กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1214

ในขณะที่ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของไทเลอร์ เขาก็กัดฟันอย่างเหยียดหยาม และมีความรู้สึกอยากฆ่าคนผุดขึ้นมาในหัว

ดูเหมือนนายท่านมัวร์จะสังเกตเห็นความไม่พอใจอยู่ในสีหน้าและน้ำเสียงของลูกชายคนโต เขาจึงหันไปหาชาร์ลีและพูดด้วยความเคารพว่า “ปรมาจารย์เวด ผมมีคำขอร้องที่ฟังดูอาจเอื้อมแต่หวังว่าคุณจะตกลงตามนั้น”

ชาร์ลียิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “บอกผมมาได้เลยครับ นายท่านมัวร์”

นายท่านมัวร์เริ่มต้นว่า “ผมหวังว่าคุณจะยอมเป็นทายาทหัวหน้าครอบครัวคนที่สองของตระกูลมัวร์ ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับจัสมินในอนาคต ถ้าจัสมินไม่มีลูก คุณก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัวโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณตกลงตามนี้ ผมก็สัญญาว่าคุณจะได้ส่วนส่วนแบ่งจากครอบครัวสุทธิ 30% และจะมีผลตามกฎหมายตลอดไป คุณเชื่อคำพูดของผมได้”

เหตุผลสำหรับคำขอดังกล่าวเป็นเพราะนายท่านมัวร์รู้สึกเป็นกังวลเหลือเกินว่า การเตรียมการเช่นนี้จะทำให้ลูกคนโตรวมทั้งครอบครัวของเขาอาจก่อให้เกิดผลร้ายกับจัสมิน แต่เขาก็ไม่อยากล้มเลิกความตั้งใจเพราะเหตุนี้

เขารู้อย่างชัดเจนว่า ในการนำพาตระกูลมัวร์ให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งนั้น สิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือ การแต่งตั้งจัสมินให้เป็นหัวหน้าครอบครัว

มันจะเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก ถ้าชาร์ลีได้เป็นสามีของจัสมินแล้วเข้ามาเป็นคนของตระกูลมัวร์

ถ้าชาร์ลีไม่อยากเป็นลูกเขยแบบที่ไม่ได้แต่งงานกันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย ตราบใดที่เขาให้กำเนิดทายาท เด็กคนนั้นก็จะมีสายเลือดของตระกูลมัวร์ และไม่สำคัญเลยว่า เด็กคนนั้นจะใช้นามสกุลมัวร์หรือไม่ก็ตาม

นอกจากนี้ ถ้าชาร์ลีได้เป็นหลานเขยของเขา ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาด้วย

เมื่ออยู่ในวัยขนาดนี้ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรกอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของสุขภาพและอายุขัย

การแต่งตั้งให้จัสมินเป็นหัวหน้าครอบครัวนั้น เป็นเพียงหนึ่งในแผนการของเขาเท่านั้น

ความหวังสูงสุดของเขาก็คือ การได้ชาร์ลีมาเป็นสามีของจัสมิน

ชาร์ลีไม่รู้ว่านายท่านมัวร์ยังคงคิดที่จะให้เขาเป็นหลานเขย เขานึกว่านายท่านมัวร์เป็นห่วงถึงอนาคตของจัสมินหลังจากได้รับการแต่งตั้ง นายท่านมัวร์จึงอยากให้ชาร์ลีมาอยู่กับจัสมินให้มากขึ้น เพื่อจะได้คอยปกป้องเธอ

ถ้าเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทายาทคนที่สองของตำแหน่งหัวหน้าครอบครัว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้พวกนั้นทำอันตรายต่อจัสมิน เนื่องจากพวกเขาต้องจัดการกับชาร์ลีเป็นคนต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีคนในครอบครัวอยากจะแย่งชิงตำแหน่งนี้ไป พวกเขาก็ต้องคิดให้ดีเสียก่อนว่าจะสามารถสู้กับชาร์ลีได้หรือเปล่า

นายท่านมัวร์เป็นคนใจกว้างมาก เขายินดีที่จะให้ส่วนแบ่งจากผลกำไรของครอบครัวกับชาร์ลีถึง 30% ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มาก

แต่อย่างไรก็ตาม ชาร์ลีมีเงินทั้งหมดในโลกนี้อยู่มากพอแล้ว เขาจึงไม่สนใจในเรื่องเงินเลย

สิ่งที่เขาเป็นกังวลก็คือ ความปลอดภัยและอนาคตของจัสมิน

ในหัวใจของชาร์ลีนั้น สถานะของจัสมินนั้นเป็นรองแค่แคลร์… ภรรยาของเขาเท่านั้น

เขาไม่รู้แน่ชัดว่า ทำไมจัสมินถึงมีสถานะสูงเช่นนี้ได้ แต่เขารู้สึกว่า จัสมินเป็นผู้หญิงที่ไร้ที่ติและยอดเยี่ยมมาก ๆ

พวกเขาเข้ากันได้ดีมาก แถมนิสัยใจคอและลักษณะท่าทางก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาร์ลีด้วย

เขาถือว่าจัสมินเป็นคนสนิทของเขาด้วยซ้ำไป

จัสมินเคยเล่าถึงอดีตให้เขาฟังตอนที่ไปดื่มด้วยกัน เขารู้เรื่องอันแสนขมขื่นและน่าสงสารของของเธอ จริง ๆ แล้วเธอไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องแต่งงาน เนื่องจากเธอมาจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล

ดังนั้นเขาจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จัสมินจะได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมัวร์

ซึ่งนั่นจะทำให้ไม่มีใครสามารถมาบังคับให้เธอต้องทำให้สิ่งที่ไม่อยากทำในอนาคตได้

ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่ต้องกังวลครับ นายท่านมัวร์ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะคอยดูแลความปลอดภัยให้กับจัสมินเป็นการส่วนตัวเองครับ”