ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1131

“อย่าริอาจเงยหน้าขึ้นมา!”

เมื่อทุกคนกำลังจะเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน…

เบลลามี่ซึ่งยืนอยู่บนเวทีก็ตะโกนราวกับสายฟ้าฟาดจากฟ้า

กลิ่นอายสังหารแผ่ออกมาจากร่างของเบลลามี่ ทำให้ผู้คนหวาดกลัว พวกเขาทำได้เพียงก้มหน้าลง ทำได้เพียงแต่มองไปที่ลูกน้องของหัวหน้าผู้ฝึกสอน

มีเพียงนายพลและผู้บัญชาการจากกองทัพเท่านั้นที่กล้ามองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่พวกเขาทำได้เพียงมองดูผ่าน ๆ ไม่ชัดเจน

แต่ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงอาการไม่พอใจออกมา!

เพราะเบลลามี่ทำถูกต้องแล้ว!

หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือตำนานของกองทัพ ตำนานที่ยังมีชีวิต มันคงจะดูไม่ให้เกียรติหากมองหน้าเขา!

แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนเองอาจไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เบลลามี่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็ไม่อนุญาตให้ใครได้ดูหมิ่นบุคคลที่เขาชื่นชม

บนเวที ฮาร์วีย์พูดว่า “เบลลามี่ ที่นี่คือห้องพิธี ไม่ใช่สนามรบ ปล่อยทิ้งกลิ่นอายสังหารไปบ้างเถอะนะ”

เบลลามี่ทำความเคารพและพูดว่า “รับทราบครับ! หัวหน้าผู้ฝึกสอน!”

ขณะที่เบลลามี่ผ่อนคลาย บรรยากาศในพิธีก็เข้าสู่โหมดปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา

พวกเขาเข้าใจดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์มองหน้าหัวหน้าผู้ฝึกสอน

ฮาร์วีย์หยิบคำสั่งแต่งตั้ง เหรียญสลักมังกร และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ผมขอประกาศว่าจากนี้ไปเบลลามี่จะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเซาท์ไลท์!”

เบลลามี่คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินการแต่งตั้งนี้!

นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของเขา!

ในความคิดของเขา เบลลามี่ที่ออกจากค่ายศัสตราวุธไปแล้วไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะได้รับพรจากสวรรค์แบบนี้

ฮาร์วีย์ติดเหรียญไว้ที่ไหล่ของเบลลามี่

นี่จะหมายความว่าจากนี้ไปเบลลามี่จะปกป้องประเทศ ปกป้องประตูแห่งเซาท์ไลท์

“พี่น้องจากค่ายศัสตราวุธยอดเยี่ยมที่สุด” ฮาร์วีย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ หัวหน้าผู้ฝึกสอน!” เบลลามี่ดูตื่นเต้นราวกับว่าการได้รับคำชมจากฮาร์วีย์นั้นน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการได้เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของเซาท์ไลท์

ฮาร์วีย์พยักหน้า เขาไม่ได้ลงจากเวทีทันที เขามองผ่านฝูงชนแล้วหัวเราะ และพูดว่าว่า “วันนี้ เรามีผู้บัญชาการสูงสุดของเซาท์ไลท์แล้ว นี้เป็นเรื่องที่ดี!”

“งานเลี้ยงด้านนอกจัดเตรียมไว้สำหรับทุกคน เชิญทุกคนร่วมทานของว่างด้วยกัน”

“และผมได้ยินมาว่ามีบางคนมีเรื่องจะรายงานกับผม เชิญเข้าพบได้ทีละคน”

ฮาร์วีย์หันกลับเดินลงจากโพเดียมหลังจากพูดจบ

สี่เทพแห่งสงครามเข้าประกบเคียงข้างเขาอย่างรวดเร็วเพื่อคอยปกป้องเขา

อีธานเหลือบมองก่อนจะเดินออกไป จากนั้นพลทหารจากค่ายศัสตราวุธก็ช่วยพยุงคีธซึ่งดูไร้สติเดินออกไป

“ท่านครับ พ่อผม…” ฟินน์ถามออกมา

พลทหารมองหันกลับมามองและพูดอย่างเย็นชาว่า “คีธทำให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนขุ่นเคืองและได้รับบาดเจ็บกลับมา แต่น่าเสียดายที่เขาต้องไปเข้าการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลทหาร คิดว่ามันจะคงใช้เวลาไม่กี่เดือน”

“คุณต้องขอบคุณหัวหน้าผู้ฝึกสอน หากเขาไม่ห้ามการกระทำของเขาเอาไว้ คีธคงตายไปแล้ว!”

“อะไรนะ?!” ฟินน์ตกใจมาก

แม้ว่าฟินน์จะรู้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้นมีอำนาจมาก แต่เขาไม่คิดเลยว่าพ่อของเขาจะจบลงแบบนี้เพียงเพราะเขาได้เห็นใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพียงแวบเดียว

แม้ว่าคนในตระกูลเยตส์จะแปลกใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา “คุณย่าเยตส์ คุณลุงกลายเป็นแบบนี้ มันจะส่งผลต่อแผนของเราหรือเปล่าคะ” ฟีบีถามด้วยความกังวล