พอได้ ไปก่อกวนก็พอไหว การเล่นแบบนี้ยังถือได้ว่ายังมีเหตุมีผล แต่ว่าพอเวดเข้าป่าไปแล้ว เจอกับตัวป่าของฝ่ายตรงข้ามเข้าจริง ๆ แถมยังเป็นกงซุนหลี่ของหลิวหลิวด้วย อีกทั้งข้างกายเธอก็ยังมีซัพพอร์ตของอีกฝ่ายจางเฟยปรากฏตัวตามมาติด ๆ อยู่ ๆ กุ่ยกู๋จื่อก็ยืนนิ่งไปเลย

“ตำแหน่งนี้ดึงบัฟมาได้นะ!” จู้เจียอินเห็นแล้วก็พูดขึ้นมาทันที

สกิลสองหมื่นชีวิตมีวิญญาณของกุ่ยกู๋จื่อ ใช้เวลา 2 วินาทีรวบรวมลูกไฟวิญญาณ หลังจากรวบรวมเสร็จแล้วก็สามารถลากศัตรูที่อยู่ในระยะมาที่ข้างกายได้แล้วยังทำสตัน 1 วินาทีด้วย ตอนต้นเกมกุ่ยกู๋จื่อสามารถให้สกิลนี้ก่อกวนด้วยตัวคนเดียวได้ ไม่ใช่เพื่อทำดาเมจอะไรกับฮีโร่ของศัตรู แต่แค่ใช้ดึงบัฟออกมาจากการต่อสู้ ก็จะสามารถป่วนจังหวะการเล่นของตัวป่าอีกฝ่ายไปได้สักหน่อยแล้ว

ตอนนี้ตำแหน่งของซัพพอร์ตยอดเยี่ยมมาก เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใช้เทคนิคนี้ แต่ไม่คิดเลยว่ากุ่ยกู๋จื่อคนนี้อยู่ดี ๆ ก็ยืนนิ่งไม่ไหวติง

“ขอถ่ายรูป” คำพูดประโยคหนึ่งถูกเขาส่งออกมา ทำให้จางเฟยที่กำลังจะไปไล่เขาอดชะงักฝีเท้าไม่ได้ กงซุนหลี่ที่กำลังดึงบัฟแดงเข้าไปตีในพุ่มก็ออกมาจากพุ่มแล้วมายืนข้าง ๆ กุ่ยกู๋จื่อ

“ทุกคนเล่นเกมกันจริงจังหน่อยนะคะ ทำแบบนี้ฉันวางตัวลำบาก” หลิวหลิวทางหนึ่งก็ให้ความร่วมมือกับกุ่ยกู๋จื่อคนนี้ถ่ายรูปร่วมกัน อีกทางหนึ่งก็พูดออกมาในช่องสื่อสารรวม

“ขอบคุณหลิวหลิว” ผู้เล่นกุ่ยกู๋จื่อตอบกลับมา จากนั้นก็คงจะไปแคปหน้าจอ เสร็จแล้วก็สะบัดก้นไปเลย กงซุนหลี่ของหลิวหลิวกับซัพพอร์ตจางเฟยก็ไม่ได้ไล่ตามไป ปล่อยให้เขาจากไปทั้งอย่างนี้

“นี่…” จู้เจียอินเห็นแล้วก็พูดไม่ออก ผ่านไปครึ่งค่อนวันถึงพูดออกมาได้ว่า “ฉันก็ไปขอถ่ายรูปด้วยจากนั้นก็ฆ่านางซะเลย จะโดนด่าไหมนะ”

“ฮาฮาฮา เอาเลย!”

“ได้ ๆ ไปถ่ายรูป!”

คอมเม้นต์จำนวนมากต่างก็เห็นด้วยกับการเล่นแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วจู้เจียอินก็ยังไม่ได้ทำแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าเจงกิสข่านที่เลนล่างหลังจากเห็นการเล่นขอถ่ายรูปอันสุดยอดของกุ่ยกู๋จื่อจากที่ไกล ๆ แล้วก็เกิดความคิดเหมือนกับเธอเป๊ะเลย ผลก็คือไม่ได้รับความเห็นชอบจากใครสักนิด เพียงแค่ได้ยินเจ้าของแอคเคาท์พูดลอย ๆ อย่างเฉยชามาประโยคหนึ่งว่า “ดาเมจไม่พอ”

“โอเค” เหออวี้เถียงไม่ออก ช่วงต้นเกมทุกคนก็ดาเมจไม่พอทั้งนั้น ถึงเขาจะใช้วิธีการนี้เข้าถึงข้างกายกงซุนหลีแล้วโจมตีก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีคอมโบเดียวฆ่าอีกฝ่ายได้ ข้างกายของคนเขายังมีจางเฟยร่างหนาคอยคุ้มครองอยู่ ผลลัพธ์คงจะเป็นเขาที่โดนฆ่าในพริบตามากกว่า

จากนั้นเหออวี้ก็กันเลนของเขาต่อ อาเคอของจู้เจียอินก็ฟาร์มป่าต่อ แฟนคลับทั้งสามคนก็แสดงอิทธิฤทธิ์ของพวกเขาต่อ น่าจะเป็นเพราะกุ่ยกู๋จื่อจับตำแหน่งของหลิวหลิวได้แล้ว พอเขากลับมาที่ด้านของตัวเอง เลนกลางฝ่ายตนก้านเจี้ยงม่อเสียก็เริ่มเดินไปทางป่าด้านนั้น แล้วก็เดินสวนเขาไปเลย…ซัพพอร์ตยังสามารถจะไปสำรวจไปก่อกวนได้ แต่ว่าเมจเลนกลางในช่วงนี้ไปเวดป่าของศัตรูตัวคนเดียวมันนึกหาสาเหตุอย่างที่สองไม่ได้เลย ทุกคนนึกถึงคำสัญญาที่เขาประกาศออกมาตอนเปิดเกมขึ้นมาได้ทันที

“ขอเฟิร์สบลัด!” ก้านเจี้ยงเข้าป่ามาได้ก็ประกาศก้องทันที

“ทุกคนอย่าทำแบบนี้สิคะ” หลิวหลิวฝ่ายศัตรูตอบกลับมา เธอเห็นก้านเจี้ยงแล้ว เห็นคำขอของอีกฝ่าย ก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เจอกับกุ่ยกู๋จื่อ เธอไม่ได้โจมตีเข้าไปก่อน

“หรือว่านี่จะเป็นแผน” เหออวี้คิดถึงแผนการเมื่อครู่นี้ของเขา อดพูดออกมาไม่ได้

เสียงเพิ่งเปล่งออกมาก็เห็นก้านเจี้ยงปล่อยสกิลออกมาจากมือ กระบี่คู่ชายหญิงไกลยิงออกไปในระยะประชิด จิ้มทีเดียวแย่งลาสครีปเล็กที่กงซุนหลีของหลิวหลิวกำลังตีอยู่ไปเลย

กงซุนหลีโต้ด้วยจันทร์กลับกลางเนินทันที พริบตาเดียวก็ไปถึงข้างกายก้านเจี้ยงแล้วเริ่มฆ่า จางเฟยก็กระโดดตามเข้ามา ใช้พิทักษ์องค์กรมอบโล่ให้กับกงซุนหลี

ก้านเจี้ยงเคลื่อนถอยหลัง แต่ว่าบนร่างของกงซุนหลีมีบัฟแดงอยู่ เคลื่อนที่ติดสโลว์ สุดท้ายก็ยังถูกกงซุนหลีฆ่าไปจนได้

First Blood!

สุดท้ายแล้วกงซุนหลีของหลิวหลิวก็ยังได้รับเฟิร์สบลัดมา

“เป็นแผนจริง ๆ ด้วย” เกาเกอเห็นแล้วก็พูดออกมา “สกิลหนึ่งกับ Flicker ถ้าใช้ดี ๆ ก็ไม่น่าจะตาย”

“แสดงละครเก่งจริง ๆ!” เหออวี้ทอดถอนใจอย่างหนักหน่วง

“นี่เหรอเกมระดับสูง” เขาหันไปมองพวก conqueror ที่อยู่ข้างกายแล้วถามออกมา

“นายคิดให้ดีก่อนเถอะว่าจะสู้กันยังไง” เกาเกอบอกเขา