เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 998
ลู่ฝานยืนอยู่ด้านหลัง ควบคุมร่างกายเจ้าดำ มุมปากของเขามีรอยยิ้ม

ถึงขนาดที่เขายังมีเวลามองสีหน้าคนอื่น การกลั่นยาแบบนี้สำหรับเขา ไม่มีความยากอะไรเลย

นักเรกิธรรมดาๆ ไม่สามารถชนะเขาได้หรอก ถึงเขาไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง แต่ใช้ร่างกายของเจ้าดำทำแทนก็เถอะ

สิ่งเดียวที่ลู่ฝานต้องกังวลก็คือ จะมีคนดูออกไหมว่าเขากำลังควบคุมกลางอากาศ

แต่คิดดูแล้วคนที่อยู่ข้างๆ พวกนี้ น่าจะดูไม่ออก ลู่ฝานไม่รู้ว่ากลางอากาศยังมีคนหน้าไม่อายสามคนแอบมองอยู่

แต่ผู้อาวุโสโม่และคนอื่นก็ดูไม่ออกจริงๆ

ช่วยไม่ได้ วิชาที่ลู่ฝานใช้ เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

วิชาควบคุมคือเทพยอดกลั่นยาอู๋จี๋ ที่อาจารย์หวูเฉินถ่ายทอดให้ ลู่ฝานสงสัยมาตลอดว่าวิชานี้เป็นวิชาระดับฟ้าหรือเปล่า

ส่วนสิ่งที่ทำให้เขาเชื่อมต่อกับเจ้าดำคืออีกวิชาหนึ่ง

มีชื่อว่าวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้น!

ใช่แล้ว ลู่ฝานไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนวิชานี้เลย ตั้งแต่ได้วิชานี้มาจากสุ่ยเชียนโหรว อันที่จริงลู่ฝานฝึกฝนมาตลอด

แม้ตอนนี้เขาเรียนได้แค่พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุของวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้น แต่ทำให้เขาได้ประโยชน์มากมายแล้ว

ตอนฆ่าพญาหนอน ลู่ฝานทำลายแดนมายาของพญาหนอน ก็ใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุของวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้น

ตอนนี้พลังที่เชื่อมต่อเขากับเจ้าดำเอาไว้ ก็คือพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ

พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุไม่มีรูปร่าง แค่ใช้ปราณชี่ของเขา ถึงขั้นที่ไม่ต้องเคลื่อนไหวพลังฟ้าดินสักนิด

อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสโม่ดูไม่ออกเลย ถึงเป็นเซียนบำเพ็ญชี่มาอีกคน ก็ไม่แน่ว่าจะคาดเดาได้

สุดท้ายลู่ฝานยังใช้ปราณชี่พิเศษของตัวเองด้วย

พลังในมุกเวิ้งว้าง มีตราประทับของเขาอยู่ แน่นอนว่าต้องมีปราณชี่ของเขา

เคลื่อนไหวปราณชี่ รวบรวมพลังฟ้าดิน ควบคุมพลังฟ้าดิน

มีวิชาสามอย่างนี้ ถึงทำให้ลู่ฝานทำเรื่องที่มีทักษะอันน่าทึ่งขนาดนี้ได้

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น แค่ไม่เปิดเผยว่าเขาเป็นคนที่ฝึกทั้งบู๊และชี่ก็พอแล้ว สำหรับเรื่องไร้สาระที่อสูรวิเศษกลั่นยาได้ จะสร้างความช็อกที่ยิ่งใหญ่หรือเปล่านั้น ลู่ฝานไม่เคยคิดเลย

ไม่นาน ในหม้อสือฟาง ยากลายเป็นรูปร่าง

ใบหน้าเจ้าดำมีสีหน้าเหมือนมนุษย์ ถ้ามีคนรู้จักลู่ฝานอยู่ที่นี่ ต้องดูออกแน่นอนว่าสีหน้าของเจ้าดำในตอนนี้ เหมือนตอนที่ลู่ฝานมีความสุขไม่มีผิด

ตึ่ง!

ยาเม็ดกลมเด้งออกมาจากหม้อยาทันที กลิ่นยาหอมฟุ้งไปทั่ว ออร่าสร้างความกดดัน ส่งเสียงอื้ออึงออกมา เป็นยาระดับยาทิพย์แน่นอน

ส่วนตอนนี้ยาของอี้ปู่ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเก่งไม่เก่ง

ทุกคนถึงกับสูดหายใจเฮือก

“มันกลั่นสำเร็จแล้วจริงๆ!”

“อสูรวิเศษก็กลั่นยาเป็นด้วย!”

“ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด ที่บ้านฉันมีอสูรวิเศษอยู่ตัวหนึ่ง ฉันจะไปสอนมันกลั่นยาตอนนี้เลย”

……

เสียงตะโกน เสียงอุทานอย่างตกใจดังเข้าหูไม่หยุด

ตอนผู้อาวุโสโม่เห็นยาเด้งออกมาจากหม้อยา เขาเกือบดึงเคราตัวเองจนหลุดลงมา

“คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ ทำไมฉันถึงไม่เคยคิดเลยนะ อสูรวิเศษไม่เหมือนคน ไม่แบ่งแยกพลังปราณหรือพลังชี่ แค่ดูดซับพลังฟ้าดิน พวกมันก็สามารถกลั่นยาได้แล้ว!”

เหมือนผู้อาวุโสโม่พบโลกใหม่ เสียงเริ่มสั่นขึ้นมา

เฮ่อจงพูดว่า “ผู้อาวุโส ผมคิดว่าผมควรเลี้ยงอสูรวิเศษสักตัวแล้วล่ะครับ”

ตาเฒ่าซูกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “ฉันเลี้ยงฝูงหนึ่ง ใครก็อย่ามาห้ามฉัน ฉันจะเลี้ยงฝูงใหญ่เลย”