บทที่ 411
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยหย่งเจิ้งรู้สึกสิ้นหวัง!
เขาไม่ชอบภูเขาฉางไบที่ลำบากและหนาวเหน็บ!
สมัยก่อนถ้าไม่เป็นเพราะว่าเริ่มบุกเบิกธุรกิจ จำเป็นต้องไปเก็บยาด้วยตนเอง เขาก็ไม่ยอมไปยังสถานที่ที่หนาวเหน็บแห่งนั้น
เพราะเขาดูถูกสถานที่ที่ลำบากและหนาวเหน็บแห่งนั้น ฉะนั้นเขาจึงดูถูกแม่ของเว่ยเลี่ยงมาก เขาคิดว่าเธอเป็นของเล่นชั่วคราว แค่เล่นสนุกก็พอ
แต่ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า เย่เฉินจะลงโทษเขา โดยห้ามเขาลงมาจากภูเขาฉางไบตลอดชีวิต!
นั่นเป็นสถานที่ที่ตนเองรังเกียจมาตลอด!
ให้ตนเองไสหัวไปที่นั่น ห้ามออกจากไปที่นั่นตลอดชีวิต วิธีนี้ก็ไม่แตกต่างจากการฆ่าให้ตาย?
ตอนนี้สุขภาพของเขาไม่แข็งแรง เดิมก็สามารถอยู่ได้ไม่กี่ปี ถ้าหากให้ไปอยู่ที่ภูเขาฉางไบ เกรงว่าจะเสียชีวิตเร็วขึ้นไปอีก?
อีกอย่าง การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น สำหรับชายชราที่ชอบใช้ชีวิตด้วยความเพลิดเพลินอย่างเขา ก็เหมือนตายทั้งเป็น!
เขามองไปที่เย่เฉินอย่างสิ้นหวัง ร้องไห้และขอร้องว่า “อาจารย์เย่ ชายชราอย่างผมมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ปีแล้ว ขอร้องคุณได้โปรดเมตตา ผมยินยอมที่จะมอบบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อให้เว่ยเลี่ยง ได้โปรดให้ผมอยู่ในเมืองจินหลิง ใช้บั้นปลายชีวิตอย่างสงบ……..”
เย่เฉินถามอย่างเย็นชาว่า “คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าแม่ของเว่ยเลี่ยงตายไปยี่สิบปีแล้ว? เศษเดนอย่างคุณอายุยืนกว่าเธอยี่สิบปี ถือว่าคุณได้กำไรมากมายแล้ว! ดังนั้น วันเวลาที่เหลือ ก็ไปสำนึกผิดที่ภูเขาฉางไบ! ไม่เพียงต้องไปขุดโสมที่ภูเขาทุกวัน ยังต้องกวาดหลุมฝังศพของแม่เว่ยเลี่ยงทุกวันด้วย!”
หลังจากนั้น เขาก็มองไปที่เว่ยเลี่ยง และออกคำสั่งว่า “เว่ยเลี่ยงหลังจากที่คุณรับมอบบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อแล้ว ให้จัดคนไปที่นั่นประมาณสี่ห้าคนทันที เพื่อควบคุมดูแลพวกเขาทุกวัน ให้พวกเขากวาดหลุมฝังศพของแม่คุณทุกเช้าตรู่ แล้วขึ้นภูเขาไปเก็บโสมทุกวันทั้งเช้าและบ่าย ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ท่องอินเทอร์เน็ต หรือดูทีวี ให้พวกเขาใช้ชีวิตแบบ เริ่มทำงานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และเลิกงานเมื่อพระอาทิตย์ตกดินทุกวัน! หากพวกเขากล้าอู้งาน ก็หักขาทั้งสองข้างของพวกเขา แล้วโยนทิ้งให้มันกลายเป็นน้ำแข็งท่ามกลางหิมะ!”
เว่ยเลี่ยงรู้สึกตื่นเต้นมากจนความเลือดเดือดพลุ่งพล่านไม่คาดคิดว่าเย่เฉินไม่เพียงแต่ทำให้เขาได้บริษัทผลิตยาเว่ยซื่อแล้ว แต่ยังช่วยตัวเองลงโทษเว่ยหย่งเจิ้งกับเว่ยฉางหมิงสองคนพ่อลูก ที่สำคัญ วิธีการลงโทษเช่นนี้ มันเป็นฉากจบที่สมบูรณ์แบบที่เขาไม่กล้าฝัน!
ให้พวกเขาไปที่ภูเขาฉางไบ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในสถานที่ที่พวกเขาปฏิเสธ เป็นการประชด ช่างน่าตลก และถึงจะหายแค้น!
ในใจเขารู้สึกซาบซึ้งเย่เฉินเป็นอย่างมาก แล้วเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นทันที และกล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอบคุณอาจารย์เย่ที่ช่วยเหลือ อาจารย์เย่โปรดมั่นใจ เว่ยเลี่ยงจะจัดการให้ดีที่สุด!”
เย่เฉินตอบอืม แล้วมองไปที่เว่ยหย่งเจิ้งและเว่ยฉางหมิงสองพ่อลูก และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าสองคนนี้กล้าหนีจากภูเขาฉางไบ ก็จะเปิดคำบัญชาสังหาร 500 ล้านโดยอัตโนมัติ ในชีวิตนี้ถ้าพวกเขากล้าออกจากภูเขาฉางไบ มีทางเดียวคือต้องตายเท่านั้น!”
เมื่อเว่ยฉางหมิงได้ยินประโยคนี้ ร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหล
เดิมเขาดำรงตำแหน่งผู้นำคนที่สองของบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อ ด้วยเส้นสายที่กว้างขวางในเมืองจินหลิง และด้วยชื่อเสียงฐานะของครอบครัว ทำให้เขาใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาทุกวัน หลงใหลมัวเมาในเงินทอง
อยู่ดี ๆให้เขาไปขุดโสมที่ภูเขาฉางไบ และไม่อนุญาตให้ออกจากที่นั่นตลอดชีวิต มันเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเสียอีก!
เนื่องจาก หากรับโทษในเรือนจำ อย่างน้อยคุณก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมสมัยใหม่ได้
แต่ว่า ถ้าหากไปอยู่ที่ภูเขาฉางไบ สถานที่หนาวเหน็บและลำบาก ตนเองจะทนได้อย่างไร?