ตอนที่ 1187 - ปะทะมือสังหาร

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  “ข้าปฏิเสธการท้าประลองของเจ้า!”
  “ทำไมกัน?เจ้ากลัวเรอะ? ตาขาวนัก!”
  “ใช่แล้วข้ากลัว ข้ากลัวว่าเด็กกับคนแก่จะโดนลูกหลงเข้า”
  เจิ้งหยวนชิงที่เดินอยู่ข้างหน้าอดฉีกยิ้มไม่ได้นางรีบเอามือปิดปาก
  ปู้หลูยี่หน้าแดงเขากำลังคิดว่าซือหยูไม่น่าให้อภัยถึงเพียงใด การพูดแบบนี้กับเขาราวกับเมินเฉยเช่นนี้…อภัยให้ไม่ได้!
  ผิวของเขามีสีเขียวแกมโลหะลูกหลานเทพกระบี่เช่นเขาย่อมมีร่องรอยบาดแผลจากการต่อสู้
  “สบายใจได้ข้าเป็นฝ่ายเริ่มท้าประลองกับเทพ ตราบเท่าที่เจ้าไม่ฆ่าข้าก็ไม่มีใครกล่าวโทษเจ้าได้! แม้แต่พ่อข้าก็ตาม!”
  เจิ้งหยวนชิงหันไปมองและพูดอย่างไม่มีทางเลือก
  “ผู้คุมกฎมีสิทธิ์ท้าประลองเทพหนึ่งครั้งนี่เป็นข้อตกลงระหว่างเทพ เจ้ายอมรับการเป็นตัวแทนเทพไปแล้ว กฎนี้ย่อมมีผลกับเจ้าด้วย”
  เมื่อเป็นกฎตายตัวซือหยูจึงพยักหน้าตอบรับ
  “ย่อมได้เทพย่อมมีหน้าที่ชี้นำคนรุ่นหลัง ตามใจท่านเถอะ”
  อุ่บ!
  เจิ้งหยวนชิงหัวเราะปู้หลูยี่จ้องซือหยูตาเขม็ง
  การเรียกลูกหลานเทพว่าท่านนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่ซือหยูที่เป็นเทพนั้นมีฐานะเช่นเดียวกับเทพอื่น
  ปู้หลูยี่ย่อมมีฐานะต่ำต้อยกว่าเขา
  หากซือหยูเรียกเขาว่าหลานเขาก็ต้องยอมเรียกปู้หลูยี่ด้วยชื่อด้วยไม่ใช่รึ? ระดับการเมินของเขานั้นเกินทนไปแล้ว
  เจ้าหมอนี่…เจิ้งหยวนชิงทั้งโมโหและรู้สึกตลกขบขันในเวลาเดียวกัน
  อย่างไรก็ตามแทนที่จะปล่อยให้ปู้หลูยี่เลิกราไปเอง เขาเลือกที่จะเผชิญหน้าให้อีกฝ่ายหลาบจำ
  ปู้หลูยี่กัดฟันด้วยความชิงชัง
  “อย่าผยองให้มากนัก!ในอีกครึ่งเดือน ที่หน้าประตูเรือนเทพกระเรียน ข้าจะประลองกับเจ้า! อย่าขอความเมตตาจากข้าก็แล้วกัน!”
  “ไม่มีปัญหา!แต่ข้าขอเปลี่ยนเวลาสักหน่อย ต้องเป็นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า”
  ซือหยูยิ้มเบาๆ
  ปู้หลูยี่สงสัยขึ้นมานิดหน่อยทำไมจะต้องเป็นหนึ่งเดือนข้างหน้าเล่า? หนึ่งเดือนข้างหน้าคือเวลาบูชายัญ
  แต่มันก็ไม่ส่งผลต่อการประลองเขาไม่ติดใจหากจะต้องรอนานกว่าเดิมอีกครึ่งเดือน
  “ย่อมได้!อีกหนึ่งเดือน ก่อนวันบูชายัญเทพ เจ้ากับข้าจะได้สู้กัน!”
  ซือหยูพยักหน้ารับคำท้า
  หกวันต่อมาซือหยูกับหวังยุ่นเสวียนกลับมาถึงเรือนตระกูลเทพกระเรียน
  เหอหลูจูรีบนำคนในตระกูลมาคารวะเขาในวันที่ซือหยูเดินทางจากไป พวกเขาเป็นกังวลอย่างมาก ซือหยูเพียงแค่ออกไปเฉย ๆ โดยทิ้งภาระในตระกูลเทพกระเรียนไว้เบื้องหลังโดยไม่สนใจที่จะจัดการมัน
  “ยินดีต้อนรับเทพขนนกที่กลับมา”
  ซือหยูไม่มีเวลาให้เสีย
  “เจ้าไม่ต้องสุภาพพาทุกคนกลับไปได้แล้ว”
  เหอหลูจูเงยหน้ามองและพบหนึ่งคนข้างกายซือหยูเขาไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครเมื่อมองในคราแรก เขาโมโหขึ้นมาเล็กน้อย ใครกันที่บ้าคลั่งพอที่จะยืนข้างกายเทพขนนกกัน?
  เคราะห์ดีที่ผู้เฒ่าตระกูลเทพกระเรียนรีบกระซิบที่ข้างหูเขา
  เมื่อได้ฟังเหอหลูจูดีใจมาก นั่นคือหวังยุ่นเสวียนหรือ? บุตรที่เทพอุปกรณ์รักมากที่สุด!
  เหอหลูจูโทษตัวเองที่ไม่รู้จักหน้าตาของหวังยุ่นเสวียนแต่เขาพอจะได้ยินนามนี้มาบ้างอยู่แล้ว!
  เขาเป็นชายที่มีนิสัยประหลาดแต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเทพอุปกรณ์รักเขาเป็นอย่างยิ่ง มากจนห่างไกลกว่าพี่น้องคนอื่น ๆ บอกได้เลยว่าเขาคือเทพอุปกรณ์คนต่อไป
  เมื่อเห็นเทพขนนกที่ออกจากเรือนไปหนึ่งเดือนและกลับมาพร้อมกับคนที่ยิ่งใหญ่อย่างลูกหลานเทพอุปกรณ์เขาจะไม่พอใจได้อย่างไร?
  ทุกสิ่งที่เขาทำคือการช่วยเหลือตระกูลเทพกระเรียนในลู่ทางอื่น!
  “คารวะอาจารย์หวังเข้ามาพักในเรือนก่อนเถิด”
  เหอหลูจูไม่รอช้า
  หวังยุ่นเสวียนโฐกมือ
  “ข้าไม่ต้องการพักเตรียมห้องกว้าง ๆ ที่ปลอดภัยและคนเข้าไม่ถึงให้ข้า ข้าต้องเตรียมเครื่องมือและเริ่มงานแล้ว”
  อะไรนะ?เหอหลูจูตกใจ เขาไม่รู้ว่าหวังยุ่นเสวียนคิดอะไรอยู่ หรือว่าเทพขนนกจะเป็นคนขอให้เขากลับมาด้วย?
  ไม่นานเหอหลูจูก็ไปจัดแจงตามที่หวังยุ่นเสวียนร้องขอ เขาไม่รู้เลยว่าหวังยุ่นเสวียนจะทำอะไรเพื่อกำจัดว่าที่เทพ เขามีเพียงภาพสิ่งที่ออกแบบเอาไว้ มันเป็นสิ่งที่สูญหายไปนานมากแล้ว
  ตามแบบที่วาดเขาต้องใช้เวลาราวแปดปีในการทำให้สำเร็จ แต่ก็จะเสร็จเพียงส่วนใหญ่เท่านั้น ยังไม่นับรวมชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ต้องตีเพิ่ม
  เพื่อที่จะสังหารว่าที่เทพจากสำนักนรกหวังยุ่นเสวียนพยายามอย่างหนัก
  แน่นอนว่าซือหยูที่ร่วมมือกับเขาย่อมตกลงที่จะให้เขาใช้ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลเทพกระเรียน
  หลังจากจัดแจงเรียบร้อยซือหยูถาม
  “เรื่องที่ข้าสั่งเจ้าไปถึงไหนแล้ว?”
  เหอหลูจูตอบ
  “รายงานเทพขนนกเราส่งคนไปรวบรวมข้อมูลในตลาดมือมาแล้ว”
  มือสังหารยังคงอยู่ในความมืดซึ่งนั่นคือความได้เปรียบของมือสังหาร พวกเขาสามารถลอบฆ่าซือหยูได้ตลอดเวลา
  แต่จุดอ่อนร้ายแรงของมือสังหารก็คือ…ข่าวสาร!
  มือสังหารเป็นคนนอกย่อมไม่คุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ หากอยากจะรู้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงของซือหยู เขาก็ทำได้แค่ถามหาที่อยู่ของซือหยูโดยไร้ซึ่งข้อมูลที่ใช้การได้ดี นั่นคือเรื่องยากในการฆ่าซือหยู!
  เพื่อที่จะหาข่าวที่ถูกต้องแม่นยำมีเพียงตลาดมืดเท่านั้นที่เชื่อถือได้มากที่สุด!
  ดังนั้นมือสังหารจากสำนักนรกจึงมีทางเลือกเดียวหากจะสังหารซือหยูพวกเขาจำเป็นต้องไปซื้อข่าวที่ตลาดมืด
  ซือหยูอ่านข่าวที่เหอหลูจูยื่นให้อย่างรวดเร็วมันมีรายละเอียดของซือหยูว่าทำอะไรอยู่ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำแหน่งที่เขาอยู่
  “ดีมาก!”
  ซือหยูพูดและกลับไปยังห้องลับของตัวเอง
  “ส่งความคืบหน้าของเจ้ามาด้วย”
  “ขอรับ!”
  ผีที่เป็นหน่วยข่าวกรองของซือหยูยื่นข่าวที่ได้ให้เขาอ่าน
  เนื้อหานั้นมีเหมือนกันกับเหอหลูจูพวกมือสังหารกำลังหารายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับซือหยู และส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องตำแหน่งของเขา
  แต่เทียบกันแล้วหน่วยข่าวกรองของซือหยูนั้นทำงานได้ดีกว่า!
  “ตระกูลเทพกระเรียนยังอ่อนในเรื่องข่าวสาร”
  ซือหยูพูดเทียบกับตระกูลพ่อค้าแล้ว ระบบข่าวกรองของซือหยูนั้นเรียกได้ว่าเลวร้าย
  เขาไม่สนใจข่าวที่ตระกูลเทพกระเรียนหามาได้และวิเคราะห์สิ่งที่ได้จากหน่วยข่าวกรองของเขา
  ในวันต่อมาซือหยูครุ่นคิด
  “เพราะการมีชื่อเสียงที่เร็วเกินไปของข้าถึงมีหลายคนได้ข่าวข้าแต่ก็มีไม่กี่คนที่ถามหาเรื่องตำแหน่งที่ข้าอยู่”
  ซือหยูชี้นิ้วในรายการมันคือรายการคนที่สำรวจการเคลื่อนไหวของซือหยูในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีมากมายราวร้อยคน
  ในร้อยคนนี้ไม่มีคนนอกอยู่เลยทุกคนล้วนเป็นชาวพันธมิตรบูรพาที่มาจากโลกคนละใบ
  ซือหยูไม่ผิดหวังมันเป็นไปตามที่เขาคาด เพราะถ้าหากเขาเป็นมือสังหาร เพื่อที่จะระวังตัวเอง เขาจะไม่มีทางไปหาข่าวด้วยตัวเอง มันใช้เงินเพียงน้อยนิดเท่านั้นในการจ้างชาวพันธมิตรบูรพาหาข่าวแทนให้
  ในร้อยชื่อนี้ซือหยูสังเกตที่สิบชื่อ
  สิบชื่อนี่เป็นคนจากตลาดมือพวกเขารู้จักตลาดมืดดี พวกเขารู้ว่าจะหาข่าวที่เชื่อถือได้จากที่ไหน และพวกเขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะหาข่าวแทนลูกค้า ตราบเท่าที่ลูกค้าจ่ายไหว
  ในสิบคนนี้ซือหยูจำกัดเหลือเพียงสามคน
  ทั้งสามสืบหาตำแหน่งของซือหยูบ่อยที่สุดพวกเขาหาตำแหน่งซือหยูแทบจะทุกวัน
  “ส่งหน่วยข่าวกรองไปดูสามคนนี้”
  ซือหยูหยิบแผ่นกระดาษให้ผีตรงหน้า
  สองวันผ่านไป
  ซือหยูได้รับแจ้งว่าสองในสามคนนั้นได้หายตัวไปเจ็ดวันและสิบสี่วันตามลำดับมีเพียงคนเดียวที่ยังสืบเรื่องเกี่ยวกับซือหยู
  “ที่เหลือคือจวงหลินสินะ?อีกสองคนคงจะตายไปแล้ว! ส่วนอีกคน หากหาข่าวได้มากพอก็จะตายเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
  ซือหยูคิดต่อไป
  “ส่งหน่วยข่าวกรองไปจับมันมาทรมานจนกว่ามันจะพูดว่ามันติดต่อกับผู้ใดในช่วงนี้พวกมันมีรูปลักษณ์แบบไหน และพวกมันทำอะไรอยู่? เค้นออกมาให้ดีล่ะ!”
  “ขอรับ!”
  แต่ไม่นานหน่วยข่าวกรองก็กลับมาหาซือหยูโดยรายงานว่าจวงหลินนั้นหายตัวไปหน่วยข่าวกรองตามแกะรอยไม่ได้เลย
  “ท่านเทพขนนกพวกเราควรจะสืบหาเขาต่อหรือไม่? เขาอาจจะรู้เรื่องหน่วยข่าวกรองของเราแล้วหนีไป…”
  เงาผีพูด
  ซือหยูส่ายหน้า
  “ถ้าจวงหลินรู้พวกมือสังหารก็ต้องรู้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงตามหา จวงหลินตายไปแล้ว เป้าหมายข้าสำเร็จแล้ว”
  เวลานี้มือสังหารรู้แล้วว่าตัวเองถูกเปิดโปงพวกมันย่อมกลัวที่จะหาข่าวในตลาดมืด
  หากเป็นอย่างที่เขาคิดมือสังหารเหล่านี้รวบรวมข่าวได้มากพอแล้ว พวกมันย่อมกำลังเดินทางมาที่โลกเทพกระเรียน
  …
  ณตลาดมืดแห่งหนึ่ง
  ร่างคนหาข่าวจวงหลินนอนตายอยู่ในความหนาวเหน็บข้าง ๆ เขามีร่างเน่าเปื่อยอีกสองร่าง ซึ่งน่าจะเป็นคนหาข่าวเช่นกัน
  ห้องลับมืดสนิทอาจมีคนสงสัยว่ามีกี่คนอยู่ในห้อง แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้
  “มันถูกเจอตัวแล้วมันดึงดูดความสนใจคนมากเกินไป โชคดีที่เราฆ่าจวงหลินไปก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นมันจับเราได้แน่”
  เสียงบุรุษอันมั่นคงแข็งแรงดังในความมืด
  ตามด้วยเสียงสตรีเบาๆ
  “ไม่ว่าใครจะจับตามองจวงหลินการหาข่าวในตลาดมืดก็จบแค่นี้ เราต้องรีบลงมือแล้ว”
  บุรุษกล่าว
  “ตามข่าวที่เราได้มาเราประเมินโดยรวมของเหยื่อคราวนี้ได้แล้ว”
  “ในด้านพลังครั้งสุดท้ายที่เขาประลองคือสามยอดฝีมือแห่งสวนไผ่ เขามีพลังเซียนขั้นสอง”
  “ในการป้องกันหลังเป็นเทพขนนก มีคนคุ้มกันอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับเจ้ากับข้า พวกนั้นไม่มีค่าอะไร”
  “ส่วนคนช่วยเหลือเขามีรากฐานตื้นเขินกับพันธมิตร ยกเว้นกับเทพจิง แต่เทพจิงก็มิได้สนิทกับเขานัก”
  “สรุปแล้วเหยื่อรายนี้มีความยากระดับสอง”
  สำนักนรกนั้นวิเคราะห์เหยื่อได้ดีก่อนที่จะลงมือ พวกเขาจะประเมินเหยื่อก่อนเพื่อตัดสินระดับความยาก
  ความยากแบ่งเป็นเก้าระดับระดับแรกคือระดับง่ายที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องพยายาม
  ส่วนระดับสองนั้นต้องใช้ความพยายามขึ้นมาบ้าง
  แม้ซือหยูจะมีความเป็นเทพในนามการสังหารเขาก็เป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าลูกหลานเทพ
  “ข้าว่าเขาน่ะเป็นระดับสี่”
  สตรีพูดเบาๆ ในความมืด
  บุรุษแปลกใจเล็กน้อย
  “ระดับสี่รึ?การฆ่ามันยากสำหรับเจ้าจนต้องเลื่อนระดับไปที่ว่าที่เทพเลยรึ?”
  “ถูกแล้ว!”
  นางมั่นใจกับการประเมินของตัวเองมาก
  “มีอยู่สองจุดที่เราต้องระวัง!”
  “ประการแรกเขาน่าจะชิงตำแหน่งตัวแทนเทพมาด้วยตัวเอง ถึงจะเป็นข่าวลือก็ต้องไม่ประมาท อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าเขาเป็นคนมีปัญญามาก! คนที่เจอจวงหลินก็คือซือหยูนั่นแหละ”